ตอนนี้หนิงมู่ฉือค้นพบว่านางไม่เข้าใจจ้าวซีเหอเลย ภายนอกดูเป็คุณชายเสเพลสนุกสนานไปวันๆ ทว่าเวลานี้นางกลับรับรู้ได้ถึงความเ็ปที่มิอาจเข้าใจจากแววตาของเขา
ลมพัดโชยมา ผมนางปลิวไปตามแรงลม นางที่สวมแค่เสื้อคลุมตัวนอกก็อดตัวสั่นด้วยความหนาวไม่ได้ นางกอดตัวเองเพื่อคลายความหนาว
จ้าวซีเหอยิ้มพลางยื่นมือมาจัดผมให้นางอย่างอ่อนโยน กลับถูกนางเอี้ยวตัวหลบ เขายิ้มแก้เก้อก่อนจะหันหน้าไปอีกทาง
นางหน้าแดงจากการกระทำอันแสนอ่อนโยนนี้ของเขา
“ซื่อจื่อ บ่าวขอตัวก่อนเ้าค่ะ ดึกแล้ว โปรดรักษาสุขภาพด้วย” นางกล่าวอ้ำอึ้ง
นางหันหลัง วิ่งกลับไปยังทิศทางห้องของตัวเอง ได้ยินเสียงทรงอำนาจของจ้าวซีเหอดังไล่หลังมา “เื่ทำอาหารต้อนรับแขกต่างแคว้น เ้าต้องระวังตัวให้ดี เข้าวังครานี้เ้าล่วงเกินพระสนมไปหลายคน พวกนางต้องเล่นงานเ้าลับหลังแน่”
หนิงมู่ฉือหยุดฝีเท้า หันไปพยักหน้ากับจ้าวซีเหอ ในใจนางก็คิดเช่นเดียวกัน จากนั้นหันหลังวิ่งกลับไปยังห้องพัก
จ้าวซีเหอมองหนิงมู่ฉือที่วิ่งกลับห้องท่ามกลางแสงจันทร์ เสื้อผ้าสีขาวทำให้นางดูราวกับเทพเซียนบน์ ท่วงท่างดงาม แสงจันทร์ที่ปกคลุมกายทำให้นางประหนึ่งเ้าหญิงบนดวงจันทร์ มุมปากเขายกขึ้นเป็รอยยิ้มบางๆ
ตัวของหนิงมู่ฉือถูกความหนาวจากอากาศข้างนอกเล่นงาน เมื่อกลับเข้ามาในห้อง นางเอาผ้าห่มผืนหนาคลุมกาย นอนขดตัวราวกับกุ้ง
นางนึกย้อนไปถึงยามที่อยู่กับจ้าวซีเหอ ดวงตากลมโตมองออกไปนอกหน้าต่าง ปากพึมพำบางอย่างออกมา “จ้าวซีเหอ ท่านเป็คนเช่นไรกันแน่ เหตุใดข้าถึงมองท่านมิเคยออกเลย”
นางขบคิดจนเผลอผล็อยหลับไป ตื่นขึ้นมาก็พบว่าจ้าวซีเหอกำลังก้มหน้ามองนางอยู่
นางร้องอุทานด้วยความใ ลุกขึ้นมานั่งโดยพลัน ไม่ทันระวังศีรษะจึงกระแทกกับศีรษะของจ้าวซีเหอเข้า ความเ็ปจู่โจมเข้ามา นางใช้มือกุมศีรษะพลางร้องอย่างเ็ป
จ้าวซีเหอเอามือกุมศีรษะเช่นกัน เอ่ยกับหนิงมู่ฉือด้วยความโมโห “เ้านี่โง่หรือไร ข้าอุตส่าห์หวังดีปลุกเ้า แต่เ้ากลับจะฆ่าข้า!”
หนิงมู่ฉือได้ฟังก็รู้สึกน้อยใจ หากแต่ไม่ได้เอ่ยวาจาใดออกไป มือที่กุมศีรษะแน่นขึ้น กล่าวเสียงเบาอย่างขัดเคือง “เมื่อคืนข้ามองท่านดีเกินไปเอง”
จ้าวซีเหอได้ยินเหมือนหนิงมู่ฉือพึมพำบางอย่างออกมาจึงโน้มตัวลงไปฟังด้วยความสงสัย คาดไม่ถึงว่านางจะหันหน้ามาอย่างกะทันหัน ทำให้ริมฝีปากของทั้งคู่ััโดนกันโดยไม่ได้ตั้งใจ ใบหน้าหนิงมู่ฉือเปลี่ยนเป็สีแดงดังกุ้งต้มสุก
จ้าวซีเหอฉวยโอกาสนี้เอื้อมมือไปจับด้านหลังศีรษะหนิงมู่ฉือเอาไว้ เขาดื่มด่ำกับความหอมหวานที่อยู่ตรงหน้า หนิงมู่ฉือสบตากับจ้าวซีเหอที่จ้องมองนาง นางไม่กล้าแม้แต่ขยับตัว จากนั้นค่อยๆ หลับตาลง
จ้าวซีเหอถอนริมฝีปากออก มองใบหน้าหนิงมู่ฉือที่แดงก่ำพลางยิ้มออกมา “ดูเ้าจะชื่นชอบจุมพิตของข้ามาก”
หนิงมู่ฉือส่ายหน้าแล้วผลักเขาออกอย่างแค้นเคือง ขณะที่หูได้ยินเสียงแม่บ้านด่าว่าไม่หยุดดังลอยเข้ามา
จ้าวซีเหอขมวดคิ้ว
แม่บ้านถีบประตูไม่กี่ทีประตูก็เปิดออก เปิดประตูเข้ามาได้ก็ด่าทอหนิงมู่ฉือเป็ชุด “หนิงมู่ฉือ เ้าคิดว่าเ้ายังเป็คุณหนูใหญ่แห่งจวนแม่ทัพอยู่หรือ นี่กี่ยามแล้ว ยังไม่ตื่นอีก” เอ่ยจบสายตาเหลือบไปเห็นจ้าวซีเหอเข้า นางถึงกับกล่าวอันใดไม่ออก รีบคุกเข่าคารวะทันที “บ่าวคารวะซื่อจื่อเ้าค่ะ”
คิ้วของจ้าวซีเหอถึงกับกระตุก มุมปากยกขึ้น ดูคล้ายจะยิ้มก็ไม่ใช่จะไม่ยิ้มก็ไม่เชิง “ดูท่าแม่บ้านจะทุ่มเททำงานเต็มที่เหลือเกิน วันนี้ข้าต้องพาหนิงมู่ฉือเข้าวัง หากไม่มีอันใดเ้าก็ออกไปได้แล้ว”
แม่บ้านยกมือเช็ดเหงื่อที่ไหลซึมลงมาตามหน้าผาก รีบหันหลังเดินออกไปอย่างรวดเร็ว ก่อนจะก้าวออกจากประตูไม่วายหันมาถลึงตาใส่หนิงมู่ฉือครู่หนึ่ง
จ้าวซีเหอลุกขึ้นยืน มองหนิงมู่ฉือด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “เมื่อครู่ในวังส่งคนมาเชิญเ้า บ่ายนี้แขกต่างแคว้นจะมาถึงเมืองหลวง เ้าต้องไปเตรียมอาหารสำหรับงานเลี้ยงต้อนรับในตอนเย็น”
หนิงมู่ฉือได้ยินดังนั้น ในใจรู้สึกเครียดขึ้นมาทันใด หัวใจเต้นรัว ลอบกลืนน้ำลายลงคอ
จ้าวซีเหอมองไปทางประตู เอ่ยด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “เ้าไปเตรียมของเถิด อีกประเดี๋ยวข้าจะให้คนมาเรียกเ้า เ้าต้องเข้าวังไปพร้อมกับข้าและท่านพ่อ”
หนิงมู่ฉือพยักหน้ารับรู้ กล่าวขอบคุณจ้าวซีเหออย่างนอบน้อม
จ้าวซีเหอเดินตรงเข้าไปหาหนิงมู่ฉือ คิ้วขมวดเป็ปมแน่น ถามอย่างเป็ห่วงเป็ใย “แม่บ้านมักจะข่มเหงเ้าอยู่ตลอดเวลาใช่หรือไม่”
หนิงมู่ฉือได้ฟังรีบส่ายหน้าเป็พัลวัน นางยกยิ้มพลางตอบ “แม้แม่บ้านจะดุด่าข้าบ่อยครั้ง แต่นางก็เป็คนดี ดูแลข้าอย่างดี”
จ้าวซีเหอพยักหน้า จากนั้นถึงค่อยเดินออกจากห้อง
ด้านนอกห้อง นางเห็นหญิงรับใช้สามสี่คนกำลังเดินตรงมาพร้อมกับอาภรณ์สะอาดสะอ้าน เพียงมองก็รู้ว่าเป็ผ้าไหมชั้นดีจากเจียงหนาน นางตะลึงในใจพลางเอ่ยถามอย่างงุนงง “เหตุใดถึงมอบเสื้อผ้าราคาแพงเหล่านี้ให้ข้าด้วย”
หญิงรับใช้เหล่านี้มีท่าทีเกรงอกเกรงใจหนิงมู่ฉืออย่างมาก ทั้งช่วยนางผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้า นานแล้วที่นางไม่ได้รับการปรนนิบัติเช่นนี้ เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยหญิงรับใช้ถึงกล่าวตอบอย่างนอบน้อม “ท่านอ๋องกล่าวว่า ท่านคือคนของตำหนักอ๋อง ทั้งยังเป็คนที่ฮ่องเต้ทรงให้การยอมรับ ย่อมต้องสวมเสื้อผ้าสะอาดงดงามเ้าค่ะ”
หนิงมู่ฉือในชุดผ้าไหมสีฟ้าน้ำทะเลมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าจ้าวซีเหอ เขายิ้มพลางหยอกล้อ “ใช้ได้ เสื้อผ้าที่ข้าเลือกเหมาะกับเ้าจริงๆ ดูแล้วนับได้ว่าเป็คนงามคนหนึ่ง”
ท่านอ๋องส่งยิ้มให้หนิงมู่ฉือเช่นกัน ก่อนจะเดินไปขึ้นรถม้าคันหน้าสุด ด้านจ้าวซีเหอพาหนิงมู่ฉือไปยังรถม้าอีกคันหนึ่ง จากนั้นทั้งสามคนก็มุ่งหน้าไปยังวังหลวง
เมื่อรถม้าวิ่งผ่านประตูสีแดงสดเข้าไป ในใจหนิงมู่ฉือตึงเครียดขึ้นโดยฉับพลัน
รถม้าจอดสนิท หนิงมู่ฉือลงจากรถม้า นางกำนัลก็มาพานางไปยังห้องเครื่อง
หนิงมู่ฉือมองผักแลวัตถุดิบสดใหม่ตรงหน้าด้วยความคุ้นชิน นางมองขาหมูสดใหม่ เมื่อเอาเกลือทาก็รับรู้ได้ถึงความนุ่มหยุ่นของมัน
ขันทีห้องเครื่องไม่รู้จักหนิงมู่ฉือ ครั้นเห็นนางก็ร้องเสียงดังด้วยความใ “เ้าคือผู้ใด! เข้ามาขโมยกินอาหารในนี้หรือ!”
นางใจนทำขาหมูหล่นพื้น
ขันทีห้องเครื่องเห็นเหตุการณ์รีบปรี่เข้าไปหา มองขาหมูด้วยความเ็ปใจยิ่ง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้