"ผมไม่ใช่เด็ก ผมไม่เด็กแล้ว ถ้าการที่พี่ทำแบบนั้นแล้วหมายความว่าพี่โต ผมก็ทำได้"
กาวินมองหน้าทชา ที่จู่ๆ ก็กลายเป็เด็กดื้อขึ้นมาเสียอย่างนั้น เพราะตอนนี้มันเถียงไฟแลบเลย หน้าตาเอาเื่มากๆ
"ปากแตะที่ไหล่แบบผิวๆ แค่นั้นอะนะจูบของมึง บ้าแล้วทชา"
ผมว่าผมควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ยังไงไม่รู้ เพราะตอนนี้หวงพี่เขาจนเืขึ้นหน้าหมดแล้ว บางทีผมก็อยากจะแสดงอะไรบางอย่างที่สื่อว่าผมนั้นโตแล้วจริงๆ แต่ใจก็ไม่กล้าพอ แต่สิ่งที่ผมคาดไม่ถึงก็คือการที่พี่กาวินจับปลายคางของผมให้หันไปหา หัวแม่มือวางบนริมฝีปากผม แล้วกดลง
จุ๊บ!!!
ปากของพี่เขาที่ประทับลงมาบนหัวแม่มือตัวเอง มันไม่ได้เป็จูบที่เหมือนในละครหลังข่าว ไม่เหมือนในซีรีส์ที่ผมเคยดูที่มันต้องดูดดื่มอะไรขนาดนั้น
แต่มันกลับทำให้หัวใจของผมเต้นแรงผิดจังหวะไปมาก พี่กาวินหลับตาพริ้ม มันเป็ภาพที่รู้สึกว่าพี่เขาสวยมาก
เพราะผมไม่ได้หลับตาอย่างพี่เขา มันถึงเห็นทุกอย่าง ใช่แล้วถึงจะใอยู่มาก แต่ผมก็อยากเห็นใบหน้าสวยๆ ของพี่กาวินทุกวินาทีๆ ยามที่เขาััใกล้ชิดอยู่แบบนี้
พี่กาวินจูบผมเหรอ!!!?
"จูบของจริง มันจะคล้ายๆ แบบนี้แหละเ้าเด็กโง่"
เขามองริมฝีปากร้อนของทชา นิ้วยังคงเกลี่ยริมฝีปากอยู่แบบนั้น มันไม่สุด!!! ซึ่งความจริงมันยังสุดได้มากกว่านี้อีก
เอื้อก!!!
เสียงกาวินกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น มองหน้าทชาที่ยังคงอึ้งอยู่ ดวงตาเป็ประกายสั่นระริก
อย่าว่าแต่มันอึ้ง เขาก็คิดไม่ถึงว่าตัวเองจะขาดสติทำแบบนี้ได้
จูบผ่านนิ้วตัวเอง ทำไปได้ไงวะ มันก็คือจูบนั่นแหละ
"พี่..."
"หายงอนกูหรือยัง กูง้อมึงนานแล้วเนี่ย เฮ้ย! หน้าแดงมากอะ"
อาการพูดโวยวายไว้ก่อน มันก็แค่อาการกลบเกลื่อนเสียงหัวใจของตัวเอง
ผมต้องรีบหันหน้าออกทันที อดที่จะลูบหน้าตัวเองไม่ได้ มองดูในกระจกมันก็แดงจริงๆ แหละ จู่ๆ มาทำแบบนี้ใครมันจะไปรับมือทัน
"ว่าไงครับ หายงอนพี่หรือยัง"
นี่พี่กาวินกะให้ผมหลอมละลายเป็ช็อกโกแลตลงไปกองที่พื้นเลยหรือเปล่า น้ำเสียงที่เปลี่ยนไป คำที่ใช้ก็เปลี่ยนไป ไหนจะสายตากับรอยยิ้มที่ยั่วยวนนั่นอีก สายตาที่ผมไม่เคยเห็นเลย ไม่เหมือนเดิมทุกครั้งที่เรามีปัญหากัน
"ครับ"
ผมไปต่อไม่เป็เลยเจอแบบนี้ คงต้องตอบแค่ครับคำเดียวจริงๆ นั่นแหละ
กาวินเชยคางของเด็กน้อยให้หันมาหาเขาอีกครั้ง แก้มป่องๆ ของทชายังไม่หายแดงเลย ทำให้เขาอดที่จะเอ็นดูไม่ได้
น่ารักชะมัด!!!
เด็กจริงๆ นี่แค่เขาััผิวๆ เองนะ เด็กหนุ่มยังอึ้งทึ่ง และทำตัวไม่ถูกได้ขนาดนี้ แล้วถ้า...ทำมากกว่านี้ล่ะ
"ขับรถต่อเถอะครับ พี่จอดทางเท้านานแล้วนะ เดี๋ยวตำรวจก็มาหรอก"
"แปลว่าหายงอนกูแล้ว ใช่มั้ย"
"วันหลัง...พี่ก็บอกให้หมดสิ"
ยังมันยังไม่หายงอน ยังมีไฟเล็กๆ สุมอยู่นิดหน่อย กาวินส่ายหัวยิ้มออกมาอย่างพอใจ อย่างน้อยทชา ก็เงียบปาก ไม่ดุด่าว่าเขาอย่างที่เคยทำ
แต่ข้างในใจก็ตั้งคำถามกับตัวเองเหมือนกันว่า เมื่อกี้นี้เขาทำแบบนั้นทำไม ทำไปได้ไงกัน เพราะอะไรถึงทำ เพียงเพราะอยากจะพิสูจน์ให้เด็กมันดูแค่นั้นเหรอ ว่าจูบที่แท้จริงเป็ยังไง
อย่าว่าแต่ทชาเลยที่หัวใจเต้นผิดจังหวะ เขาเองก็เป็ เป็เอามากด้วย แต่แค่เก็บอาการเฉยๆ ปากนิ่มๆ ของทชา ที่เพียงแค่เขาใช้นิ้วััยังรู้เลยว่ามันนุ่มนิ่มแค่ไหน
แล้วถ้าเขาใช้...ปาก...ััล่ะ มันคงจะดีมากๆ
นี่เขามาถึงขั้นง้อทชาด้วยวิธีแบบนี้แล้วเหรอนี่
มีใครเข้าใจบ้างล่ะ?
กาวินไม่กล้าแม้แต่จะหันไปมองคนที่นั่งข้างๆ ที่แทบจะตกจากเบาะนั่งอยู่แล้ว
เป็เวลาสองทุ่มเป๊ะที่ทชากลับถึงบ้าน ตามที่กาวินขอ จะไม่ให้ถึงได้ไงก็เ้าของบ้านเล่นไปรับถึงที่แบบนั้น ต่างคนต่างลงจากรถและเผลอสบตากัน ต่างก็รีบหันออกเพราะความรู้สึกแปลกๆ ที่เริ่มก่อตัวขึ้น
"พี่กินอะไรหรือยังครับ"
มันเป็ประโยคคำถามง่ายๆ แต่ทว่ามันก็ทำให้เขาตื้นตันได้ทุกครั้ง ทชาไม่เคยลืมอาหารการกินของเขาเลย และแทนที่มันจะห่วงตัวเอง
"ยังเลย เลิกกอง มาถึงบ้านก็บึ่งรถไปรับมึงนี่แหละ"
ที่ต้องกลับบ้านก่อนก็เพราะว่า อันนาไม่อนุญาตให้เขาขับรถเอง เวลาไปกอง หรือต้องไปออกงานต่างๆ อันนาจะเป็คนขับรถทุกครั้ง ก็ด้วยความใจร้อนของกาวินด้วยที่ทำให้เพื่อนที่ทำหน้าที่เป็เลขา และผู้จัดการส่วนไม่ไว้ใจให้เขาขับรถ
"ผมโทรบอกพ่อครัวที่บ้านไว้แล้วอะ พี่ไปอาบน้ำก่อนไป"
"กูไม่หิวอะ ดึกแล้วด้วย รู้สึกเพลียๆ"
พอพูดแบบนั้น หน้าเ้าเด็กที่เหมือนหมาเด็กกำลังวิ่งกัดผ้าด้วยความโมโหก็ผุดขึ้นมาอีกรอบ
บางทีผมก็ไม่เข้าใจว่าพี่เขาเหนื่อย แล้วยังจะขับรถตั้งไกลเพื่อไปรับผมนี่นะ เกิดเป็อะไรขึ้นมาทำไง แล้วที่ผมไม่พอใจก็คือ ไอ้ร่างกายที่ใช้ทำงานในวันนี้มันยังไม่ถูกชำระล้างออกเลย
รอยจูบอันแ่เบานั้น!!! ของไอ้หมอนั่น ไอ้หน้าแหลม
"อะไรอีก" กาวินถามขึ้นเมื่อเด็กมันเริ่มทำแก้มพองอีกรอบ ไม่ต้องพูดออกมาก็รู้ว่ามันนึกดุด่าในใจอยู่
"เดี๋ยวผมหาอะไรง่ายๆ ให้กินแล้วกัน แต่ตอนนี้พี่ต้องขึ้นไปอาบน้ำก่อน"
"หือ นอนเลยไม่ได้เหรอทชา เหนื่อยอะ"
เสียงอ้อนๆ เสียงแปดเสียงเก้าก็มา กาวินเดินมาจับแขนทำปากบึนใส่ ขอร้องเด็กหนุ่มที่ทำท่าดุเขาเหมือนผู้ปกครองกำลังดุด่าลูกตัวเองอยู่
"ไม่ได้ครับ ต้องอาบน้ำ ถูให้เยอะๆ ด้วย ไอ้รอยจูบบ้าๆ นั่นจะได้ออก"
"โห อะไรของมึงเนี่ยทชา"
เด็กหนุ่มจับแขนกาวินได้ก็ลากเข้าบ้านไป ในขณะที่เขาก็บ่น แต่ก็ยอมเดินตามขึ้นห้องไปอย่างโดยดี
อากาศค่อนข้างร้อน ผม้าให้พี่เขาได้ผ่อนคลาย เนื้อตัวจะได้เย็นก่อนนอน เพราะฉะนั้นการแช่น้ำในอ่างน่าจะเป็วิธีที่ดีที่สุด ถึงแม้ว่าภาพในคลิปนั้นจะผุดขึ้นมาในหัวผมก็ตาม และที่สำคัญผม้าให้รอยจูบของใครบางคนนั้นหายไป
ในขณะที่พี่กาวินใส่เพียงเสื้อคลุมยืนมองผมเตรียมน้ำให้อาบอย่างอารมณ์ดี หลายต่อหลายครั้งที่เราสบตากัน แล้วเหตุการณ์เมื่อครู่นี้มันแวบเข้ามาในหัวสมอง
นิ้วเรียววางทาบบนริมฝีปากของผม แล้วพี่เขาก็โน้มใบหน้าลงมาหา ปากอวบอิ่มกดลงที่นิ้วของเขาเอง
มันก็เหมือนพี่เขากำลังจูบผมอยู่นั่นแหละ อาการวูบวาบและขนลุกมันก็เกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อนึกถึง
"พี่แช่น้ำสักหน่อยนะครับ เนื้อตัวจะได้เย็นสดชื่นก่อนนอน อากาศมันร้อน"
เขามองหน้าเด็กหนุ่มแววตาสั่นไหวได้ทุกครั้ง เมื่อทชาชอบทำหน้าจริงจังกับเื่ของเขา ที่จริงเด็กมันจริงจังทุกเื่แหละไม่ว่าอะไร จากแค่เด็กหนุ่มอายุยี่สิบมันจะกลายเป็คนอายุสามสิบกว่าอยู่ละ กับความจริงจังของมัน
"ไม่แช่ด้วยกันเหรอ!!!?"
"ห่ะ"
กาวินขำใหญ่กับอาการอึ้งกิมกี่ของทชา เอามือตบแก้มเบาๆ เหมือน้าหยอกล้อ แต่ทชาที่ได้ยินแบบนั้นกลับจริงจังไปแล้ว
"เฮ้ย กูล้อเล่นน่า หรือว่ามึงอยากแช่น้ำกับกูจริงๆ"
"พี่อะ...ชอบพูดเล่นอยู่เรื่อย"
หมู่นี้ผมไม่ชอบเลยกับการที่พี่เขาชอบพูดเล่นเื่แบบนี้ มันเป็ยังไงไม่รู้ แล้วยิ่งสายตาอันเย้ายวนเชื้อเชิญนั้นอีก มันคืออะไรกัน เพราะถ้าเป็งานผมก็เข้าใจ แต่นี่มันไม่ใช่งานไง แต่เป็ผมที่ทำหน้าที่ดูแลพี่เขาอยู่ พี่กาวิน กลับใช้สายตาชนิดที่ว่า เหมือนจะดึงใบหน้าผมไปหาพี่เขาให้ได้อย่างนั้นแหละ เหมือนแรงดึงดูดเลย
พี่เขาไม่รู้ตัวหรือเปล่า?
"ทชาครับ พี่แกะเชือกไม่ได้อะ"
ทชารู้สึกว่าเสียงอ้อนๆ นั้นเหมือนสนามแม่เหล็กที่ยังคงดึงเขากลับ และสั่งให้หันไปดูเขาเดี๋ยวนี้ ผมอดไม่ได้ที่ยกมือมากุมหน้าอกข้างซ้ายตอนนี้เพราะมันเต้นแรงมาก
"แล้วพี่ผูกซะแน่นเชียว ใครให้ผูกขนาดนี้เนี่ย"
เขามองเด็กหนุ่มที่กำลังวางของทุกอย่างลง แล้วหันมาแกะเชือกผ้าออกให้ ทุกครั้งที่ทชาทำอะไรให้ ถึงปากจะบ่น หรือโกรธเขาแค่ไหนก็ตาม แต่การกระทำของทชาจะนุ่มนวล และอ่อนโยนเสมอ ไม่มีการดึงกระชากให้เขาต้องรู้สึกเจ็บตัว
วาสนาใครวะ!!!
"กูไม่ได้ใส่อะไรเลยนะ"
พอเจอพี่พูดแบบนั้น ทชารีบปิดผ้าแทบไม่ทัน หน้าแดงเป็ลูกตำลึง ทั้งๆ ที่ยังไม่เห็นอะไรหรอก แต่เมื่อพี่พูดออกมาแบบนั้นภาพในหัวมันก็ผุดขึ้นมาแล้ว
"พี่นี่นะ น่าตีจริงๆ เลย จับผ้าไว้ครับ เดี๋ยวผมออกจากห้องน้ำก่อนค่อยถอดออก"
"555 ทำไม กลัวเป็ตากุ้งยิงหรือไงน้องทชาจ๋า"
"ยังจะแกล้งอีก นั่นครับสบู่ โลชั่น ผมเตรียมให้แล้ว"
"อืม ขอบใจมากนะ"
ความจริงกาวินไม่ได้โป๊อะไรหรอก ใส่กางเกงขาสั้นข้างในไว้ด้วยซ้ำ แต่เพราะ้าแกล้งเ้าคนเก่งก็เท่านั้น มือนุ่มๆ ของเขาค่อยๆ ยกขึ้นมาแตะริมฝีปากของตัวเอง ภาพที่เขาจูบที่ปากทชาด้วยการผ่านัันิ้วของตัวเองมันผุดขึ้นมาในหัวเขาอีกรอบ
มันรู้สึกดีจริงๆ เขาไม่ได้้าแค่สอนว่าสิ่งไหนที่เรียกว่าผู้ใหญ่หรือเด็ก แต่เมื่อครู่กาวินทำตามสิ่งที่มันเรียกร้องอยู่ข้างในใจต่างหาก การทำงานที่อยากให้เวลาผ่านไปเร็วๆ ของวันนี้ สิ่งที่อยู่ในหัวเขามีแต่ทชาเต็มไปหมด เขาอยากเจอหน้า อยากรู้ว่าทชาทำอะไรอยู่กับเพื่อนๆ บ้าง อยากเลิกงานเร็วๆ อยากไปรับกลับบ้านด้วยตัวเอง
และยิ่งเห็นมันหัวร้อนเป็ฟืนเป็ไฟเพราะเื่ตัวเองลงอ่างจากคลิปโฆษณานั้น บอกเลยว่ารู้สึกพอใจอยู่ข้างในลึกๆ หลายต่อหลายครั้งที่ทชาเมินเฉย เ็าใส่ ไม่ได้รู้ร้อนรู้หนาวกับงานที่เขาทำ บอกได้เลยว่าเขาไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่
ไม่รู้เพราะอะไรเหมือนกัน แต่มาวันนี้ เด็กหนุ่มที่ใจเย็นเหมือนน้ำแข็งขั้วโลกเหนือ กลับหัวร้อนหุนหันพลันแล่น เพียงเพราะว่ามีคนในคลิปจูบที่ไหล่ซ้ายของเขาเบาๆ มันก็ะเิอารมณ์ออกมาแล้ว
กาวินไม่รู้หรอกว่าไอ้อารมณ์แบบนั้นของทชาคืออะไร เป็ห่วงหรือ หวงเขากันแน่
แต่ในใจมันสุขใจ มีความสุข ดีใจและหัวใจพองโต เมื่อวันนี้เด็กมันแสดงอาการแบบนี้ให้เขาเห็น
วันนี้เป็การแช่น้ำที่โคตรมีความสุขอะ
................
เช้านี้ที่สดใสของผม ใช่แล้ววันนี้เป็วันที่สดใสของผมจริงๆ มันมีความสุขแบบแปลกๆ ไม่เคยเป็มาก่อนเลย อาหารที่กินง่ายๆ น้ำผลไม้หนึ่งแก้วที่แสนพิเศษ แต่แปลกนะทำไมวันนี้ไม่มีเสียงเพลงเหมือนทุกวัน เช้าๆ แบบนี้เสียงเคล้าคลอเบาๆ ต้องเปิดแล้วละ
"ลุงครับ เดี๋ยวผมวานช่วยยกของไปไว้ที่โต๊ะได้เลยนะ จะไปดูพี่กาวินหน่อย ทำไมวันนี้แปลกๆ ตื่นสายผิดปกติ"
ประตูห้องที่ไม่ได้ล็อกนี่อีก ทำไมพี่เขาไม่ล็อกห้องให้เรียบร้อยล่ะ? ภาพที่ผมเห็นคือพี่กาวินนอนคลุมโปงอยู่ใต้ผ้าห่มหนาๆ นั่น ใบหน้าที่ซีดเซียวเหมือนคนไม่สบาย พอมือแตะที่หน้าผากเท่านั้นแหละ
"ฉิบหาย ตัวร้อน!!!"
"ทชา...กูไม่สบาย"
