และแล้วเวลาก็ได้ผ่านไปเช่นนี้อีก 3 วัน วันพรุ่งนี้จะเป็วันที่เริ่มการแข่งขันการพิสูจน์เครื่องเคลือบแล้วหลินเยว่แอบตื่นเต้นดีใจอยู่ลึกๆ ในที่สุดเขาและเซียนทางด้านนี้อีกหลายคนจะได้ประลองกันอย่างแท้จริงไม่รู้ว่าความสามารถของพวกเขาจะมีมากขนาดไหนกันแน่การแข่งขันการพิสูจน์เครื่องเคลือบในครั้งนี้นอกจากเขาจะได้เห็นศักยภาพที่แท้จริงของคนอื่นๆแล้ว เขายัง้าเหยียบหลี่เฉียนโจวและเฉินเฟยลูกศิษย์อาจารย์คู่นี้อีกด้วย แต่ถึงแม้ว่าเขาอาจจะเหยียบอีกฝ่ายไม่ได้แต่อย่างน้อยเขาจะต้องทำให้อุบายของอีกฝ่ายไม่มีทางเกิดขึ้นจริงนี่คือเป้าหมายขั้นต่ำของเขา
สองสามวันก่อน ฉินเหยาเหยาได้โทรมาหาเขาบอกกับเขาว่าหลี่ชิงเมิ่งได้ย้ายเข้ามาพักในบ้านของพวกเขาแล้ว พวกเธอสองคนเข้ากันได้ดีซึ่งเื่นี้ก็ทำให้หลินเยว่รู้สึกพอใจยิ่งนัก
เมื่อจัดการเื่ภายในบ้านเรียบร้อยแล้วหลินเยว่จึงทุ่มเทแรงกายแรงใจทั้งหมดไปกับการเตรียมตัวเข้าแข่งขันการพิสูจน์เครื่องเคลือบที่จะจัดขึ้นในวันพรุ่งนี้
ในคืนนี้ หลินเยว่ไม่ได้ฝึกฝนแกะสลักเหมือนปกติแต่เขากลับเข้านอนแต่หัววัน
เขา้านอนหลับให้เต็มที่เพื่อเตรียมพร้อมกับการแข่งขันในวันพรุ่งนี้แต่ความจริงแล้วเขาไม่ได้มีเป้าหมายเพียงเท่านี้ เนื่องจากเขารู้สึกว่าสมองของเขากำลังตึงเครียดมากจนเกินไปเหมือนเส้นประสาทในสมองกำลังตึงอย่างเต็มที่การฝึกฝนเหมือนเดิมซ้ำกันทุกวันเป็เพียงการเพิ่มปริมาณการลงมีดเท่านั้นแต่กลับไม่สามารถหลอมรวมวิธีการใช้มีดและตัวมีดแกะสลักเข้าเป็หนึ่งเดียวได้เลย
วิธีการใช้มีดเป็สิ่งไม่มีชีวิต
มีดแกะสลักเป็สิ่งไม่มีชีวิต
แต่คนเป็สิ่งมีชีวิต มีเพียงแค่ใส่ความรู้สึกเข้าสู่มีดแกะสลักและวิธีการใช้มีดเท่านั้นถึงจะทำให้มีดแกะสลักและวิธีการใช้มีดกลายเป็สิ่งมีชีวิตที่มีเืมีเนื้อขึ้นมาได้การนำ 3 สิ่งนี้หลอมรวมเข้าเป็หนึ่งเดียวจึงจะเป็สัญลักษณ์ว่าได้บรรลุเป้าหมายขั้นตอนการแกะรูปขั้นนี้แล้วแต่ผลการฝึกฝนของหลินเยว่ในตอนนี้ยังคงห่างไกลจากเป้าหมายนี้ยิ่งนัก
เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับมีดแกะสลักและวิธีการใช้มีดอย่างลึกซึ้งมากยิ่งขึ้นหลินเยว่จึงตัดสินใจผ่อนคลายความตึงเครียดของตนเอง และถือโอกาสนี้เป็การพักผ่อนไปในตัว
หลายวันมานี้หลินเยว่ได้เข้าสู่สภาวะจิตสงบนิ่งไม่ว่อกแว่กอยู่เสมอนับั้แ่ครั้งที่แล้วตอนที่เขาอยู่กับหลิวหาน หลินเยว่ได้เข้าสู่สภาวะจิตสงบนิ่งไม่ว่อกแว่กที่เป็ระดับขั้นกว่าแล้วหลังจากนั้นเขาก็เริ่มควบคุมสภาวะนี้ได้อย่างคล่องแคล่วชำนาญ อีกทั้งเขายังสามารถคงสภาวะจิตสงบนิ่งไม่ว่อกแว่กได้นานถึง15 นาทีหากใช้ร่วมกับพลังพิเศษตาทิพย์ เขาสามารถคงไว้ได้นาน 5 นาที ถึงแม้ว่าจะเป็เพียง 5 นาทีเท่านั้นแต่ทว่าสำหรับตัวหลินเยว่แล้วมันก็ถือว่าเป็ความน่ายินดีอย่างยิ่ง และเป็การสร้างความมั่นใจในการเผชิญหน้ากับการแข่งขันการพิสูจน์เครื่องเคลือบที่กำลังจะมาถึงมากยิ่งขึ้น
ถึงแม้ว่าหลายวันมานี้เขามักจะเข้าสู่สภาวะจิตสงบนิ่งไม่ว่อกแว่กอยู่เสมอแต่ทว่าเขากลับไม่สามารถเข้าสู่ระดับขั้นกว่าที่แสนลึกลับมหัศจรรย์นั้นได้อีกเลยและสิ่งนี้ก็ทำให้หลินเยว่รู้สึกผิดหวังเป็อย่างมากเขารู้ดีว่าสภาวะระดับนั้นเป็สิ่งที่เขาทำได้เพียงคาดหวังแต่ไม่สามารถเรียกร้องได้ดังนั้น เขาจึงทำได้เพียงรอคอย รอคอยให้ถึงวันเวลาที่สุกงอม เงื่อนไขต่างๆ มีพร้อมทุกด้านแล้วสภาวะนั้นก็จะปรากฏขึ้นอีกครั้ง การพักผ่อนในครั้งนี้ก็เพื่อให้เขาได้ััถึงความเปลี่ยนแปลงภายในจิตใจของตนเองหลินเยว่คิดทบทวนอยู่หลายรอบจนได้ข้อสรุปนี้ออกมา... มีเพียงจิตสงบนิ่งจนถึงที่สุดระดับสภาวะที่แสนลึกลับมหัศจรรย์นั้นถึงจะปรากฏขึ้น
แต่ทว่าจิตสงบนิ่งประเภทนี้ไม่ได้ไร้ชีวิตชีวาเหมือนกับจิตสงบนิ่งไม่ว่อกแว่กราวกับบ่อน้ำแห้งไร้คลื่น แต่สภาวะนี้เป็สภาวะจิตสงบนิ่งแบบมีชีวิตชีวา
ไม่ตายด้าน ไม่ทื่อมะลื่อ ไม่แข็งกระด้าง แต่กลับเป็ความสงบนิ่งที่เป็ไปตามใจปรารถนา
และนี่ถึงจะเป็ความสงบนิ่งอย่างแท้จริง
หลินเยว่นอนหลับสบายตลอดทั้งคืนเมื่อตื่นเช้าขึ้นมาในวันรุ่งขึ้น เขาก็ลุกขึ้นสวมเสื้อผ้าอย่างผ่อนคลาย และการนอนในครั้งนี้ก็ทำให้เขามีจิตใจสดชื่นอย่างเต็มที่ทั้งร่างกายและจิตใจล้วนเต็มไปด้วยพลังแห่งชีวิต
เขาไม่ได้รู้สึกเช่นนี้มานานมากแล้ว แต่ในวันนี้ความรู้สึกเช่นนี้ก็กลับมาอีกครั้งทำให้เขารู้สึกสดชื่นอย่างแท้จริง
ขณะที่รับประทานอาหารเช้านั้นท่านเฮ่อฉางเหอรับโทรศัพท์สายหนึ่ง หลังจากวางสายแล้วถึงแม้ว่าสีหน้าของท่านเฮ่อฉางเหอจะไม่ได้แสดงความรู้สึกใดๆ เลยแต่ทว่าหลินเยว่ก็รู้สึกว่าจะต้องมีเหตุการณ์ไม่ดีเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
และเป็ไปตามที่เขาคาดการณ์ ท่านเฮ่อฉางเหอค่อยๆพูดอย่างช้าๆ “รูปแบบการแข่งขันได้สรุปออกมาแล้ว การแข่งขันส่วนแรกคือตาปลาปะปนกับไข่มุก ของปลอมปะปนกับของแท้ โดยการให้ผู้เข้าแข่งขันหาเครื่องเคลือบแท้1 ชิ้นจากเครื่องเคลือบทั้งหมด10 ชิ้นซึ่งเครื่องเคลือบแต่ละชิ้นเป็เครื่องเคลือบที่อยู่ในยุคสมัยที่แตกต่างกันและเป็เครื่องเคลือบคนละประเภทกันการแข่งขันส่วนที่สองคือ การทดสอบความรู้เกี่ยวกับเครื่องเคลือบ เป็การวัดว่าผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนมีความรู้หลากหลายระดับไหนนั่นก็คือ จะมีคณะกรรมการตั้งคำถามถามคุณ และให้คุณตอบคำถามเ่าั้ การแข่งขันส่วนที่สามคืองมเข็มในมหาสมุทร หาของแท้ทั้งหมดจากเครื่องเคลือบที่แตกต่างกันจำนวน 50 ชิ้น แต่ไม่มีการระบุว่ามีของแท้กี่ชั้นนั่นก็หมายความว่า ให้ผู้เข้าแข่งขันเป็คนหาของแท้ออกมา อาจจะมีเพียง 1 ชิ้น หรืออาจจะมี 20 ชิ้น หรืออาจจะไม่มีของแท้แม้แต่ชิ้นเดียวก็เป็ไปได้เช่นกัน”
เมื่อฟังการบอกเล่าทั้งหมดจากอาจารย์ของตนหลินเยว่ก็ถึงกับขมวดคิ้วทันที
ดูเหมือนว่ารูปแบบการทดสอบทั้ง 3 อย่างนี้เป็การพุ่งประเด็นมาที่จุดอ่อนของเขาโดยตรง
การแข่งขันส่วนแรกถึงแม้ว่าจะมีเครื่องเคลือบเพียง 10 ชิ้นแต่ทว่าทั้ง 10 ชิ้นนี้กลับเป็เครื่องเคลือบคนละประเภทกันแล้วยังเป็เครื่องเคลือบที่อยู่คนละยุคสมัยอีกด้วย ผู้ที่ทำการแข่งขันจำเป็ต้องมีความรู้แบบบูรณาการค่อนข้างสูงและสิ่งที่หลินเยว่ขาดก็คือความรู้ประเภทนี้ อีกทั้งยังต้องหาของแท้ออกมาการหาของปลอมนั้นเป็เื่ง่าย ขอเพียงหาร่องรอยการเลียนแบบเจอเพียงจุดเดียวก็จะสามารถตัดสินได้ว่าเครื่องเคลือบชิ้นนั้นเป็ของปลอม แต่การหาของแท้นั้นจะทำแบบนี้ไม่ได้เลยผู้เข้าแข่งขันจำเป็ต้องสังเกตเครื่องเคลือบทุกส่วนเมื่อพบว่าทุกส่วนเป็ของแท้แล้วถึงจะสามารถตัดสินได้ว่าเครื่องเคลือบชิ้นนั้นเป็ของแท้จริงๆเช่นนี้จึงทำให้การทดสอบนี้กลายเป็เื่ยากอย่างยิ่ง
การแข่งขันส่วนที่สองเป็การทดสอบความรู้เฉพาะทาง ซึ่งความรู้เฉพาะทางของหลินเยว่จะนำไปเปรียบเทียบกับคนที่ศึกษาเครื่องเคลือบมาเป็สิบปียี่สิบปีได้อย่างไร?มันไม่มีทางเอาไปเปรียบเทียบกันได้เลยอีกทั้งหากเป็การตั้งคำถามที่ต้องใช้ประสบการณ์ที่ผ่านมาแล้วเขาจะตอบคำถามเหล่านี้ได้อย่างไร
หากในการทดสอบส่วนแรกหลินเยว่สามารถใช้พลังพิเศษตาทิพย์ร่วมกับสภาวะจิตสงบนิ่งไม่ว่อกแว่กในการพิสูจน์ว่าเครื่องเคลือบชิ้นไหนเป็ของแท้และในการทดสอบส่วนที่สอง เขาโชคดีเหยียบขี้หมานำโชคถูกตั้งคำถามด้วยคำถามที่ค่อนข้างง่ายจนทำให้เขาผ่านส่วนนี้ไปอย่างสบายแล้วถ้าเช่นนั้นในการทดสอบส่วนที่สามก็เป็การทำให้หลินเยว่หมดทางรอดเขาต้องตายสถานเดียว!
การทดสอบส่วนที่สามเป็ส่วนที่หลินเยว่รู้สึกกังวลที่สุดคาดไม่ถึงว่าการทดสอบแบบนี้มันจะเกิดขึ้นจริงๆ
เครื่องเคลือบ 50 ชิ้นถึงเขาจะเหนื่อยจนตายเขาก็ไม่สามารถใช้พลังพิเศษตาทิพย์เพ่งมองทีละชิ้นจนครบน่ะสิ!และเขาก็ไม่สามารถใช้การััความหนืดในการพิสูจน์ว่าเครื่องเคลือบเ่าั้เป็ของแท้หรือของปลอมและที่สำคัญที่สุดก็คือ เขาไม่รู้ว่ามีเครื่องเคลือบแท้เป็จำนวนเท่าไรหากรู้ว่าใน 50 ชิ้นนี้มีของแท้อยู่กี่ชิ้นบางทีเขาอาจจะเดามั่วๆ ถูกบางชิ้นก็ได้เหมือนกัน แต่ทว่าตอนนี้เขาไม่มีทางใช้ทักษะการเดาได้เลยเครื่องเคลือบแต่ละชิ้นอาจจะเป็ของแท้ และเครื่องเคลือบแต่ละชิ้นอาจจะเป็ของปลอมได้เช่นกัน
ไอ้บ้าเอ๊ย! ใครเป็คนคิดการทดสอบแบบนี้ออกมาวะ!
หลินเยว่แอบด่าอยู่ในใจ เพราะการทดสอบทั้งสามส่วนนี้ล้วนเป็การวัดจุดอ่อนของเขาโดยเฉพาะ
คิ้วของท่านเฮ่อฉางเหอก็ขมวดเล็กน้อยเช่นกัน สถานการณ์การแข่งขันดูหนักหนาสาหัสกว่าที่เขาคาดคิดไว้มากไม่ว่าจะเป็การทดสอบส่วนไหนก็ล้วนเป็สิ่งที่หลินเยว่ไม่ถนัดเลยสักนิดและความคิดที่ว่าหลินเยว่อาจจะโชคดีก็คงไม่เกิดขึ้นเลยก็ได้ เพราะในทุกๆด้านจำเป็ต้องใช้ทักษะความสามารถอย่างแท้จริงเท่านั้น
นี่คงไม่ใช่สิ่งที่ไอ้เฒ่าเฉินเฟยคนนั้นคิดออกมาหรอกนะ?
ท่านเฮ่อฉางเหอคิดขึ้นมาทันทีการแข่งขันครั้งนี้เกิดขึ้นได้ก็เป็เพราะเฉินเฟยเสนอขึ้นมาถึงแม้ว่าทางจิ่งเต๋อเจิ้นจะเป็ผู้จัดการแข่งขันครั้งนี้ขึ้นและทางจิ่งเต๋อเจิ้นไม่มีทางจัดอย่างไร้ความยุติธรรมแต่ทว่าก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะไม่รับความคิดเห็นที่ทางเฉินเฟยเสนอขึ้นหากไม่ได้มีหลินเยว่อยู่ในการแข่งขันในครั้งนี้การแข่งขันแบบนี้ก็มีความเหมาะสมอย่างยิ่ง แต่ทว่าเมื่อมีหลินเยว่รวมอยู่ด้วยแล้วการแข่งขันเช่นนี้ก็ดูเหมือนจะเป็การใจร้ายกับเขามากจนเกินไป
“สู้ๆ ก็แล้วกัน แค่พยายามอย่างเต็มที่ก็พอแล้ว”
ท่านเฮ่อฉางเหอมองหลินเยว่พร้อมพูดขึ้น
หลินเยว่พยักหน้าอย่างเงียบๆเขามองออกว่าอาจารย์ของตนไม่ได้คาดหวังผลการแข่งขันในครั้งนี้แล้วหลินเยว่ก็รู้สึกไม่มั่นใจเช่นกัน เขาคงต้องค่อยๆ ดูไปทีละขั้นเท่านั้น
หลังจากรับประทานอาหารเช้าแล้วหลินเยว่และท่านเฮ่อฉางเหอก็มาถึงสถานที่ที่ใช้ในการจัดการแข่งขันครั้งนี้ มันเป็คฤหาสน์ส่วนตัวที่อยู่ในเขตชานเมืองหลังหนึ่ง
เมื่อเดินทางมาถึงคฤหาสน์หลินเยว่จึงพบว่าคนอื่นๆ ได้เดินทางมาถึงเรียบร้อยแล้ว พวกเขาอาจารย์ลูกศิษย์สองคนเป็กลุ่มสุดท้ายที่มาถึง
เมื่อได้ฟังรูปแบบการแข่งขันทั้ง 3 ส่วนแล้วหลินเยว่ก็รู้สึกว่าต้องมีคนตั้งใจโจมตีเขาโดยเฉพาะ ดังนั้นเขาจึงมองไปที่ใบหน้าของหลี่เฉียนโจว และเขาก็พบว่าอีกฝ่ายกำลังมองมาที่เขาอยู่พอดีสายตาของอีกฝ่ายเต็มไปด้วยความท้าทายและความดูถูกแต่สิ่งที่มากที่สุดที่ปรากฏในสายตาของอีกฝ่ายก็คือความดีใจที่เห็นหลินเยว่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากใบหน้าของอีกฝ่ายเต็มไปด้วยรอยยิ้มอันแสนเ้าเล่ห์ร้ายกาจ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้