เมื่อหลิงมู่เอ๋อร์และหยางซื่อเดินเข้ามาในร้านขายผ้าก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายดังมา ก็รู้ทันทีว่าด้านในเป็ผู้ใด นางกุมมือหลิงมู่เอ๋อร์อย่างสั่นเทา แล้วเอ่ยกับหลิงมู่เอ๋อร์ว่า “มู่เอ๋อร์ พวกเราค่อยมาวันหลังเถิด!เข้าไปตอนนี้ไม่ค่อยเหมาะ”
หลิงมู่เอ๋อร์จับมือหยางซื่อ กล่าวเบาๆ ว่า “ท่านแม่ พวกเราไม่เข้าไป ลองฟังดูก่อนว่าพวกเขาทะเลาะอันใดกัน”
ในระยะนี้คนในครอบครัวของพวกเขาล้วนออกจากบ้านแต่เช้ากลับบ้านก็มืดค่ำ ไม่รู้จริงๆ ว่าในหมู่บ้านเกิดเื่อันใดขึ้นบ้าง คนด้านในก็คือหวังซื่อและหลิงไฉ่เวยที่ท้องใหญ่นั่นเอง และคนที่ยื่นอยู่ข้างๆ พวกเขาก็คือหลิงหูเตี๋ยกับถงซื่อ คนทั้งสองบ้านนี้ล้วนมาซื้อผ้าสีแดงเพื่อไปทำชุดแต่งงาน หรือว่าจะแต่งงานกันทั้งสองคน?เช่นนั้น สตรีสองคนนี้จะแต่งให้ผู้ใด?
“เถ้าแก่ เ้าอย่ามาพูดจาเหลวไหลแถวนี้ ท้องของไฉ่เวยพวกข้าเป็ลูกของว่าที่สามี แต่งงานตอนมีลูกแล้วจะเป็อย่างไร?มีแต่จะทำให้อีกฝ่ายรักและทะนุถนอมเพิ่มมากขึ้น ถึงอย่างไรพอแต่งเข้าไปก็ได้เด็กตัวอ้วนๆ เพิ่มมาอยู่เแล้ว นั่นมันเป็เื่ที่น่ายินดีไม่ใช่หรือ?นางคนสารเลวนี้… เดิมทีนางเป็พี่น้องที่ดีของไฉ่เวย นอกจากนี้ยังเป็ลูกพี่ลูกน้องของไฉ่เวยด้วย คิดไม่ถึงว่านางจะฉวยโอกาสตอนที่ไฉ่เวยไม่รู้เข้าไปยั่วยวนว่าที่สามีของไฉ่เวยบ้านพวกข้า ทั้งยังมีความสัมพันธ์กับเขาแล้ว นางนับเป็ตัวอะไรกัน?เ้านำผ้าไปขายให้นาง แต่กลับไม่ขายให้กับข้า ดวงตาของเ้ามืดบอดไปแล้วหรืออย่างไร?”
“แม่ของไฉ่เวย เ้าอย่ามาปากสกปรกกล่าววาจาพล่อยๆ อยู่ที่นี่นะ มาพูดจาสาดโคลนว่าร้ายบุตรสาวข้าอีก ข้าจะไม่ปล่อยเ้าไว้แน่” ถงซื่อโถมตัวเข้าไป หวังฉีกปากของหวังซื่อ “หูเตี๋ยของพวกข้าเป็หญิงสาวบริสุทธิ์ ผู้ใดจะหน้าไม่อายเหมือนไฉ่เวยบ้านพวกเ้ากันล่ะ ไร้ยางอาย หญิงชั้นต่ำ ครอบครัวตกต่ำให้กำเนิดบุตรชายที่ไม่มีรูทวาร [1]…”
“ข้าจะสู้ตายกับเ้า นังสารเลว ข้ากับเ้าไม่อาจอยู่ร่วมโลกกันได้” หวังซื่อดึงทึ้งเส้นผมของถงซื่อ ออกแรงกระชากอย่างรุนแรงไม่ปล่อย ด้วยท่าทางที่ดูโเี้เป็อย่างยิ่ง
หลิงไฉ่เวยกับหลิงหูเตี๋ยยืนประชันหน้ากัน เดิมทีลูกพี่ลูกน้องคู่นี้ก็ตัวติดกันตลอด ตอนนี้กลับกลายเป็ศัตรูตัวฉกาจไปเสียแล้ว
หลิงไฉ่เวยมองที่หลิงหูเตี๋ย พลางเอ่ยอย่างเ็าว่า “เหตุใดถึงต้องทรยศหักหลังข้า? ข้าคิดว่าเ้าเป็พี่น้องที่ดีที่สุดของข้า ถึงแม้ว่าพวกเราจะไม่ได้เกิดจากมารดาคนเดียวกัน แต่ว่าก็มีความสัมพันธ์อันดีมาั้แ่ยังเด็ก ข้าไม่เคยคิดเลยว่าคนที่ใช้มีดแทงข้าจะเป็เ้า หลิงหูเตี๋ย ตลอดเวลาที่ผ่านมานี้เ้าติดค้างคำอธิบายให้ข้า”
“หลิงไฉ่เวย เ้าอย่าไร้เดียงสาไปหน่อยเลย ั้แ่เล็กจนโต สิ่งของที่เ้ากิน เ้าใช้สอย เ้าสวมใส่ ล้วนเป็ของที่ดีที่สุด เ้าเป็สิ่งล้ำค่าอันเป็ที่รักของคนในครอบครัว ทุกคนล้วนตามใจเ้า ทั้งๆ ที่เป็สตรีเฉกเช่นเดียวกัน ท่านพ่อท่านแม่ของข้ากลับรักพี่ชายมากกว่า ข้าทำงานเยอะที่สุด แต่กลับไม่มีทางที่จะได้สวมใส่ชุดกระโปรงสวยงาม ไม่มีทางที่จะได้กินของว่างที่เอร็ดอร่อย ทุกครั้งที่เห็นเ้ามาโอ้อวดต่อหน้าข้า ข้าอยากจะฉีกทึ้งปากของเ้าจริงๆ ต่อมาท่านพ่อท่านแม่ของเ้าหมั้นหมายจ้วงต้าหลินให้กับเ้า ในใจของข้ารู้สึกไม่เต็มใจที่จะยอมรับไว้ ว่ากันตามรูปโฉม ข้าก็ไม่แพ้ให้เ้า มีสิทธิอันใดที่สิ่งดีๆล้วนแต่เป็ของเ้ากัน?” หลิงหูเตี๋ยยิ้มเยาะพลางกล่าว “ตอนนี้ สิ่งที่เ้าได้ข้าก็ได้แล้วเช่นกัน จวงต้าหลินก็เป็สามีของข้าเช่นกัน าระหว่างพวกเราเพิ่งจะเริ่มขึ้น”
“เ้ากับข้าแต่งงานเข้าสกุลเดียวกัน เป็ผิงชี [2] ในเวลาเดียวกัน ในท้องของข้ามีลูกอยู่ สกุลจวงจะต้องให้ความสำคัญกับข้ามากกว่า” หลิงไฉ่เวยยืดครรภ์ของนาง กล่าวด้วยความลำพองใจ
“ผู้เฒ่าคนแก่ชราล้วนกล่าวว่า ท้องกลมเป็ลูกสาว ท้องแหลมเป็ลูกชาย ท้องของเ้ากลมขนาดนี้ ทุกคนต่างพูดกันว่าเป็ลูกสาว เ้าไม่เคยได้ยินพวกเขาพูดมาก่อนหรือ?” หลิงหูเตี๋ยเอ่ยอย่างไม่สนใจใยดี “ถ้าให้กำเนิดออกมาแล้วเป็เพียงแค่ของชดเชย เ้าคิดว่าสกุลจวงยังจะให้ความสำคัญกับเ้าอยู่อีกหรือ?พวกเขามีแต่จะเกลียดชังหญิงชั้นต่ำอย่างเ้าที่ทำให้ชื่อเสียงตระกูลพวกเขาเสื่อมเสีย”
มือของหลิงไฉ่เวยที่ประคองท้องอยู่สั่นเทิ้ม แววตาฉายประกายสับสน
ลูกสาว?
นางพยายามมาตั้งนาน ไม่ง่ายเลยที่จะทำให้สกุลจวงเห็นแก่สถานะของเด็กและยอมรับนางได้ ถ้าหากเกิดคลอดลูกสาว!จวงต้าหลินไม่มีทางที่จะเห็นนางอยู่ในสายตาแน่นอน
ไม่!นี่เป็อุบายของหลิงหูเตี๋ย นางจงใจทำให้ตนโมโหก็เพราะอยากจะให้นางและเด็กในท้องเกิดเื่ นางจะไม่ยอมหลงกลอุบายของหญิงตรงหน้าอย่างเด็ดขาด ไม่มีทางแน่นอน
ร้านผ้าแห่งนี้เป็ร้านที่ทำการค้าดีที่สุดในเมือง เพราะว่าผ้าของที่นี่ครบครันมากที่สุด ลวดลายสีสันก็แปลกใหม่เป็อย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็ขุนนางชั้นสูงหรือประชาชนคนธรรมดาพวกเขาล้วนสามารถหาผ้าพับที่เป็ที่พอใจของตนเองได้ที่นี่ ด้วยเหตุนี้ กลุ่มคนจำนวนมากมายจึงรวมตัวกันมุงดูอยู่ที่นี่ คู่สองแม่ลูกหลิงไฉ่เวยและหลิงหูเตี๋ยนี้ทำขายหน้าต่อหน้าผู้คนอีกแล้ว
หลิงมู่เอ๋อร์จับมือหยางซื่อ และมืออีกข้างก็จับมือหลิงจื่ออวี้ พวกเขาค่อยๆ ออกจากกลุ่มฝูงคน หนีห่างจากร้านขายผ้าที่วุ่นวายร้านนั้น
“ช่างน่ากลัวเกินไปแล้วจริงๆ คิดไม่ถึงเลยว่าพวกเขาทั้งสองบ้านจะแต่งบุตรสาวให้กับจวงต้าหลินในเวลาเดียวกัน อีกไม่กี่เดือนก็จะครบกำหนด่ไว้ทุกข์ของจวงต้าหลินแล้ว ดูจากท่าทางแล้วคิดว่าเมื่อครบกำหนดก็จะจัดพิธีกราบไหว้ฟ้าดินของคู่บ่าวสาวเลย ตอนนี้กำลังตระเตรียมชุดแต่งงาน เมื่อถึงตอนนั้นก็เสร็จทันพอดี” หยางซื่อจับมือหลิงมู่เอ๋อร์พลางพูดว่า “สตรีสองนางนั้นชอบก่อเื่ทะเลาะวิวาท หลังจากแต่งเข้าบ้านตระกูลจวง ตระกูลจวงจะไม่ใช่ไก่บินสุนัขะโ [3] ทุกวันหรอกหรือ ครั้นนึกถึงภาพนั้นแล้วก็ให้รู้สึกกลัวแล้ว มู่เอ๋อร์ ภายภาคหน้าพี่ใหญ่เ้าแต่งภรรยา เ้าต้องช่วยเลือกคน อย่าได้เลือกคนที่ชอบก่อเื่สร้างความเดือดร้อนเช่นนี้อย่างเด็ดขาด”
“หากพี่ใหญ่อยากจะหาพี่สะใภ้ใหญ่ อันดับแรกจะต้องหาคนที่เขาชอบก่อนเ้าค่ะ ความคิดเห็นของพวกเราไม่ได้สลักสำคัญมากเท่าใด” หลิงมู่เอ๋อร์เอ่ยตอบกลับไป “ขอเพียงแค่มีบุคลิกที่เรียบร้อย ซื่อสัตย์ตรงไปตรงมา สิ่งอื่นก็ไม่สำคัญแล้วเ้าค่ะ วางใจเถิด!พวกเราต้องเชื่อมั่นในสายตาของพี่ใหญ่ เขาไม่ใช่จวงต้าหลินสักหน่อย ไม่ได้ถูกหลอกอย่างง่ายดายถึงเพียงนั้น”
“ต่อไปพวกเราจะต้องซื้ออันใดอีก?ใช่แล้ว รถม้า… พวกเราซื้อรถม้า พรุ่งนี้ก็ให้พ่อเ้าไปรับคนที่หมู่บ้านสกุลหยาง” ครั้นหยางซื่อนึกถึงมารดาชรากับพี่ชาย ในใจก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา เพื่อพวกเขาสองพี่น้อง ถังซื่อต้องทนทุกข์ทรมานมามากมาย ไม่เคยที่จะมีชีวิตที่มีความสุขมาก่อน ตอนนี้จะได้รับความสุขจากหลานสาวแล้ว นางก็ถือว่าได้ตอบแทนความกตัญญูแล้วเช่นกัน
“คราวที่แล้วสั่งเข็มเงินไว้ วันนี้น่าจะได้รับของแล้ว” หลิงมู่เอ๋อร์ผ่านไปที่โรงตีเหล็ก พาหยางซื่อกับหลิงจื่ออวี้ไปเอาของด้วย
ซื้อรถม้าแล้ว บนรถม้าก็กองเต็มไปด้วยสิ่งของที่พวกเขาซื้อ หลิงจื่ออวี้นั่งอยู่ข้างๆ เล่นของเล่นของตนเองอย่างเงียบๆ
“น้องเล็ก ผ่าน่เวลาที่ยุ่งนี้ไปแล้ว พี่สาวจะหาสถานศึกษาสักแห่งให้เ้า เ้าไปเรียนหนังสือดีหรือไม่?” หลิงมู่เอ๋อร์เอ่ยกับหลิงจื่ออวี้ที่อยู่ตรงข้าม
การเคลื่อนไหวของหลิงจื่ออวี้ที่กำลังเล่นของเล่นวงโคจรดาวเคราะห์น้อยก็หยุดชะงักลง แหงนหน้ามองไปที่หลิงมู่เอ๋อร์ ใช้น้ำเสียงของไร้เดียงสาแบบฉบับเด็กน้อยกล่าว “เรียนหนังสือแล้ว ก็จะเก่งเหมือนพี่สาวใช่หรือไม่ขอรับ?”
“เ้าจะเก่งกว่าพี่สาวแน่นอน พี่สาวไม่ได้เรียนหนังสือ ยังไม่เข้าใจหลักการมากมาย เ้ายังเล็ก เป็วัยที่เหมาะแก่การเรียนหนังสือ ถ้าเ้าเรียนเป็แล้ว ก็สามารถช่วยพี่สาวได้ ปกป้องพี่สาวได้ ถ้าเ้าสามารถสอบได้ตำแหน่งที่มีชื่อเสียง ได้เป็ขุนนางใหญ่ ยังสามารถสร้างชื่อเสียงเกียรติยศให้กับวงศ์ตระกูลได้ด้วย หากสามารถนำพระราชโองการกลับมาให้ท่านแม่ เช่นนั้นเ้าเป็คนที่เก่งที่สุดแล้ว” หลิงมู่เอ๋อร์เริ่มเข้าสู่โหมดกึ่งโน้มน้าวกึ่งชักจูงใจหลิงจื่ออวี้ ทำให้เขาเกิดความสนใจในการเรียนหนังสือ ถึงแม้ว่าตอนนี้เขาจะยังเด็ก ยังไม่เข้าใจหลักการสำคัญเ่าั้ แต่แค่กล่าวว่าจะสามารถปกป้องคนในครอบครัวได้ เขาก็เกิดความสนใจในการเรียนขึ้นมาแล้ว
“ตกลง ข้าจะไปขอรับ” หลิงจื่ออวี้กล่าว
หยางซื่อลูบศีรษะของหลิงจื่ออวี้ ใบหน้าเล็กๆ นั่นแย้มรอยยิ้มด้วยความรักใคร่เอ็นดู
คุณงามความดีหนึ่งเดียวของนางต่อครอบครัวนี้ก็คือให้กำเนิดบุตรเหล่านี้ บุตรเหล่านี้ของนางแต่ละคนต่างเป็เด็กดีเชื่อฟัง ไม่ก่อเื่วุ่นวายให้นาง
“นางหนูน้อย…” เถ้าแก่เนี้ยของร้านขายของชำเห็นนาง โบกมือทักทายนางมาจากระยะไกล “ใบเทียบยาที่เ้าบอกวันนั้นข้ากินแล้ว ่นี้อาการกระดูกไขข้ออักเสบของข้าดีขึ้นเยอะมากๆ แล้ว นึกไม่ถึงเลยว่าเ้าจะรู้วิชาแพทย์ด้วย!นางหนูน้อย ขอบใจเ้าแล้ว”
“ท่านป้า ไม่ต้องเกรงใจเ้าค่ะ ต่อไปข้ามาซื้อของที่ร้านท่าน ท่านก็อย่าลืมคิดราคาให้ข้าถูกลงสักหน่อยนะเ้าคะ แล้วก็ ร้านอาหารของบ้านพวกข้าทำเสร็จแล้ว สามวันให้หลังก็จะเปิดกิจการแล้ว วันนั้นอาหารทุกอย่างล้วนลดครึ่งราคา ท่านรีบมาให้เร็วสักหน่อย ข้าจะเหลือที่ไว้ให้ท่าน” หลิงมู่เอ๋อร์ะโเสียงดังไปทางท่านป้านางนั้น
“จะเปิดร้านแล้วหรือ?ในที่สุดก็มาถึงวันนี้สักที ได้ได้ได้ ถึงวันนั้นข้าจะเรียกคนในครอบครัวพวกข้า รวมถึงญาติๆ ของครอบครัวพวกข้าไปให้หมด” ท่านป้าผู้นั้นกล่าวอย่างดีใจ
“ท่านป้าท่านนี้ช่างกระตือรือร้นเสียจริงๆ เทียบกับคนในหมู่บ้านตระกูลหลิงแล้ว คนที่เพิ่งรู้จักเหล่านี้ยังเป็มิตรกับพวกเรามากกว่าเสียอีก ข้ายังไม่ได้มาอาศัยอยู่ที่นี่ ก็เริ่มชอบที่นี่แล้ว” หยางซื่อเอ่ยกับหลิงมู่เอ๋อร์ “มู่เอ๋อร์ รีบหยุดรถ… ร้านขายเนื้อร้านนั้นยังมีเครื่องในหมู รีบซื้อกลับไปเร็ว”
หลิงมู่เอ๋อร์เผลอหัวเราะออกมา ตอนนี้หยางซื่อกับหลิงต้าจื้อล้วนชอบกินเครื่องในหมูแล้ว ทุกครั้งนางมักจะซื้อกลับไปเป็จำนวนมาก เถ้าแก่ร้านขายเนื้อเอ่ยถามนางหลายครั้ง ว่าเครื่องในหมูนั้นต้มอย่างไร รสชาติอร่อยมากเลยใช่หรือไม่ ไม่อย่างนั้นตามการเงินของครอบครัวพวกเขาแล้ว ก็ไม่ใช่ว่าจะกินเนื้อไม่ได้ แต่ทุกครั้งล้วนซื้อเครื่องในหมูกลับไปมากมายหลายชุดนัก
หลิงมู่เอ๋อร์กำลังจะเปิดร้านอาหาร เครื่องในหมูเป็หนึ่งในอาหารจานหลัก แน่นอนว่าไม่อาจบอกเถ้าแก่ผู้นั้นได้ นางยังคงเก็บเป็ความลับไม่ยอมบอกเขา ให้มาชิมในวันที่เปิดกิจการวันนั้นก็จะรู้แล้ว
“เถ้าแก่ เครื่องในหมูทั้งหมดของท่าน ข้าล้วนซื้อทั้งหมดเ้าค่ะ” หลิงมู่เอ๋อร์นั่งอยู่บนรถม้า เอ่ยกับเถ้าแก่ร้านขายเนื้อ “ใช่แล้ว สามวันให้หลังร้านอาหารของบ้านพวกข้าจะเปิดกิจการแล้ว ใน่สองสามวันนี้ท่านรวบรวมเครื่องในหมูได้แล้ว ส่งไปให้ที่ร้านข้าทั้งหมดเลยนะเ้าคะ เครื่องในแต่ละชุดให้ท่านห้าอีแปะ”
แต่ก่อนไม่มีผู้ใด้าเครื่องในหมู เถ้าแก่ร้านขายเนื้อก็จะโยนทิ้งไปเลย หรือนำไปใช้เป็อาหารสุนัขเสีย ตอนนี้ขายให้หลิงมู่เอ๋อร์ เครื่องในแต่ละชุดทำเงินได้หลายอีแปะ เถ้าแก่ร้านขายเนื้อย่อมเต็มใจอย่างแน่นอน
“ท่านแม่ เมื่อสักครู่นั่นเป็… หลิงมู่เอ๋อร์กับพี่สะใภ้สามใช่หรือไม่เ้าคะ?” บนถนนเส้นใหญ่ หลิงไฉ่เวยพูดกับหวังซื่อ
หวังซื่อมองไปที่หลิงมู่เอ๋อร์และหยางซื่อที่นั่งรถม้าจากไปด้วยสายตาที่ยุ่งเหยิง นางขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอย่างเคียดแค้นชิงชัง “คิดไม่ถึงว่าครอบตกอับนั่นจะรุ่งเรืองแล้ว คนในหมู่บ้านล้วนพูดกันว่าพวกมันทำงานหาเงินได้ก้อนใหญ่ ตอนนี้แม้แต่รถม้าก็สามารถซื้อได้ ดูเหมือนว่าจะเป็เื่จริง หากรู้แต่แรกว่าจะเป็เช่นนี้ ตอนนั้นก็… น่ารังเกียจเสียจริง!ต้นไม้เขย่าเงิน [4] ดีๆ เช่นนี้ไม่มีอีกแล้ว”
“ท่านแม่… ถ้ามีโอกาสท่านก็ลองไปพบพี่สามสิเ้าคะ ท่านเป็ผู้ให้กำเนิดเขา เขาจะไม่สนใจความเป็ความตายของท่านได้อย่างไร? ตอนนี้พี่สามมีเงินแล้ว ไม่แน่ว่าครอบครัวของพวกเรายังสามารถพึ่งพาเขาได้” หลิงไฉ่เวยกล่าวอยู่ข้างหูของหวังซื่อ “ต่อให้หลิงมู่เอ๋อร์จะเก่งกาจเพียงใด จะยังกล้าอกตัญญูพ่อของตนเองหรือ? เพราะฉะนั้น เป้าหมายของท่านควรเริ่มลงมือที่พี่สามเ้าค่ะ”
“อืม เ้าพูดมีเหตุผล” หวังซื่อได้ยินอย่างนั้น ก็พยักหน้าตามติดๆ ทว่าเมื่อนึกถึงเื่ที่หลิงไฉ่เวยทำ นางก็บันดาลโทสะขึ้นมาฉับพลัน “ถึงตอนนี้เ้าเพิ่งจะกลับมาทำตัวฉลาด เมื่อก่อนทำอันใดอยู่ล่ะ?เป็สตรียังไม่ออกเรือนอยู่ดีๆ ยืนกรานที่ไปมั่วสุมกับแซ่จวงนั้นให้ได้ ตอนนี้ทำชื่อเสียงเหม็นฉาวโฉ่เสียหายไปไกล นอกจากแซ่จวงนั้นแล้ว ก็แต่งกับผู้อื่นไม่ได้อีก ข้าจะบอกเ้าให้ คืนวันที่ทุกข์ระทมของเ้ายังรออยู่ข้างหน้านู้นล่ะ!หูซื่อคนชั่วช้านั้นไม่ใช่คนน่าคบหา ในใจของนางดูถูกเ้าแล้ว หลังจากนี้ก็จะต้องคอยเสียดสีเ้าอย่างถึงที่สุดเป็แน่ เ้าก็คอยดูเอาเถิด!จะต้องมีวันที่เ้าต้องร่ำไห้น้ำตาเช็ดหัวเข่าแน่”
“เพราะฉะนั้น ข้าจึง้าบ้านพี่สามเป็ที่พึ่งพิง พี่สามร่ำรวยแล้ว หลิงมู่เอ๋อร์ยังมีพี่ชายบุญธรรมที่เก่งกาจอีก ถ้าเกิดความสัมพันธ์ของบ้านพวกเรากับพวกเขากลับมาดีกันแล้ว ไม่เพียงแต่จะได้เงินจากครอบครัวของพวกเขา ยังสามารถพึ่งพิงอำนาจของครอบครัวพวกเขาได้ด้วย ตระกูลจวงก็จะไม่กล้ามารังแกข้าอีกต่อไป” หลิงไฉ่เวยกำมือแน่นพลางกล่าว “ท่านแม่ ท่านต้องช่วยข้านะเ้าคะ ต่อจากนี้ข้าต้องพึ่งท่านแล้ว ข้าจะให้หลิงหูเตี๋ยปีนขึ้นมาบนหัวข้าไม่ได้อย่างเด็ดขาด ท่านแม่ ข้าไม่ยอม…”
“เฮ้อ…” หวังซื่อทอดถอนหายใจอย่างเหนื่อยล้า “ลูกๆ คือหนี้สินที่ค้างคาแต่ชาติปางก่อนของบิดามารดา คำกล่าวนี้กล่าวไว้ไม่ผิดแม้แต่น้อย เ้าเป็เ้าหนี้ของพ่อแม่จริงๆ ”
เชิงอรรถ
[1] คลอดลูกไม่มีรูทวาร (生孩子没屁眼) หมายถึง คำนี้มีมาแต่ช้านานแล้ว หลักๆแล้วใช้เป็คำด่าทอ สาปแช่งคนที่ไม่มีคุณธรรม
[2] ผิงชี (平妻) หมายถึง เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "เมียหลวงภูมิภาค" (ผิง平) แปลว่า "เท่าเทียมกัน" ในที่นี้คือมีศักดิ์เป็เมียหลวงถูกต้องทุกอย่าง แต่มีเงื่อนไขต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด คือห้ามเดินทางตามสามีกลับไปที่บ้านเกิดหรือสถานที่อื่นเป็อันขาด สามรถเป็ "เมียหลวง" ได้แค่ในท้องถิ่นของตัวเองเท่านั้น
[3] ไก่บินสุนัขะโ (鸡飞狗跳) หมายถึง ความอลหม่าน วุ่นวาย
[4] ต้นไม้เขย่าเงิน (摇钱树) หมายถึง เป็การเปรียบเทียบถึงคนหรือสิ่งที่เป็บ่อเงินบ่อทอง, ตัวทำเงิน