ตอนที่ 6 ข้าเมตตาแล้ว
"คนเยอะเสียจริง " บนถนน เมื่อมองไปที่เวทีการต่อสู้ที่มีผู้คนพลุกพล่านอยู่ข้างหน้า โจวเย่ก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
"คุณชาย ในปีนี้ สถาบันอัคคี ส่งผู้าุโมาที่นี่เป็การส่วนตัว แน่นอนว่าคนต้องเยอะ" หงเยว่กล่าว
โจวเย่ เห็น กู่หยิง นั่งอยู่ข้างผู้นำตระกูลกู่ และเธอก็เห็น โจวเย่ ด้วยเช่นกัน แต่เธอที่เห็นสีหน้าของโจวเย่ ที่แสดงสีหน้าเรียบเฉยและดวงตาของเขาไม่มีการผันผวนใดๆ เธอรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย
นอกจากกู่หยิงแล้ว ผู้าุโของสถาบันอัคคี ก็ยังเห็น โจวเย่ เช่นกัน ความสงบนิ่งของโจวเย่ที่ไม่แยแส ทำให้เขาแปลกใจมากเช่นกัน
ในจักรวรรดิอัคคีทั้งหมด มีไครคนไหนบ้างที่ไม่้าเข้าสถาบันอัคคี แต่โจวเย่เขาดูไม่สนใจเลย ซึ่งทำให้ผู้าุโของสถาบันอัคคีคิดว่าแปลกไป
เมื่อเห็นดวงตาที่ประหลาดใจของผู้าุโสถาบันอัคคี ทุกคนก็มองตามตาของผู้าุโไป
“ ผู้าุโเต้า เขาคือโจวเย่ คุณชายคนโตของตระกูลโจว เขามีจิติญญาการต่อสู้ระดับที่สองเท่านั้น และเขาเป็แค่ขยะ” ผู้าุโตระกูลซ่ง พูดอย่างขยันขันแข็ง
"ขยะเหรอ ?" ผู้าุโเต้า ขมวดคิ้วเล็กน้อยและพูดอย่างลับๆ " ความมั่นใจและความเย่อหยิ่งในดวงตาของเขา ไม่ใช้รุ่นเยาว์ที่ธรรมดาอย่างแน่นอน"
“เอ๊ะ ! โจวเย่ได้รับาเ็สาหัสไม่ใช่เหรอ ? หอกแทงไปที่ตันเถียนของเขาเมื่อวาน เขาจะรักษาในชั่วข้ามคืนได้อย่างไร?"
“ใช่ อาการาเ็สาหัสขนาดนั้น คงต้องใช้เวลาหนึ่งหรือสองเดือนในการรักษา”
“หือ ? ระดับพลังยุทธ์ของโจวเย่ อยู่ในระดับที่สี่ของอาณาจักรปราณยุทธ์ได้อย่างไร มันเกิดอะไรขึ้นกัน ?"
“ตันเถียนได้รับความเสียหาย และระดับพลังยุทธ์ของเขาก็ลดลงสู่ระดับที่สองของอาณาจักรปราณยุทธ์ ทำไมเขาถึงฟื้นตัวในคืนเดียว และพลังยุทธ์ของเขาก็เพิ่มขึ้นอีกต่างหาก !"
"อาณาจักรปราณยุทธ์ระดับที่สี่! ไม่ผิดแน่!”
เกิดเสียงะโดังขึ้นรอบๆเวทีการต่อสู้ และพวกเขาคาดเดาว่าโจวเย่ ต้องได้กินยาวิเศษบางชนิดไป
เมื่อได้ยินเสียงอุทานของทุกคน ผู้าุโเต้า ก็ใมาก
กู่หยิงเอง ก็ใเช่นกัน
เวลาเพียงคืนเดียว โจวเยว่ ไม่เพียงแต่ฟื้นตัวจากอาการาเ็เท่านั้น แต่ยังฟื้นพลังยุทธ์ของเขาอีกด้วย
“ฐานการฝึกฝนของเย่เอ๋อแข็งแกร่งขึ้น เกิดอะไรขึ้นกับเขา ?” โจวเฟิง ขมวดคิ้วและเริ่มสงสัย
สมาชิกทุกคนในตระกูลโจว มองหน้ากันด้วยความใ และพวกเขารู้สึกว่าโจวเย่เป็อีกคนหนึ่ง
การฟื้นตัวของอาการาเ็ของ โจวเย่ ทำให้พวกเขาคาดไม่ถึง และตอนนี้ฐานการฝึกฝนได้เพิ่มขึ้นไปสู่ระดับที่สี่แล้ว
"หงเยว่กลับกันเถอะ !" เมื่อรู้สึกว่าทุกคนกำลังจับตามอง โจวเย่ จึงอยากจะหันหลังกลับและจากไป
แต่ทันใดนั้น โจวเฟิง ก็ะโอย่างรวดเร็ว “เย่เอ๋อ! มานี่สิ!”
โจวเย่ที่้าจะจากไป ทำได้เพียงสายหน้าอย่างช่วยไม่ได้และเดินไปที่ โจวเฟิง
“เย่เอ๋อ เ้าไม่เห็นผู้าุโเต้าเหรอ ? ” โจวเฟิง ดุ เพื่อให้โจวเย่ ทำความเคารพต่อผู้าุโของสถาบันอัคคี
"ผู้น้อย คาราวะผู้าุโเต้า !" โจวเย่ หันหน้าและประสามมือไปทาง ผู้าุโเต้า ใบหน้าของเขาเรียบเฉย เขาไม่ได้ตื่นตระหนกเลย ขณะทุกคนจ้องมอง
โจวเย่เติบโตขึ้นเพราะเหตุการณ์ของเมื่อวาน และด้วยความทรงจำของเทพปีศาจ
ผู้าุโเต้า พยักหน้าเล็กน้อย และรอยยิ้มจาง ๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา เขาพบว่า แม้ว่าโจวเย่ จะยืนอยู่ตรงหน้าเขา เขาก็ไม่สามารถมองเห็นความคิดชายหนุ่มตรงหน้าได้
"ท่านพ่อ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ข้าจะขอตัวก่อน ” โจวเย่ กล่าวหลังจากทำความเคารพผู้าุโเต้าแล้ว
ก่อนที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลง โจวเย่ เต็มไปด้วยความปรารถนาที่จะเข้าเรียนที่สถาบันอัคคี เช่นเดียวกับรุ่นเยาว์คนอื่นๆ แต่ตอนนี้เขาไม่ได้มีความ้าที่จะเข้าเรียนที่สถาบันอัคคีเลย
"โจวเย่ ! ยังดีที่เ้าตระหนักรู้ว่าตนเองไม่มีคุณสมบัติที่จะเข้าเรียนที่สถาบันอัคคี" รุ่นเยาว์ของตระกูลซ่งกล่าวขึ้นอย่างเหยียดหยาม
“การมีจิติญญาการต่อสู้ระดับสอง แม้ว่าฐานการฝึกฝนของเ้าจะทะลวงไปสู่ระดับที่สี่ของอาณาจักรปราณยุทธ์ เ้ามันก็เป็เพียงขยะ แทนที่จะออกมาให้อับอาย ควรจะอยู่ในตระกูลของเ้าสะดีกว่า"
รุ่นเยาว์ของตระกูลกู่และตระกูลซ่ง เยาะเย้ยและหัวเราะ และรุ่นเยาว์คนอื่นๆของทั้งสามตระกูลก็หัวเราะด้วยเช่นกัน ด้วยการสนับสนุนจากตระกูลของพวกเขาเอง พวกเขาจึงไม่กลัวตระโจว
ใบหน้าของ โจวเฟิง มืดมนเล็กน้อย ตระกูลกู่ ตระกูลซ่ง และตระกูลฮั่น ตามใจคนรุ่นเยาว์มากเกินไป และรุ่นเยาว์เหล่านี้ก็ไม่ได้เห็นตระกูลโจวอยู่ในสายตาเลย
ผู้าุโเต้า ไม่ได้พูดอะไรสักคำ เขาเพียงแค่เฝ้าดูอย่างเงียบ ๆ
ผู้นำตระกูลกู่ ยื่นมือออกเพื่อส่งสัญญาณให้รุ่นเยาว์สงบสติอารมณ์ แล้วยิ้มเบา ๆ "ผู้นำตระกูลโจว รุ่นเยาว์ไม่ค่อยมีความคิด ดังนั้นโปรดอย่าถือสากับพวกเขาเลย และ ข้าคิดว่า คุณชายเย่เองก็คงไม่ถือสาใช่หรือไม่ ?"
"ฮึ !" โจวเฟิง สูดจมูกอย่างเ็า เขาจะไม่สนใจเื่นี้ต่อหน้าคนจำนวนมากในเมืองไป๋หนานได้ยังไง
หากเป็เมื่อก่อน โจวเย่คงจะไม่ยอมและตอบโต้กลับแล้ว
โจวเฟิง มองดูโจวเย่ ด้วยความประหลาดใจ และผู้าุโในตระกูลโจวทุกคนก็ยังประหลาดใจมาก โจวเย่ เป็คนที่ใจเย็นั้แ่เมื่อไหร่?
โจวเซียว เองก็ประหลาดใจมากเช่นกัน เขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับโจวเย่มาั้แ่เด็ก ดังนั้นเขาจึงรู้จักอารมธ์ของโจวเย่เป็อย่างดี โจวเย่ไม่ใช่คนประเภทใจเย็นอย่างแน่นอน
แต่ในขณะที่ทุกคนประหลาดใจ โจวเย่ได้เริ่มเคลื่อนไหวแล้ว เขาส่ายหัวและยิ้มเบา ๆ "ผู้นำตระกูลกู่ ข้าไม่ถือสากับรุ่นเยาว์เหล่านี้ เพราะข้ารู้ดีว่าพวกท่านทั้งสามตระกูล ไม่สามารถสั่งสอนรุ่นเยาว์ให้ดีได้"
ทันทีที่โจวเย่พูดคำเหล่านี้ ใบหน้าของสมาชิกตระกูลกู่ ตระกูลซ่ง และตระกูลฮั่นก็หน้าเกลียดทันที และคนอื่นๆ ในเมืองไป๋หนานก็มองดูโจวเย่ด้วยความประหลาดใจ
โจวเย่ มีความกล้ามาจากไหน? กล้าดียังไงมาดูถูกตระกูลกู่ ตระกูลซ่ง และตระกูลฮั่น ในที่สาธารณะ!
“เย่เอ๋อ! อย่าหยาบคาย!” โจวเฟิงรีบดุ
"ท่านพ่อ ข้าไม่ได้หยาบคาย!"
“ท่านพ่อ สิ่งที่ข้าพูด คือความจริง” โจวเย่ กล่าวอย่างไม่แยแส "ด้วยการสนับสนุนจากตระกูลที่อยู่เื้ัของพวกเขา พวกเขามีนิสัยเย่อหยิ่งมายาวนาน และพวกเขาลืมแม้แต่ความเคารพขั้นพื้นฐานที่ดีที่สุดที่สมควรจะมีต่อผู้คน ไม่สิ! พวกเขาไม่ได้เรียนรู้เลยแม้แต่น้อย ! หากตระกูลตกไปอยู่ในมือของคนแบบพวกเขามันจะต้องพินาศไม่ช้าก็เร็ว!"
คำกล่าวของโจวเย่ ทำให้ตระกูลกู่ ตระกูลซ่ง และตระกูลฮั่น ขุ่นเคืองอย่างสิ้นเชิง แต่โจวเย่กลับไม่เกรงกลัว
“ผู็นำตระกูลโจว สอนบุตรชายได้ดีจริงๆ!” ผู้นำตระกูลซ่งพูดอย่างเ็า
“โจวเย่ ตามที่เ้าพูด ถ้าหากตระกูลโจวของเ้าเอง ตกอยู่ในมือของเ้า มันจะแข็งแกร่งขึ้นหรือไม่?” อัจฉริยะรุ่นเยาว์ของตระกูลซ่ง พูดอย่างเ็า
"แข็งแกร่งขึ้นอย่างแน่นอน !" โจวเย่ หัวเราะเยาะ
“หึ! เย่อหยิ่ง!” กู่เทียน หรี่ตาลงเล็กน้อย