การหลอมยาจะว่ายากก็ไม่ยาก จะว่าง่ายก็ไม่ง่าย
ขั้นตอนพวกนี้เกี่ยวข้องกับการควบคุมพลังปราณที่พวกเขาฝึกเมื่อครู่ ถ้าสามารถควบคุมพลังปราณได้ดี ก็จะลดความผิดพลาดในการหลอมยาได้ ในทางกลับกันความผิดพลาดก็จะยิ่งสูง
ด้วยเหตุนี้ศิษย์พี่อู่ถึงได้เอาหญ้าเซียนถึงหกชนิดมาให้โหยวเสี่ยวโม่ เพราะว่าเขาสามารถควบคุมพลังได้ดี เป็การจับตาดูเขาวิธีหนึ่งก็ว่าได้
ศิษย์พี่ทั้งสี่ถึงแม้ไม่พอใจ แต่ก็ไม่กล้าวปริปากอะไร
นี่เป็การตัดสินใจของศิษย์พี่อู่ ตำแหน่งของเขาทัดเทียมกับศิษย์พี่ใหญ่ ถึงแม้จะไม่พอใจแค่ไหนก็ไม่กล้าเถียงเขา อีกอย่างพวกเขาเทียบกับคนอื่นไม่ได้จริงๆ ถ้าเอ่ยขอไปแบบไร้เหตุผล รังแต่จะสร้างภาพลักษณ์เสียหายในสายตาศิษย์พี่อู่
แต่กับโหยวเสี่ยวโม่นั้น พวกเขาคงแค้นขึ้นใจเลยทีเดียว
ต่อหน้าศิษย์พี่อู่ เขากลับได้หน้าจนคนอื่นเทียบไม่ติด
โหยวเสี่ยวโม่ไม่รู้ตัว ถึงรู้ก็คงทำอะไรไม่ได้ จากนั้นจึงจดจ่อกับการฝึก
การหลอมยานั้นมีหลายขั้นตอน ทุกขั้นตอนเป็สิ่งที่เขาฝึกมาก่อนหน้า การส่งพลังปราณเข้าทั้งสามร่อง ซึ่งก็เพื่อเป็การหลอมหญ้าเซียนด้วยความร้อนนั่นเอง
เมื่อส่งพลังปราณเข้าไปแล้ว โหยวเสี่ยวโม่เลือกหญ้าเซียนสามชนิดและใส่ลงไปในเตาหลอม แบ่งเป็ หญ้าพลิกแพลง หญ้ารากชีวา และดอกสงบจิต ทั้งสามชนิดนี้เมื่อหลอมรวมกันจะได้ยาคลายพิษ สามารถช่วยในการถอนพิษ แต่ช่วยได้ไม่มาก แค่เพียงสามารถคลายพิษที่มีฤทธิอ่อน
เมื่อเริ่มฝึกยังไม่ค่อยคุ้นชิน เพราะนี่เป็ครั้งแรกในการหลอมร้อน กำจัดสิ่งสกปรกในหญ้าเซียนได้ไม่เยอะพอ
โหยวเสี่ยวโม่พบว่าตนทำการหลอมร้อนได้มากกว่าหนึ่งรอบ แต่เกร็งว่าจะออกหน้าออกตาไป จึงทำแค่รอบเดียว เมื่อกำจัดไปได้ส่วนหนึ่ง เขาก็จัดการหย่อนหญ้าเซียนที่ถูกบดลงไปในก้นเตา จากนั้นยื่นมือเข้าไป
ตอนนี้ สองมือของเขาถูกไอสีขาวใสบางเบาปกคลุมอยู่ ซึ่งก็คือพลังปราณที่เขาปล่อยออกมา จากนั้นค่อยๆ นวดคลึงตัวยาผสมเข้าด้วยกันด้วยมือของเขา
การนวดนั้นไม่ได้ง่ายมีขั้นตอนเฉพาะของมัน ซึ่งถ้าทำผิดั้แ่ขั้นแรก จะส่งผลต่อคุณภาพของตัวยา หรือถึงขั้นล้มเหลว
ทว่าขั้นตอนพวกนี้ ศิษย์พี่ฟางได้บรรยายให้พวกเขาฟังแล้ว โหยวเสี่ยวโม่ได้อ่านตำราเองอีกด้วย จึงจำได้ขึ้นใจ
เขานึกถึงสิ่งที่ศิษย์พี่ฟางพูด จากนั้นเทียบกับขั้นตอนในตำราที่อ่านมา พร้อมท่องด้วยวิธีง่ายๆ ในใจ เมื่อมั่นใจว่าไม่ผิดแน่ จึงค่อยๆ ลงมือทำตามที่ท่องไว้
ถ้าเป็เมื่อก่อน เขาไม่มีทางทำได้แน่
แม้ว่าความสามารถในการจดจำของเขาก่อนจะตายนั้นนับว่าใช่ได้ แต่ก็ไม่ถึงขั้นจำทุกรายละเอียดขั้นตอนการหลอมได้ แต่ครั้งนี้เขาทำได้จนประหลาดใจเล็กน้อย
ยาเซียนตันขั้นหนึ่งนั้นมีการนวดคลึงห้าขั้นตอน แม้ดูง่ายดายแต่ก็ประมาทไม่ได้ ฉะนั้นต้องรวบรวมสมาธิให้ดี
ในสมองคอยนึกถึงขั้นตอนการนวด อีกด้านนิ้วมือทั้งสิบบรรจงนวดคลึงตัวหญ้าเซียนทั้งสามเข้าด้วยกันตามขั้นตอน ขั้นที่หนึ่ง ขั้นที่สอง… จนเหงื่อเริ่มซึมหน้าผาก ในที่สุดเขาก็สามารถหลอมยาเซียนตันขั้นหนึ่งเม็ดนี้สำเร็จ
ตัวเม็ดยามีสีเหลืองอ่อนๆ กลมกลึงและวาววิบวับ มีกลิ่นอ่อนๆ ของดอกสงบจิตโชยออกมา หอมมาก
โหยวเสี่ยวโม่จ้องยาเซียนตันเม็ดนี้คงเป็โอสถระดับล่าง ยาเซียนตันทั่วไป ไม่ว่าหลอมออกมาเป็สีเช่นไร แต่ถ้าสีอ่อนแสดงว่าคุณภาพต่ำ เม็ดของเขาเป็สีเหลืองอ่อน ดังนั้นจึงจัดว่าเป็คุณภาพระดับล่าง
ศิษย์พี่อู่เดินเข้ามา เมื่อเห็นยาเซียนตันในมือเขาก็ผงกหัวอย่างพอใจ ถึงแม้จะเป็ยาระดับล่าง อีกทั้งคุณภาพต่ำ แต่หลอมได้สำเร็จั้แ่ครั้งแรก นี่ไม่ใช่แค่ความโชคดีทั่วไปแล้ว จากนั้นเอ่ยชมโหยวเสี่ยวโม่และเดินจากไป
การหลอมยานี้ แม้นว่าอาจารย์คือผู้ที่นำเข้ามา แต่การฝึกฝนนั้นขึ้นอยู่กับบุคคล
ศิษย์พี่ฟางเป็ตัวแทนในการถ่ายทอดวิชา แต่ก็สอนแค่ความรู้พื้นฐาน หลังจากนั้นล้วนขึ้นอยู่กับการซึมซาบวิชาของแต่ละคน ดังนั้นวันนี้จึงเป็คาบสุดท้ายที่ศิษย์พี่ฟางจะสอนพวกเขา
ต่อมา ศิษย์พี่อู่ เมื่อเห็นว่าทุกคนต่างมีความรู้เบื้องต้นในการหลอมโอสถแล้ว ก็ไม่ได้อยู่ดูต่อ แต่สั่งให้พวกเขาฝึกไปเรื่อยๆ ใน่บ่าย แต่ก่อนไป เขากล่าวว่า
“มีอีกเื่ ไม่รู้ว่าศิษย์พี่ใหญ่บอกพวกเ้าไปรึยัง การหลอมยาเซียนตันขั้นหนึ่งของพวกเ้าน่ะ หนึ่งเม็ดสามารถแลกได้หนึ่งแต้มความดี แต่จำกัดที่สิบคะแนนต่อวัน”
ตอนแรกได้ฟังประโยคตอนต้นนั้นทำเอาโหยวเสี่ยวโม่ทั้งตื่นเต้นและดีใจ ไม่นึกว่าการหลอมยาจะแลกแต้มได้ด้วย ถึงแม้จะได้แค่แต้มเดียวต่อเม็ดยังดีกว่าไม่ได้อะไรเลย แต่ขณะที่กำลังคิดว่าจะหลอมกี่เม็ดต่อวันดี ก็โดนคำพูดประโยคต่อไปของศิษย์พี่อู่มาหยุดความคิดเขาเสียนี่
ของดีราคาถูกไม่มีในโลกนี้จริงๆ
ที่ตั้งข้อจำกัดนี้ก็เป็มีเหตุจำเป็ เพราะไม่เช่นนั้นทุกคนจะเอาแต่หลอมยาขั้นหนึ่งไปแลกแต้ม ต่อให้มีหญ้าเซียนขั้นหนึ่งเยอะแค่ไหนก็ไม่พอใช้ แถมพวกงานใช้แรงในทัพพิภพก็คงไม่มีใครยอมทำแน่
ตลอดทั้งบ่าย โหยวเสี่ยวโม่ก็เอาแต่ฝึกหลอมยาในห้องหิน
หญ้าเซียนที่ศิษย์พี่อู่ให้มานั้นไม่เยอะ แต่เขาพึ่งจะผ่านการกระตุ้นพลังปราณมาเมื่อวาน พลังปราณยังเข้มข้นไม่พอ ไม่สามารถใช้พลังได้อย่างเต็มที่ ฉะนั้นโหยวเสี่ยวโม่จึงหลอมแค่ห้าเม็ดและนั่งพัก วนอยู่อย่างนี้จนตะวันใกล้ลับขอบฟ้า ในที่สุดก็ใช้หญ้าเซียนจนหมด
หญ้าเซียนทั้งหมดสี่สิบต้น เขาไม่ได้ฟุ่มเฟือยแม้แต่ต้นเดียว แต่ยาเซียนตันทั้งสี่สิบเม็ดล้วนเป็ยาระดับล่างเท่านั้น ถึงแม้จะนับว่าสำเร็จเต็มร้อย แต่คุณภาพก็ไม่ได้สูงขึ้นเลย
โหยวเสี่ยวโม่ไม่ได้ใส่ใจนัก พร้อมเก็บข้าวของและไปส่งผลงาน จากนั้นไปโรงอาหารต่อ