“เสด็จแม่ คืนนี้ท่านจะนอนกับเสด็จพ่ออีกใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ ดีเหลือเกิน!”
โอ๊ะโอ อะไรเรียกว่านอนกับเสด็จพ่อของเ้าอีก
เื่เมื่อคืนเป็เื่บังเอิญเท่านั้นหรือ
คนพูดไม่ได้ตั้งใจ แต่คนฟังกลับคิดไปไกล
พระสนมและชายาคนอื่นๆ ต่างตกตะลึง!
อะไรนะ ที่แท้ฮองเฮาเคยถวายงานมาแล้ว
วันนี้มิใช่ครั้งแรกหรือ
ได้ยินไท่จื่อน้อยพูดอีกว่า “เสด็จแม่ ท่านต้องพยายามนะพ่ะย่ะค่ะ! เย่เอ๋อร์อยากมีน้องชายน้องสาวเยอะๆ!”
บรรดาพระสนมและชายาต่างกระทบกระเทือนใจอย่างหนัก!
ที่แท้เป็เื่จริง!
เฟิ่งเฉี่ยนปาดเหงื่อ
ลูกเอ๋ย เื่เช่นนี้จะให้พยายามอย่างไรเล่า
เห็นท่าทางไร้เดียงสาของบุตรชายแล้ว นางพลันนึกแผนการออก จึงยิ้มบางๆ “เย่เอ๋อร์ อยากเห็นหมูเทพหรือไม่”
ไท่จื่อน้อยพยักหน้าหงึกหงัก “อยากเห็นพ่ะย่ะค่ะ!”
“ได้ เสด็จแม่จะเล่นกลหมูเทพให้เ้าดู!” เฟิ่งเฉี่ยนสะบัดแขนออกไป ต่อมาเสียงร้องอู๊ดๆ ดังขึ้น หมูเทพตัวหนึ่งปรากฏตัวเบื้องหน้าไท่จื่อน้อย!
นางตั้งใจเลือกลูกหมูเทพโดยเฉพาะ ร่างของมันเล็ก ทว่าศีรษะกลับทั้งกลมทั้งใหญ่ ดวงตาเล็กๆ คู่นั้นหรี่เห็นเป็เส้นขีดเดียว เดินส่ายหัวและกระดิกหางไปมา น่ารักที่สุด!
ไท่จื่อน้อยอุ้มมันขึ้นมาอย่างดีใจ “น่ารักเหลือเกินพ่ะย่ะค่ะ!”
เฟิ่งเฉี่ยนลูบศีรษะของเขา “ยังอยากเห็นมากกว่านี้หรือไม่”
“อยากพ่ะย่ะค่ะ!” ไท่จื่อน้อยดวงตาเป็ประกาย
เฟิ่งเฉี่ยนจึงยกมือขึ้นอีก
อู๊ดๆ--
ออกมาอีกหนึ่งตัว!
นางโบกมือขึ้นอีก
อู๊ดๆ อู๊ดๆ--
ออกมาอีกสองตัว!
อู๊ดๆ อู๊ดๆ อู๊ดๆ--
ออกมาอีกสามตัว!
…
ภายในเวลาเพียงชั่วครู่ หมูเทพหลายสิบตัวก็ออกมาออกันเต็มหน้าประตูตำหนักยีหลัน!
ทุกคนตกตะลึง
ที่น่าใคือ ฮองเฮาสามารถเสกหมูเทพออกมาได้ราวกับเล่นมายากล มหัศจรรย์เกินไปแล้ว!
ที่ย่ำแย่คือ หมูเทพมากมายเช่นนี้ปรากฏตัวอยู่ในวังหลวงซึ่งเป็สถานที่สูงส่งเช่นนี้ เป็สิ่งที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง!
ทำให้คนรู้สึกหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก!
จ้าวกงกงเหงื่อแตกท่วมตัว “เหนียงเหนียง นี่ นี่ผิดกฎระเบียบพ่ะย่ะค่ะ”
เฟิ่งเฉี่ยนเลิกคิ้วไม่พอใจ “อะไรผิดกฎระเบียบ ขอเพียงบุตรชายของข้าชอบ ต่อให้ต้องรื้อวังหลวงลงมา ข้าก็พอใจ! อย่างไร เ้าไม่เห็นด้วยหรือ”
จ้าวกงกงสะอึก หน้าแดงก่ำ “แต่ที่นี่คือวังหลวง เป็สถานที่สูงส่งและศักดิ์สิทธิ์ หากปรากฏภาพเช่นนี้...ปรากฏภาพสัตว์ชั้นต่ำพวกนี้”
เฟิ่งเฉี่ยนตวัดสายตามองเขาอย่างไม่ยี่หระ “ท่านทำตัวสูงส่ง ในยามปกติกินเนื้อหมูไม่น้อยกระมัง เวลาที่ท่านกินเนื้อหมู ไฉนจึงไม่รู้สึกว่ามันเป็สัตว์ชั้นต่ำเล่า”
“บ่าว...” จ้าวกงกงรีบชี้แจง แต่เพิ่งพูดได้เพียงคำเดียวก็ถูกหมูเทพชนบั้นท้ายเข้าให้จังๆ เขาใจนร้องเสียงแหลมจากนั้นวิ่งหนีลนลาน
ราวกับหมูตัวนั้นกำลังหาเพื่อนเล่น มันวิ่งตามเขาไปตลอดทาง!
จ้าวกงกงวิ่งหนีหัวซุกหัวซุน!
คนอื่นๆ พากันหัวเราะงอหงาย
เฟิ่งเฉี่ยนเม้มปากลอบขำ นางปลดปิ่นปักผมลงมาอันหนึ่ง ฉวยโอกาสที่ทุกคนกำลังมองจ้าวกงกงลอบแทงปิ่นปักผมลงบนสะโพกของหมูเทพตัวหนึ่ง!
หมูเทพตัวนั้นแผดเสียงร้องขึ้นมาทันใด มันวิ่งไปข้างหน้าราวกับคลุ้มคลั่ง มันวิ่งผ่านหมูเทพสิบกว่าตัวและพุ่งเข้าชนประตูตำหนักของตำหนักยีหลัน!
เสียง โครม ดังก้องไปทั่ว
น่าเสียดายที่ประตูยังไม่ถูกชนจนเปิดออก
เฟิ่งเฉี่ยนจึงทำเช่นเดิมอีก ดังนั้นหมูเทพตัวแล้วตัวเล่าวิ่งเข้าไปชนประตูตำหนักอย่างบ้าคลั่ง
โครม! โครม! โครม! ...
เสียงกระแทกประตูตำหนักดังขึ้นไม่หยุด
คนที่อยู่ข้างในแทบจะเสียสติอยู่แล้ว!
ตอนแรกพวกเขาไม่รู้ว่ามีสิ่งใดกำลังชนประตูใหญ่ จึงมองลอดช่องประตูออกมา ปรากฏว่าเป็หมูฝูงหนึ่งที่กำลังทำการโจมตี!
ทุกคนได้แต่อ้าปากค้าง!
มีคนเข้าไปรายงานอย่างเร่งรีบ “องค์หญิง องค์หญิง แย่แล้วเพคะ! หมู หมูมาแล้ว--”
องค์หญิงหลานซินกำลังดื่มน้ำชา จึงไม่ทันได้ฟัง “หมูอะไร”
นางกำนัลใเกินไปจึงพูดแทบไม่เป็คำ “หมูฝูงหนึ่ง! มีหมูฝูงหนึ่งมาเพคะ!”
องค์หญิงหลานซินขมวดคิ้วไม่พอใจ “หมูมาแล้ว แล้วมันเกี่ยวอันใดกับเปิ่นกงด้วยเล่า”
“หมู หมู...” นางกำนัลติดอ้างอยู่เนิ่นนาน ในที่สุดจึงพูดเข้าประเด็น “หมูกำลังจะพังประตูเข้ามาแล้วเพคะ!”
องค์หญิงหลานซินลุกพรวดขึ้นทันที นางถลึงตา “เช่นนั้นเ้ายังทึ่มทื่ออะไรอยู่อีก ยังไม่รีบไปยันประตูเอาไว้”
ทันทีที่สิ้นเสียง เสียงโครมดังสนั่น ประตูใหญ่ถูกหมูชนจนพังแล้ว
อู๊ดๆ อู๊ดๆ--
อู๊ดๆ อู๊ดๆ--
อู๊ดๆ อู๊ดๆ--
หมูฝูงหนึ่งกรูกันเข้ามาในลานเรือน และมุ่งหน้าเข้าสู่ตำหนักบรรทม!
ในลานเรือนมีสภาพเละเทะ
นางกำนัลและขันทีแยกย้ายกันวิ่งหนีไม่คิดชีวิต!
มีบางคนหนีเข้าไปในตำหนักบรรทม
องค์หญิงหลานซินตำหนิเสียงเข้ม “กลัวอะไร แค่หมูไม่กี่ตัวถึงกับทำให้พวกเ้าใเป็เช่นนี้ ดูสภาพไม่เอาไหนของพวกเ้าสิ”
ทันทีที่พูดจบก็เห็นหมูเทพตัวหนึ่งวิ่งเข้าไปในตำหนักบรรทม เดิมทีหมูเทพก็ฉลาดเฉลียวกว่าหมูธรรมดาอยู่แล้ว มันเคลื่อนไหวรวดเร็ว และมีพลังการโจมตีที่แข็งแกร่ง พุ่งซ้ายชนขวาทำให้คนใแทบสิ้นสติ
องค์หญิงหลานซินโกรธเคือง “คนโง่เขลาอย่างพวกเ้า! ทำให้เปิ่นกงอับอายขายหน้าผู้คน!”
นางพลิกฝ่ามือ พลังเทพพลันรวมตัวกัน กระบี่เทพเล่มหนึ่งที่แขวนอยู่ผนังเคลื่อนไหว มันลอยเข้ามาในมือของนาง
องค์หญิงหลานซินดึงกระบี่ออกจากฝัก พลังเทพของกระบี่เป็สีม่วงอ่อน นี่เป็สัญลักษณ์ของจอมยุทธ์ขั้นเจ็ด ความสามารถไม่ธรรมดา
“กระบี่หลิงซี!”
นางพูดเสียงเบา กระบี่พลันปรากฏพลังเทพและจัดการหมูเทพได้ในกระบี่เดียว!
ขณะที่องค์หญิงหลานซินกำลังยกยิ้มอย่างลำพองใจ สีหน้านางพลันเปลี่ยนไป เห็นเพียงั์ตาของนางสะท้อนภาพของหมูเทพที่วิ่งเข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ จากด้านนอก นางที่เคยเป็คนสุขุมนิ่งลึกมาตลอดถึงกับตื่นตระหนกจนหน้าถอดสี นางยกกระบี่ขึ้นวิ่งหนีเช่นเดียวกับคนอื่นๆ...
“ช่วยด้วย!”
“เด็กๆ!”
นอกประตูตำหนักยีหลัน เฟิ่งเฉี่ยนเห็นว่าสมควรแก่เวลาแล้วจึงก้าวเข้ามาด้านใน
เห็นเพียงสภาพในลานเรือน ดอกโบตั๋นที่กำลังงดงามหลายกระถางถูกหมูเหยียบย่ำ ยังมีดอกเสาเย่าที่เพิ่งจะบานหลายต้นถูกเหยียบจนล้มระเนระนาด สภาพเลอะเทอะไปหมด!
เดินเข้าไปด้านในอีก สภาพภายในตำหนักบรรทมย่ำแย่ยิ่งกว่า แจกันดอกไม้แตก เก้าอี้ล้ม ยังมีหมูเทพอีกสองตัวขึ้นไปนอนอยู่บนเตียง!
องค์หญิงหลานซินวิ่งหนีหมูเทพและการโจมตีของมัน นางส่งเสียงร้องไม่หยุด เมื่อนางหันกลับมาเห็นหมูเทพสองตัวอยู่บนเตียงของนาง นางถึงกับขาดสติ!
“พวกเ้าสัตว์เดรัจฉานสองตัว รีบลงมาเดี๋ยวนี้นะ!”
นางกระหวัดกระบี่ยาวในมือไปมา ขับไล่หมูเทพสองตัวลงมาจากเตียงได้อย่างมิง่ายดาย ปรากฏว่าก้นของนางถูกชนเข้าอย่างจัง นางหันไปดู พบว่าหมูสองตัวกำลังโจมตีนางพร้อมๆ กัน นางร้องด้วยความใ จากนั้นหนีขึ้นไปบนเตียงด้วยสภาพอเนจอนาถ ไหนเลยจะยังมีท่าทางองค์หญิงผู้สูงศักดิ์ที่ควรจะมี
เดิมทีคิดว่าขึ้นมาบนเตียงแล้วจะปลอดภัย ใครเลยจะรู้ว่าผ้าห่มพลันเคลื่อนไหว ไม่รู้หมูเทพตัวหนึ่งมุดเข้ามาในผ้าห่มของนางั้แ่เมื่อใด มันโผล่หัวของมันออกมา องค์หญิงหลานซินกรีดร้องด้วยความใ นางรีบะโลงจากเตียงแล้ววิ่งออกประตูไป
ขาข้างหนึ่งกำลังจะก้าวออกธรณีประตู ทันใดนั้น เท้าของนางกลับลื่นไถลเพราะเหยียบลงบนกองอุจจาระหมู ร่างของนางสูญเสียความสมดุลล้มลงบนพื้นเต็มแรง!
องค์หญิงหลานซินท้อแท้ใจจนแทบจะร้องไห้ออกมา แต่ที่ทำให้นางท้อใจยิ่งกว่าคือ เมื่อเงยหน้าขึ้นเห็นเฟิ่งเฉี่ยนยืนอยู่เบื้องหน้า และมองเห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้นทั้งหมด!
มุมปาก หางตาของนางเริ่มกระตุก มือทั้งสองข้างยันพื้นคิดจะลุกขึ้น ใครจะคิดว่ามือขวาของนางกลับวางแปะลงบนกองอุจจาระหมูอีกกองหนึ่ง นางโกรธเสียจนหน้าเขียว!
เฟิ่งเฉี่ยนพยายามไม่หัวเราะออกมา นางย่อกายลงถามอย่างใส่ใจ “องค์หญิง ท่านไม่เป็ไรกระมัง ไฉนจึงไม่ระมัดระวังให้หมูชนเช่นนี้เล่า”