“ฮ่าๆๆ ฮ่าๆๆ เ้าเป็คนที่สองแล้วที่กล่าวกับข้าเช่นนี้ เ้าหนุ่ม กล้าดีนี่”
คนชุดดำหัวเราะออกมาทันทีที่ได้ยินคำของเสิ่นเสวียน ทว่าชุดดำที่ปกคลุมอยู่ยังคงทำให้เขามองไม่เห็นว่ามีหน้าตาเป็อย่างไร
“คนที่สอง? ดูเหมือนจะมีคนตั้งเป้าหมายไว้เหมือนกับข้า! ว่าแต่คนแรกเป็ใคร”
“คนแรกคือข้าเอง”
เสียงภายในโลงศพดังขึ้นอีกครั้ง
“นี่คือเหตุผลว่าทำไมข้าถึงเลือกเ้า”
“ดูเหมือนข้าต้องขอบคุณท่านด้วย” เสิ่นเสวียนปรายตามองไปทางโลงศพสีดำ ตอนนี้เขาชักอยากเห็นแล้วว่าคนในโลงศพหน้าตาเป็อย่างไร
“เฮอะ! วันนี้พวกเ้าทั้งสองต้อง!-กลาย!-เป็!-จุณ!”
ตอนที่คนชุดดำกล่าวออกมาสี่คำสุดท้าย เหมือนว่าเขากัดฟันไปด้วย
และแน่นอนว่าเขามีสิทธิ์ที่จะกล่าวเช่นนี้ พลังยุทธ์ขั้นจักรพรรดิ ไร้ศัตรูในที่นี้ แม้แต่คนที่ยังเข้ามาไม่ถึงเ่าั้ก็ยังไม่มีพลังถึงขนาดนี้
“ให้เ้าจัดการเลยแล้วกัน ข้าเชื่อมั่นว่าเ้าทำได้”
เสียงจากในโลงศพดังขึ้นในหูของเสิ่นเสวียน ขณะเดียวกันก็มีเสียงเล็กๆ ดังออกมาด้วย เสียงเหล่านี้บอกถึงวิธีการใช้งานเกราะเกล็ดทอง
แต่ตอนที่เขายังไม่ทันได้หลอมรวมสิ่งของเหล่านี้เลย มิติเบื้องหน้าพลันแปรเปลี่ยนไป เมื่อมองเห็นได้อีกครั้งเขาก็เข้าไปอยู่ในโลกสีเขียวแห่งหนึ่งแล้ว
ต้นไม้สูงเสียดฟ้ามากมายเรียงรายกันอยู่เบื้องหน้า ที่พื้นปกคลุมไปด้วยหญ้าเขียวขจี กระทั่งมีสัตว์ตัวน้อยวิ่งเล่นอยู่ด้วย เป็ภาพบรรยากาศที่เปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวา
“ออกมาเถอะ แค่นี้ทำอะไรข้าไม่ได้หรอก”
เสิ่นเสวียนยืนอยู่ตรงกลาง หลังจากครุ่นคิดอย่างละเอียด เขาจึงกล่าวออกมาอย่างเกียจคร้าน
หลังจากสิ้นเสียงของเสิ่นเสวียน รอบๆ ไม่มีใครปรากฏตัวออกมาเลย ได้ยินเพียงเสียงดังกรอบแกรบจากในป่า
สวบ!
งูสีเขียวตัวใหญ่กระโจนออกมาจากป่า พลันอ้าปากกว้างจู่โจมใส่เขา
งูั์พุ่งเข้าหาเขา จึงเตะฝ่าเท้าไปด้านหลังเล็กน้อยแล้วเคลื่อนที่ไปทางซ้าย หลบหลีกการโจมตีของงูไปได้ งูั์จ้องเสิ่นเสวียนที่เคลื่อนที่หลบไปด้านข้างด้วยแววตาสงบนิ่งระคนเสียดาย ทว่าในขณะนั้นเอง เสิ่นเสวียนยกมือขึ้นทั้งสองข้างแล้วคว้าเข้าที่คอของงูั์
งูั์ตัวนี้ออกแรงอย่างสุดกำลัง ดวงตาโตที่เหมือนกับกระพรวนทองแดงของมันเริ่มมีเส้นเืปูดโปนออกมา ร่างกายใหญ่โตสะบัดกลับมาจากด้านหลัง พันร่างของเสิ่นเสวียนเอาไว้แน่น
เสิ่นเสวียนในตอนนี้สวมเกราะเกล็ดทองอยู่ พลังป้องกันตัวแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมไม่น้อย แต่พลังของงูั์กลับแข็งแกร่งมากอย่างน่าประหลาด ทำให้เกราะบนร่างของเขาเริ่มมีรอยแตกร้าวเกิดขึ้นไม่หยุด
พลังโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดของงูั์ นอกจากการฉกกัดแล้วคือการรัดของมันนั่นเอง และพลังเช่นนี้เทียบได้กับผู้ฝึกตนที่แข็งแกร่งกว่าเสิ่นเสวียนมาก ยากจะเอาชีวิตรอดไปได้
แต่นั่นคือการโจมตีใส่คนอื่น ไม่ใช่เสิ่นเสวียน
เซียนพเนจรเก้าด่านเคราะห์ที่เคยเทียบได้กับจักรพรรดิเซียน ผ่านประสบการณ์การต่อสู้มาอย่างโชกโชน ก่อนที่จะโดนงูรัดเขาได้เตรียมพร้อมเอาไว้แล้ว แม้จะโดนงูรัดแล้ว แตมือของเขาจับอยู่ที่ตำแหน่งเจ็ดชุ่นของงูั์
เสิ่นเสวียนที่เดิมทีไม่ได้ถืออะไรเอาไว้ พลันเกิดคลื่นพลังมิติสั่นไหว แล้วกระบี่ัคำรามก็ปรากฏขึ้นในมือของเขา
ทันทีที่ศาสตราวิเศษขั้นปฐีปรากฏขึ้น เสียงัคำรามพลันดังกึกก้องไปทั่วทั้งป่า สำนึกกระบี่ที่น่ากลัวไหลเวียนอยู่รอบๆ ร่าง งูั์แววตาฉายความหวาดกลัวออกมาทันทีที่ััได้ถึงสำนึกกระบี่ มันรับรู้ได้ว่าอันตรายกำลังเข้าประชิดตัว อยากที่จะหนีออกไป
ทว่าเสิ่นเสวียนไม่ปล่อยให้มันมีโอกาสได้หนี
ขวับ!!!
เสียงแหวกอากาศดังขึ้น กระบี่ัคำรามในมือของเสิ่นเสวียนฟันเข้าไปยังตำแหน่งเจ็ดชุ่นของงูั์
หากเพียงแค่ฟันลงไปเฉยๆ คงไม่เป็อะไร ทว่าอัญมณีบนกระบี่ัคำรามกลับแสดงพลังดูดกลืนออกมา และกลืนกินพลังชีวิตของงูั์เข้าไปอย่างบ้าคลั่ง
นี่คือพลังดูดกลืนที่เป็เอกลักษณ์เฉพาะตัวของอัญมณีเผ่าอนธการ ก่อนหน้านี้งูหน้าผีก็โดนวิธีเดียวกันนี้ เห็นได้ชัดว่างูั์ตัวนี้น่าสังเวชยิ่งกว่า มันโดนโจมตีเข้าที่จิติญญาโดยตรง ทำให้ร่างกายใหญ่โตคลายออกและหมดเรี่ยวแรงลงไปเรื่อยๆ กระทั่งเริ่มแห้งเหี่ยว
งูั์ตัวนี้มีธาตุไม้แต่กลับแข็งแกร่งมาก พลังชีวิตที่แข็งแกร่งถูกดูดเข้าไปในกระบี่ัคำรามอย่างบ้าคลั่ง
จุดที่เด่นที่สุดของธาตุไม้ก็คือเปี่ยมไปด้วยพลังชีวิต แต่เพราะพลังโดนกลืนกินเข้าไปอย่างรุนแรงทำให้จุดเด่นนี้ไม่ปรากฏขึ้นเลย
หากเป็เช่นนี้ต่อไป งูั์ตัวนี้จะโดนดูดพลังเข้าไปจนเหลือแต่หนังหุ้มกระดูกหรือเปล่าขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น
“ข้ากำลังขาดพลังธาตุไม้อยู่พอดี เยี่ยมจริงๆ”
เสิ่นเสวียนยิ้มออกมา กระบี่ัคำรามในมือยังคงกลืนกินงูั์อย่างบ้าคลั่ง ไม่ว่างูั์จะดิ้นรนอย่างไรก็หนีจากการควบคุมของเขาไม่ได้เลย
งูั์เห็นว่าหนีไม่ได้และอาจโดนกลืนกินเข้าไปจริงๆ พลังรุนแรงพลันปะทุออกมาจากคอของงูั์ ทำให้หัวของมันหลุดกระเด็นไปในพริบตา ทันใดนั้นหัวที่หลุดกระเด็นก็กลับกลายเป็ร่างมนุษย์ร่างหนึ่ง
คนชุดดำ!
เมื่อครู่นี้คนชุดดำแปลงกายเป็งูั์ เดิมทีเขาคิดจะสังหารเสิ่นเสวียน คิดไม่ถึงว่าจะตกหลุมพรางของอีกฝ่าย
“เป็ท่านเองหรือ ข้าก็คิดอยู่ว่าใครกัน”
เสิ่นเสวียนมองคนชุดดำที่ตัดหัวหนีออกไปพร้อมกับยิ้มน้อยๆ ราวกับเห็นเด็กหนุ่มข้างบ้านคนหนึ่ง
ร่างไร้ิญญาของงูั์ในมือขาดหัวไปแล้ว มันจึงสลายไปอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็รากไม้ท่อนใหญ่ท่อนหนึ่ง
“ไม่เลวเลยทีเดียว เ้าอยู่ในโลกของข้า ยังสามารถใช้ประโยชน์ได้อีก ไม่เลว”
คนชุดดำสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วกล่าวกับเสิ่นเสวียน คล้ายว่ากำลังกล่าวชื่นชมเสิ่นเสวียน แต่ในน้ำเสียงเคล้าความหวาดกลัวอยู่เล็กน้อย
เด็กคนนี้จำเป็ต้องถูกกำจัดทิ้ง
หากเก็บไว้อาจเป็ภัยในภายหน้า
“ความสามารถของท่านยอดเยี่ยมยิ่งนัก พลังแท้จริงของท่านน่าจะเหนือกว่าตอนนี้อีกใช่ไหม”
เสิ่นเสวียนกล่าวถาม
“ไม่ผิด นี่เป็เพียงร่างเปลือกนอกของข้าเท่านั้น เป็อย่างไร คิดจะภักดีต่อข้าบ้างหรือยังล่ะ”
“ข้าสามารถมอบสิ่งที่ผู้เฒ่าจี๋เล่อให้เ้าไม่ได้ ทั้งอำนาจ สตรี ล้วนเป็ของเ้า”
คนชุดดำเริ่มชักจูงเสิ่นเสวียน ด้วยฐานะของเขาแล้ว เื่เหล่านี้ไม่ใช่เื่ยากเลย
“อยากให้ข้าทำอย่างไร” เสิ่นเสวียนถาม
“ขอเพียงเ้ารับคำสั่งจากข้าเพียงคนเดียว ข้าจะให้เ้าเป็รองเพียงแค่คนเดียว แต่เหนือกว่าทุกคน”
ไม่ง่ายเลยที่คนชุดดำจะกล่าวเช่นนี้กับใคร แสดงให้เห็นว่าเขาให้ความสำคัญต่อเสิ่นเสวียนมากแค่ไหน
“ได้ฟังแล้วก็รู้สึกยอดเยี่ยมมากเลยทีเดียว ทว่าข้าไม่ชอบเป็รองใคร”
เสิ่นเสวียนโยกรากไม้ทิ้งไป เขายืนอย่างสง่างามอยู่ตรงนั้น ประจันหน้ากับคนชุดดำ
“เช่นนั้นเ้าคิดเป็ศัตรูกับข้า?”
“เมื่อครู่ข้าไม่ได้บอกไปแล้วหรือ ข้าคิดเพียงสังหารท่านเท่านั้น”
เสิ่นเสวียนถือกระบี่ัคำราม กล่าวกับคนชุดดำเสียงเรียบ
ขั้นจักรพรรดิอาจแข็งแกร่งมาก แต่นั่นสำหรับคนอื่น ทว่ากับเขาที่เคยเห็นผู้บำเพ็ญเพียรขั้นะเป็เพียงมดตัวหนึ่งไม่ได้มีอะไรให้เขาสนใจขึ้นมาได้เลย สิ่งที่เขา้าคือความเคารพจากจิตใจ อีกฝ่ายแสดงเจตจำนงสังหารต่อเขาแล้ว เขาก็แสดงเช่นกัน
“น่าเสียดาย”
คนชุดดำส่ายหัวพลางก้าวเท้าออกไปหนึ่งก้าว
ในพริบตาที่ก้าวเท้าออกไป หญ้าเขียวขจีที่พื้นพลันงอกงามขึ้นอย่างรวดเร็ว และพันเกี่ยวเข้ากับขาของเสิ่นเสวียน จนลามขึ้นไปบนร่างกาย
เพียงพริบตาเดียวก็สามารถทำให้เขาถูกตรึงอยู่กับที่ ขยับร่างกายไม่ได้เลย ทั้งยังโดนหนามเล็กๆ แทงเข้าไปอีกด้วย ทำให้พิษเริ่มเข้าสู่ร่างของเสิ่นเสวียน
ภายในถ้ำ นอกจากสองฝ่ายที่กำลังต่อสู้กันแล้ว บนโลงศพสีดำตอนนี้มีชายชราร่างผอมคนหนึ่งนั่งอยู่ ผมและเคราของเขาเป็สีขาว ร่างกายเลือนรางเป็เพียงร่างิญญา
ใจกลางถ้ำ ตรงตำแหน่งที่เสิ่นเสวียนยืนอยู่ก่อนหน้านี้มีภาพวาดหนึ่งลอยอยู่ แสดงให้เห็นว่าเป็โลกสีเขียวที่เสิ่นเสวียนเข้าไปอยู่ในตอนนี้
“นานแล้วที่ไม่ได้เห็นเด็กมีพร์เช่นนี้”
ชายชราลูบเคราเลือนรางพลางยิ้มแล้วกล่าว