แผ่นดินชางหลานนั้นกว้างใหญ่ไพศาล ขนาดของแผ่นดินนี้ใหญ่กว่าขนาดของสุ่ยหลานซิง [1] ที่จุนห่าวอยู่ในชาติที่แล้วกว่า 12 เท่า แผ่นดินแห่งนี้มีหลายสิบจักรวรรดิ โดยมี 3 จักรวรรดิที่ใหญ่ที่สุด แบ่งเป็ จักรวรรดิสุ่ยเย่ว์ จักรวรรดิหั่วเหยียน และจักรวรรดิจินรุ่ย ทั้งสามจักรวรรดินี้มีความแข็งแกร่งอยู่ในระดับเดียวกัน ไม่มีใครล้มล้างใครได้
แผ่นดินชางหลานถือว่า ‘พลัง’ คือเกียรติและอำนาจอันสูงสุด ผู้ที่มีรากปราณจะสามารถดูดพลังปราณ์ได้อย่างไม่หยุดหย่อนจนกลายเป็ผู้ฝึกปราณ ส่วนผู้ที่ไม่มีรากปราณ ส่วนใหญ่จะฝึกฝนกายเนื้อเพื่อเสริมสร้างพลังภายใน เพื่อกลายเป็นักรบฝึกพลังภายใน
ระดับของผู้ฝึกปราณแบ่งออกเป็ 12 ขั้น ซึ่งระดับยิ่งสูงก็จะยิ่งยากขึ้น ฉะนั้นผู้ฝึกปราณระดับสูงจึงมีน้อยมาก ขั้นที่หนึ่งถึงขั้นที่สี่เป็ผู้ฝึกปราณระดับต้น ขั้นที่ห้าถึงขั้นที่แปดเป็ผู้ฝึกปราณระดับกลาง ขั้นที่เก้าถึงขั้นที่สิบสองเป็ผู้ฝึกปราณระดับสูง เมื่อระดับผู้ฝึกปราณแต่ละขั้นเพิ่มขึ้น อายุขัยก็จะเพิ่มขึ้นไปอีก 10 ปี ผู้ฝึกปราณที่บำเพ็ญเพียรถึงขั้นสิบสอง... จะเป็ขั้นอุตตมะ [2] จะมี่ชีวิตยาวนานถึง 220 ปี เช่นนั้นการบำเพ็ญเพียร ไม่เพียงแต่เพิ่มพละกำลังแห่งตน แต่ยังเพิ่ม่เวลาชีวิตได้อีกด้วย
ส่วนนักรบฝึกพลังภายใน หลังจากบำเพ็ญเพียรถึงขั้นแปดระดับปลาย...ระดับโฮ่วเทียน [3] ซึ่งถือเป็ขั้นที่สำคัญที่สุด ถ้าผ่านขั้นนี้ไปได้ก็จะเข้าสู่ระดับเซียนเทียน [4] นักรบที่เข้าสู่พลังระดับเซียนเทียนจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างพลิกฟ้าพลิกปฐี นักรบระดับเซียนเทียนแบ่งเป็ 12 ขั้น เปรียบได้เหมือนกันกับผู้ฝึกปราณ จะมี่ชีวิตได้ถึง 220 ปีเช่นกัน
ข้อแตกต่างที่ใหญ่ที่สุดของนักรบฝึกพลังภายในและผู้ฝึกปราณ คือ เมื่อนักรบบำเพ็ญเพียรจนถึงขั้น 12 ระดับปลาย ก็จะถึง ‘ขั้นสูงสุด’ แต่ผู้ฝึกปราณเมื่อบำเพ็ญเพียรถึงขั้น 12 ระดับปลายแล้ว ยังสามารถเข้าสู่ระดับที่สูงขึ้นอีกขั้นได้ ตำนานกล่าวว่า หลังจากเข้าสู่ระดับที่สูงขึ้นจะเกิดทักษะ ‘ทะลวง์’ ว่ากันว่านอกจากแผ่นดินชางหลาน ยังมีโลกที่ยิ่งใหญ่กว่า มีทางเดียว คือ ออกจากแผ่นดินชางหลานเท่านั้นถึงจะบรรลุผล สาเหตุที่แผ่นดินชางหลานมีผู้ฝึกปราณขั้นสิบสองน้อยคน เพราะว่าผู้ที่บำเพ็ญเพียรถึงขั้นสิบสองส่วนใหญ่ต่างออกจากแผ่นดินชางหลานไปหมด ตำนานกล่าวว่า อีกด้านหนึ่งของทะเลซวีอู๋ มีแผ่นดินขั้นสูงอยู่ ตราบใดที่สามารถข้ามผ่านทะเลซวีอู๋ได้...ก็จะสามารถเข้าไปได้! ทว่าทะเลซวีอู๋มีสิ่งชั่วร้ายเหลือคณานับ ต้องเสี่ยงเป็เสี่ยงตายเป็อย่างมากกว่าจะผ่านทะเลซวีอู๋ไปได้ ด้วยเหตุนี้ผู้ฝึกปราณที่มีพร์ทั้งหลายจึงสิ้นชีพที่ทะเลซวีอู๋เป็จำนวนมาก
หานจี้เซิ่ง ปู่ของหานรุ่ยภรรยาชายของร่างเดิม เป็นักพรตผู้บำเพ็ญเพียรจนถึงขั้น 12 ระดับปลาย ถึงแม้ว่าอายุขัยของเขาจะไม่มากนัก แต่ทว่ากลับดูน่าเกรงขาม
หานรุ่ยเกิดในตระกูลหานแห่งเมืองเย่ว์เซียน...เมืองหลวงของจักรวรรดิสุ่ยเย่ว์ ตระกูลหานเป็หนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของจักรวรรดิสุ่ยเย่ว์ มีอำนาจในการควบคุมทางการทหารของจักรวรรดิ แปดสิบเปอร์เซ็นต์ของอำนาจทางการทหารอยู่ในมือของตระกูลหาน มีหานจี้เซิ่ง เป็จอมทัพของจักรวรรดิ อีกทั้ง หานฉี่ไท่ บุตรชายคนโตของเขา เป็นายพลใหญ่ ด้วยเหตุนี้ตระกูลหานจึงมีอำนาจอย่างเหลือล้น ทำให้ราชวงค์สุ่ยเย่ว์ต่างหวาดกลัว และหวังที่จะดึงมาเป็พวก
หานรุ่ย คือบุตรซวงเอ๋อร์ของหานฉี่หยาง...บุตรชายคนเล็กของหานจี้เซิ่ง หานฉี่หยาง เป็ผู้มีพร์ในการบำเพ็ญเพียรของตระกูล ตอนที่เขามีได้อายุ 30 ปี ก็สามารถบำเพ็ญเพียรลมปราณจนถึงขั้นสิบสองระดับปลาย หานฉี่หยางปรารถนาที่จะข้ามทะเลซวีอู๋ เพื่อเสาะหาโอกาสที่จะทะลวงขั้น เมื่อครั้นเขาจากไปได้สิบปี หานฉี่หยางได้พาทารกน้อยคนหนึ่งกลับมา ซึ่งทารกน้อยนี้ก็คือ หานรุ่ย หลังจากที่หานฉี่หยางมอบทารกให้กับหานจี้เซิ่งแล้ว ก็ได้ออกจากตระกูลไปอย่างรีบร้อนและไม่มีข่าวคราวจากเขาอีกเลยั้แ่นั้นมา บางคนกล่าวว่าหานฉี่หยางออกจากแผ่นดินชางหลานไปแล้ว บางคนก็กล่าวว่าหานฉี่หยางตายไปแล้ว
หลังจากที่หานฉี่หยางมอบหานรุ่ยให้กับหานจี้เซิ่ง หานจี้เซิ่งก็ดูแลและเลี้ยงดูหานรุ่ยด้วยตัวเอง คอยให้อยู่ข้างกายเขาเสมอ ดังนั้นความสัมพันธ์ระหว่างปู่กับหลานจึงลึกซึ้งมาก เมื่อหานรุ่ยอายุได้ 6 ขวบ เขาได้สร้างรากปราณคู่ ไฟและสายฟ้า ซึ่งรากิญญาสายฟ้าเป็รากิญญากลายพันธุ์ พลังโจมตีแข็งแกร่งมาก ถึงแม้หานรุ่ยจะเป็ซวงเอ๋อร์ แต่กลับมีพลังอันน่าทึ่ง หานรุ่ยบำเพ็ญเพียรได้รวดเร็วเป็อย่างมาก พออายุ 18 ปี ก็สามารถบำเพ็ญเพียรได้จนถึงขั้นแปดระดับปลายถือว่าเป็ผู้ฝึกปราณที่มีพร์ของเมืองเย่ว์เซียน ซึ่งไม่น่าแปลกใจ เพราะหานรุ่ยเหมือนกันกับพ่อของเขา...หานฉี่หยาง ที่ครั้นพออายุ 30 ปี ก็ฝึกปราณถึงขั้นสิบสองระดับปลาย และดูเหมือนจะเร็วกว่าพ่อของเขาเสียด้วยซ้ำ
หายรุ่นเป็ผู้ที่มีพร์ในการบำเพ็ญเพียร ขณะเดียวกันก็เป็ซวงเอ๋อร์ที่ขี้เหร่ที่สุดของจักรวรรดิสุ่ยเย่ว์ ในแผ่นดินชางหลานมีสิ่งที่พิเศษอย่างหนึ่ง นั่นคือ ‘ซวงเอ๋อร์’ ซวงเอ๋อร์ คือ เพศกึ่งกลาง ระหว่างชายและหญิง ซึ่งมีรูปลักษณ์ภายนอกเหมือนชาย แต่สามารถตั้งครรภ์ได้ ดังนั้น ซวงเอ๋อร์จึงสามารถขอหญิงสาวมาแต่งงานมีบุตรด้วยได้ และยังสามารถแต่งงานเป็ภรรยาของผู้ชายและมีบุตรได้เช่นเดียวกัน
ความสูงของซวงเอ๋อร์ในแผ่นดินชางหลานจะเตี้ยกว่าเพศชาย มีรูปร่างบอบบางและใบหน้าที่งดงาม จึงถูกเลี้ยงดูแบบเด็กผู้หญิงั้แ่เล็ก ดังนั้นเมื่อโตขึ้นจึงมักจะแต่งงานกับบุรุษ เพื่อให้กำเนิดบุตร และกลายเป็ข้าราชบริพารของผู้ชาย หานรุ่ยอาศัยอยู่กับหานจี้เซิ่งมาั้แ่เล็กจนโต ซึ่งหานจี้เซิ่งเลี้ยงดูหานรุ่ยแบบเด็กผู้ชายมาโดยตลอด ทั้งสอนเขาฝึกบำเพ็ญเพียร ทั้งสอนการแปรค่ายกลทหาร ไม่เคยสอนงานบ้านงานเรือนแบบที่หญิงสาวทั่วไปได้ร่ำเรียนกัน ด้วยเหตุนี้ตลอดระยะเวลา 18 ปี หานจี้เซิ่งอุทิศในการสอนให้ซวงเอ๋อร์ผู้นี้เก่งทั้งบุ๋นและบู๊
สาเหตุที่หานจี้เซิ่งเลี้ยงดูหานรุ่ยแบบบุรุษนั้น ก็เพราะรูปร่างหน้าตาของหานรุ่ยไม่มีความเหมือนซวงเอ๋อร์เลยแม้แต่น้อย หานรุ่ยสูง 185 เิเ แขนขาเรียวยาว ร่างกายแข็งแรงจากการฝึกมายาวนานพร้อมกล้ามเนื้อฟิต ๆ มีชั้นบาง ๆ ใบหน้าที่ดูเด็ดเดี่ยวและแข็งแกร่ง หว่างคิ้วที่ให้ความรู้สึกองอาจผ่าเผย หากหานรุ่ยเป็ชาย ทุกคนคงชื่นชมว่าเขาช่างหล่อเหลา ทว่าหานรุ่ยไม่ใช่บุรุษ แต่เป็ซวงเอ๋อร์ ซึ่งซวงเอ๋อร์ที่มีใบหน้าเยี่ยงบุรุษนั้น ถือว่าขี้เหร่แบบหาที่เปรียบไม่ได้...
[1] สุ่ยหลานซิง คือ โลกที่จุนห่าวอยู่ก่อนข้ามเวลามา
[2] ขั้นอุตตมะ คือ ขั้นมหาสมบูรณ์
[3] โฮ่วเทียน คือ ขั้นก่อน์
[4] เซียนเทียน คือ ขั้นก่อเกิด์