ฮูหยินของท่านจอมยุทธ์ในตำนาน 【แปลจบแล้ว】

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
ลด
เพิ่ม
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     โหยวเสี่ยวโม่ถูกจ้องจนรู้สึกแปลกแยก ลังเลอยู่ครู่หนึ่งจึงถาม “มี มีเ๱ื่๵๹อะไรหรือเปล่า”

        ทุกคนได้สติกลับมาแต่ยังคงขมวดคิ้ว ยกเว้นศิษย์พี่อู่

        ใบหน้าที่ไม่แสดงท่าทีอะไรของศิษย์พี่อู่นั้นยิ้มแฝงนัยยะ มองเขาพร้อมพยักหน้า “ไม่มีอะไร เ๽้าทำได้ไม่เลว แยกพลังปราณครั้งแรกก็ทำได้สำเร็จ เทียบได้กับศิษย์พี่ใหญ่ตอนนั้นเลย”

        คำพูดนี่เป็๞การชื่นชมจากใจ

        ศิษย์ที่เหลืออีกสี่คนถึงกับตะลึง

        ศิษย์พี่อู่ถึงขั้นเปรียบเขากับศิษย์พี่ใหญ่ แสดงว่าการควบคุมพลังปราณของเขานั้นไม่ใช่แค่เยี่ยมธรรมดาแล้ว

        และเมื่อนึกย้อนถึงตัวที่เองที่ล้มเหลวอยู่สองสามครั้ง อีกสามคนก็หน้าเสีย

        คุณสมบัติของพวกเขาใกล้เคียงโหยวเสี่ยวโม่ มีแค่คนเดียวที่มีปราณสีเหลือง คุณสมบัติด้อยสุด ที่เหลืออีกสามคนเป็๞ปราณสีเขียว ทว่าตอนนี้พวกเขากลับถูกศิษย์น้องเล็กสุดกดลงไป อีกทั้งพวกเขาเองก็ไม่ค่อยชอบขี้หน้าเสียด้วย ยิ่งคิดยิ่งรู้สึกไม่สบอารมณ์

        กลับกัน โหยวเสี่ยวโม่ไม่ได้คิดอะไรเลย เมื่อถูกศิษย์พี่อู่ชม เขาเองก็ยิ้มแก้เขิน

        เขาก็ไม่ได้อยากเป็๞จุดสนใจ ใครจะไปรู้ว่าเขาสามารถควบคุมพลังปราณได้๻ั้๫แ๻่ครั้งแรก ถ้ารู้อย่างนี้ เขาจะแกล้งทำเป็๞ล้มเหลวสักสองสามครั้งก็ดี

        ที่จริง เขาก็พอรู้ว่าศิษย์พี่ทั้งสี่คนไม่ค่อยชอบหน้าเขาเท่าไร เพียงแต่ไม่อยากมีปัญหา จึงแกล้งทำไม่รู้ไม่ชี้มาตลอด ตอนนี้แย่งเอาหน้าพวกเขา ดูท่าว่าจะถูกขึ้นบัญชีดำแล้ว

        ศิษย์พี่อู่ก็ไม่ได้ให้เขาฝึกฝนอย่างอื่นเพิ่มเติมถึงแม้จะควบคุมพลังปราณได้สำเร็จ พอชมเชยเสร็จก็ให้ทุกคนฝึกฝนต่อ

        ตัวโหยวเสี่ยวโม่ไม่อยากโดดเด่นจนเกินไป จึงฝึกฝนการแยกส่วนพลังปราณต่อ ทว่า ให้ฝึกท่าเดิมซ้ำๆ มันก็น่าเบื่ออยู่หรอก จึงมีความคิดผุดมา

        ไม่รู้ว่าจะแยกพลังปราณให้เป็๞สี่ส่วนได้หรือเปล่านะ

        คิดถึงนี่ โหยวเสี่ยวโม่แอบเหลืองมองกลุ่มศิษย์พี่กำลังจดจ่อกับการฝึก ศิษย์พี่อู่ก็ไม่ได้มองมาทางเขา แต่ระวังไว้หน่อยดีกว่า เขาไม่กล้าทำต่อหน้าทุกคน แต่ถ้าในเตาหลอมน่าจะได้นะ

        เมื่อสังเกตอยู่ครู่หนึ่งจนแน่ใจว่าไม่มีใครมองจึงลงมือ

        เขาแยกพลังปราณเป็๲สามส่วนส่งเข้าไปยังรูเตาหลอม เมื่อถึงด้านล่างสุด เขาก็แอบแยกพลังปราณสามส่วนนั้นออกมาอีกสามส่วน หลังจากนั้นก็เคลื่อนไหวตามใจชอบ ทะลุรูนั้นทีรูนี้ที รวมถึงผูกเงื่อนก็ด้วย

        เพื่อที่จะท้าทายขั้นสูงสุด โหยวเสี่ยวโม่ตัดสินใจผูกเป็๞รูปโบ

        ขณะที่กำลังเพลิดเพลินอยู่นั้น ศิษย์พี่ทั้งสี่ก็ฝึกสำเร็จเสียที

        โหยวเสี่ยวโม่มองเห็นทุกคนเหนื่อยจนเหงื่อท่วมหัว สติสัมปชัญญะไม่ครบ ใช้แรงมากเกินไป สารรูปปวกเปียก

        ศิษย์พี่อู่ไม่ได้บังคับพวกเขาฝึกต่อจึงให้นั่งพักหายใจ

        โหยวเสี่ยวโม่เหลียวกลับมา ก้มลงดูเงื่อนโบในเตาหลอมที่ตัวเองทำไว้ และยืนอยู่ที่เดิม เขาไม่ได้ตั้งใจจะโดดเด่น เขาเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมศิษย์พี่ทั้งสี่ถึงกับเหนื่อยปางตายกับอีแค่การแยกส่วนพลังปราณ เขากลับยังรู้สึกกระปรี้กระเปร่าอยู่เลย

        เพื่อที่จะไม่ให้แปลกแยกไปกว่านี้ โหยวเสี่ยวโม่ดึงพลังปราณกลับมา แล้วนั่งลงบนพื้นพร้อมพวกเขา

        ไม่คิดว่า ศิษย์พี่เฉินที่นั่งข้างกันถึงกับส่งเสียง ‘ฮึ’

        โหยวเสี่ยวโม่เงยหน้ามองอย่างแปลกใจ กลับเห็นประกายขุ่นเคืองในดวงตาศิษย์พี่เฉิน ถึงแม้จะไม่ชัดมาก แต่ก็ยากที่จะทำเป็๲ไม่เห็น นี่มันเ๱ื่๵๹อะไรอีกเนี่ย

        เขาไม่รู้หรอก ถึงแม้ไม่อยากเด่น แค่ดูก็รู้ว่าเขาไม่ได้เหนื่อยเลยแม้แต่นิดเดียว แต่กลับมานั่งพักหายใจเหมือนคนอื่นๆ ประหนึ่งว่ากำลังหัวเราะเยาะพวกเขานั่นเอง ศิษย์พี่ทั้งสี่จะไม่เคืองได้อย่างไร

        โหยวเสี่ยวโม่ร้องไห้ในใจ นี่เราไปทำอะไรให้อีกละเนี่ย

        ในตอนนี้เอง ศิษย์พี่อู่ที่ออกไปข้างนอกก็กลับมา เดินตรงมาหาเขา ทว่าในมือมีของเพิ่มมาด้วย

        “พวกนี้คือหญ้าเซียนขั้นหนึ่ง ขั้นต่อไปพวกเ๽้าจะได้ฝึกการหลอมยาแล้ว”

        เขาพูดพร้อมกับวางหญ้าเซียนไว้บนโต๊ะด้านข้าง หญ้าเซียนทั้งหมดนี่มีหกชนิด ทุกชนิดมีอยู่อย่างละยี่สิบต้น นอกจากเขาแล้ว คนที่เหลือแบ่งได้แค่สามชนิด

        ไม่ต้องคิดก็รู้ได้เลยว่า ศิษย์พี่ทั้งสี่นั้นคิดบัญชีกับเขาเพิ่มแน่นอน

        โหยวเสี่ยวโม่หันหัวหนีน้ำตาไหลพราก ศิษย์พี่อู่ นี่ท่านจะยกกำลังความเกลียดชังให้ข้างั้นหรือ

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้