รถม้างามตระการตาคันหนึ่งแล่นเข้าสู่หมู่บ้านตระกูลหยาง
คนที่นั่งอยู่หน้ารถม้าคือหลิงต้าจื้อ ส่วนหยางซื่อและหลิงมู่เอ๋อร์นั่งอยู่ด้านหลังของรถม้า
ครั้นหยางซื่อเปิดผ้าม่านออกเพื่อทอดมองด้านนอกนั้น ชาวบ้านในหมู่บ้านตระกูลหยางได้เห็นนางและหลิงมู่เอ๋อร์ ทันใดนั้นก็เผยสีหน้าประหลาดใจออกมา
“นั่นใช่บุตรสาวของสกุลหยางหรือไม่? ที่เคยส่งไปเป็ถงหย่างสีของผู้อื่นแล้วดวงแข็งข่มจนทำให้ว่าที่สามีตาย ต่อมาก็แต่งให้กับหมู่บ้านตระกูลหลิงคนนั้นน่ะ?” มีคนผู้หนึ่งกล่าวขึ้นมา “รถม้าที่พวกเขาขับมานั้นเช่ามา หรือว่ายืมมากัน?”
“ไม่แน่ว่าอาจจะเป็ของพวกเขาเองก็ได้กระมัง” คนข้างๆ เอ่ยประโยคหนึ่งขึ้นมาพลางหัวเราะ แต่คำพูดกลับแฝงไปด้วยความริษยา เห็นได้ชัดว่าเจตนากล่าวเสียดสีคนสกุลหลิง
“หลิงต้าจื้อยาจกผู้นั้นจะสามารถซื้อรถม้าที่ดีขนาดนี้ได้หรือ?เขาสามารถเช่าได้ก็นับว่าไม่เลวแล้ว จะต้องยืมมาอย่างแน่นอน” ชายชราผู้หนึ่งที่ทำงานในไร่นาสบถออกมาหนึ่งเสียงพลางกล่าว
คนในรถม้าไม่รู้ว่าทุกคนในหมู่บ้านตระกูลหยางกล่าววาจาเสียดสีทิ่มแทงพวกเขาอยู่ ถึงแม้จะได้ยินแล้วก็ไม่ได้เก็บเอามาใส่ใจ ถึงอย่างไรเสียทุกที่ล้วนมีคนที่อิจฉาริษยาผู้อื่นอยู่ทั้งนั้น
ขับรถม้าวิ่งมาตลอดทาง จากนั้นจึงหยุดอยู่ที่ลานด้านนอกบ้านของหยางต้าหนิว หยางซื่อและหลิงมู่เอ๋อร์ลงจากรถม้ามาก่อน หลิงต้าจื้อหาที่ผูกม้าและจอดรถม้าให้เรียบร้อย
“ท่านแม่ ท่านพี่…” หยางซื่อะโอยู่ที่รั้วด้านนอก “พวกท่านอยู่ในบ้านหรือไม่เ้าคะ?”
หลิงมู่เอ๋อร์ก็ะโเรียกตาม “ท่านยาย ข้าคือมู่เอ๋อร์ ข้ากับท่านพ่อท่านแม่มารับพวกท่านแล้วเ้าค่ะ”
ภายในบ้านไม่มีเสียงตอบรับใดๆ หลิงมู่เอ๋อร์และหยางซื่อต่างมองหน้ากัน หยางซื่อกล่าว “หรือว่าพวกเขาออกไปข้างนอกแล้ว?”
“ท่านลุงไปข้างนอกเป็เื่ปกติเ้าค่ะ เสี่ยวหู่ก็อาจจะไปเล่นกับสหายแล้ว แต่ดวงตาของท่านยายมองไม่เห็น นางจะไปที่ใดได้?” หลิงมู่เอ๋อร์กล่าว “พวกเราเข้าไปดูกันเถิดเ้าค่ะ!”
หยางซื่อผลักประตูเปิดออก ประตูรั้วนั่นป้องกันขโมยไม่ได้เลย เพียงแค่ผลักนิดหน่อยก็สามารถเปิดออกได้แล้ว
“ท่านแม่…” หยางซื่อะโเรียกไปพลางสาวเท้าเดินเข้าไปในบ้านไปพลาง
หลิงมู่เอ๋อร์ยังคงสำรวจบ้านอยู่ นางไม่ได้มาที่นี่สักระยะหนึ่งแล้ว บ้านนี้ช่างเงียบเหงาวังเวงมากขึ้นกว่าเดิม ดูเหมือนว่าหยางต้าหนิวจะยุ่งเื่หางานทำที่ข้างนอกบ้านตลอดทั้งวัน ไม่ได้ดูแลเื่ในบ้านมานานมากแล้ว ่นี้มีพายุลมแรง บ้านทรุดโทรมหลังนี้เอนไปมามากมายเหลือเกิน ถ้ายังมีพายุลมแรงเช่นนี้มาอีกเพียงไม่กี่ครั้ง บ้านหลังนี้ก็คงจะรับไม่ไหวเป็แน่
หากถังซื่ออยู่ที่นี่ตลอด ไม่ช้าก็เร็วจะต้องเกิดเื่ขึ้นแน่ โชคดีที่พวกเขามาได้ทันเวลา หลังจากนี้ไปก็ให้คนในครอบครัวของพวกเขาดูแลถังซื่อ ถังซื่อและหยางเสี่ยวหู่จะได้ไม่ต้องเป็คนชราโดดเดี่ยวไร้บุตรดูแลกับเด็กถูกทอดทิ้งไร้คนดูแลอีกแล้ว
“ท่านแม่…” เสียงร้องตื่นตระหนกของหยางซื่อดังออกมาจากข้างในบ้าน “มู่เอ๋อร์… เ้ารีบเข้ามาเร็วเข้า…”
ครั้นหลิงมู่เอ๋อร์ได้ยินเสียงของหยางซื่อ ก็รีบวิ่งเข้าไปทันที นางวิ่งเข้าไปในห้องของถังซื่อด้วยความคุ้นเคย
หลิงต้าจื้อผูกรถม้าเสร็จแล้ว ก็เร่งรีบวิ่งเข้ามาเช่นกัน
เมื่อพวกเขาวิ่งเข้าไปถึงในห้องก็เห็นเพียงหญิงชราอายุมากคนหนึ่งนอนอยู่บนพื้น ศีรษะของนางมีเืสีแดงสดไหลออกมาเป็จำนวนมาก บริเวณข้างๆ ศีรษะของนางมีก้อนหินหนึ่งก้อน เห็นได้ว่านางล้มลงไปกระแทกกับหินก้อนนั้น ด้วยเหตุนี้ถึงได้มีเืออกและหมดสติไป ถ้ามาช้าอีกเพียงนิดเดียวหญิงชราจะสูญเสียเืมาก แม้ว่าจะเป็เทพเซียนก็ไม่อาจช่วยนางได้แล้ว
หลิงมู่เอ๋อร์รีบหยิบถุงเข็มเงินที่อยู่ในแขนเสื้อออกมาอย่างฉับพลัน นางนั่งยองลงไปฝังเข็มเพื่อห้ามเืให้ถังซื่อ จากนั้นก็อุ้มหญิงชราขึ้นมาและสาวเท้าก้าวใหญ่ออกไป “ท่านพ่อ รีบไปเตรียมรถม้าเ้าค่ะ พวกเราจะพาท่านยายไปในเมืองเดี๋ยวนี้ ที่นี่ไม่มียา ข้าทำได้แค่เพียงห้ามเืไม่ให้ไหลอีกเท่านั้น ไม่อาจทำการรักษาได้”
“ได้” หลิงต้าจื้อวิ่งออกไป
เมื่อตอนที่พวกเขาอุ้มถังซื่อเดินออกมานั้น หยางต้าหนิวก็รีบร้อนวิ่งกลับมา เขาเห็นหลิงมู่เอ๋อร์อุ้มถังซื่อไว้ และเืสีสดอาบย้อมเต็มศีรษะของถังซื่อก็อดไม่ได้ที่จะนิ่งอึ้งไป
“นี่มันเกิดเื่อันใดขึ้น?เมื่อครู่ข้าทำงานอยู่ที่บ้านของไห่จื่อ ได้ยินข่าวว่าพวกเ้ามาแล้วจึงรีบกลับมา นี่ท่านแม่เป็อันใดไป?” หยางต้าหนิเอ่ยอย่างตะกุกตะกัก
“ท่านแม่หกล้ม ศีรษะกระแทกกับก้อนหิน ตอนนี้เืไหลเป็จำนวนมาก พวกข้าจะพานางไปรักษาในเมือง ท่านพี่ ท่านอยู่ดูแลเสี่ยวหู่ที่บ้านให้ดีไปก่อน รอให้อาการของท่านแม่คงที่ พวกข้าจะมารับท่านอีกที ท่านเก็บเสื้อผ้าของท่านกับเสี่ยวหู่ให้เรียบร้อย สิ่งของสำคัญก็เก็บไปด้วย ข้ามาครั้งนี้ก็เพื่อที่จะมารับท่านกับท่านแม่ไปอาศัยอยู่ในเมือง ตอนนี้พูดมากความไม่ได้แล้ว อีกสักประเดี๋ยวค่อยว่ากันเ้าค่ะ” หยางซื่อรีบร้อนสั่งความสองสามประโยค และรีบขึ้นรถม้าด้วยความกระวนกระวายใจ
นางไม่กล่าวโทษหยางต้าหนิว ในบ้านมีแค่หยางต้าหนิวเพียงคนเดียวที่ทำงาน ถ้าหากเขาไม่ออกไปทำงาน บ้านหลังนี้ก็คงหิวตายกันไปนานแล้ว นางเพียงแต่โทษตนเอง ่ระยะเวลานี้นางมีชีวิตที่ดี สมควรที่จะมารับถังซื่อไปบ้านพวกเขาให้เร็วกว่านี้ เื่ราวเช่นนี้ก็คงจะไม่เกิดขึ้น ทั้งหมดล้วนเป็เพราะนางไม่ดีเอง นางในฐานะบุตรสาวไม่ได้ทำหน้าที่ลูกกตัญญูอย่างเต็มที่เลย
“นี่เกิดเื่อันใดขึ้น?” คนในหมู่บ้านตระกูลหยางเห็นครอบครัวของหลิงต้าจื้อขับรถม้าเข้ามาในหมู่บ้าน นี่เพิ่งจะเวลาชั่วพริบตาเดียว พวกเขาก็ขับรถม้ากลับไปแล้ว
“ดูจากท่าทางของพวกเขาแล้ว จะต้องเกิดเื่อันใดขึ้นแน่ๆ หรือว่าขับรถม้ามาโอ้อวด แล้วถูกยายแก่ถังด่าเอาเข้า?ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่รถม้าของบ้านพวกเขา จะภูมิใจอะไรขนาดนั้น?ทำให้ผู้อื่นหัวเราะเยาะเพิ่มสียมากกว่า” ชายชราผู้นั้นกล่าวเสียงต่ำอย่างเ็า
หลิงต้าจื้อขับรถม้าอย่างรีบร้อน หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วยาม พวกเขาก็กลับมาถึงบ้านที่อยู่ในเมือง หลิงจื่อเซวียนและหลิงจื่ออวี้อยู่ในบ้าน ซั่งกวนเซ่าเฉินพาหนานกงอี้จือออกไปด้านนอกแล้ว
หลิงจื่อเซวียนรู้ว่าท่านพ่อท่านแม่และหลิงมู่เอ๋อร์ไปหมู่บ้านตระกูลหยาง นี่เพิ่งเป็เวลาไม่นานก็กลับมาแล้ว เขารู้สึกแปลกใจ จึงเดินออกมาดู
“เกิดอันใดขึ้น?” หลิงจื่อเซวียนเอ่ยถาม “นี่ท่านยายเป็อันใดไปหรือขอรับ?”
หลิงจื่อเซวียนเพิ่งจะถามไถ่หลิงต้าจื้อ ก็เห็นหลิงมู่เอ๋อร์อุ้มถังซื่อลงมาจากรถม้า อีกทั้งยังเห็นศีรษะของถังซื่อเต็มไปด้วยเื อาบย้อมเสื้อของหลิงมู่เอ๋อร์จนกลายเป็สีแดงไปหมด จึงเกิดความวิตกขึ้นมา
“ท่านพี่ ข้าจะบอกเทียบยาให้ท่าน ท่านไปหยิบยาสมุนไพรมาให้ข้าทีเ้าค่ะ” หลิงมู่เอ๋อร์อุ้มถังซื่อเดินเข้าไปในห้องที่เตรียมไว้ให้กับถังซื่อ โดยที่ปากของนางก็ไม่ได้ว่างเลย “จื่อติงเฉ่า [1]…ซู่จินเซียง [2]…แล้วก็มี…”
ถึงแม้หลิงจื่อเซวียนจะไม่ได้เป็คนที่ความจำดีเลิศ แต่ก็มีสมองที่ปราดเปรียวว่องไว หลิงมู่เอ๋อร์พูดชื่อยาสมุนไพรสิบกว่าชนิดรวดเดียว เขาสามารถจำได้ทั้งหมด จากนั้นก็รีบวิ่งออกไปหยิบยาสมุนไพรทันที
เมื่อตอนที่หลิงจื่อเซวียนหยิบยาสมุนไพรกลับมา หลิงมู่เอ๋อร์ได้ป้อนน้ำในมิติให้ถังซื่อดื่มไปบ้างแล้ว และก็ใช้โอสถรักษาาแที่เคยฝึกหลอมเมื่อก่อนมารักษาต่อลมหายใจของหญิงชราไว้
หยางซื่อรีบนำยาสมุนไพรที่ไปหยิบกลับมานำไปต้มที่ห้องครัว ในเวลานี้ดวงตาของนางเป็สีแดงก่ำ เห็นได้ชัดว่าเมื่อสักครู่คงร้องไห้อย่างหนักมา
“ท่านพ่อ ท่านยายไม่เป็อันใดแล้วเ้าค่ะ โชคดีที่พวกเราไปได้ทันเวลาพอดี ไม่มีเื่ร้ายอันใดเกิดขึ้นเ้าค่ะ” หลิงมู่เอ๋อร์กล่าวกับหลิงต้าจื้อที่อยู่ด้านข้าง “ท่านไปที่บ้านสกุลถังอีกครั้ง รับท่านลุงกับเสี่ยวหู่มาเถิดเ้าค่ะ!ตอนนี้ท่านลุงน่าจะร้อนใจเป็อย่างยิ่งแล้ว พวกเราอย่าได้ให้เขาเป็กังวลใจกันอีกเลย”
“ตกลง” หลิงต้าจื้อพยักหน้า
“เกิดเื่อันใดขึ้น?” หลิงจื่อเซวียนเอ่ยถามหลิงมู่เอ๋อร์ที่นั่งอยู่ข้างเตียง
“ตอนที่พวกข้าไปถึง ท่านลุงกับเสี่ยวหู่ไม่อยู่ ท่านยายหกล้มศีรษะกระแทกกับก้อนหินบนพื้น บนพื้นเต็มไปด้วยเืแต่กลับไม่มีผู้ใดพบ ถ้าหากพวกข้าช้าอีกครึ่งถ้วยชาก็ไม่อาจช่วยท่านยายได้แล้ว โชคดีที่ท่านยายวาสนาดี ประจวบเจอกับพวกข้าที่ไปรับนางพอดี” หลิงมู่เอ๋อร์เอ่ยอธิบายอยู่ด้านข้าง
“ไม่ได้เป็อันใดมาก นี่คือโชคดีมากแล้ว” หลิงจื่อเซวียนคลายสีหน้าลง
ยามราตรี ถังซื่อลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ นางรู้สึกถึงความอบอุ่นที่อยู่ในดวงตานั่น ก็อดไม่ได้ที่จะััให้มากขึ้นสักหน่อย
หยางซื่อที่กำลังนั่งปักผ้าอยู่ด้านข้าง เห็นถังซื่อมีการเคลื่อนไหวแล้วก็รีบร้อนหยัดกายลุกขึ้นจับมือที่เหี่ยวแห้งของถังซื่อ “ท่านแม่ อย่าขยับไปมาเ้าค่ะ นี่เป็ยาที่มู่เอ๋อร์จัดให้ท่าน เพียงแค่ประคบอีกสองสามวันก็สามารถรักษาดวงตาของท่านให้หายดีได้แล้ว ท่านอดทนอีกสักหน่อยนะเ้าคะ”
“เป็… เหยาเอ๋อร์หรือ?” ถังซื่อได้ยินน้ำเสียงอันคุ้นเคย เอ่ยถามขึ้นด้วยเสียงสั่นเครือว่า “เหยาเอ๋อร์ เ้ามาเยี่ยมแม่แล้ว?”
หยางซื่อจับมือของถังซื่อไว้แน่นพลางกล่าวว่า “ท่านแม่ เป็ข้าเ้าค่ะ ข้าอยู่ข้างกายท่านมาตลอด ท่านหมดสติได้สองวันแล้ว”
“เหยาเอ๋อร์ นี่แม่เป็อันใดไปหรือ?” ถังซื่อเอ่ยถามอย่างสงสัย “เหตุใดศีรษะของข้าถึงได้เจ็บถึงเพียงนี้?”
“ท่านแม่ ท่านล้มกระแทกกับก้อนหิน นี่ก็หมดสติได้สองวันแล้ว ถ้าไม่ใช่เป็เพราะพวกเข้าไปได้ทันเวลาพอดี ไม่รู้จริงๆ ว่าจะเกิดเื่อันใดขึ้น” หยางซื่อเอ่ยอย่างละอายแก่ใจ “เป็เพราะบุตรสาวละเลยท่านมากเกินไป ถ้าหากมารับท่านเร็วกว่านี้ก็จะไม่เกิดเื่เช่นนี้ขึ้น ท่านแม่ ข้าขออภัยเ้าค่ะ บุตรสาวอกตัญญูแล้ว”
“เ้าเด็กโง่ พูดเื่เหลวไหลอันใดกัน?เ้ามีจิตใจที่กตัญญู ในใจของแม่ย่อมรู้ดีแก่ใจ” ถังซื่อจับมือของหยางซื่อ แล้วตบไปที่มือของนางเบาๆ “ต้าหนิวกับเสี่ยวหู่เล่า?”
“พวกเขาก็อยู่ที่นี่เ้าค่ะ ตอนนี้พวกเราอาศัยอยู่ในเมือง มู่เอ๋อร์ของพวกเราเปิดร้านอาหารร้านหนึ่งในเมืองแล้ว แต่ก่อนบ้านพวกข้าก็ทำการค้าอยู่ที่นี่ ความหมายของมู่เอ๋อร์ก็คืออยากขอให้ท่านพี่มาช่วยงาน ห้องหลับนอนก็ตระเตรียมไว้ให้พวกท่านเรียบร้อยแล้ว ต่อไปพวกเราจะดูแลท่านไปจนแก่เฒ่าเองเ้าค่ะ” หยางซื่อกล่าว “เสี่ยวหู่กับจืออวี้ไปสถานศึกษา เด็กสองคนก็จะสามารถอ่านหนังสือรู้อักษรได้”
“ห๊า?พวกเ้าจะส่งเสี่ยวหู่ให้ไปเล่าเรียนที่สถานศึกษาหรือ?นั่นต้องใช้เงินเป็จำนวนมากเชียวนะ พวกเ้าสามารถเปิดร้านได้ นั่นก็เป็เื่ที่ดีมากแล้ว แต่ใน่แรกพวกเ้าย่อมหาเงินได้ไม่มากมายเท่าใดนัก เหตุใดถึงได้สิ้นเปลืองเงินไปกับเสี่ยวหู่เล่า?มู่เอ๋อร์นึกถึงท่านลุงของนาง นั่นเป็วาสนาของพวกข้าแล้ว ในใจพวกข้ารู้สึกดีใจ แต่ว่าแม้ว่าจะเป็ลุง หลังจากนี้เขาก็เป็ลูกจ้าง อย่าเห็นว่าเขาเป็ลุงก็จะปล่อยให้กระทำตามใจได้อย่างเด็ดขาด หากมีสิ่งใดที่เขาทำได้ไม่ดี จะต้องบอกกล่าวกับเขา” ถังซื่อเอ่ยกำชับ
“ท่านแม่ พวกข้าเข้าใจดี พี่ชายเป็คนซื่อสัตย์ มีแต่จะคอยช่วยงานมู่เอ๋อร์อย่างดี ไม่เพิ่มความลำบากให้มู่เอ๋อร์แน่นอนเ้าค่ะ” หยางซื่อกล่าว “ถึงเวลาที่ท่านต้องดื่มยาแล้ว”
“คราวที่แล้วมู่เอ๋อร์มาที่หมู่บ้านตระกูลหยาง พวกข้าเคยได้ยินนางกล่าวเื่จะทำการค้า นี่เพิ่งจะไม่กี่เดือนนางก็ทำได้แล้ว เด็กคนนั้นช่างเก่งกาจจริงๆ ” ถังซื่อหัวเราะพลางกล่าว “ดวงตาของข้าสามารถรักษาได้จริงๆ หรือ?ต้องใช้เงินจำนวนมากอีกแล้วใช่หรือไม่?ยายแก่ไร้ประโยชน์อย่างข้าทั้งยังช่วยอันใดไม่ได้ พวกเ้าอย่าได้เสียเงินไปเปล่าๆ กับข้าเลย ข้าสามารถมีชีวิตอยู่กับพวกเ้าได้จนถึงตอนนี้ก็เป็เื่ที่ไม่เลวแล้ว” ถังซื่อสะอึกสะอื้นพลางกล่าว
“ท่านแม่ อย่าได้กล่าวคำเ่าั้ ท่านยังอายุน้อย ยังสามารถอยู่จนเห็นลูกของเซวียนจื่อแต่งงานได้เชียวนะเ้าคะ!” หยางซื่อเอ่ยปลอบถังซื่อ
หลิงมู่เอ๋อร์เดินเข้ามาในห้อง เห็นถังซื่อฟื้นแล้วก็เอ่ยอย่างดีใจ “ท่านยาย หากท่านไม่ตื่นขึ้นมาอีก มู่เอ๋อร์ก็จะไปเชิญหมอจากด้านนอกมาแล้ว มู่เอ๋อร์ยังนึกว่าตนเองไม่มีความสามารถมากพอ ถึงทำให้ท่านยายหลับไปนานขนาดนี้”
“แม่เ้าบอกว่าเ้ากำลังรักษาดวงตาให้ข้า เ้าเด็กน้อยผู้นี้ไปร่ำเรียนวิชาแพทย์มาั้แ่เมื่อไรกัน?” ถังซื่อยื่นมือออกไป คลำไปยังทิศทางของหลิงมู่เอ๋อร์ “เข้ามาให้ยายััสักหน่อย ่นี้มัวแต่ยุ่งเื่ทำงาน ผ่ายผอมลงไปเยอะมากเลยใช่หรือไม่?”
“ข้าอ้วนแล้วต่างหากเ้าคะ!” ที่หลิงมู่เอ๋อร์กล่าวนั้นเป็ความจริง นางบำรุงอย่างดี กินดีอยู่ดีทุกวัน ดูดีขึ้นกว่าสภาพราวกับผีของเ้าของร่างเดิมนั้นเยอะมาก นางในตอนนี้ถึงจะเป็รูปร่างที่แม่นางน้อยควรจะมี
“ท่านแม่ เด็กสาวผู้นี้เปลี่ยนเป็สาวขึ้นมากแล้วเ้าค่ะ อีกไม่กี่วันท่านก็จะสามารถมองเห็นนางแล้ว นางในตอนนี้ดูดีกว่าเมื่อก่อนมากนัก” หยางซื่อหัวเราะล้อเลียนพลางกล่าว
เชิงอรรถ
[1] จื่อติงเฉ่า (紫丁草) หรือเรียกอีกชื่อว่า จื่อฮวาตี้ติง(紫花地丁)ชื่อวิทยาศาสตร์คือ Viola philippica มีฤทธิ์ในการดับร้อนขับสารพิษ ทำให้เืเย็นลดอาการบวม ระบายความร้อนขับชื้น และสามารถใช้ในการรักษา ข้อบ่งใช้ ตุ่มฝี แผลพุพอง วัณโรคต่อมน้ำเหลืองที่คอ ดีซ่าน บิด ท้องเสีย ตาแดง เจ็บคอ และงูกัด
[2] ซู่จินเซียง (素金香) ชื่อสมุนไพรจีนชนิดหนึ่ง