“ซางจื่อ ไปเอายาบรรเทาอาการบวมมา” ซูเฟยซื่อกล่าวจบ ก็เดินไปข้างหน้าช่วยพยุงจือฉิน “เื่วันนี้ทำให้เ้าคับข้องใจแล้ว”
ขอบตาของจือฉินพลันแดงเรื่อ รีบยกมือปาดน้ำตา “ไม่คับข้องใจเลยสักนิด เดิมห้องของคุณหนูก็มิอาจให้ใครเข้าออกตามสบาย จือฉินเป็บ่าวของคุณหนู เพียงทำสิ่งที่ตนเองสมควรทำเท่านั้นเองเ้าค่ะ”
ไม่ร้องไห้ฟ้องร้อง ไม่ขอผลงาน เป็สาวรับใช้ที่ดีคนหนึ่งจริงๆ ซูเฟยซื่อพยักหน้าชื่นชม นำเงินก้อนหนึ่งจากอ้อมแขนใส่ไว้ในมือของจือฉิน “ใบหน้าดวงนี้ไม่รู้ว่าสักกี่วันจึงจะยุบบวม เ้านำเงินไปซื้อของอร่อยมากินเถิด สักครู่ข้าค่อยให้ซางจื่อเอาผงไข่มุกไปให้เ้า”
รู้ว่าใบหน้าของจือฉินนี้ถูกตีเพราะนาง นางต้องรักษาให้หายดี
ต้องปฏิบัติอย่างดีต่อผู้ที่ซื่อสัตย์ นั่นเป็หลักในการปฏิบัติต่อผู้คนของนาง
“คุณหนู ท่านดีกับบ่าวแบบนี้ บ่าว...” จือฉินซาบซึ้งจนน้ำตาคลอ
จือฉีที่ยืนอยู่ข้างๆ ยิ่งอิจฉาจนตาแดงก่ำ ผงไข่มุก? นั่นไม่ใช่ไข่มุกล้ำค่าที่บดเป็ผงหรอกหรือ
ไม่ต้องพูดถึงคนทั่วไป แม้แต่คุณหนูครอบครัวขุนนางก็ใช่ว่าจะมีใน ตอนนี้ซูเฟยซื่อถึงกับมอบมันเป็รางวัลให้จือฉินใช้ นางตระหนกจากเหตุการณ์เมื่อครู่จนวิปลาสไปแล้วหรือ?
สมบัติล้ำค่าขนาดนี้ถึงกับมอบให้สาวใช้?
ซูเฟยซื่อตบไหล่ของจือฉินเบาๆ “ที่ผ่านมาข้าไม่เคยปฏิบัติอย่างขาดความยุติธรรมต่อคนที่ซื่อสัตย์กับข้า วันนี้ทำได้ดี นี่เป็สิ่งที่เ้าสมควรได้รับ”
เมื่อได้ยินอย่างนั้น จือฉีรีบก้าวไปข้างหน้า แกล้งทำท่าห่วงใย “ใช่เ้าค่ะ วันนี้ทำให้บ่าวใกลัวแทบตาย โชคดีที่ท่านอ๋องเก้าพันปีมาทันเวลา มิฉะนั้นยี่สิบไม้กระดานใหญ่นั้นตีลงไป จือฉินไม่ตายก็พิการเ้าค่ะ”
คิดเอาใจนาง? สายเกินไปหรือเปล่า! ซูเฟยซื่อหยักมุมปากโค้งขึ้นเบาๆ “จือฉิน เ้าออกไปก่อน ข้าจะฝากซางจื่อส่งของบางอย่างให้แก่เ้า”
“เ้าค่ะ” จือฉินถึงกับปิดปากด้วยความซาบซึ้ง สองเท้าก้าวถอย คิดว่าตนติดตามเ้านายถูกคนแล้ว
จือฉีเห็นแบบนี้ อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว จือฉินได้ถอยออกไปพักผ่อน แล้วนางล่ะ?
หรือว่างานในเรือนทั้งหมดให้นางทำคนเดียว!
ทว่าเสียงของซูเฟยซื่อพลันดังขัดความคิดของนาง “จือฉี”
จือฉีรีบเงยหน้าขึ้นอย่างขันแข็ง “คุณหนู ท่านมีเื่อะไรขอเพียงบัญชาเถิดเ้าค่ะ”
หรือซูเฟยซื่อจะมอบรางวัลให้จือฉินเสร็จ แล้วมอบรางวัลให้นาง? คิดมาถึงตรงนี้ ในใจจือฉีมีความคาดหวังขึ้นมาหลายส่วน
เมื่อซูเฟยซื่อเห็นใบหน้าเพ้อฝันของอีกฝ่ายเช่นนี้ ก็อดลอบยิ้มเ็าในใจไม่ได้ “ทั้งนี้เพราะข้าเป็เหตุทำให้ใบหน้าของจือฉินต้องมีแผล ก่อนที่ใบหน้าของนางจะหายดี งานในเรือนก็มอบให้เ้าแล้ว”
ยอมผิดใจต่อบุรุษดีกว่าขัดใจคนถ่อย
คนแบบนี้จือฉีควรค่อยๆ ‘จัดการ’ อย่าต้อนให้นางเหมือนหมาจนตรอกที่จะะโออกมาทำเื่อะไรได้
ความคาดหวังต่อรางวัลที่จะได้รับพลันสลายไป ทว่ายังกลับได้รับงานกลับมาเป็เท่าตัว ใบหน้าดวงน้อยของจือฉีกลายเป็หมองลงในชั่วพริบตา
“อะไร? ไม่เต็มใจหรือ? ก็แน่ล่ะ ตอนนี้ข้าไม่ได้เป็คนปกครองครอบครัวของจวนอัครมหาเสนาบดีแล้ว หรือข้าควรไปคุยกับท่านพ่อว่า ให้ท่านย้ายเ้าไปที่อื่นดีเล่า?” ซูเฟยซื่อแกล้งทำเป็ใจดี
จือฉีฟังก็ตื่นตระหนก
ถึงแม้ซูเฟยซื่อจะไม่ได้รับความโปรดปรานสักเท่าไร แต่ดีร้ายอย่างไรก็เป็คุณหนูของจวนอัครมหาเสนาบดี ไยจะยินยอมให้สาวใช้เล็กๆ คนหนี่งมาดูถูกได้
ถ้าซูเต๋อเหยียนรู้ว่านางมีจิตใจแบบนี้ มีหรือที่เขายังไม่ไล่นางออกไป
คิดถึงตรงนี้ นางรีบสั่นศีรษะกล่าว “เป็ไปได้อย่างไร? ได้รับใช้คุณหนูเป็โชคดีของจือฉี เมื่อครู่ข้าเพียงกังวลเกี่ยวกับใบหน้าของจือฉินเท่านั้น ไม่รู้ว่าจะทิ้งรอยแผลเป็ไว้ด้วยไหม”
ถ้าทิ้งรอยแผลเป็ไว้นั่นก็ย่อมดีที่สุด!
“ไม่ต้องห่วง มีข้าอยู่ต้องไม่ปล่อยให้หน้าของจือฉินทิ้งรอยแผลเป็ไว้เด็ดขาด” ดูเหมือนมองทะลุสิ่งที่จือฉีคิด ซูเฟยซื่อกล่าวด้วยน้ำเสียงเ็า
จือฉีกลืนน้ำลาย “ถ้าคุณหนูไม่มีอะไรอีก เช่นนั้นบ่าวขอตัวลาก่อนนะเ้าคะ?”
“อืม” ซูเฟยซื่อไม่คิดพัวพันกับนางอีก หันหลังเดินเข้าไปในห้อง
ตลอดทั้งบ่ายทุกคนไม่เห็นซางจื่อ กระทั่งหลังจากอาหารเย็น นางจึงส่งยากับผงไข่มุกไปให้จือฉินแล้วกลับเข้าไปในเรือน “คุณหนูเ้าคะ ทุกอย่างเตรียมพร้อมเสร็จสรรพแล้ว ท่านคาดว่าจะไปเมื่อไรเ้าคะ?”
“ตอนนี้” ซูเฟยซื่อหรี่ตากล่าวอย่างเ็า
สองคนเร่งฝีเท้าลอบออกจากเรือนอย่างรวดเร็ว ซางจื่อได้เตรียมรถม้ารอไว้ที่ซอยเล็กนอกจวนตั้งนานแล้ว
ทันทีที่พวกเขาขึ้นรถม้า สารถีก็ได้ขับรถไปยังคุกมืดแห่งหนึ่งของตงฉ่างทันที
นี่เป็สถานที่ที่ซูเฟยซื่อให้ซางจื่อไปยืมจากอวี้เสวียนจี
ทั้งนี้จวนอัครมหาเสนาบดีไม่ได้เป็ถิ่นของนาง การไต่สวนพิจารณาคดีนักโทษจำเป็ต้องใช้การเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ มีความเสี่ยงถูกผู้คนล่วงรู้
“คุณหนู เรามาถึงแล้วเ้าค่ะ” ซางจื่อพยุงซูเฟยซื่อเข้าไปอย่างคุ้นเคย
นางเคยเป็สาวใช้ข้างกายของอวี้เสวียนจี คุกมืดแห่งนี้นางได้ติดตามมาหลายครั้ง จึงไม่แปลกถิ่น
เปิดประตูออก เพียงเห็นชายวัยกลางคนคนหนึ่งนอนขดตัวอยู่บนกองฟาง
เขาถูกคนมัดขึงกางแขนขา ในปากยัดผ้า ดวงตาถูกคลุมปิด
ลำพังดูจากเสื้อผ้าของเขาก็สามารถจดจำได้ เป็หมอที่วินิจฉัยว่านางแซ่หลี่ตั้งครรภ์
ซูเฟยซื่อนั่งลงบนเก้าอี้ต่อหน้าหมอ ทั้งให้ซางจื่อเทน้ำแก้วหนึ่งให้นาง จึงค่อยๆ เอ่ยปาก “เอาผ้าปิดหน้าเขาออก ปิดตาไว้แบบนี้เขาจะพูดว่าอะไรได้”
เมื่อผ้าปิดตาเปิดออก ในที่สุดหมอก็เห็นคนตรงหน้าได้ชัดเจน ดูครานี้ อดไม่ได้ที่จะตะลึงอึ้งไป
เพียงเห็นซูเฟยซื่อนั่งต่อหน้า ในชุดกระโปรงยาวสีฟ้าอ่อนงามสูงส่ง ผิวผ่องเป็ยองใยขาวกว่าหิมะ ตาดำทั้งคู่เป็ประกายดุจแก้วใสไร้มลทิน แม้ใบหน้าจะไร้อารมณ์ แต่ก็ยังให้คนรู้สึกถึงท่าทีสง่างามเป็พิเศษ
“มองข้าพอแล้วหรือยัง?” ซูเฟยซื่อขยับริมฝีปาก แต่ละคำล้วนเย็นะเื
ฟังจนหมออดไม่ได้ที่จะตัวสั่นเทิ้ม พลันนึกถึงสิ่งที่นางแซ่หลี่เคยย้ำเขาไว้ เกี่ยวกับเื่ของซูเฟยซื่อ
ไม่คาดว่าหญิงสาวเล็กๆ คนหนึ่งจะมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับคนที่โหดร้ายอำมหิตได้?
ถ้าเป็เมื่อก่อน เขาคงไม่เชื่อ แต่ตอนนี้...
ไม่เชื่อไม่ได้แล้วด้วย!
เห็นหมอไม่ได้สนใจซูเฟยซื่อมากอย่างที่คิด ซางจื่อตรงไปข้างหน้าก็เตะใส่เขาไปคราหนึ่ง
ลูกเตะตรงถูกอกซ้ายของหมอพอดี ปวดจนร้องครางฮือๆ ออกมา
เขารีบคลานลุกคุกเข่าต่อหน้าซูเฟยซื่อ โขกศีรษะเอาเป็เอาตาย ราวกับคิดขอร้องให้ซูเฟยซื่อไว้ชีวิต
ซูเฟยซื่อมองซางจื่อแวบหนึ่ง ซางจื่อเข้าใจความหมายทันที เอื้อมมือไปดึงสิ่งของในปากหมอออกมา
หมอได้รับการปลดปล่อยก็รีบเอ่ยปาก “คุณหนูสาม นี่ท่านหมายความว่าอย่างไร? ที่นี่คือที่ใด? ทำไมท่านถึงพาข้าน้อยมาที่นี่ มีเป้าหมายอะไร?”
“เ้าถามคำถามมากมายต่อข้าในคราเดียว แล้วข้าควรตอบอย่างไร?” ซูเฟยซื่อเลิกคิ้วกล่าวพลาง
ท่าทีสบายๆ ของซูเฟยซื่อผิดกับความว้าวุ่นของเขาอย่างเห็นได้ชัด หัวใจของหมออดไม่ได้ที่จะยิ่งสับสน “คุณหนูสาม ข้าน้อยได้ทำผิดล่วงเกินต่อท่านตรงไหน ถ้าใช่ ข้าน้อยขออภัยชดเชยตามมารยาทต่อท่าน แต่ว่าที่นี่...”
“ที่นี่เป็อย่างไรเล่า? ข้าเห็นแก่ว่าเ้าเป็ผู้มีคุณูปการอันยิ่งใหญ่ต่อจวนอัครมหาเสนาบดี จึงได้พาเ้ามา ถ้าไม่ใช่เพราะเ้าละก็ ลูกในครรภ์ของแม่ใหญ่ ไหนเลยจะปลอดภัยจนถึงตอนนี้?” น้ำเสียงของซูเฟยซื่อยิ่งมายิ่งเฉียบขาด เท้าพุ่งเตะไปบนร่างของหมออย่างแรงคราหนึ่งแล้ว
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้