Chapter 25
ดวงตาสองคู่สบกันท่ามกลางแสงไฟที่มืดสลัว มือบางวางลงบนแก้มตอบของร่างสูง ปลายนิ้วโป้งบางลูบไล้วนอยู่บนนั้นก่อนปลายเท้าบางจะเขย่งขึ้นเพื่อกดจูบลงบนบริเวณโหนกแก้มของอีกคน ปลื้มอาศัยจังหวะที่อีกคนยืดตัวขึ้นล็อกแขนรอบเอวของคนอ้อมแขนเอาไว้ ใบหน้าหล่อก้มต่ำลงให้หน้าผากของเขากดแนบกับหน้าผากของร่างบาง
“แบบนี้แปลว่ากูสมหวังแล้วหรือเปล่า” เสียงทุ้มเอ่ยถาม
“อื้อ สมหวังแล้ว”
อันที่จริงแทนเริ่มใจอ่อนให้ปลื้มตั้งนานแล้ว เล่นขยันมาง้อเขาทุกวันใครบ้างจะไม่ใจอ่อน ต่อให้ใจแข็งขนาดไหนก็ไม่รอดหรอก
“แต่จำไว้อย่าพูดจาไม่ดีใส่กูอีก”
“อื้อ จะไม่ปากหมาแล้ว”
“สัญญา”
“สัญญา”
ร่างสูงเอ่ยคำมั่นก่อนจะกดจูบลงบนผมหน้าม้าแตกของร่างบาง ไล่ลงไปที่ปลายจมูกรั้น และแนบทับลงไปบนริมฝีปากนุ่มนิ่ม ฟันคมขบกันลงบนริมฝีปากของร่างบางจนอีกคนขยับปากให้อ้าออก ลิ้นร้อนจึงแทรกตัวผ่านเข้าไปทักทายกับเรียวลิ้นที่หลบซ่อนอยู่ด้านใน
แทนวางมือข้างหนึ่งไว้บนกรอบหน้าของคนที่ตัวสูงกว่า ส่วนอีกข้างวางทับไว้บนแผ่นอกแกร่งทางด้านซ้าย ทำให้เขารู้สึกได้ถึงจังหวะการเต้นของหัวใจอีกคนได้ชัดเจนในทุกจังหวะที่มันบีบรัดและคลายตัว
เสื้อนักศึกษาที่ร่างบางสวมใส่อยู่ถูกถอดออกตามด้วยกางเกงและชั้นใน ร่างของเขาถูกอุ้มขึ้นจนขาลอยจากพื้น แผ่นหลังขาวััลงบนเตียงนุ่ม ก่อนที่ร่างสูงของอัลฟ่าหนุ่มอีกคนจะทาบทับตามลงมาอยู่กลางหว่างขาเรียวในเวลาไล่เลี่ยกันเนื่องจากเรียวลิ้นของเขาทั้งคู่นั้นยังคงเกี่ยวพันกันอยู่ไม่ได้ผละห่างออกไปจากกันเลย
แขนแก่งโอบกอดท่อนบนลำตัวของอีกคนไว้พร้อมกับริมฝีปากหยักที่ดูดกลืนความหวานล้ำตรงหน้าด้วยความเสน่ห์หา ฝ่ามือขาวจับเข้าที่ชายเสื้อยืดสีดำของคน้าก่อนจะถกมันขึ้น เมื่อรู้ว่าอีกคน้าอะไร ร่างสูงจึงยอมผละริมฝีปากออกไปและให้ความร่วมมือในการถอดเสื้อออก ร่างกายสมส่วนปรากฏแก่สายตาของคนใต้ร่างอีกครั้ง แต่ไม่ว่าจะเห็นบ่อยแค่ไหนก็ยังอดอิจฉาในรูปร่างที่สมบูรณ์แบบนี้ไม่ได้
เสื้อยืดสีดำตัวเก่งถูกเหวี่ยงทิ้งลงบนเตียง ปลายนิ้วชี้เรียวเกี่ยวเข้ากับสร้อยคอสีเงินที่อีกคนสวมใส่อยู่ก่อนจะออกแรงดึงรั้งให้ร่างสูงโน้มใบหน้าลงมามอบจูบให้แก่ตนเองอีกครั้ง แต่ยิ่งคน้าแนบตัวลงมามากเท่าไรท่อนขาเรียวก็ยิ่งต้องอ้าออกกว้างมากขึ้นเท่านั้น ทำให้ส่วนอ่อนไหวของร่างบางเสียดสีไปมากับหน้าท้องแกร่งจนรู้สึกร้อนผ่าวไปหมด
“อื้ม...”
เสียงเฉอะแฉะของการแลกลิ้นกันดังไปทั่วทั้งห้องนอน ปลื้มวางฝ่ามือเท้าลงกับเตียงใกล้ร่างกายของอีกคนเพื่อดันตัวเองให้ออกห่างจากร่างกายของอีกคน และเหมือนว่าคนใต้ร่างจะรู้งานเป็อย่างดี มือเรียวจึงลอดผ่านช่องว่างระหว่างร่างกายของพวกเขาทั้งสองคนไปแตะลงบนขอบกางเกงยีนที่อีกคนใส่อยู่ ก่อนจะจัดการปลดกระดุมและรูดซิปมันลงเสร็จสับ
ฝ่ามือขาวล้วงหายเข้าไปในขอบกางเกงชั้นในสีดำ นวดคลึงท่อนลำที่อยู่ด้านในจนร่างสูงทนไม่ไหวต้องระบายอารมณ์ลงบนริมฝีปากอิ่ม ั้แ่ส่วนหัวลงไปจนถึงกลางของท่อนลำโผล่พ้นออกมามจากขอบยางยืดอวดความใหญ่โตที่ถูกมือบางกำเอาไว้ ปลายนิ้วโป้งขาวกดขยี้ลงบนส่วนยอดของปลายหยักย้ำๆจนท่อนลำเริ่มสั่นและขยายความใหญ่โตของมันมากขึ้น
ปลื้มไม่อาจให้อีกคนได้เล่นตามใจของตนอีกต่อไป มือหนาจับมือบางให้ออกห่างจากแก่นกายของตัวเองกดมันลงแนบชิดกับเตียงนอนเสมอศีรษะของร่างบางทั้งสองข้าง แล้วจึงผละจูบออกมาของเหลวใสยืดตามปลายเรียวลิ้นร้อนออกมาด้วยก่อนจะขาดลงเมื่อระยะห่างมีมากเกินไป
“มึงทำแบบนี้จะทำให้กูยั้งตัวเองไม่อยู่เอานะ” ปลื้มเอ่ยเตือน อารมณ์ความ้าของเขาในตอนนี้ไม่สมควรที่จะถูกกระตุ้นมากเกินไปเพราะหลายวันที่ผ่านมามันถูกสะสมเอาไว้ไม่ใช่น้อยถ้าอีกคนยังทำตัวเหมือนยั่วกันไม่หยุดแบบนี้เขาอาจจะเผลอะเิอารมณ์ที่มีทั้งหมดออกไปได้ ถึงแทนจะเป็อัลฟ่าแต่ก็ไม่อาจบอกได้ว่าจะรับไหว
“มึงคิดว่ากูกลัวหรือไง”
“ควรกลัวบ้างก็ดี” ปลื้มบอกก่อนจะเบนสายตาลงไปมองยังแก่นกายของตนเองที่โผล่ออกมาจากขอบชั้นใน
แทนเองก็มองตามสายตาของคน้าลงไปเช่นกัน ลำคอขาวกลืนน้ำลายลงไปอย่างฝืดคอเมื่อได้พิจารณาขนาดของมันลางๆจากแสงไฟที่สลัว ตอนจับก็ว่าใหญ่แล้วพอมามองเทียบกับขนาดของตัวเองแบบนี้ยิ่งโคตรใหญ่ นี่เขาเผลอหาเื่ให้ตัวเองไปแล้วสินะ
“เพราะมึงไม่รู้หรอกว่ากูคิดถึงมึงขนาดไหน” ร่างสูงผละตัวออกไปยืนที่ปลายเตียง เขาถอดกางเกงและชั้นในที่ดูเกะกะออกไปแล้วจึงคลานขึ้นไปบนเตียงใหม่อีกครั้ง ฝ่ามือหนาแตะััลงบนแก่นกายของร่างบางอย่างช้าๆ “แล้วมึงล่ะคิดถึงกูบ้างมั้ย”
“ใครเขาจะไปคิดถึงคนที่พูดทำร้ายจิตใจกัน อ๊า” แทนหลับตาแน่นเมื่อมือหนาจงใจแกล้งบีบที่แท่งร้อนของเขาอย่างแรง
“ไม่ยุติธรรมเลยกูคิดถึงมึงใจแทบขาด” ร่างสูงตัดพ้อพร้อมกับผละฝ่ามือออกไปจากร่างกายของอีกคน
“สมควรแล้ว”
“ใจร้ายฉิบหาย ง้อก็ยาก”
“กูใจดีกลับมึงมากแล้วปลื้ม ที่ยอมกลับมาอยู่ตรงนี้ก็ใจดีกับมึงมากกว่าใจดีกับตัวเองแล้ว” แทนบอกก่อนจะลุกขึ้นผลักอีกคนให้นอนราบไปกับเตียง ร่างบางลุกยืนคร่อมทับร่างของอีกคนเอาไว้ ดวงตาทั้งสองคู่สบกันผ่านความมืดและระยะทางที่ห่างไกล แทนขยับหมุนตัวแล้วทิ้งสะโพกนั่งลงทับบนหน้าท้องของอีกคน “ถ้ามึงทำร้ายกูอีกไม่ว่าทางการกระทำหรือคำพูด”
“...”
“กูจะไม่อยู่ตรงนี้อีกแล้วปลื้ม ต่อให้มึงคร่ำครวญให้อยู่ กูก็จะไม่อยู่อีกแล้ว”
“...”
“ถ้ามันเกิดขึ้นเมื่อไรมึงค่อยมาบอกว่ากูใจร้ายกับมึงก็แล้วกัน”
“กูไม่ยอมให้มึงใจร้ายกับกูหรอก”
สิ้นเสียงทุ้มฝ่ามือหนาก็จับเข้าที่เอวบาง ออกแรงดึงรั้งจนสะโพกของอีกคนย้ายมาเกยอยู่บนอก ท่อนแขนหนาสอดผ่านต้นขาขาวแล้วจับล็อกที่บั้นท้ายเนียนเอาไว้แทนใจนดวงตาเบิกกว้างเขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าปลื้มจะทำอะไรแบบนี้ก่อนดวงตาจะเบิกโตขึ้นกว่าเดิมยามที่เนื้อนุ่มทั้งสองข้างถูกแบะออกจากกันและมีััร้อนชื้นแตะลงบนช่องทางรักของเขา
“อ๊ะ!” มือบางยันลงบนที่นอนตัวสั่นหงัก “ปลื้มไม่เอาแบบนี้” เสียงใสสั่นเครือไม่ต่างจากร่างกาย
แต่มีหรือที่ทีปกรจะหยุดในเวลานี้ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุเท่านั้น ปลายลิ้นร้อนแตะลงตามรอยแยกของรูรักก่อนจะค่อยๆแทรกผ่านเข้าไปด้านใน ความอ่อนนุ่มบีบรัดลิ้นร้อนเอาไว้ในทันที แทนทิ้งตัวลงนอนทับร่างของอีกคนเอาไว้อย่างหมดสภาพ ในหัวคิดแต่ว่าต้องหาทางเอาคืนให้ได้ในเมื่อเป็อัลฟ่าเหมือนกันจะมีแค่เขาอ่อนระทวยอยู่ฝ่ายเดียวได้อย่างไร
“อ๊า!”
ยังไม่ทันที่จะคิดหาวิธีเอาคืนได้ร่างสูงก็แกล้งดูดเม้มที่ช่องทางรักอย่างแรงจนคน้าต้องกระตุกตัวอ้าปากค้างสุดเสียงอีกรอบ
“ชอบให้ดูดตรงนี้หรอ” ปลื้มผละใบหน้าออกห่างจากบั้นท้ายขาวก่อนจะเอ่ยแซวอีกคนที่นอนสั่นอยู่บนตัวของเขา
“หยุดเล่นกับมันสักที” ร่างบางกัดฟันพูด
“พอเล่นกับตรงนี้แล้วมันเสียวจนแข้งขาอ่อนเลยหรือไง”
“หุบปากไป”
ฝ่ามือขาวค่อยๆแตะลงบนท่อนเอ็นที่อยู่เบื้องหน้า เขาใช้มือชักรูดมันให้ตั้งตรง ก่อนจะแตะริมฝีปากลงไปบนหัวหยักและอ้าปากรับมันเข้ามาในโพรงปากแต่เข้ามาได้เพียงครึ่งท่อนลำร่างบางก็ต้องหยุดลงเพราะมันลึกที่สุดเท่าที่เขาจะรับไหวแล้ว
ให้ตายเถอะลึกกว่านี้คงได้สำลักออกมาแน่
“ถ้าไม่ไหวก็อย่าฝืนตัวเอง” เสียงทุ้มเอ่ยก่อนจะละเลงลิ้นลงไปบนช่องทางของร่างบางอีกรอบ ทำให้แทนต้องผละริมฝีปากออกห่างจากเ้าแท่งร้อนนั้นแล้วซบหน้าลงต้นขาแกร่งของอีกคนแทน
พอรังแกอีกคนจนพอใจ ร่างของแทนก็ถูกจับพลิกให้ลงไปนอนหงาย ปลื้มดันตัวเองขึ้นไปคร่อมทับกับอีกคนเอาไว้ จงใจเบียดท่อนเอ็นของตัวเองที่มีน้ำสีขาวขุ่นไหลรินออกมาจากส่วนหัวให้แนบเข้ากับแก่นกายของอีกคนที่มีน้ำสีขาวอาบอยู่รอบไม่ต่างกัน
ขาเรียวยาวถูกฝ่ามือหนากดให้อ้ากว้างออกจากกันมากขึ้น ขาข้างหนึ่งถูกยกขึ้นมาพาดบนบ่ากว้างเอาไว้ ริมฝีปากหยักไล่พรมจูบั้แ่หัวเข่าลงมาจนถึงปลีน่องขาวนวล
“ปะ...ปลื้ม” ร่างบางเอ่ยเรียกอีกคนเสียงสั่นเมื่อรับรู้ได้ถึงแท่งร้อนที่แตะปัดป่ายไปมาบนช่องทางด้านหลัง “เบิกทางก่อน...อ๊ะ”
ฟันคมขบกัดลงบนผิวเนื้อขาวจนขึ้นเป็รอย ดวงตาของผู้ล่าตามแบบฉบับของอัลฟ่าตวัดมองใบหน้าของอีกคนที่ตอนนี้ผมเผ้ายุ่งเหยิงไม่เป็ทรงหน้าม้าแตกจนมองเห็นหน้าผากบางใบหน้าชื่นไปด้วยเหงื่อ ดวงตากลมโตมีน้ำใสๆเอ่อคลออยู่ที่ปลายหางตา ริมฝีปากอิ่มบวมเจ่อและเคลือบไปด้วยน้ำลาย มีน้ำสีขาวเลอะอยู่นิดหน่อยน่าจะติดมาจากตอนที่อีกคนพยายามใช้ปากทำให้เขา
ยิ่งเห็นแบบนี้ยิ่งอยากขยี้ให้ร้องไห้
“ถ้าไม่ใช้นิ้วจะเจ็บมากมั้ย” เขาในตอนนี้เองก็้ามากจนไม่สามารถที่จะค่อยๆทำให้มันผ่านไปทีละขั้นตอนได้แล้ว
“ไม่รู้..” แทนส่ายหน้า
“งั้นมาลองกัน”
ให้ตายเถอะ มันใช่เวลามาลองมั้ยวะ
แทนได้แต่สบถอยู่ในใจ
“อ๊ะ..ปลื้ม เอาออกไป เอา...อ๊ะ”
“ซี๊ดดดดด ผ่อนคลายหน่อย”
มือเรียวจิกลงบนผ้าปูที่นอนจนยับยู่ยี่ ใบหน้าสวยเชิดครางสุดเสียงเมื่ออีกฝ่ายฝืนแทรกกายเข้ามาในช่องทางรัก ร่างสูงกัดฟันแน่นพยายามบอกให้อีกคนผ่อนคลายมากขึ้นเพื่อที่แรงบีบรัดที่ผนังนุ่มจะได้ลดลงสุดท้ายเข้าไปได้ครึ่งเดียวก็ต้องหยุดไว้ เพราะร่างบางเริ่มสะบัดใบหน้าร้องไห้งอแงอย่างน่าสงสาร
“ฮึก...อึก” ไม่เหลือคราบอัลฟ่าเลยสักนิด
“ใจเย็นๆ ถ้ามึงเกร็งแบบนี้กูก็เข้าไปไม่ได้นะ”
“มันเจ็บ...เอาออก...อ๊า เอาออกไปปลื้ม”
ร่างสูงเหมือนจะยอมฟังเอาถอยสะโพกออกห่างจากร่างบางทำให้แท่งร้อนที่เคยเข้าไปด้านในเริ่มขยับห่างออกมาเช่นกัน แทนเริ่มปรับจังหวะการหายใจของตัวเองให้เป็ปกติ เขารู้สึกดีขึ้นที่ความคับแน่นจางหายไปได้อย่างช้าๆ
สวบ!
“อ๊ะ!”
ร่างบางแอ่นตัวครางขึ้นสุดเสียง เมื่ออีกคนกระแทกตัวเข้ามาในช่องทางของเขาครั้งเดียวจนสุดความยาว ตัวของแทนสั่นและกระตุกเป็พักๆ ภายในช่องท้องคับแน่นไปหมด ปากทางรักโอบรัดโคนของแก่นกายใหญ่โตเอาไว้จนเต้นตุบๆ ความจุกตีขึ้นมาจนไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัวหรือเปล่งเสียงอะไรออกมาอีก
อัลฟ่ากลิ่นฝนเฝ้ารออย่างใจเย็นเพื่อให้ตัวของอีกคนหยุดกระตุก เขาซุกซบใบหน้าลงไปบนท่อนขาเรียวที่พาดอยู่บนบ่าของตัวเอง ใช้มือกดมันให้แนบชิดลงมามากขึ้นส่วนมืออีกข้างก็ออกแรงกดต้นขาขาวจนแนบไปกับลำตัวของเ้าของมันแล้วจึงเริ่มถอนแก่นกายออกมาช้าๆก่อนจะกระแทกเอวสอบเข้าหาร่างบางเน้นๆอีกหนึ่งรอบ
ปึก! ปึก! ปึก!
“อ๊ะ..อ๊า...อ๊า”
ใบหน้าสวยเอียงนอนอวดใบหูแดงระเรื่อ ปากแดงร้องครวญครางไม่ได้หยุดพักเมื่อเอวสอบกระแทกถี่ขึ้นจนแทบไม่มีจังหวะให้ได้หยุดพักหายใจ ดวงตากลมพร่ามัวไปด้วยน้ำตาเขามองไม่เห็นแม่งกระทั่งสีหน้าของอีกคนในตอนนี้ ทั้งห้องนอนของแทนหอมตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นฝนและกลิ่นสน ให้ความรู้สึกเหมือนพวกเขากำลังร่วมรักกันอยู่ในป่าสนที่ดิบชื้น ความหอมของเปลือกไม้ที่กระทบเข้ากับจมูกของร่างบางยิ่งทำให้เขาตัวสั่นมากขึ้นกว่าเดิม มันเป็ธรรมตาของอัลฟ่าที่จะอ่อนแอลงเมื่อเจออัลฟ่าที่แข็งแกร่งกว่า
“ซี๊ดดดดด”
“แรง...แรงอีก...อ๊ะ” ร่างบางเอ่ยเรียกร้องเมื่อไฟราคะถูกพัดโดชนขึ้นจนมันโหมมอดไหม้แม้แต่สติของเขาเอง
“จัดให้ตามบัญชาเลยครับที่รัก”
ปึกๆๆๆ
ปลื้มเร่งจังหวะให้เร็วขึ้นแต่เขาก็ยังพยายามกดอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ไม่ให้ปลอดปล่อยออกมา ยิ่งจุดกระสันภายในถูกรังแกถี่ขึ้นผนังโดยรอบก็ยิ่งบีบตัวรัดมากขึ้นเช่นกันความอ่อนนุ่มที่โอบรัดบวกกลับปากทางสวยที่ดูดตอดท่อนเอ็นเอาไว้เหมือนไม่อยากให้หลุดแยกออกไปไหนยิ่งทำให้ปลื้มควบคุมตัวเองได้น้อยลง
ขาเรียวที่เคยพาดอยู่บนบ่าแกร่งถูกจับย้ายตำแหน่งให้ลงมากลางออกเท่าขาอีกข้าง ก่อนชายหนุ่มจะออกแรงกดมันทั้งสองข้างให้อ้าออกกว้างจนเกือบแนบไปกับที่นอน ปลื้มดันเข่าของตัวเองขึ้นทำให้ความสูงของเขาเพิ่มขึ้น สะโพกสวยเองก็ต้องยกสูงขึ้นตามเช่นกัน ดวงตากลมโตเหลือกโพลนเมื่อความคับแน่นมันเข้ามาได้ลึกมากขึ้น
“ลึก..อ๊า...อ๊ะ...อ๊ะ”
“โคตรสุดเลยว่ะ” ดวงตาคมก้มมองแท่งร้อนของตัวเองที่หายเข้าไปในช่องทางสวย
“จุก...อึก..อ๊า ลึกเกินไป”
ร่างบางครวญครางแทบไม่เป็ภาษา แขนเรียวไม่มีแรงแม้แต่จะยกมาดันหน้าท้องของอีกคนเอาไว้ทำได้เพียงแค่จิกลงบนผ้าปูให้แน่นขึ้น ปลื้มบดสะโพกเข้าหาร่างบางครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนจะผ่อนแรงที่บีบต้นขาของอีกคนลง โน้มตัวลงไปซุกหน้าดมความหอมจากซอกคอระหง ฝ่ามือหนาบีบเค้นกล้ามเนื้อ่หน้าอกของคนใต้ร่างโกยมันจนขึ้นเป็เต้าทั้งสองข้าง
“รู้สึกดีใช่มั้ย” เสียงทุ้มแหบพร่ากระซิบถาม “ข้างในมึงเต้นตุบๆ รัดของกูจนจะขาดอยู่แล้ว”
“อ๊ะ อ๊า อ๊า” ไม่มีคำตอบมีแต่เสียงครางเหมือนจะขาดใจเท่านั้นที่ดังกลับมา
ปึกๆๆๆๆ
“จะเสร็จ อ๊ะ” ร่างบางร้องบอกเมื่อส่วนหัวของแก่นกายร้อนผ่าวและเสียววูบขึ้น เมื่อผิวเนื้อของแก่นกายแดงแตะโดนกับกล้ามท้องของอีกคนเป็จังหวะเดียวกับที่สะโพกสอบกระแทกกระทั้นเข้าออก แทนบิดตัวเร้าเขารู้สึกเหมือนตัวเองกำลังถูกทำให้ปั่นป่วนทั้งด้านหน้าและด้านหลังในเวลาเดียวกัน
“พร้อมกัน ขออีกนิด”
“ไม่ อ๊ะ ไม่ไหว” ปรรณกรส่ายหน้าตอบด้วยสายตาเลื่อนลอย ปลื้มจึงบีบเคล้นหน้าอกของอีกคนมากขึ้น
“อ๊า!....”
“ฮ่าห์”
ท่อนแขนเรียวตวัดโอบรอบลำคอแกร่งเอาไว้ใบหน้าสวยเชิดครางขึ้นเช่นเดียวกับคน้าเมื่อต่างฝ่ายต่างปลดปล่อยออกมาพร้อมกัน น้ำสีขาวข้นที่แทนพ่นออกมากระเด็นขึ้นมาเลอะจนถึงหน้าอกของตัวเอง ในขณะที่ช่องทางด้านหลังก็เริ่มมีน้ำรักของอีกคนไหลย้อนออกมา แทนหอบหายใจจนตัวกระเพื่อม เขารู้สึกหมดแรงจนต้องทิ้งแขนลงมากองไว้ข้างตัว
ทีปกกรทิ้งตัวนอนทับลงบนร่างบางท่อนเอ็นร้อนด้านในกระตุกปล่อยน้ำสีขาวออกมาไม่หยุดจนเริ่มน่ากลัว
“นอทหรือเปล่า” ร่างบางถามออกมาเสียงเบาหวิว ถึงจะอัลฟ่าจะมีโอกาสท้องน้อยมากแต่ถ้านอทขึ้นมาก็ต้องระวังเอาไว้
“เปล่า...มันแค่คิดถึงมึงมากไปหน่อย”
“...” นี่ขนาดยังไม่นอทนะ ไม่อยากคิดถึงตอนนอทเลยว่าท้องของเขามันจะอึดอัดแค่ไหน
“ถ้ากูนอท ท้องมึงไม่นูนขึ้นมาแค่นี้หรอก” ฝ่ามือหนาลูบวนอยู่บนหน้าท้องบางที่นูนขึ้นมาจากเดิมเล็กน้อยเท่านั้นก่อนจะแกล้งออกแรงกดจนร่างบางสะดุ้ง แต่แกล้งอีกคนก็เหมือนแกล้งตัวเองเมื่อมันยิ่งทำให้ส่วนหัวของเขาัักับผนังนุ่มด้านในมากขึ้นจนแข็งชันขึ้นมาอีกรอบ
“อย่าพึ่งปลื้ม กูขอพักก่อน” ร่างบางรีบเอ่ยถามเหมือนรู้สึกได้ว่าอะไรที่อยู่ในตัวเขามันแข็งพร้อมเริ่มการรบครั้งใหม่อีกแล้ว แต่เขายังนอนหอบหายใจอยู่เลย
“ไม่เหนื่อยหรอกแค่นอนเฉยๆ” เอวสอบเริ่มขยับเข้าออกในจังหวะเนิบนาบพร้อมกับริมฝีปากหยักที่ครอบลงบนยอดอกเต่งตึงของอีกคนแกล้งดูดเม้มแรงๆก่อนจะยกตัวของอีกคนขึ้นมานั่งเกยบนตัก “สวยมั้ย” เสียงทุ้มถามขึ้นมาเมื่อเขาจงใจขยับตัวให้อีกคนมองเห็นดวงดาวที่เรียงต่อกันเป็ชื่อตัวเอง
“...” แทนเบ้หน้าไม่เอ่ยตอบเพราะท่านี้มันยิ่งทำให้แท่งร้อนแนบชิดเข้ามาในช่องทางของเขามากขึ้น
“ไว้กูไปซื้อดาวมาเพิ่มให้นะ มันจะได้พอเขียนชื่อกู”
“อ๊ะ...” แขนแกร่งโอบกอดร่างกายของคน้าเอาไว้
“ที่เคยเขียนฝากไว้จะได้ copy แล้วเอาไป paste ไง”
หลังจากที่กิจกรรมแห่งความเร่าร้อนจบลงพวกเขาก็เลือกที่จะนอนคุยกันอยู่บนเตียงไม่ได้รีบลุกไปอาบน้ำล้างเนื้อล้างตัวแต่อย่างใด ปลื้มตัดสินใจเล่าเื่ระหว่างเขากับเรนที่เข้าใจกันในอดีตให้แทนฟังรวมถึงเื่ที่เรนคบกับเขาเพื่อที่จะทิ้งเขาด้วย
“เรนเคยชอบมึงมาก่อนงั้นหรอ”
“ใช่” นิ้วยาวเกี่ยวเข้าที่หน้าม้าเปียกชื้นของคนที่นอนคว่ำอยู่ “เขาเลือกคบกับกูไม่ใช่เพราะรักหรอก เขาเลือกเพราะเกลียด”
“แต่มึงก็รักเขาจริงๆ” แทนเอนหน้าซบเข้ากับท่อนแขนของตัวเองและปล่อยให้อีกคนเล่นผมของเขาอยู่อย่างนั้นไม่ได้ว่าอะไร
“ก็ใช่อีก”
“มึงโกรธเรนมั้ย ที่ล้อเล่นกับความรู้สึกของมึง”
“กูไม่โกรธเพราะกูรู้เหตุผลที่เขาทำมันเลยทำให้กูเสียความรู้สึกมากกว่า”
“แล้วถ้าไม่มีเื่มึงกับเรนในอดีตล่ะ ถ้าเขาแค่เขามาเล่นกับความรู้สึกมึงเฉยๆ”
“ก็โกรธสิความรู้สึกคนมันใช่สิ่งที่ควรจะเอาไปเล่นกันหรือไง”
“เรนก็คงโกรธสินะ” คิ้วของปลื้มขมวดเข้าหากันเนื่องจากไม่เข้าใจในสิ่งที่อีกคนกำลังพูด
“มึงหมายถึงเื่อะไร”
“เื่ของกูกับเรน”
“มันยังมีอะไรมากกว่าที่กูรู้อีกหรอ” ปลื้มผงกหัวขึ้นมาเอ่ยถามด้วยความอยากรู้
“กูไม่ได้ชอบเรนเพราะว่าชอบเรนจริงๆหรอก”
“?”
“กูบอกให้ตัวเองชอบเรน เพราะอยากเลิกชอบมึง”
“ทำไม”
“ตอนนั้นกูคิดว่ายังไงเื่ของเราก็เป็ไปไม่ได้” ดวงตากลมโตทอดมองไปยังใบหน้าของอีกคน “อัลฟ่ากับอัลฟ่ามันเป็ไปไม่ได้เลย”
“กูไม่เห็นจะสนใจเลย”
ฝ่ามือหนาผละออกมาจากผมหน้าม้าของร่างบางเขาดึงมือข้างหนึ่งที่ร่างบางใช้วางรองใบหน้าออกมาและจับประสานเอาไว้ ก่อนจะยกมันขึ้นมาชิดริมฝีปากและกดจุมพิตลงไปบนหลังฝ่ามือขาวนั่น
“กูทำผิดต่อเรน” ร่างบางเอ่ยเปลี่ยนเื่ “กูควรไปขอโทษเขา”
“เรนอาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำ” ถ้าไปพูดเข้าก็อาจจะเป็เื่ขึ้นมาอีก
“แต่กูรู้นี่” น้ำเสียงฟังดูแ่เบาจนเหมือนพึมพำกับตัวเอง
ร่างบางของอัลฟ่ากลิ่นฝนยืนมองปลายเท้าตัวเองสลับกับนาฬิกาเรือนโปรดบนข้อมืออยู่บริเวณด้านหน้าห้องเรียนภายในตึกรวม เขากำลังรอคอยให้ใครบางคนเดินออกมาจากด้านใน ผ่านไปสักพักประตูห้องก็ถูกเปิดออก นักศึกษาหลายคนเริ่มทยอยเดินออกมารวมถึงเป้าหมายของเขาด้วย แทนไม่รีรอเขาเดินไปคว้าแขนของคนตัวเล็กเอาไว้ก่อนจะออกแรงดึงอีกคนให้แยกตัวออกมาคุยกัน
ก็รู้อยู่หรอกว่าทำแบบนี้มันเสียมารยาทแต่ไม่ทำแบบนี้ก็คงไม่ได้คุย
“ปล่อย” ร่างบางยอมปล่อยมือตามที่อีกคนบอกเมื่อเดินมาไกลจากผู้คนพอสมควร
“เดี๋ยวคุยกันก่อน” โอเมก้าร่างเล็กที่กำลังจะหมุนตัวเดินกลับไปจำเป็ต้องหันมามองหน้าของคนที่ตัวสูงกว่าอีกครั้ง
“ทำไมใครต่อใครก็อยากคุยกับเราจังเลยนะ” รอบก่อนก็ปลื้มรอบนี้ก็ยังมาเป็แทนอีก “แทนคงไม่คิดว่าหลังจากที่เราเจอแทนพูดตอกหน้าใส่แบบนั้นแล้วเราจะยังอยากคุยกับแทนอยู่อีกหรอกนะ”
“รู้ แต่เราแค่มีเื่อยากจะพูดกับเรน”
“เรามีสิทธิ์เลือกที่จะฟังหรือไม่ฟังก็ได้ถูกมั้ย”
“เราขอโทษ”
“เฮอะ” คนตัวเล็กแค่นยิ้มออกมา “ขอโทษเื่อะไรดีล่ะ”
“มีเื่หนึ่งที่เราทำผิดกับเรนมากๆ ขอโทษนะ”
“หมายถึงเื่ที่จะเอาเราไปเป็ตัวแทนของใครน่ะหรอ”
“รู้เื่นี้ด้วยหรอ” ร่างบางแปลกใจไม่น้อยเมื่อคนตัวเล็กรู้เื่นี้ด้วย
“รู้สิแทนกับเพื่อนเล่นคุยกันเสียงดังขนาดนั้น ถ้าเราไม่ได้ยินหูคงหนวกไปแล้วล่ะ” วันนั้นคนตัวเล็กตั้งใจจะไปหาแทนที่คณะเหมือนทุกเย็นแต่เขาดันเข้าไปได้ยินเื่ของปลื้มกับแทนและเขาเข้าโดยที่ตัวเองก็ไม่ได้ตั้งใจ “เหมือนแทนจะมั่นใจด้วยว่ายังไงเราก็เลือกแทนเพราะแทนมาก่อนนี่”
“...”
“รู้สึกยังไงล่ะที่เราไม่เลือกแทน เ็ปมั้ย เ็ปเหมือนเราตอนที่รู้ว่าแทนหลอกเอาความรู้สึกของเรามาล้อเล่นหรือเปล่า” เรนเลิกคิ้วถามด้วยตากลมโตแข็งก้าว
“ขอโทษ”
“ให้ตายเถอะ แทนกับปลื้มนี่เหมือนกันเลยนะ เอาแต่พูดขอโทษอยู่ได้น่ารำคาญชะมัด” สีหน้าไม่พอใจเริ่มฉายชัดขึ้นบนใบหน้าของคนที่ตัวเล็กกว่า
“แต่ก็นะ มันคงไม่มีอะไรที่ทำได้ดีไปกว่าพ้นคำว่าขอโทษออกมาแล้วนี่จริงมั้ย”
“...”
แทนเลือกที่จะยืนนิ่งๆปล่อยให้อีกคนพูดออกมาอยู่ฝ่ายเดียวเพราะเขายอมรับว่าเื่นี้เขาเป็ฝ่ายผิดจริงๆไม่มีข้อโต้แย้งหรือข้อแก้ตัวอะไรที่ทำให้ตัวเองดูดีขึ้นทั้งนั้น
“รู้มั้ยว่าเราเกลียดอะไรที่สุด เราเกลียดที่เห็นปลื้มกับแทนมีความสุข คนที่ทำร้ายคนอื่นเขาทำไมถึงยังหน้าด้านมีความสุขอยู่ได้อีกนะ”
“...”
“เห็นแล้วแม่งโคตรหงุดหงิดเลยเชื่อป่ะ”
“เรนเองก็มีความสุขได้นะ แค่เรนเลือกจะใช้ชีวิตให้มีความสุขเท่านั้นเอง”
“ว้าว พูดดีจังเลยนะ เราต้องทำเป็คิดได้ ละก็บอกว่านั่นสิเราควรปล่อยวางแล้วแยกย้ายกันไปใช้ชีวิตแบบมีความสุขกันเถอะแบบนี้หรือเปล่า”
“แล้วที่เป็แบบนี้มีความสุขหรือไง” เสียงทุ้มเรียบเฉยที่เอ่ยออกมาทำให้ริมฝีปากของคนตัวเล็กค่อยๆหุบยิ้มลง “ทำให้ชีวิตของคนอื่นเ็ปแล้วมีความสุขจริงๆน่ะหรอ”
“...”
“มีความสุขกับสะใจแยกสองคำนี้ออกจากกันได้หรือเปล่า”
“...”
“ที่เรนรู้สึกหลังจากที่เอาคืนเรากับปลื้มได้มันก็แค่ความสะใจ่หนึ่งเท่านั้นแหละ มันไม่ใช่ความสุขที่จะอยู่กับเรนตลอดไปหรอก ถ้าเรนยังเอาแต่ฝังตัวเองอยู่กับความรู้สึกในอดีตอนาคตที่รอเรนอยู่ยังไงมันก็ไม่มีความสุขหรอกนะ”
“...”
“ที่เรามาขอโทษเรนวันนี้เพราะเรารู้สึกผิดที่จริงก็รู้สึกผิดมาตลอด แต่เราไม่คาดหวังให้เรนให้อภัยหรอกเพราะนั่นเป็สิทธิ์ของเรน”
“...”
“แล้วเราก็อยากจะขอบคุณเรนด้วย เพราะถ้าไม่มีเรน เื่ของเรากับปลื้มมันคงไม่สนุกขนาดนี้หรอก”
แทนน่ะพอจะดูออกั้แ่แรกแล้วว่าเรนเข้ามาเพื่อปั่นหัวของเขากับปลื้ม เพียงแต่เขายังไม่แน่ชัดในเหตุผลว่ามันเป็เพราะอะไร บางครั้งเรนก็ทำตัวเหมือนอยากได้ปลื้มกลับไป แต่บางทีก็ทำเหมือนอยากกลับมาหาเขา จนกระทั่งปลื้มมาเล่าทุกอย่างให้ฟังแทนจึงได้รู้ว่าแท้จริงแล้วเรนก็แค่ไม่้าเห็นเขากับปลื้มรักกันก็เท่านั้น
แต่มันก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าถ้าไม่ใช่เพราะเรนเขาทั้งสองคนก็คงไม่มีวันนี้
“การแก้แค้นของเรนน่ะคือศรกามเทพเลยรู้มั้ย”
“...” คนตัวเล็กยืนกำหมัดแน่นด้วยความโกรธ
“ขอบคุณจริงๆนะ”
“ฮึ ปัญหาจริงๆน่ะไม่ใช่เราหรอก ปัญหามันอยู่ที่อัลฟ่ากับอัลฟ่ามันเป็ไปไม่ได้ต่างหาก” เรนอมยิ้ม เขาน่ะรู้จักจุดอ่อนในใจของแทนเป็อย่างดี
“...”
“อย่าลืมสิว่าเราทุกคนล้วนมีคู่แห่งโชคชะตา ต่อให้ไม่ใช่เพราะเรา แทนกับปลื้มก็ไม่มีวันมีความสุขหรอกถ้าหากคนใดคนหนึ่งพบคู่แห่งโชคชะตาของตัวเองเข้ามันจะเป็ยังไงกันนะ”
“...”
“อ๋อ อีกคนก็ต้องพังอยู่ดีไงล่ะ”
คำพูดของเรนเหมือนะเิลูกใหญ่ที่ถูกทิ้งเอาไว้ในใจของแทน โอเมก้ากลิ่นฝนเหยียดยิ้มราวผู้ชนะก่อนจะหมุนตัวเดินจากไป