ขนตายาวกระพือเล็กน้อย ใต้เงาขนตาคือดวงตากลมสีดำ
ตาสวยมากๆ!
เดี๋ยวนะ ทำไมคุ้นตาแบบนี้
ซูอินเช็ดมือจนสะอาด เมื่อนำผ้าขนหนูกลับไปแขวน มองตนเองในกระจก คิ้วเหมือนกันเป๊ะ หากขนตาของเธอยาวอีกสักหน่อย ตาสีดำกว่านี้อีกสักนิด ก็จะเหมือนกันเปี๊ยบ
ตัวตนของเด็กน้อยหน้าใสซื่อถูกเปิดเผยแล้ว
เธอใช้ชีวิตมาสองชาติภพ แต่นี่เป็ครั้งแรกที่ได้เจอกัน สำหรับน้องชายแท้ๆ คนนี้ทำให้ซูอินรู้สึกเหมือนได้ยินเสียงฟ้าร้องดังก้องอยู่ในหู
นี่คือเหตุผลที่ทำให้ชาติก่อนสองสามีภรรยาตระกูลซูทอดทิ้งเธอ จากคำพูดของหลิงเมิ่ง กล่าวว่าเด็กคนนี้เอาแต่ใจ นิสัยเสีย สองสามีภรรยาตระกูลซูที่ “ให้ความสำคัญกับบุตรชายมากกว่าบุตรสาว” ต้องหมดเงินจำนวนมากไปกับบุตรชายคนนี้ และปฏิบัติกับหลิงเมิ่งที่เป็บุตรสาวด้วยความรู้สึกที่ไม่สู้ดีนัก
เมื่อกลับชาติมาเกิดทำให้เธอรู้ว่าคำพูดของหลิงเมิ่งเชื่อถือไม่ค่อยได้ ทุกครั้งที่เจอสองสามีภรรยาตระกูลซู เธอเป็ฝ่ายเอ่ยปากถามถึงน้องชายตัวน้อย ซึ่งสิ่งที่เธอได้รู้ราวกับหนังคนละม้วน น้องชายคนนี้อ่อนแอั้แ่เกิด มักจะเข้าโรงพยาบาลบ่อยๆ
สถานการณ์ทั้งสองอย่างที่ได้รับรู้ไม่ได้แย้งกับความเป็จริงสักเท่าไร ดังนั้นแม้ว่าเธอจะเลือกซื้อของเล่นให้น้องชายคนนี้ที่ไม่เคยพบเจอกันมาก่อน แต่ในใจก็ยังคงรู้สึกสองจิตสองใจ
หากเป็เด็กที่สุขภาพอ่อนแอจริงๆ แต่ดันมีนิสัยเอาแต่ใจ ก็คงเกิดความบาดหมางกับเธอจนต้องแย่งเอาของขวัญคืนมาแน่ๆ
แต่ในวันนี้แค่ได้พบหน้า เธอก็ละทิ้งสิ่งที่เคยได้ยินมาจนหมดสิ้น
การจะรู้จักใครสักคนหนึ่งจริงๆ ไม่ควรทำความรู้จักผ่านคำพูดของคนอื่น โดยที่ตัวเธอควรััและทำความรู้จักด้วยตนเอง
การเจอกันครั้งแรกซูอินยังไม่มั่นใจในนิสัยของเ้าตัวน้อยคนนี้ แต่เธอกลับรู้สึกบางอย่าง
แท้ที่จริงในชาตินี้มีคนที่หน้าตาคล้ายเธอเช่นนี้เชียวหรือ นี่คือน้องชายแท้ๆ ของเธอที่มีบิดามารดาคนเดียวกัน มีความสัมพันธ์กันทางสายเื
ความรู้สึกเช่นนี้ยากจะหาคำมาอธิบาย
เธออดไม่ได้ที่จะเดินไปเบื้องหน้าหนึ่งก้าวแล้วคุกเข่าให้ความสูงอยู่ระดับเดียวกับเด็กชาย จากนั้นเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “อันอันใช่ไหม”
ซูอันยืนอยู่หน้าธรณีประตู ใช้ก้นเอนตัวมาเบื้องหน้า มือเล็กๆ จับประตูไว้แน่นจนนิ้วที่เปื้อนดินโคลนเป็สีแดงระเรื่อ
พี่สาวคนนี้สวยจัง รอยยิ้มก็อ่อนโยน
เด็กมักจะอ่อนไหวง่าย ความประทับใจแรกซูอันคิดว่าพี่สาวแท้ๆ ของตนเองไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด ดูเหมือนจะเป็คนที่นิสัยดี อีกทั้งใบหน้า…ก็ให้ความรู้สึกคุ้นเคยมาก ราวกับได้เจอกันมาแล้วหลายครั้ง แต่ก็นึกไม่ออกว่าเคยเจอกันที่ไหน
พี่สาวคนก่อนทิ้งความทรงจำที่น่าหวาดกลัวหยั่งรากลึกไว้ให้เขา เล่อเล่อซึ่งเป็ลูกพี่ลูกน้องบอกเขามาตลอดว่าพี่สาวคนนี้ไม่ดีอย่างไรบ้าง แต่ในวันนี้เมื่อได้เห็นรอยยิ้มที่อ่อนโยนและนุ่มนวลราวกับพระอาทิตย์แสนอบอุ่นในฤดูใบไม้ผลิของเดือนมีนาคม ก็ทำให้ซูอันรู้สึกสับสน
ในเวลานั้นเขาแทบจะลืมความทรงจำที่ไม่ดีนักก่อนหน้านี้ไปจนหมด เขาเกาะอยู่ที่ประตู อดไม่ได้ที่จะพยักหน้าตอบ
“อื้อ”
ซูอินคุกเข่าอยู่ข้างประตู จากมุมนี้ทำให้เธอเห็นหน้าเด็กชายตัวน้อยได้อย่างชัดเจน
ผิวของเขาค่อนข้างเหลือง แก้มไม่จ้ำม่ำเหมือนที่เด็กวัยนี้ควรจะมีและดูค่อนข้างอ่อนแอ ในส่วนนี้เกี่ยวข้องกับอาการป่วยของเขา ใบหน้ามีส่วนเหมือนกันเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ ส่วนที่แตกต่างอีกสิบเปอร์เซ็นต์คือสัดส่วนและโครงสร้าง
แม้จะไม่ได้น่ารักเหมือนกับความหมายเดิมของเ้าซาลาเปาน้อยแบบที่ใช้กันมาในอดีต แต่ก็ดูเป็เ้าซาลาเปาน้อยที่บอบบาง
ง่ายๆ คือน่ารักจนแทบะเิ
ในใจของซูอินตอนนี้พยายามเก็บอาการ เพราะกลัวว่าหากแสดงท่าทีเป็มิตรมากเกินไปจะทำให้เ้าซาลาเปาน้อยใเอาได้ เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อค่อยๆ ปรับอารมณ์
“อันอัน พี่คือพี่สาวนะ”
“พี่สาว”
เ้าตัวน้อยมีความรู้สึกดีมากขึ้น ดวงตาสีนิลกลมโตยังคงมองอยู่อย่างนั้น มือเล็กๆ วางอยู่บนริมฝีปาก ทำให้ดูน่ารักมากยิ่งขึ้น
เรียกพี่สาวแล้ว!
ความรู้สึกที่เหมือนเขื่อนกำลังจะแตก ซูอินพยายามอย่างหนักเพื่อหักห้ามใจไม่ให้ยื่นมือไปจับเ้าตัวน้อย
“ใช่ พี่เอาของขวัญมาให้อันอันด้วยนะ”
“ของขวัญเหรอ”
ซูอันกล่าวซ้ำโดยไม่รู้ตัว
เขาจำได้ว่าเมื่อปีก่อนที่เลี้ยงฉลองวันเกิดให้พี่สาว มีเพื่อนหลายคนมอบของขวัญให้เธอ กระดิ่งลมสวยๆ สมุดบันทึก ห่อด้วยกระดาษห่อของขวัญสวยๆ ทุกชิ้น ้าผูกโบ วันนั้นพี่สาวดีใจมาก เปิดของขวัญทุกชิ้นต่อหน้าเขา แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความรู้สึกเสียดาย
“เฮ้อ นายมันร่างกายไม่แข็งแรง วันข้างหน้าก็อาจจะไม่ได้ไปโรงเรียน ไม่มีเพื่อนเล่น ไม่มีเพื่อนให้ของขวัญ!”
ครั้งนั้นเขารู้สึกทุกข์ใจหลายวันมาก
แต่พี่สาวคนใหม่ที่เพิ่งกลับมาบ้านกลับบอกว่ามีของขวัญให้เขาหรือ
แววตาของซูอันเป็ประกาย
เ้าตัวน้อยน่ารักมากขึ้นกว่าเดิม ซูอินยื่นมือไปหาเขา “อยากดูไหม”
จากสายตาที่ให้กำลังใจของเธอ เ้าตัวน้อยลดมือที่วางอยู่บนริมฝีปาก ยื่นมือไปช้าๆ แล้วค่อยๆ คว้านิ้วก้อยของเธอไว้
มือเล็กจับนิ้วก้อยของเธอเบาๆ มือนั้นค่อนข้างเย็น มอบความรู้สึกสบายเป็พิเศษใน่หน้าร้อนเช่นนี้
ซูอินยกริมฝีปากอย่างอดไม่ได้ เธอลุกขึ้นก่อนจะพาเขาเดินไปข้างหน้า เมื่อเห็นว่ากำลังจะเข้าไปในห้องของเธอ มือเล็กๆ นั้นก็ปล่อยออก
เธอหันศีรษะไปมองโดยไม่รู้ตัว เธอจับความรู้สึกหวาดกลัวได้จากแววตาของเ้าตัวน้อย
“เป็อะไรหรือเปล่า”
เมื่อมองดูก็พบว่าเพิ่งจะเดินมาถึงหน้าประตูเองไม่ใช่หรือ
“ห้องของพี่สาว เข้าไม่ได้!”
ซูอันเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนแอ พี่สาวเคยเตือนเขาไม่ใช่แค่ครั้งเดียวด้วยว่า หากกล้าโผล่หน้าเข้ามาในห้องของเธอ จะโยนเขาให้คนสติไม่ดีที่เดินอยู่หน้าทางเข้าหมู่บ้าน ถ้างอแงหรือฟ้องพ่อกับแม่ ก็จะเอาเขาไปขาย
พี่สาวหรือ
ซูอินตอบสนองอย่างรวดเร็วต่อสิ่งที่ได้ยิน พี่สาวที่หมายถึงคงเป็หลิงเมิ่งอย่างแน่นอน
ได้รู้จักกันมาสิบปีในชาติก่อน หลังจากเรียนจบชั้นมัธยมปลาย เธอใช้เวลาเจ็ดปีเต็มทำหน้าที่เป็แม่บ้านดูแลเื่กิน ดื่ม และเข้านอนของสามพ่อแม่ลูกตระกูลหลิง เธอแทรกซึมเข้าไปอยู่ในทุก่ชีวิตของหลิงเมิ่ง จึงรู้จักนิสัยใจคอดี ถึงแม้เด็กชายตัวน้อยจะพูดออกมาแค่เจ็ดคำ แต่ในหัวของเธอก็ปะติดปะต่อข้อมูลได้มากมาย
ในปีนั้นทางโรงพยาบาลติดชื่อที่ตู้อบทารกแรกเกิดในโรงพยาบาลผิด ทำให้เกิดการอุ้มบุตรผิดคนระหว่างเธอกับหลิงเมิ่ง ในฐานะเหยื่อที่ไม่มีความผิด ทำให้หลิงเมิ่งโกรธเกลียดเธอมาก
ก่อนที่เด็กชายตัวน้อยจะถือกำเนิด หลิงเมิ่งก็เป็บุตรสาวคนเดียวมาตลอด ได้ความรักและสิ่งของต่างๆ ในตระกูลซู แต่หลังจากที่น้องชายคลอด ไม่ใช่แค่ความรักที่ถูกแบ่ง แม้แต่เงินของครอบครัวก็ยังถูกแบ่งไปให้ความสำคัญกับการรักษาเขา ทำให้หลิงเมิ่งโกรธมาก
ในหัวของซูอินปรากฏคำพูดที่หลิงเมิ่งเคยกล่าวไว้เมื่อชาติก่อน สองสามีภรรยาตระกูลหลิงใช้เงินทั้งหมดไปกับน้องชาย แม้แต่วันเกิดของเธอก็ไม่สามารถซื้อเสื้อผ้าสวยๆ วันเกิดของเพื่อนก็ไม่สามารถให้ของขวัญที่เทียบเท่ากันได้…
ในความเห็นของเธอ ทุกคนเป็ครอบครัวเดียวกัน เมื่อมีคนป่วยทำให้ต้องกำหนดขอบเขตและเงินที่มีอยู่ นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นตามหลักของความถูกต้อง เป็เื่ที่สามารถเข้าใจได้
และยิ่งกับเด็กน่ารักแบบนี้ด้วย
แต่หลิงเมิ่ง…
ซูอินเข้าใจหลิงเมิ่งดี สิ่งที่อีกฝ่ายพูด ไม่ใช่เพราะเอาจิตใจที่คับแคบของตนเองไปใช้กับคนที่ใจกว้าง แต่คำพูดในชาติก่อนของหลิงเมิ่งก็เพียงพอแล้วที่จะพิสูจน์ทัศนคติของเ้าตัว
เมื่อชาติก่อนหลิงเมิ่งใช้ท่าทีเช่นนั้นปฏิบัติต่อเธอ…ด้วยความเข้าอกเข้าใจ เธอจะไม่มีทางปฏิบัติต่อเด็กชายตัวน้อยเช่นนั้นเด็ดขาด
จู่ๆ ซูอินก็รู้สึกปวดใจ เธอคุกเข่า มองเข้าไปในแววตาที่ไม่สามารถซ่อนความกลัวและความวิตกกังวลไว้ได้
“อันอัน พี่สาวคนก่อน…หลิงเมิ่ง ตอนที่เธออยู่ที่นี่น่าจะถูกเรียกว่า ซูเมิ่ง เธอคนนั้นไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆ ของพ่อกับแม่ ไม่ใช่พี่สาวแท้ๆ ของนาย เธอไปแล้ว และจะไม่มีทางกลับมาที่นี่อีก ไม่มีทางกลับมารังแกนายได้อีก พี่สัญญา”