หานอวิ๋นซีคิดว่าองครักษ์จะโยนนักโทษหญิงเข้าไปในกรงเหล็กเพื่อให้หนูกินเนื้อกิน ทว่าผลลัพธ์กลับกลายเป็สิ่งที่คาดไม่ถึงไปโดยสิ้นเชิง
แม้แต่นักโทษหญิงเองก็ไม่คาดคิดว่าจะเป็เช่นนี้!
องครักษ์จับตัวนักโทษหญิง ผลักนางไปที่ด้านข้างของกรงเหล็ก เปิดหน้าต่างบานเล็กขนาดเท่าหน้าคนอย่างรวดเร็ว ก่อนที่หนูกินเนื้อจะวิ่งเข้ามา ก็จับศีรษะของนักโทษหญิงไว้ไม่ให้ศีรษะของนางหลุดออกจากหน้าต่างบานเล็ก!
พระเ้า!
หานอวิ๋นซีอ้าปากค้างทันที หลังจากนั้นก็รู้สึกว่าเวลาที่หลงเฟยเยี่ยโกรธ มันน่ากลัวขนาดนี้เลยหรือ!
ทันทีที่ศีรษะของนักโทษหญิงอยู่ที่หน้าต่างบานเล็ก หนูกินเนื้อผู้หิวโหยก็วิ่งเข้ามาทันที เท้าหลังของมันเกาะตาข่ายเหล็กไว้เพื่อให้ร่างกายของมันมั่นคง ใช้เล็บเกี่ยวไปที่ผมและลงไปถึงหนังศีรษะอย่างรวดเร็ว ปากอันแหลมคมเผยเขี้ยวและแทะลงบนศีรษะของนักโทษหญิง!
“จี๊ดจี๊ด…จี๊ดจี๊ดจี๊ด…”
แน่นอนว่านักโทษหญิงรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับศีรษะของนาง ใบหน้าของนางซีด ดวงตาเบิกกว้างเต็มไปด้วยความกลัว นางดิ้นสุดแรง ขยับร่างกายอย่างแรง ปากที่ถูกปิดก็ส่งเสียงครวญครางออกมาราวกับกำลังร้องขอความเมตตา
หลงเฟยเยี่ยที่ไม่ได้สนใจอะไร และนักโทษหญิงยังคงคร่ำครวญต่อไป นางมองไปที่หลงเฟยเยี่ย ในแววตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว และเผยให้เห็นถึงความวิงวอนอย่างชัดเจน
ใครๆ ก็เห็นว่านางกำลังร้องขอความเมตตา
ในเวลานี้ หลงเฟยเยี่ยยกมือขึ้นเล็กน้อย องครักษ์จึงโยนชิ้นเนื้อเข้าไปในกรงเหล็ก หนูกินเนื้อเปลี่ยนเป้าหมายทันที ปล่อยศีรษะของนักโทษหญิงและพุ่งเข้าหาเนื้ออย่างรวดเร็ว องครักษ์ฉวยโอกาสนี้ดึงนักโทษหญิงออกมาทันทีและปิดหน้าต่างบานเล็ก
นักโทษหญิงหลับตาปี๋ ขาอ่อนปวกเปียกทรุดลงกับพื้น เรี่ยวแรงของนางดูเหมือนจะหมดลง พร้อมกับตัวสั่นด้วยความหวาดกลัวและยังคงใอยู่
หานอวิ๋นซีขมวดคิ้วและมองไปที่ด้านหลังศีรษะของนาง ก็เห็นว่าผมยาวของนางยุ่งเหยิง เต็มไปด้วยเืและเนื้อที่หลุดลุ่ย
นางมองไปที่หนูตัวใหญ่ในกรงเหล็กอีกครั้ง ทันใดนั้นก็รู้สึกขยะแขยงและไม่อยากมองอีกต่อไป
“ตอนนี้ เ้าตัดสินใจได้หรือยังว่าจะเขียนรายชื่อออกมาหรือไม่?” หลงเฟยเยี่ยถามอย่างเ็า สิ่งที่เขา้าคือรายชื่อของผู้ทรยศทั้งหมด หากได้สิ่งนี้มา เกมของอาณาจักรเป่ยลี่ก็จะถึงจุดจบ!
นักโทษหญิงก้มศีรษะลงและนิ่งเฉย ไม่รู้ว่ากลัวจนโง่ไปแล้วหรือไม่ อย่างน้อยจากที่หานอวิ๋นซีดูแล้ว นางคงกลัวจนโง่ไปแล้วล่ะ
อย่างไรก็ตาม กลับกลายเป็ว่าหานอวิ๋นซีประเมินคนทรยศผู้นี้ต่ำเกินไป
หลังจากนั้นไม่นาน สตรีผู้นั้นก็เงยหน้าขึ้นช้าๆ แววตาร้องขอที่มองไปยังหลงเฟยเยี่ยก่อนหน้านี้ ตอนนี้กลับกลายเป็มองหลงเฟยเยี่ยด้วยสายตาชั่วร้าย หันหน้าไปทางอื่นและไม่ตอบคำถามของเขา
ในเมื่อรักศักดิ์ศรีขนาดนี้ เมื่อครู่จะคร่ำครวญร้องขอความเมตตาทำไมกัน?
หานอวิ๋นซีขมวดคิ้วทันที ไม่สามารถชื่นชมคนประเภทนี้ได้จริงๆ
หลงเฟยเยี่ยที่ไม่มีความอดทนมากขนาดนั้น ก็หรี่ตาและพูดอย่างเ็าว่า “ทำต่อไป!”
องครักษ์รีบอุ้มนักโทษหญิงขึ้นมาอีกครั้ง แววตาของนักโทษหญิงเผยความกลัวออกมา ทว่ากลับไม่ร้องขอความเมตตา นางคิดว่า ในมือของหลงเฟยเยี่ยเหลือเพียงแค่สองคน ไม่มีทางปล่อยพวกนางให้ตายไปง่ายๆ อย่างแน่นอน แค่ผ่านการกระทำรุนแรงครั้งนี้ไปได้ ก็คงไม่มีอะไรแล้ว
แต่ใครจะรู้ว่าคราวนี้องครักษ์ไม่ได้จับศีรษะของนางเพื่อใส่เข้าไปในหน้าต่างเล็กของกรงเหล็ก แต่กลับจับใบหน้านางใส่เข้าไปที่หน้าต่างบานเล็กแทน!
“ไม่นะ…”
นักโทษหญิงเข้าใจทันทีว่าองครักษ์กำลังจะทำอะไร นางคำรามในใจพร้อมกับดวงตาที่เบิกกว้าง “อย่านะ...”
นี่จะให้หนูกินเนื้อกินหน้านางอย่างนั้นหรือ!
นางรู้สึกเสียใจขึ้นมาทันที นางดิ้นรนอย่างรุนแรงราวกับว่ากลัวจนเป็บ้าไปแล้ว ทั้งยังร้องไห้สะอื้น พร้อมกับน้ำตาที่ไหลทะลักออกมา แต่คราวนี้หลงเฟยเยี่ยไม่ได้บอกให้หยุดและ้าให้นางตายจริงๆ !
“ตึง!”
เสียงดังกึกก้องดังขึ้น องครักษ์จับนางกระแทกเข้ากับหน้าต่างบานเล็กอย่างแรง ใบหน้าของนางกดชิดกับหน้าต่างบานเล็ก และหันหน้าเข้าหาหนูตัวใหญ่!
ในเวลานี้ หนูตัวใหญ่ยังคงแทะเนื้อที่องครักษ์โยนลงไปอยู่ไม่ไกล ในขณะที่กัดแทะอย่างตะกละตะกลาม ก็ยังคงไม่ลืมที่จะเหลือบมามอง
“จี๊ดจี๊ด…จี๊ดจี๊ด…”
นักโทษหญิงพยายามส่ายหัวและถอยหนี ทว่าก็ไม่เป็ผล องครักษ์บีบคอนางไว้อย่างแ่า
ในที่สุดหนูกินเนื้อตัวใหญ่ก็กินเนื้อที่องครักษ์โยนให้จนหมด มันหันกลับมาช้าๆ และเผชิญหน้ากับนาง!
“อึก...”
นักโทษหญิงใกลัวจนตาเบิกกว้าง ดวงตาของนางราวกับจะถลนออกมาอย่างน่ากลัว และในไม่ช้าหนูกินเนื้อตัวใหญ่ก็พุ่งเข้ามาหานาง!
หานอวิ๋นซีหันหน้าหนี ไม่กล้ามอง แต่ในไม่ช้าก็ได้ยินเสียงกัดอย่างโหดร้าย
ดวงตาของหลงเฟยเยี่ยเ็าและไร้ความปรานี เขาค่อยๆ หันหน้าไปมองนักโทษหญิงอีกคนที่ถูกมัดไว้ข้างๆ และพูดอย่างเ็าว่า “แล้วเ้าล่ะ?”
ตอนนั้นเองที่หานอวิ๋นซีเพิ่งจะจำได้ว่ามีนักโทษหญิงอยู่ข้างๆ นางอีกหนึ่งคน และทันใดนั้นก็ตระหนักว่า เดิมทีหลงเฟยเยี่ยวางแผนที่จะฆ่าคนผู้นั้นอยู่แล้ว เขาเลยทำตัวอย่างให้นางเห็น!
คนที่เขา้าสอบสวนจริงๆ ก็คือนักโทษหญิงที่ถูกมัดไว้ต่างหาก!
เมื่อมองไปยังรูปลักษณ์ที่เข้มงวดของชายผู้นี้ จู่ๆ หานอวิ๋นซีก็รู้สึกว่าเขาเหมือนหมาป่า สงบนิ่ง เด็ดขาด และโหดร้ายกับศัตรูเสมอ!
ในเวลานี้ นักโทษหญิงกำลังมองสหายของนางด้วยความสยดสยอง นางไม่เคยคิดเลยว่าหลงเฟยเยี่ยจะฆ่าสหายของนาง ต้องรู้ว่าหนอนบ่อนไส้ที่หลงเฟยเยี่ยจับมาได้ เหลือเพียงพวกนางสองคนเท่านั้น
หากพวกนางตาย เบาะแสทั้งหมดของหลงเฟยเยี่ยก็จะหายไปทั้งหมด!
ก่อนหน้านี้หลงเฟยเยี่ยกังวลว่าพวกนางจะตายไม่ใช่หรือ? ถึงขั้นไปหาหมอพิษเพื่อถามว่าทำไมบางคนถูกวางยาพิษแล้วตายทันที แต่ทำไมคราวนี้เขาถึงโเี้เช่นนี้ล่ะ?
เมื่อเห็นว่านักโทษหญิงไม่ตอบสนอง หลงเฟยเยี่ยจึงส่งสายตาไป องครักษ์ก็ถอดผ้าที่ปิดปากของนักโทษหญิงออก ทันใดนั้น นักโทษหญิงก็พูดอย่างเฉียบขาดว่า “หลงเฟยเยี่ย ถ้ากล้ามากก็ฆ่าข้าไปด้วยสิ! ข้าไม่มีทางยอมแพ้หรอก!”
หลงเฟยเยี่ยยกยิ้มอย่างเ็า เขายืนขึ้นอย่างเกียจคร้านและเดินไปที่กรงเหล็กทีละก้าว
แววตาของนักโทษหญิงเผยความกังวลออกมาและมองตามอย่างใกล้ชิด เห็นว่าหลงเฟยเยี่ยดึงใบหน้าของนักโทษหญิงคนที่กดทับอยู่ที่กรงเหล็กออกมา แล้วโยนลงกับพื้น หนูกินเนื้อที่ดูเหมือนจะกลัวหลงเฟยเยี่ยก็ถอยหนีออกไปไกล ไม่กล้าที่จะตามออกมา
และนักโทษหญิงที่ถูกโยนลงกับพื้นก็ล้มหน้าคะมำ ใบหน้าพังยับเยิน ทว่ากลับยังไม่ตาย! ทั้งหน้าถูกกัดขาดเป็ชิ้นๆ แต่ก็ไม่ตาย
นางยังคงตัวสั่นเทา ใบหน้าแทบจะฉีกออกจากกัน ปากก็ถูกกัด จนนางไม่สามารถพูดได้
จากนั้นหลงเฟยเยี่ยก็เงยหน้าขึ้นมองนักโทษหญิงที่ถูกมัดไว้ข้างๆ และพูดด้วยความเ็าว่า “ข้าไม่ฆ่าพวกเ้าหรอก แต่ข้าจะทำให้ชีวิตพวกเ้าเลวร้ายยิ่งกว่าความตายอย่างแน่นอน!”
เขาพูดและสั่งอย่างเ็า “ทหาร พาไปหาหมอใส่ยา รักษาให้เรียบร้อย หลังจากนั้นค่อยมาสอบปากคำใหม่! คนต่อไป”
“ไม่นะ…”
นักโทษหญิงที่ถูกมัดถ่มน้ำลายออกมาโดยไม่รู้ตัว เมื่อเห็นการทรมานของสหายแล้ว นางรู้ได้อย่างชัดเจนถึงความน่ากลัวของหนูที่ใช้ในการทรมาน และยอมรับว่านางไม่กล้าเผชิญหน้ากับมัน แค่คิดก็ขนลุกแล้ว
“จะมาเสียใจตอนนี้มันก็สายเกินไปสำหรับเ้าแล้วล่ะ” หลงเฟยเยี่ยเตือนอย่างเ็า
นักโทษหญิงที่ตอบอย่างตื่นเต้นโดยไม่คิด “ข้าตกลง!”
ตกลงเร็วขนาดนี้เลยหรือ?
หานอวิ๋นซีที่กำลังสงสัย แต่ใครจะรู้ว่านักโทษหญิงพูดขึ้นมาอีกครั้งว่า “หลงเฟยเยี่ย ข้าตกลง! แต่ได้โปรดให้ข้ากินอาหารให้อิ่มเพื่อที่จะสงบสติอารมณ์ก่อน”
หลังจากอดอยากมาหลายวันหลายคืน เรี่ยวแรงก็ไม่มีแม้แต่น้อย ในเมื่อจะสารภาพแล้ว เป็เื่ปกติที่จะต้องขออาหารก่อน
หากหานอวิ๋นซีไม่ไขปริศนาเื่ของพิษข้าว บางทีหลงเฟยเยี่ยอาจจะตอบตกลง
อย่างไรก็ตาม นักโทษหญิงไม่รู้เลยว่า สาเหตุที่หลงเฟยเยี่ยกระทำการรุนแรงในวันนี้ ทั้งยังทรมานเพื่อสอบปากคำนั้น ก็เป็เพราะเขารู้ความลับของพิษข้าว
เมื่อนักโทษถูกสอบสวนก็มีความคิดที่จะรีบฆ่าตัวตายทันที ทว่าในเมื่อตายไม่ได้ เช่นนั้นก็ทำได้แค่สารภาพ!
“ข้าว?” หลงเฟยเยี่ยยิ้มอย่างเ็า “เ้าคิดว่าข้าจะช่วยให้เ้าฆ่าตัวตายด้วยการกินยาพิษหรือ?”
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา สีหน้าของนักโทษหญิงก็เปลี่ยนไปทันที หลงเฟยเยี่ยพูดเช่นนั้นเป็ไปได้หรือไม่ว่าเขารู้ถึงการมีอยู่ของพิษข้าว?
ไม่ มันเป็ไปไม่ได้อย่างแน่นอน!
วิธีการวางยาของเ้านายพวกเขานั้นแยบยลอย่างมาก พิษข้าวเป็พิษโบราณ มีน้อยคนนักที่รู้เื่นี้ หลงเฟยเยี่ยจะไปรู้ได้อย่างไรกัน?
นักโทษหญิงมองไปที่หลงเฟยเยี่ยอย่างเหลือเชื่อ แต่หลงเฟยเยี่ยกลับไม่มีความอดทนที่จะเสียเวลากับนาง “ทหาร ปะาชีวิต!”
ตายไม่ได้ ก็ทรมานช้าๆ ครั้งแรกไม่สารภาพ ครั้งที่สองไม่สารภาพ ครั้งที่สามก็ต้องสารภาพ!
นางอยากจะตาย แค่รอให้วันเวลาผ่านไปเท่านั้น เพื่อที่จะอดตาย!
อย่างไรก็ตาม นึกไม่ออกเลยว่าความทรมานที่นางต้องเจอก่อนที่จะอดตายนั้นมันจะเป็อย่างไร
ไม่นาน องครักษ์ก็พาตัวนักโทษหญิงมา ใบหน้าของนักโทษหญิงซีดเผือด หวาดกลัว ขาอ่อนแรง เดินแทบไม่ได้ด้วยซ้ำ
ในตอนที่นางเดินผ่านสหายของตนเองและมองไปที่ใบหน้านางใกล้ๆ ก็ใมากจนอกสั่นขวัญหายไปหมด และพูดด้วยน้ำเสียงหวาดกลัวว่า “ข้ายอมแล้ว! หลงเฟยเยี่ย ข้ายอมท่านแล้ว!”
ถ้าไม่สารภาพ ก่อนจะได้อดตาย นางต้องถูกหนูทรมานอีกกี่ครั้งกัน?
ไม่ นางรับมันไม่ไหว เกรงว่าแค่ครั้งเดียวนางก็ทนไม่ไหวแล้ว หากไม่มีทางตายเพราะพิษ นางก็ไม่สามารถทนต่อความตายได้อยู่ดี!
“เอาพู่กันกับกระดาษให้นาง!”
หลงเฟยเยี่ยพูดและกลับมานั่งลง ความเย่อหยิ่งที่ไม่อาจต้านทานยังคงแผ่ออกมาจากร่างกายเขา
นักโทษหญิงตัวสั่น “ข้าไม่รู้ว่าใครอยู่พวกเดียวกันบ้าง...พวกเราทุกคนไม่ได้รู้จักกัน!”
หลงเฟยเยี่ยยิ้มเบาๆ ทว่าในห้องขังที่เงียบงันมันดูน่ากลัวเป็พิเศษ
“ข้ารู้แค่ว่าเราจะฆ่าใครในอีกสามปีข้างหน้า นอกเหนือจากนั้นข้าไม่รู้อะไรเลยจริงๆ” นักโทษหญิงสารภาพอย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นว่านักโทษหญิงหวาดกลัวเช่นนี้ ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่เื่โกหก องครักษ์รีบนำพู่กันและกระดาษมา มือของนักโทษหญิงที่ถือพู่กันสั่นเทา ใช้เวลานานกว่าที่นางจะเขียนออกมา
“ข้ารู้เพียงแค่ยี่สิบคนนี้ ข้าไม่รู้จักคนอื่นแล้วจริงๆ!” น้ำเสียงของนางแหบพร่า พร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างควบคุมไม่ได้
หลงเฟยเยี่ยหยิบมันขึ้นมาดู และดูเหมือนจะเห็นอะไรบางอย่าง ดวงตาก็ฉายแววซับซ้อนทันที แต่เขาไม่ได้แสดงมันออกมา
เขาถามอีกครั้งอย่างเ็าว่า “เ้านายจากอาณาจักรเป่ยลี่ของเ้าคือใคร? ซ่อนตัวอยู่ในเทียนหนิงด้วยหรือไม่?”
กลุ่มผู้ทรยศแฝงตัวอยู่ในเทียนหนิงมาเป็เวลาสามถึงสี่ปีหรือนานกว่านั้น แสดงว่าเ้านายที่อยู่เื้ัต้องไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน
“ข้าไม่รู้!” นักโทษหญิงโพล่งออกมาและรีบอธิบาย “เราแค่ทำตามคำสั่งของหัวหน้า ข้าเคยเจอเพียงหัวหน้าเท่านั้น แต่ไม่เคยเจอเบื้องบนเลย”
วิธีการของคนกลุ่มนี้คล้ายกับกลุ่มคนทรยศมากๆ แม้ว่าลูกน้องจะถูกจับได้ ถูกทรมาน แต่ก็จะไม่มีทางทรยศต่อเบื้องบน
“ใครคือหัวหน้าของเ้า?” หลงเฟยเยี่ยถามด้วยความสนใจ
“นางชื่อว่าเหวินเจี่ย ที่ตายด้วยน้ำมือของท่านเมื่อไม่นานมานี้” นักโทษหญิงตอบตามจริง หยุดครู่หนึ่งแล้วพูดเสริมว่า “นางสามารถควบคุมฝูงยุงพิษได้…”
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา หลงเฟยเยี่ยก็จำได้ว่าเป็สตรีที่จัดการกับยุงพิษ
คิดไม่ถึงจริงๆ ว่านางจะเป็หัวหน้าของสายลับหญิงพวกนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะนางอยู่ในหุบเขาและเกรงว่าจะเกิดเื่อื่นๆ ขึ้น ก็คงไม่รีบฆ่าสตรีผู้นั้นเร็วขนาดนี้
หลังจากที่หลงเฟยเยี่ยซักถามนักโทษหญิงเพิ่มเติมแล้ว เขาก็ลุกขึ้นและส่งสัญญาณให้องครักษ์พานางลงไปขังไว้ในคุกต่อ
หานอวิ๋นซีที่เห็นทุกอย่างในดวงตา ก็นิ่งเงียบตลอดเวลาและแอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก ในที่สุดเื่ที่โหดร้ายก็จบลง แต่ในขณะเดียวกัน หลงเฟยเยี่ยกลับส่งรายชื่อมา ในแววตาก็แฝงไปด้วยความขี้เล่น “เ้าลองดูสิ...”
