ตอนที่ 1
หลี่ซิ่วเหมยกับการเกิดใหม่
เสียงฝนกระหน่ำกระทบกระจกหน้ารถยนต์ราวกับว่า์กำลังร่ำไห้ หลี่ซิ่วเหมย กระชับพวงมาลัยแน่น เท้าเหยียบคันเร่งให้แล่นทะลุผ่านม่านฝนที่บดบังสายตา เดิมทีแล้วนี่ควรจะเป็วันหยุดที่เธอได้นอนหลับพักผ่อน หลังจากเข้าฉากต่อสู้ที่กินพลังชีวิตมายาวนานตลอดสามเดือนเต็ม
แต่เมื่อไม่กี่นาทีก่อน เธอกลับได้รับโทรศัพท์จากผู้กำกับว่าเธอจำเป็ต้องเข้ากองด่วน เพราะ 'นักแสดงนำหญิง' ของซีรีส์เื่ที่ถ่ายทำนั้นเกิดอุบัติเหตุไม่สามารถมาถ่ายทำได้ และเธอในฐานะสแตนด์อินฉากบู๊จึงต้องมารับบทแทน.. ซึ่งนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรก
“ตลกชะมัด สุดท้ายชีวิตแกก็ไม่ต่างจากตัวประกอบจริง ๆ เลยนะซิ่วเหมย อะไรนะน้ำร้อนลวกมือแดงมาถ่ายทำไม่ได้! เหอะ! อ่อนแอเสียจริง! ใช้งานก็เยี่ยงทาส แต่รายได้นั้น.. เฮ้อ”
ถึงแม้จะหงุดหงิดและไม่พอใจ แต่สุดท้ายหญิงสาวก็ทำได้เพียงเหยียบคันเร่งและมุ่งตรงไปข้างหน้าทั้งอย่างนั้น แต่เพราะวันนี้สภาพอากาศไม่เอื้ออำนวยให้เธอสักเท่าไหร่ ทันทีที่ไฟหน้ารถกระทบกับเงาดำด้านหน้า แค่ชั่วเสี้ยววินาทีนั้นด้วยความใ เธอได้เหยียบเบรกกะทันหันจนรถยนต์นั้นเสียหลักอยู่กลางถนน
"กรี๊ดดดดดดด"
เสียงกรีดร้องดังผสมกับเสียงของยางรถยนต์ที่บดกับถนนเปียกลื่นดังก้องในโสตประสาท ก่อนที่รถยนต์คันแรกที่เพิ่งถอยมาได้ไม่ถึงครึ่งเดือนจะพลิกคว่ำหลายตลบ ความเจ็บแปลบกระแทกเข้ากับร่างกายเธออย่างจังและทุกอย่างก็วูบดับไป..
แสงแดดอ่อน ๆ ลอดผ่านหน้าต่างไม้แกะสลัก หลี่ซิ่วเหมยรู้สึกถึงความปวดหนึบตามร่างกายจนต้องเบ้หน้า คล้ายกับว่าอุบัติเหตุนั้นทำให้ร่างกายเธอกำลังจะแตกสลาย ดวงตาทั้งสองข้างฝ้าเลือนเห็นเพียงสีขาวจาง ๆ มือเล็กแตะลงบนผ้าไหมเนื้อดีที่ปูอยู่ใต้ร่าง
“โรงพยาบาลใช้ผ้าไหมมาปูเตียงเชียวเหรอ”
เพราะััที่ไม่คุ้นเคย และความทรงจำที่จำได้ทำให้เธอมั่นใจว่าหากเธอยังไม่ตาย ที่นี่ต้องเป็โรงพยาบาลแน่นอน ความเจ็บแปลบแล่นไปทั่วศีรษะ มือเล็กเลื่อนมาััใบหน้าถึงพบว่ามีผ้าผืนบางปิดอยู่ เธอดึงมันออกช้า ๆ ขยับเปลือกตาเล็กน้อยให้ดวงตาค่อย ๆ ปรับโฟกัส แต่สิ่งที่เห็นตรงหน้ากลับไม่ใช่โรงพยาบาลอย่างที่คิด เบื้องหน้าของเธอคือห้องนอนสไตล์จีนโบราณที่ไม่คุ้นเคย
“คุณหนู! คุณหนูฟื้นแล้ว!”
เสียงของหญิงสาวคนหนึ่งดังก้องด้วยความดีใจมาจากอีกฝั่งของเตียงนอน หลี่ซิ่วเหมยพยายามลุกขึ้นด้วยความรู้สึกสับสน มือที่เคยเต็มไปด้วยร่องรอยจากการฝึกซ้อมการใช้อาวุธและฉากบู๊ เวลานี้กลับเนียนละเอียดราวกับไม่เคยจับอาวุธมาก่อน เธอยกมือนั้นขึ้นมาพิจารณาอย่างถี่ถ้วน ก่อนจะเงยหน้าไปมองอยู่ที่ยืนยิ้มหน้าบานด้านจนต้องขมวดคิ้ว
ซิ่วเหมยกวาดสายตามองไปรอบห้องอีกครั้ง ก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินไปหยิบกระจกสำริดขึ้นมาส่อง และสิ่งที่ทำให้เธอใก็คือ ภาพที่สะท้อนอยู่ในกระจกนั้นกลับไม่ใช่ใบหน้าของหญิงสาวในศตวรรษที่21 แต่เป็สตรีที่มีผิวขาวผ่อง ดวงตากลมโต จมูกเป็สัน ผมดำขลับ ริมฝีปากบางสีชมพูอ่อน
เธอหันไปมองสตรีด้านข้างด้วยสายตาสับสน และหันกลับมามองภาพสะท้อนในกระจกอีกครา ก่อนจะอ้าปากเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง
"นี่มันเื่บ้าอะไรกันเนี่ย"
สองวันผ่านไป
หลี่ซิ่วเหมยใช้เวลาทำความเข้าใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เธอรู้แล้วว่าที่นี่ไม่ใช่โลกที่เธออยู่ และคาดว่าภาพสุดท้ายที่เธอเห็นนั้นน่าจะเป็ลมหายใจสุดท้ายจากโลกเดิม แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เธอดันกลับมาเกิดใหม่ในร่างของ ‘พระชายาของแม่ทัพหลงเยี่ยน’ แม่ทัพที่ใคร ๆ ต่างให้ฉายาว่าเืเย็นไร้หัวใจ สามีที่ไม่เคยเหลียวแลนางเลยแม้แต่น้อย
และสิ่งที่เลวร้ายที่สุดเห็นจะเป็ร่างเดิมของพระชายาไป๋ลี่เซียน ที่นางเพิ่งพยายามฆ่าตัวตายเพราะหัวใจที่แตกสลายจากการถูกสามีไม่รัก!
“เหอะ! อย่าบอกนะว่าข้าจะต้องแสดงละครเป็สตรีอ่อนแอผู้โง่เขลาเต่าตุ่นต่อไป ไม่ตลกเลยนะ”
เธอนั่งมองใบหน้าของสตรีผู้นี้หน้ากระจกสำริดอย่างพิจารณา แต่ไม่ว่าจะพิจารณาเช่นไรเธอก็ไม่ยินดีที่จะเป็สตรีอ่อนแอผู้นั้น! ในเมื่อฟ้าส่งนางให้มาเกิดใหม่ หลี่ซิ่วเหมยผู้นี้ก็จะไม่ยอมเป็เหยื่อของโชคชะตาอีกต่อไป ต่อให้นิสัยนางจะไม่เหมือนชายาลี่เซียนอะไรนั่นแล้วอย่างไร ในเมื่อใบหน้านี้ก็ยังเป็ของนาง ร่างกายนี้ก็ของนาง ทุกอย่างที่เห็นตอนนี้คือนางทั้งหมด หากบอกกับทุกคนว่าหลังจากฟื้นจากความตายมาได้ นิสัยจะเปลี่ยนไปบ้างก็คงไม่แปลกหรอกละมั้งนะ
ในตอนที่เธอกำลังถกเถียงกับตัวเองอยู่นั้น ด้านนอกได้มีเสียงฝีเท้าหนักดังก้องมาจากด้านหน้าประตู เพียงพริบตาประตูไม้บานนั้นก็ถูกผลักออกจากชายหนุ่มร่างสูงในอาภรณ์สีดำ ใบหน้าของเขานั้นหล่อเหลาราวเทพบุตรลงมาจุติ คำนี้ไม่เกินจริง แต่น่าเสียดายที่ดวงตาคู่นั้นกลับดูเ็าไร้ความรู้สึก เขาก้าวเข้ามาพร้อมกับแรงกดดันที่แผ่ซ่านไปทั่วห้อง หากเป็คนอื่นอาจจะหวาดกลัวอยู่บ้าง แต่สำหรับเธอแล้ว.. ผู้กำกับที่เธอเจอทุกวันนั้นน่ากลัวกว่าเป็ร้อยเท่า!
“เ้ายังไม่ตายงั้นหรือ”
เขายืนมองอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยคำพูดไม่น่าฟังนั้นออกมา คำพูดแรกที่เขาเอ่ยนั้นทำให้ไป๋ลี่เซียนต้องแสยะยิ้ม ช่างเป็การพบกันครั้งแรกที่น่าประทับใจเสียจริง
“ข้าเองก็เสียใจจริง ๆ ท่านแม่ทัพ ข้าก็ไม่คิดเลยว่าตัวเองจะดวงแข็งกว่าหินเช่นนี้ ทำให้ท่านผิดหวังแล้ว”
ลี่เซียนกวาดสายตามองหลงเยี่ยนแล้วแค่นยิ้มส่งไปให้ เธอรู้สึกได้เลยว่าหัวใจที่เคยห่อเหี่ยวจากการถูกทอดทิ้งในชีวิตก่อน เวลานี้มันกลับร้อนรนขึ้นอีกครั้งด้วยความหงุดหงิด
'ผู้ชายอะไรช่างปากเสียชะมัด ความหล่อไม่ได้ทำให้หมาในปากสงบเสงี่ยมเลยหรือไง'
นางคิดในใจก่อนจะยืดตัวขึ้นจากหน้ากระจก ชุดผ้าไหมสีนวลที่คลุมร่างสะท้อนให้เห็นถึงรูปร่างอ่อนช้อยสง่างาม แต่ในดวงตาของเธอนั้นกลับมีความมุ่งมั่นและเด็ดเดี่ยว ที่ดูแตกต่างจากสตรีที่เขารู้จักก่อนหน้านี้
หลงเยี่ยนไม่สนใจคำพูดของนาง เขาทำเพียงจ้องมองใบหน้าเล็กนั้นนิ่ง ๆ ทว่าสำหรับหลี่ซิ่วเหมยแล้ว ความเงียบที่ไม่ยอมเอ่ยอะไรออกมานั้น กลับดึงดูดให้เธอต้องยิ้มออกมาอีกครั้ง รอยยิ้มของนางแฝงไปด้วยความเ็าในแบบที่เขามั่นใจว่าไม่เคยเห็นมาก่อนเป็แน่
หญิงสาวเดินเข้าไปใกล้เขาเล็กน้อยก่อนจะเอียงคอแล้วเอ่ยถามเสียงเรียบ
“ท่านแม่ทัพคงไม่ได้คิดจริงจังกับคำพูดที่ว่าข้าตายยากหรอกนะ หรือว่าท่านกำลังคิดหาวิธีว่าจะให้ข้าตายอย่างไรดี”
ไป๋ลี่เซียนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยการท้าทาย ทำให้เขาหรี่ตาลงเล็กน้อยจ้องมองเธออย่างไม่วางตา แม้ว่าใบหน้าของชายหนุ่มจะมีแต่ความเ็าไม่แสดงอารมณ์อื่นใดออกมา แต่ในใจลึก ๆ ของเขากลับเกิดคำถามขึ้น เหตุใดสตรีที่อ่อนแอไม่มีสิทธิมีเสียงผู้นี้ถึงได้พูดจาไม่น่าฟังเช่นนี้กับเขาได้ เหตุใดเพียงชั่วความเป็ความตายของนางถึงได้ทำให้สตรีผู้นี้เปลี่ยนไปได้มากเช่นนี้
หญิงสาวกวาดสายตามองหลงเยี่ยนแล้วส่งยิ้มให้เขาอีกครั้ง คำพูดที่เปล่งออกมาจากเขาทำให้เธอรู้สึกได้เลยว่า ความสัมพันธ์ของแม่ทัพเืเย็นผู้นี้กับสตรีที่ได้ชื่อว่าชายานั้นไม่ดีเสียเท่าไหร่ แต่แล้วอย่างไรเล่า! ในเมื่อตอนนี้เธอเข้ามาอยู่ในร่างของนางแล้ว เธอก็จะเปลี่ยนแปลงมันให้ได้มากที่สุดให้ดู
“ท่านช่างเป็สามีที่น่าเบื่อเสียจริง”
เธอพูดออกมาเบา ๆ โดยไม่สนใจเลยว่าเขาจะได้ยินหรือไม่ หญิงสาวปรายตามองไปที่ใบหน้าของหลงเยี่ยนที่เต็มไปด้วยความเ็า ในหัวของนางเห็นภาพของชายาในอดีต แล้วรู้สึกถึงความอ่อนแอที่นางต้องแบกรับในชีวิตก่อน ยิ่งเห็นเช่นนั้น คนอย่างหลี่ซิ่วเหมยยิ่งไม่อาจยอมรับโชคชะตานี้ได้เด็ดขาด เธอหันหลังให้เขาโดยไม่สนใจอะไรชายผู้นั้นอีก ก่อนจะเดินตรงเข้าไปหาสาวใช้ที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ พร้อมกับสั่งเสียงเรียบ
“เ้าพาข้าไปอาบน้ำได้หรือไม่”
สาวใช้ผู้นั้นรับคำอย่างกระตือรือร้น ก่อนจะพาไป๋ลี่เซียนไปยังห้องน้ำที่ตั้งอยู่ด้านหลัง พื้นห้องถูกปูด้วยกระเบื้องหินอ่อนแวววาว ผ้าม่านสีครีมช่วยบังแสงแดดจากภายนอกทำให้ในห้องรู้สึกเงียบสงบ เธอกวาดตามองในห้องนี้ด้วยความตื่นตาตื่นใจ และได้แต่อมยิ้มให้กับความอลังการของห้องน้ำของจวนในยุคนี้
ั้แ่ลืมตาตื่นขึ้นมา ก็ว่าให้องนอนของตัวเองที่ว่าอลังการแล้ว แต่คราใดที่เข้ามาในห้องน้ำแห่งนี้ก็ยังคงใอีกเช่นเดิม เธอเดินไปที่อ่างน้ำช้า ๆ ก่อนจะปล่อยให้สาวใช้ได้ทำหน้าที่ตามหน้าที่
หลังจากจัดการอาบน้ำแร่แช่น้ำนมจนแล้วเสร็จ สาวใช้คนเดิมได้เข้ามาช่วยแต่งกายให้อย่างนอบน้อม ลี่เซียนปล่อยให้นางจัดการทุกอย่างไป แต่ในใจกำลังครุ่นคิดเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น การที่เธอต้องมาอยู่ในร่างของสตรีที่อ่อนแอเช่นนี้ ทำให้เธอรู้สึกเหมือนถูกบังคับให้สวมบทบาทที่ไม่ใช่ตัวตนของนาง หากจะเล่นละครเธอก็ทำได้อยู่ เพียงแต่หากเธอต้องใช้ชีวิตในร่างนี้ไปตลอด การเล่นละครเช่นนั้นเธอคงได้อึดอัดตายก่อนพอดี
'ถึงแม้ว่าโชคชะตาจะส่งชีวิตใหม่มาให้ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องรับบทเป็สตรีไร้ประโยชน์เสียเมื่อไหร่ ข้าจะให้นางได้ใช้ชีวิตในแบบไป๋ลี่เซียนนิวเวอร์ชันให้ดู'
หญิงสาวคิดในใจอยู่ครู่หนึ่งพร้อมกับมองตามสาวใช้ที่กำลังแต่งกายให้อย่างขมักเขม้น ร่างบางในชุดผ้าไหมที่คาดว่าน่าจะแพงสีชมพูหวานที่สาวใช้จัดเตรียมให้นั้น เมื่อถูกสวมบนร่างกายอ้อนแอ้นอรชรนี้แล้ว ช่างดูงดงามราวกับกุลสตรีที่อ่อนโยน
'ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไปนี้เธอจะใช้ชีวิตนี้ในแบบที่เธอ้าเท่านั้น'
หญิงสาวคิดขณะยิ้มให้กับภาพที่สะท้อนในกระจก หันซ้ายหันขวามองใบหน้าของสตรีผู้นี้ให้ชัดที่สุดก่อนจะหันหลังเดินออกไป เสียงฝีเท้าที่ดังก้องทำให้รู้ว่าชีวิตของเธอในร่างชายาผู้นี้กำลังจะได้เริ่มต้นการเดินทางอีกครั้ง
“ถ้าไม่ยอมรับชะตาที่ต้องเผชิญ ก็แค่ต้องเปลี่ยนแปลงมันไปในทางที่้า เอาว่ะ! สู้เขาหลี่ซิ่วเหมย ไม่สิ.. ไป๋! ลี่! เซียน..”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้