บทที่ 93 ปัสสาวะราดอีกแล้ว
ท่ามกลางสายตาจับจ้องของเหล่าสมาชิก สวี่จือจือเข็นรถเข็นพาลู่จิ่งซานกลับไปยังบ้านของตนเอง
ตามติดไปด้วยคือท้ายรถจี๊ปที่เต็มไปด้วยสิ่งของมากมาย เด็กหนุ่มคนขับรถมือซ้ายถือถังน้ำมัน ส่วนบนบ่าก็แบกกระสอบข้าวสองกระสอบ
ข้าวสาร! แป้งสาลีขาวหลายกระสอบถูกขนเข้าไปข้างใน ยังมีถุงใบใหญ่อีกหลายถุงที่มองไม่เห็นว่าข้างในบรรจุของดีอะไรบ้าง
สายตาของทุกคนนั้นเรียกได้ว่าอิจฉา
แค่าเ็แบบนี้ พวกเขาก็อยากเป็บ้าง
ไม่ๆๆ ต่อให้พิการนั่งรถเข็นตลอดชีวิต ขอแค่ได้รับการปฏิบัติเช่นนี้ พวกเขาก็ยินดี
ยิ่งมหาศาลมากเท่าไหร่ก็แสดงว่าหน่วยงานของเขายิ่งให้ความสำคัญกับลู่จิ่งซานมากขึ้นเท่านั้น แต่ก็ทำให้คุณนายลู่ใแทบแย่
ในบ้านมีคนนั่งรถเข็นอยู่แล้วคนหนึ่ง นี่กลับมีมาอีกคน แถมยังเป็หลานชายสุดที่รักของเธอ หญิงชราใจนแทบตกจากเตียง
ลู่จิ่งซานยิ่งรู้สึกผิดมากกว่าเดิม หญิงชราที่เข้มแข็งคนนั้นจับมือหลานชายไว้ไม่ปล่อย “ทำไมถึงเป็แบบนี้ไปได้?”
รู้สึกเหมือนควักหัวใจของเธอออกไปเลย
“คุณย่า” เซียวติ้งจวินกล่าวอย่างละอายใจ “คุณย่าวางใจเถอะครับ พวกเราจะต้องรักษาจิ่งซานให้หายดีให้ได้”
แต่หญิงชราจะยอมเชื่อลงได้ยังไง? เธอใช้อยู่บนรถเข็นมาค่อนชีวิต ย่อมรู้ดีว่าการนั่งรถเข็นมันเป็ยังไง รักษาให้หายแล้วยังไง?
หลานชายที่แสนภาคภูมิใจของเธอ เธอไม่อยากให้เขารู้สึกถึงรสชาติของการนั่งรถเข็นเป็คนพิการแม้แต่วันเดียว
พอคิดได้อย่างนี้ หญิงชราก็ล้มป่วยลง แทบจะทำให้คนในตระกูลลู่เสียขวัญ
เหอเสวี่ยฉินที่นอนซมอยู่บนเตียงรู้สึกไม่สบายตัวอยู่แล้ว พอเห็นสวี่จือจือเข็นลู่จิ่งซานนั่งรถเข็นเข้ามา
ลู่จิ่งซานนั่งรถเข็น!?
เหอเสวี่ยฉินตื่นเต้นจนแทบจะะโโลดเต้นบนเตียง
เอวไม่เมื่อย ขาไม่เจ็บ หัวใจไม่สั่น กลับมามีแรงเต็มร้อย
ฟ้าดินเอ๋ย ในที่สุดก็เห็นมีตาแล้ว
ฮ่าๆ ในที่สุดลู่จิ่งซานก็ซวยแล้ว!
แต่ยังไม่ทันได้ดีใจก็เห็นคนเ่าั้ขนข้าวของพะรุงพะรังเข้าไปในห้องของสวี่จือจือ จากนั้นได้ยินเสียงร้องไห้คร่ำครวญของหญิงชรา
สมน้ำหน้า!
ยายแก่ในสายตามีแต่หลานชายลู่จิ่งซานคนเดียว เด็กคนอื่นๆ ในสายตาของอีกฝ่ายเหมือนเก็บมาเลี้ยง เมื่อก่อนเธอคลอดลูกฝาแฝดชายหญิง แต่เพราะเหตุผลบางอย่างทที่พูดถึงไม่ได้ ส่วนลูกชายคนเล็กของเธอก็ถูกหญิงชราใจร้ายคนนี้ส่งไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ บอกว่าจะให้ไปฝึกฝน
ฝึกฝนแม่แกสิ ทำไมไม่ให้ลู่จิ่งซานไปล่ะ!
ฮ่าๆ เวรกรรม เวรกรรมตามทันแล้ว!
เหอเสวี่ยฉินตื่นเต้นจนะโขึ้นบนเตียง แล้วก็ได้ยินเสียงร้องโอดโอย
ดีใจจนเกินเหตุ เท้าข้างหนึ่งพลาด พุ่งลงมาจากเตียงจนหัวกระแทกพื้นอย่างแรง ร่างนอนแผ่หลาอยู่บนพื้น
ลุกขึ้นเหรอ? เจ็บไปทั้งตัวไม่มีแรงแม้แต่จะขยับ จะคลานยิ่งไม่ต้องพูดถึง
สิ่งที่ทำให้เธอแย่ยิ่งกว่าคือเพราะก่อนหน้านี้โกรธจัดจึงนอนอยู่บนเตียงมาตลอด แม้แต่จะไปเข้าห้องน้ำก็ยังฝืนทน แต่ตอนนี้พอนอนอยู่บนพื้นเย็นๆ ร่างกายกลับเหมือนจะแกล้งเธอ อยากเข้าห้องน้ำเป็พิเศษ ที่สำคัญที่สุดคือตอนนี้ท้องของเธอยังปวดอีกด้วย
“ใครก็ได้” เหอเสวี่ยฉินร้องเรียกอยู่สองสามครั้งในห้อง “ช่วย...ช่วยด้วย”
เธอแทบจะกลั้นไม่อยู่แล้ว แต่ตอนนี้ในลานบ้านจะมีใครอยู่ที่ไหน?
คุณนายลู่รับความจริงไม่ได้ในทันทีจนเป็ลมล้มพับไป
โชคดีที่มีคนขับรถอยู่ตรงนั้นจึงรีบพาไปส่งโรงพยาบาลประจำอำเภอ หญิงชราเป็หนึ่งในไม่กี่คนที่ได้รับเงินช่วยเหลือจากหน่วยงานรัฐประจำอำเภอ ผู้อำนวยการของโรงพยาบาลประจำอำเภอจึงรีบมากัน
ทำการตรวจร่างกายโดยละเอียด โชคดีที่แค่ใเกินเหตุ เืลมตีขึ้นจนเป็ลมไป พักผ่อนสักหน่อยคงไม่เป็ไร แต่ต่อไปต้องระวังให้มาก คนแก่แล้วห้ามมีอารมณ์ดีใจเสียใจมากเกินไป ไม่งั้นอาจเกิดเื่ขึ้นได้
“ช่วยตรวจให้จิ่งซานบ้านฉันด้วย” หญิงชราจับมือผู้อำนวยการโรงพยาบาลชรา “ฉันไม่เชื่อใครทั้งนั้น ฉันเชื่อคุณคนเดียว”
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเก่าประจำอำเภอ เมื่อก่อนเคยมีบุญคุณช่วยชีวิตเธอไว้
“พี่สาว อย่าเพิ่งใจร้อน” ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกล่าว “ผมจะตรวจให้เขาเอง ดีไหม?”
หญิงชราถึงค่อยวางใจลง รอจนผู้อำนวยการโรงพยาบาลพูดเหมือนกับเซียวติ้งจวิน หญิงชราจึงค่อยวางใจลงได้ อยากจะกลับบ้านทันที เธอไม่อยากอยู่โรงพยาบาล มันไม่สบาย
จากนั้นก็วุ่นวายอยู่พักใหญ่กว่าจะกลับถึงบ้าน
ใครจะรู้ว่ารถยังไม่ทันขับไปถึงหน้าประตูก็เห็นสมาชิกในประชาคมหลายคนยืนมุงกันอยู่หน้าบ้านตระกูลลู่ พอเห็นรถมาก็รีบหลีกทาง
รอจนลู่จิ่งซานและหญิงชราถูกหามลงจากรถ มีพี่น้องสูงวัยที่สนิทกับหญิงชรารีบเข้ามาถามเธอว่าเป็อะไร พอได้ยินว่าพาลู่จิ่งซานไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลประจำอำเภอแล้วถึงค่อยวางใจลง แล้วบอกว่า “รีบกลับไปดูที่บ้านเถอะ สะใภ้รองของบ้านเธอท่าจะไม่ดี ปัสสาวะราดแล้ว”
เหอเสวี่ยฉินปัสสาวะราด!
สวี่จือจือเลิกคิ้วขึ้น หรือว่าเพราะเห็นลู่จิ่งซานาเ็นั่งรถเข็น อีกฝ่ายถึงกับตื่นเต้นจนควบคุมตัวเองไม่ได้?
กำลังคิดอย่างนี้ก็เห็นลู่หวยเหรินหน้าดำคร่ำเครียดอุ้มเหอเสวี่ยฉินออกมาจากห้อง พอเห็นลู่จิ่งซานนั่งรถเข็นก็ชะงักไป แต่เขาไม่มีเวลาไปถามเื่พวกนี้ และพูดกับอีกฝ่ายแค่ว่า “จิ่งซาน ข้างนอกนั่นรถของแกใช่ไหม? รีบให้คนพาน้าเหอของแกไปส่งโรงพยาบาลเร็ว”
ขายหน้าหมดแล้ว
นี่มันผ่านมานานเท่าไหร่เอง ถึงกับปัสสาวะราดสองครั้งติดกัน ครั้งก่อนตอนลู่จิ่งซานแต่งงาน มีคนเยอะแยะ ครั้งนี้ในบ้านไม่มีใคร แต่เธอกลับร้องโวยวายเหมือนหมูถูกเชือด ตอนที่เขากลับมาถึงหน้าบ้านก็มีคนมายืนมุงกันหลายคน พอเห็นเขากลับมาก็เหมือนเห็นผู้มาโปรด จับเขาแล้วก็พูดว่า “เมียนายเหมือนจะปัสสาวะราดอีกแล้ว”
อะไรคือเมียเขาปัสสาวะราดอีกแล้ว!
ลู่หวยเหรินก็ถือว่าเป็หัวหน้าเล็กๆ คนหนึ่ง ถ้าเื่ภรรยาเขาปัสสาวะราดแพร่งพรายออกไป จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?
เขาหน้าบึ้งตึงทันที เตรียมจะหาเื่คนอื่น แล้วก็ได้ยินเสียงร้องโอดโอยเหมือนหมูถูกเชือดของเหอเสวี่ยฉิน
เพิ่งก้าวเท้าเข้าไปในห้องกลิ่นอุจจาระก็โชยมาเตะจมูก ลู่หวยเหรินแทบจะอาเจียนออกมา หน้าประตูมีคนดูเื่ชาวบ้านเยอะแยะ เขาจะไม่สนใจก็ไม่ได้
ที่สำคัญคือตอนนี้ในบ้านไม่มีใคร ลู่หลิงซานหายหัวไปทั้งวัน ลู่หวยเหรินอยากจะเรียกสะใภ้ใหม่อย่างอันฉินมาช่วย
แต่ความเคลื่อนไหวในลานบ้านอันฉินได้ยินไปนานแล้ว ยังไม่ทันที่ลู่หวยเหรินจะพูดอะไร ก็ตาแดงก่ำ ทำท่าทีเหมือนน้อยใจ “คุณพ่อ ไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากช่วยนะคะ แต่ว่าแขนของฉันเมื่อกี้ถูกเป่าเฉิงจับโดนเข้า เืซึมออกมาเลยค่ะ”
พูดจบก็ยื่นแขนออกมา ผ้าพันแผลมีเืซึมออกมาจริงๆ
ลู่หวยเหรินจะพูดอะไรได้ ทำได้แค่ฝืนทนกลิ่นเหม็นช่วยเหอเสวี่ยฉินเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ ระหว่างนั้นการกระทำของเขาย่อมไม่นุ่มนวลนัก ทำให้เหอเสวี่ยฉินเจ็บแทบตาย
แต่เธอจะกล้าพูดอะไรไหม? ไม่กล้าพูดอะไรทั้งนั้น
ไม่ใช่แค่เท่านั้นเธอยังต้องคิดว่าต่อไปจะทำยังไง ั้แ่เื่ในห้องใต้ดินลู่หวยเหรินก็ไม่ได้แตะต้องเธอมานานแล้ว ต่อมาเธอต้องใช้เล่ห์กลสารพัดใช้สารพัดวิธี ถึงทำให้ลู่หวยเหรินกลับมาติดอกติดใจในเรือนร่างของเธออีกครั้ง
แต่ครั้งนี้เหอเสวี่ยฉินแทบจะร้องไห้ออกมา หรือว่าเธอจะต้องใช้เล่ห์กลวิปริตเ่าั้ต่อไปเพื่อเอาใจลู่หวยเหรินอีก?
พอนึกถึงความชอบเ่าั้ของลู่หวยเหรินร่างกายของเหอเสวี่ยฉินก็สั่นเทา
สิ่งที่ทำให้เธออับอายยิ่งกว่าคือเพิ่งจะออกจากประตู ก็ได้ยินพวกป้าๆ ที่เธอเคยดูถูกคุยกับคุณนายลู่ว่า “อายุยังไม่เยอะเท่าไหร่ ทำไมถึงปัสสาวะราดบ่อยจัง”
เหอเสวี่ยฉินโกรธจนแทบกระอักเื อยากจะะโลงไปด่าพวกผู้หญิงโง่ๆ เ่าั้ แต่ก็ทำได้แค่คิด
ใบหน้าของลู่หวยเหรินดำเหมือนก้นหม้อ ถ้าเธอพล่ามอะไรออกมา เขาคงจะทิ้งเธอลงบนพื้นโดยไม่สนใจแน่ แต่ถึงอย่างนั้นตอนที่เดินเฉียดลู่จิ่งซานและสวี่จือจือ ใบหน้าของเหอเสวี่ยฉินก็ยังคงยโสโอหัง
พิการแล้ว ฮ่าๆ!
เธอจะดูว่านังแพศยาสวี่จือจือจะกล้ามาเหลิงต่อหน้าเธออีกได้ยังไง!
.............................