ปีนี้ซูอันมีอายุสี่ขวบครึ่ง เด็กในวัยนี้สามารถเข้าใจบางเื่ได้แล้ว
เขาร่างกายอ่อนแอมาั้แ่เกิด ไม่สามารถวิ่งเล่นเหมือนกับเด็กคนอื่นๆ ในหมู่บ้าน เวลาส่วนใหญ่ของซูอันมักจะอยู่ที่บ้านเงียบๆ อยู่คนเดียวเบื่อๆ ก็ชอบเดินสำรวจสิ่งต่างๆ รอบตัว เมื่อสั่งสมเป็เวลานาน ความสามารถในการทำความเข้าใจของเขาจึงค่อนข้างสูงกว่าเด็กในวัยเดียวกัน
แต่การข่มขู่และความรุนแรงที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าจากหลิงเมิ่งก็ช่วยกระตุ้นในสิ่งนั้นเช่นกัน
เขาพอจะเข้าใจเื่ที่เกิดขึ้นในครอบครัว่หลายเดือนที่ผ่านมา พี่สาวที่เหมือนปีศาจคนนั้นไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆ ของพ่อแม่ ตอนนี้พ่อแม่ที่คลอดพี่สาวคนนั้นออกมาจริงๆ ได้มาตามหาและพาเธอไปจากที่นี่
ในเวลานั้นคงไม่ต้องบอกว่าซูอันมีความสุขมากแค่ไหน
ถึงแม้จะรับรู้ในส่วนนี้ แต่ความทรงจำของเขายังคงอยู่ภายใต้เงาของหลิงเมิ่ง ตอนนี้แม้ว่าตัวหลิงเมิ่งจะจากไปแล้ว แต่ความทรงจำเกี่ยวกับเธอยังหลงเหลืออยู่ เมื่อมองประตูห้องที่คุ้นเคย ความกลัวก็สะท้อนออกมา เขาทำตามกฎที่หลิงเมิ่งตั้งไว้โดยไม่รู้ตัว
จนเมื่อมีเสียงอ่อนโยนเอ่ยกับเขาว่า ปีศาจร้ายจากไปแล้ว จะไม่มีทางกลับมาอีก และจะไม่สามารถรังแกเขาได้อีกแล้ว
ก้อนเมฆสีดำทะมึนที่ปกคลุมอยู่ในหัวใจก็สลายหายไป เมื่อเงยหน้าเขาก็เห็นรอยยิ้มอ่อนโยนบนใบหน้าสะสวย
ซูอันรู้สึกอบอุ่นในหัวใจ
“เขาไปแล้ว…จริงๆ ใช่ไหม”
สามคำหลังที่เอ่ยออกมาช่างแ่เบา แต่ซูอินก็ยังได้ยินอย่างชัดเจน
ซูอินพยักหน้าอย่างจริงจัง
“ใช่ ไปแล้ว”
ถึงแม้เด็กชายตัวน้อยจะไม่ได้เอ่ยอะไร แต่การแสดงออกของเขารวมถึงสิ่งที่เธอรู้จักเกี่ยวกับหลิงเมิ่ง ซูอินก็พอจะคาดเดาได้ว่าหลิงเมิ่งเคยทำอะไรไว้บ้าง
เมื่อชาติก่อนที่เธอถูกสองแม่ลูกตระกูลหลิงกดขี่จนชีวิตเจอทางตัน เธอคาดหวังว่าจะมีใครสักคนออกมาสนับสนุนเธอ ต่อให้เป็แค่คำพูดประโยคเดียวก็คงมอบความแข็งแกร่งทางจิตใจให้ได้ไม่น้อย
แต่มันกลับไม่มี…
ไม่มีเลยสักคน…
เมื่อได้กลับชาติมาเกิด ในที่สุดเธอก็ดิ้นรนเพื่อออกจากชั้นรังไหมที่หนาทึบ ครั้นออกมาได้แล้วจึงใช้ชีวิตใหม่อีกครั้ง เมื่อใช้ใจสื่อใจทำให้เธอรู้ดีว่าเด็กชายตัวน้อย้าอะไร ถึงแม้จะเจอกันแค่่เวลาสั้นๆ แต่ไม่ว่าจะเป็ลักษณะภายนอกที่คล้ายคลึงกัน หรือแม้แต่ประสบการณ์ที่ได้พบ ก็ทำให้เธอเกิดความรู้สึกที่แตกต่างออกไปกับน้องชายแท้ๆ คนนี้
เธอยินดีให้การสนับสนุนเขา
“หลังจากนี้หากเธอกล้ามารังแกอันอันอีก พวกเราจะรวมพลังกันและจัดการไล่เธอไป!”
ซูอินกำหมัดพร้อมเอ่ยด้วยท่าทีมุ่งมั่น
แววตาของเด็กชายตัวน้อยเป็ประกาย
หลังจากที่เคยถูกความหวาดกลัวและความรู้สึกหดหู่ใจบดบังดวงตา ตอนนี้มันได้เปล่งประกายระยิบระยับ ทำให้คนที่มองรู้สึกมีความสุข
ซูอินยื่นมือออกไปอีกครั้ง “เข้าไปเอาของขวัญกับพี่ ดีไหม”
ต่อให้ความสามารถในการเข้าใจเื่ต่างๆ ของซูอันจะแข็งแกร่งเพียงใด แต่เขาเป็เพียงเด็กอายุสี่ขวบครึ่งคนหนึ่ง ยังไม่ได้เรียนรู้ด้านความวิตกกังวลและการวิเคราะห์เหตุการณ์ต่างๆ ได้เหมือนกับผู้ใหญ่
เด็กส่วนใหญ่มีนิสัยไร้เดียงสา ถึงแม้ก่อนหน้านี้จะได้ยินลูกพี่ลูกน้องอย่างเล่อเล่อพูดถึงพี่สาวคนนี้ด้วยวาจาแย่ๆ แต่สมองน้อยๆ ของเขาก็ยังไม่สามารถวิเคราะห์และสรุปเื่ราวได้ทั้งหมด ั้แ่พบหน้าจนถึงตอนนี้ พี่สาวคนใหม่แสดงท่าทีอ่อนโยนกับเขามาตลอด ไม่เพียงแค่พูดว่าจะให้ของขวัญ แต่ยังให้คำมั่นสัญญาว่าหากหลังจากนี้เจอกับพี่สาวปีศาจคนนั้น ก็จะคอยให้การสนับสนุน ช่วยเขาจัดการ
โดยเฉพาะในข้อสุดท้ายที่เอ่ยออกมา คือความปรารถนาในใจลึกๆ ของซูอันมาตั้งนานแล้ว เมื่อวันนี้ถูกนำออกมาพูด ทำให้เขารู้สึกว่าพี่สาวคนใหม่คนนี้ดีที่สุดในโลก!
สัญชาตญาณของเขามีชัยเหนือเหตุผลอย่างรวดเร็ว เขาไม่แสดงท่าทีลังเลอีกต่อไป มือเล็กๆ ยื่นไปจับนิ้วก้อยของอีกฝ่ายอีกครั้ง
เ้าตัวน้อยเริ่มยอมรับเธอแล้ว!
เมื่อสามารถรับรู้ความรู้สึกในส่วนนี้ ในใจของซูอินก็มีความสุข เวลานี้เธออยากขอบคุณหลิงเมิ่ง หากไม่ใช่เพราะหลิงเมิ่ง เธอคงไม่ได้รับการยอมรับอย่างรวดเร็วขนาดนี้
ประตูห้องเปิดออก ซูอินจูงมือเ้าตัวน้อยเข้าไปในห้อง
ตลอด่เช้าเธอยุ่งอยู่กับการเก็บข้าวของในห้อง ซึ่งตอนนี้เก็บเสร็จไปพอสมควรแล้ว ข้าวของของเธอถูกจัดไว้เรียบร้อย จัดเรียงแยกไว้ในลิ้นชักต่างๆ ้าวางแก้วน้ำ เครื่องเขียน ข้าวของต่างๆ ที่ซื้อมาให้ญาติพี่น้องในตระกูลซูเพื่อเป็ของขวัญการได้พบหน้ากัน
ในนั้นมีของที่จะให้สองสามีภรรยาตระกูลซูและเ้าตัวน้อย เธอได้แยกมันออกมาวางบนโต๊ะเขียนหนังสือ ตั้งใจว่ารับประทานอาหารเสร็จจะมอบของเหล่านี้ให้กับพวกเขา
ซูอินหยิบของชิ้นหนึ่งที่เป็กล่องสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ออกมา บนกล่องมีด้านหนึ่งเป็พลาสติกใส สามารถมองทะลุเข้าไปเห็นหุ่นยนต์ทรานส์ฟอร์เมอร์ส
“นี่เป็ของขวัญสำหรับอันอัน”
เธอคุกเข่าก่อนจะยื่นกล่องใบนั้นไปตรงหน้าเ้าตัวน้อย ดวงตาสีดำขลับของเขาจ้องมาที่กล่องของเล่นโดยไม่กะพริบ
ดูเหมือนไม่ต้องถามแล้วสินะว่าชอบหรือเปล่า
“แกะดูไหม”
ปฏิกิริยาที่ตอบกลับมาคือ เ้าตัวน้อยพยักหน้าราวกับไก่จิกข้าวเปลือก
“อันอันแกะเองไหม”
ซูอินเสนอ ก่อนจะเห็นเ้าตัวน้อยแสดงท่าทีลังเล ซึ่งก็พอจะคาดเดาได้ถึงปัญหาของเื่นี้
“ทำไม่เป็หรือ มา เดี๋ยวพี่สอน”
ในที่สุดเธอก็อดใจไม่ไหว ยื่นมือไปจับมือของเ้าตัวน้อย มือเล็กๆ ที่เธอจับนั้นเย็นเล็กน้อย และมือของเด็กก็มักจะนุ่มนิ่มเป็เอกลักษณ์ ภายใต้อากาศร้อนเช่นนี้ เธอรู้สึกดีเหมือนกำลังหยิบมาร์ชเมลโล่นุ่มนิ่มออกมาจากตู้เย็น
มือทั้งสองข้างของเธอจับมือเล็กๆ ทั้งสองข้างของน้องชาย ซูอินค่อยๆ สอนเขาทีละขั้นตอนว่าจะต้องแกะอย่างไร จากนั้นจึงหยิบหุ่นยนต์ทรานส์ฟอร์เมอร์สออกมาห้าตัว
“อันอันเก่งมาก”
หุ่นยนต์ทรานส์ฟอร์เมอร์สทั้งห้าตัวตั้งอยู่ระหว่างเท้าของสองพี่น้อง หุ่นยนต์ห้าสีมีรูปร่างท่าทางไม่เหมือนกัน หากดูตามคู่มือ หุ่นยนต์ทั้งห้าตัวนี้สามารถแปลงเป็รถยนต์ห้าแบบไม่ซ้ำกัน
“เดี๋ยวพี่จะใช้มายากลเปลี่ยนรูปร่างมัน ดูดีๆ นะ”
ซูอินหยิบหุ่นยนต์ตัวสีแดงขึ้นมาแล้วััเบาๆ หมุนส่วนหัว และแขนขารวมเข้าด้วยกัน จากนั้นมันก็เปลี่ยนร่างเป็รถซูเปอร์คาร์ เฟอร์รารี่
น่าทึ่งมาก!
เ้าตัวน้อยตกตะลึง!
“อันอันอยากลองทำดูไหม”
เด็กน้อยมองเธอ จากนั้นมองหุ่นยนต์ทรานส์ฟอร์เมอร์ส จนสุดท้ายก็อดไม่ได้ที่จะหยิบตัวสีเหลืองที่อยู่ตรงหน้าขึ้นมา
จากนั้นเขาก็ทำบางอย่างที่ทำให้ซูอินประหลาดใจ
เขาทำตามขั้นตอนที่ซูอินทำเมื่อสักครู่ มือเล็กๆ หมุนหัว และแขนขาของหุ่นยนต์รวมเข้าด้วยกัน ลองทำแค่สองสามครั้ง ไม่นานหุ่นยนต์ทรานส์ฟอร์เมอร์สก็เปลี่ยนเป็รถตักสีเหลือง
นี่…
เื่แบบนี้สำหรับผู้ใหญ่ถือว่าง่าย แต่เขาเป็เพียงเด็กน้อยอายุสี่ขวบครึ่งที่ไร้เดียงสาคนหนึ่งเท่านั้น
ดูครั้งเดียวก็ทำได้แล้ว สามารถทำตามขั้นตอนต่างๆ ได้อย่างราบรื่นและไม่ติดขัดเลยสักนิด
“เร็วมาก เก่งมาก”
คำชื่นชมในครั้งนี้ซูอินกล่าวออกมาจากใจ
“อินอิน กินข้าวได้แล้วจ้ะ”
ด้านนอกเสียงของเมิ่งเถียนเฟินดังขึ้นเรียกให้ไปรับประทานอาหาร เธอเก็บท่าทีใและมองเ้าตัวน้อย
“ต้องไปกินข้าวแล้ว กินข้าวเสร็จ…จะนอนกลางวันไหม หลังจากนอนกลางวัน พวกเรามาเล่นด้วยกันอีกดีไหม”
อันที่จริงซูอันที่ไม่เคยเล่นของเล่นที่สนุกขนาดนี้ยังอยากอยู่เล่นต่อ
แต่เขาเป็เด็กว่าง่าย เมื่อได้ยินพี่สาวเอ่ย เขาก็อดทนและพยักหน้ารับ
เด็กคนนี้ช่างว่านอนสอนง่าย ซูอินนึกไปถึงภาพเหตุการณ์หลายวันก่อนที่เห็นตอนทำงานที่ร้านชานม ในปากของเด็กน้อยมีอมยิ้ม เด็กคนนั้นอยากซื้อไอศกรีมอีก เมื่อผู้ปกครองไม่ซื้อให้ก็แผดเสียงร้องไห้ดังกลางถนน
“หุ่นยนต์พวกนี้พี่ให้นะ เอากลับไปที่ห้องของอันอันก่อนไหม แต่ว่าต้องกินข้าวเยอะๆ เป็เด็กดี นอนกลางวันถึงจะสามารถเล่นได้อีกนะ”
ซูอันไม่สนใจข้อกำหนดเบื้องต้นสองข้อที่เธอกล่าว ความสนใจของเขามุ่งไปที่ “พี่ให้นะ” แค่สามคำ
ของเล่นที่น่าสนุกเช่นนี้ พี่สาวยกให้เขาจริงหรือ!
ความหวาดกลัวที่พี่สาวคนก่อนทิ้งเงาดำไว้ อีกทั้งคำพูดน่ากลัวของลูกพี่ลูกน้องอย่างเล่อเล่อได้สลายหายไป ทำให้ในใจของซูอันเกิดการรับรู้ใหม่ขึ้นมา
พี่สาวคนใหม่เป็คนดี!