“คุณปู่ มาปลุกคนอื่นตอนฝันหวานได้ยังไงกัน” กัวไฮว่อยู่ในห้องได้ราวสิบกว่านาทีก็เดินเข้าไปในห้องหนังสือเขาเห็นปู่ของตนชงชาดื่มเอง
“เสี่ยวไฮว่ นั่งสิ” นายท่านไฮว่มองกัวไฮว่แวบหนึ่งแล้วพูดขึ้นด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“จัดการอากุ่ยที่ร้านใต้หล้าอู่เฉิง ในคาบเรียนก็ทำครูโมโหจนออกไปขายเหล้าราคาสูงที่สุดในงานประมูล เป็เพื่อนต่างวัยกับปรมาจารย์อวี้เฟิงได้ที่หนึ่งการคัดเลือกแข่งวิชาการ ดีลลูกสาวตระกูลซุนที่โรงแรมได้เป็ผู้เข้าแข่งขันดีเด่นในงานแข่งขันวิชาการ ลูกสาวตระกูลมู่หรงลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนตระกูลถังและซู คุณหนูใหญ่ตระกูลโหยวเด็กอัจฉริยะตระกูลหนานกงแถมยังมีอวี้เอ๋อร์ที่ปู่หาเอกสารจากฝ่ายรักษาความปลอดภัยของประเทศแล้วแต่ก็ไม่พบอะไรใดๆเสี่ยวไฮว่ แกเป็หลานชายแสนเกเรของฉันจริงๆ หรือเปล่า” นายท่านกัวมองกัวไฮว่ด้วยสายตาที่ดูเหมือนกับเปลวไฟพร้อมกับพูดขึ้นเบาๆ
“คุณปู่ งั้นปู่หวังให้ผมเป็หลานปู่หรือว่าไม่ใช่ล่ะปู่คิดว่าผมเป็แบบในตอนนี้ดีหรือว่าแบบเมื่อก่อนดีล่ะครับ” กัวไฮว่นั่งลงข้างๆ นายท่าน เขาหยิบแก้วชาขึ้นมา ค่อยๆ จิบแล้วถามขึ้นเบาๆ
“เด็กบ้าเมื่อก่อนนั่นคอยให้ฉันตามเช็ดก้นแต่เด็กบ้าในตอนนี้ทำให้ฉันกังวลใจ” นายท่านกัวค่อยๆลุกขึ้นมาเขาเหม่อมองไปยังภาพอักษรที่ปรมาจารย์อวี้เฟิงเขียนให้บนกำแพงแล้วพูดขึ้นเบาๆ
“เสี่ยวเทียนกับเสี่ยวเหมยจากไปเร็ว หัวใจของปู่กับย่าได้ตายไปแล้วล่ะแต่พวกเราจะตายไม่ได้ เพราะพวกเรามีหลานชาย ลูกชายของเสี่ยวเทียนกับเสี่ยวเหมย” นายท่านพูดต่อ
“สี่ตัวอันตรายเมืองอู่เฉิง ตัวอสรพิษ อสรพิษแล้วยังไงเขาเป็ลูกชายของกัวเทียน เป็หลานชายของฉัน กัวเจิ้งหยางฉันทุ่มเทเพื่อนประเทศชาติมามากมาย ขอแค่หลานชายฉันไม่ฆ่าคน ต่อให้มีเื่ที่ใหญ่กว่านี้ฉันก็จะแบกเขาไว้คนที่อยากจะหัวเราะตระกูลกัวของฉันก็ต้องหุบปากไปซะ” นายท่านพูดเสียงดัง
“ต่อให้หลานชายฉันฆ่าคน ฉันก็ต้องปกป้องชีวิตของเขาเพราะเขาคือหลานชายของฉัน กัวเจิ้งหยาง” นายท่านกัวตบเข้าที่โต๊ะพลางพูดขึ้น
“หลายปีมานี้ผมก่อเื่วุ่นวายไม่น้อย ผมรู้ดีแต่ว่าจากนี้ผมจะไม่ก่อเื่ให้ปู่อีกแล้วล่ะ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ
“ก่อเื่? ไม่ก่อเื่ อย่าว่าแต่เมืองเล็กๆอย่างเมืองอู่เฉิงเลย ต่อให้ไปเยี่ยนจิง จะมีอะไรขวางตาแก่อย่างฉันได้อีก” กัวเจิ้งหยางพูดยิ้มๆ “เื่ของเสี่ยวเทียนกับเสี่ยวเหมยฉันจะไม่ไปสืบค้นมากมายจะไม่หาความจริงอีก ถ้าพวกเธอทำให้ตระกูลกัวของฉันสิ้นสุดลงงั้นฉันก็ต้องฆ่าทิ้งทั้งครอบครัว”
“คิดว่าปู่จะไม่รู้สาเหตุการตายของพ่อแม่ผมอีก เื่ทุกอย่างไม่รอดสายตาปู่ไปได้จริงๆ” กัวไฮว่พูดเบาๆ
“ไม้เด่นเกินป่า จะถูกหักโค่น[1] เสี่ยวไฮว่ผลงานแกในตอนนี้ทำปู่กลัว ถ้าแกเหมือนกับเมื่อก่อน ฉันก็จะตามเช็ดก้นแกต่อไปทำไปจนกว่าแกจะปกป้องตัวเองได้ แต่ตอนนี้แกแสดงความสามารถออกมาให้ได้เห็น ปู่กลัวว่าคนพวกนั้นจะลงมือต่อ” กัวเจิ้งหยางพูดเบาๆ
“คุณปู่ ปู่รู้เื่ของผมทะลุปรุโปร่ง ปู่ไม่อยากรู้จริงๆเหรอว่าร่างผมในตอนนี้มาจากไหน” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ
“ความยิ่งใหญ่ของหัวซย่าคือความลับของหัวซย่าเื่บางเื่ไม่ใช่ว่าปู่อยากรู้แล้วจะรู้ได้ แกไม่บอก ปู่ก็จะไม่ถาม” กัวเจิ้งหยางพูดยิ้มๆ “ปู่คิดว่าถึงปู่ถามแกก็คงไม่ตอบตามจริงถึงตอนนั้นแกบอกปู่แล้วแกถูกเทพทหารจับตัวไปความสามารถที่เรียนรู้มาทั้งชีวิตก็หมดสนุกน่ะสิ”
“อะแฮ่มๆ จินตนาการปู่ล้ำมากเลยนะ” เมื่อกัวไฮว่ได้ยินที่กัวเจิ้งหยางพูดก็กระแอมไอสองสามครั้งตาแก่หัวหงอกนี่ใช้ได้จริงๆ ข้าก็พูดไปงั้นแต่ก็เดารายละเอียดของตนได้เกือบครบถ้วน
“จากนี้ไปผมจะไม่ทำให้ปู่กังวลใจแล้วให้พวกที่ตามมาแอบปกป้องผมแยกย้ายกันไปได้แล้ว ถ้ามีคนอยากฆ่าผมจริงๆคนพวกนั้นปกป้องผมไม่ได้หรอก” กัวไฮว่พูดเบาๆ “ผมมียาลูกกลอนอยู่สองเม็ด พรุ่งนี้เช้าปู่กับย่ากินหน่อยนะครับปู่กับย่าควรจะอยู่อย่างมีความสุข คอยดูแลหลานชายให้ดีก็พอแล้ว” กัวไฮว่พูดพลางนำกล่องหยกกล่องหนึ่งวางไว้บนโต๊ะ
“ฮ่าๆ หลานชายฉันโตแล้ว โตแล้วจริงๆ” กัวเจิ้งหยางพูดยิ้มๆ
“ถ้าไม่มีเื่อื่นแล้ว ผมกลับไปนอนก่อนนะครับ ปู่ครับเื่อื่นที่ต้องสอดส่องก็สอดส่องไป แต่มาสอดส่องดูหลานชายกับหลานสะใภ้นอนปู่ไม่กลัวจะเป็ตากุ้งยิงเหรอ ฮ่าๆ” กัวไฮ่วดื่มชาแก้วสุดท้ายเสร็จก็ยิ้มพลางดินออกจากห้องหนังสือไป
“เด็กบ้า” กัวเจิ้งหยางยิ้มพลางพูดด่า
“เหลยเฟิง หลายปีมานี้ขอบใจแกมากนะ แกให้าาทหารนั่นกลับมาเถอะไม่มีเื่อะไรกับเสี่ยวไฮว่แล้วล่ะ ใช่ ถ้ามีเื่อะไรฉันจะติดต่อแกอีกที” เมื่อกัวเจิ้งหยางดื่มชาในแก้วจนหมดก็ต่อสายโทรหาเหลยเฟิงผู้บังคับบัญชาการทหารหัวซย่า เขาไม่ได้มีฐานะทางทหาร แต่เป็ยอดฝีมือหลังเขตแดนเซียนเทียน
“ในที่สุดก็เรียบร้อย าาทหารมีแปดคนแต่ละคนยังมีศักยภาพแกร่งกว่าพี่เย่าอีก นายท่านนี่ก็ทุ่มเทกายใจไปไม่น้อยเลยนะ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ “วันนี้บำเพ็ญเพียรไม่ได้แล้วล่ะแต่จะมาเสียคืนวันเพ็ญเปล่าๆไม่ได้ เพราะยังต้องรักษาอาการป่วยของหลิงหลิงอีก” พูดเสร็จ กัวไฮว่ก็เปิดประตูห้องซุนหลิงหลิงเบาๆ จากนั้นก็หายตัวไปในห้อง
“เด็กบ้า ดึกดื่นป่านนี้ไปห้องผู้หญิง ไม่ใช่เื่ดีแน่” กัวไฮว่นึกไม่ถึงว่าย่าของตนจะยังไม่นอนทั้งยังเห็นตัวเองเข้าไปในห้องของซุนหลิงหลิง “หรือว่าจะได้อุ้มเหลนจริงๆเฮ้อ งั้นก็ดี ตระกูลกัวจะได้ไม่ขาดตอน ตายไปก็จะได้บอกเทียนเอ๋อร์ได้”
“ซุนหลิงหลิงจ๋า สามีมาแล้ว” กัวไฮว่เป่าไอเซียนเข้าไปในหูของซุนหลิงหลิงทำให้ซุนหลิงหลิงตื่นขึ้นมาเมื่อเธอเห็นกัวไฮว่เปลือยท่อนบนนั่งอยู่หน้าเตียงของตนเองยังไม่ทันให้ตนเองมีปฏิกิริยาตอบกลับริมฝีปาดของเขาก็ทาบอยู่บนริมฝีปากของตนเองเสียแล้ว
“ตาบ้า ทำไมไม่ไปนอนดีๆ ออกไปเลย ถ้าคุณย่ารู้เข้าจะไม่ดีเอานะ” ซุนหลิงหลิงพูดด้วยความเขินอาย
“รู้ก็รู้ไปสิ นี่ฉันทำเพื่อรักษาเธอนะ นี่มันเื่จริงจัง” พูดเสร็จ กัวไฮว่ก็มุดเข้าไปในผ้าห่ม ไม่นานในห้องก็เกิดทัศนียภาพแห่งวสันตฤดู
“พี่อวี้เอ๋อร์ ด้านนอกนั่นเสียงอะไรเหรอ” เสี่ยวหลิงโม่ตื่นขึ้นมาจากการนั่งสมาธิแล้วถามขึ้นเบาๆ
อวี้เอ๋อร์หน้าแดงเถือกไปทั้งหน้าแล้วส่ายมือใหญ่จากนั้นก็ทำให้ห้องกลายเป็ห้องเก็บเสียงเพื่อไม่ให้เสี่ยวหลิงโม่ได้ยินเสียงแบบนั้นอีก
“ยายหนู บำเพ็ญเพียรให้ดี อย่าให้ถูกรบกวนจากภายนอก” อวี้เอ๋อร์พูดเบาๆ แต่ในใจกลับก่นด่าอย่างหนัก “ตาม้าพ่อพันธุ์ ตาบ้า นายมันม้าพ่อพันธุ์ของจริง”
“หลิงหลิง พักผ่อนเยอะๆ นะ วันนี้รักษาถึงแค่นี้ก่อน ผมกลับไปนอนก่อนนะ” ประมาณสองชั่วโมงให้หลัง สีฟ้าเริ่มสว่างขึ้นเล็กน้อยกัวไฮว่ใส่เสื้อผ้าเรียบร้อย เขามองซุนหลิงหลิงหน้าแดงระเรื่อแล้วพูดขึ้นยิ้มๆ
“ตาบ้า รังแกคนอื่นเสร็จแล้วก็ไป” ซุนหลิงหลิงเบ้ปากพูด
“ถ้างั้นเรามาอีกรอบไหมล่ะ ขืนออกไปกินข้าวเช้าพร้อมกันเดี๋ยวพวกเขาก็จะหึงเอาน่ะสิ ถึงตอนนั้นวังหลังก็โกลาหล ฉันก็ซวยน่ะสิ” เมื่อกัวไฮว่พูดเสร็จก็มีไอเซียนสะพัดเข้าไปในร่างกายของซุนหลิงหลิงระลอกหนึ่ง จากนั้นเธอก็สลบไสลไป
[1] อุปมาว่าคนที่โดดเด่นเกินหน้าเกินตาสุดท้ายก็จะถูกผู้อื่นเล่นงาน
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้