“ท่านพี่ข้าภรรยาพูดไปหมดแล้ว เป็นังแพศยาซูมู่จื่อต่างหากที่เอาเหยาอวี้ไปซ่อนไว้ หมายใส่ความข้าภรรยา”โต้วเซียงหลันนึกลำพองใจมาโดยตลอด ว่าการมีบุตรสาวเป็ถึงหวงกุ้ยเฟยจะสามารถเป็โล่คุ้มภัยให้ตนเองได้ไม่ว่าจะกระทำผิดร้ายแรงแค่ไหน เหยาเจิ้นถิงย่อมไม่กล้าแตะต้อง มีเื่ของโหลวอวี้ซินเป็ตัวอย่างให้เห็นแต่ยามนี้นางกลับรู้สึกว่าตนเองประเมินสถานการณ์ผิดพลาดอย่างใหญ่หลวง เพียงแค่เห็นั์ตาแดงก่ำปานจะสูบเืกินเนื้อของเหยาเจิ้นถิงแข้งขาทั้งสองข้างก็อ่อนยวบ แทบลุกไม่ขึ้นเสียแล้ว
“คิดว่าเหล่าฟูไม่กล้าลงมือสังหารเ้าจริงๆล่ะสิ เมื่อวานมีดวงตาตั้งกี่คู่ที่เห็นว่าเ้าพาอวี้เอ๋อร์เข้าวัง แต่หลังจากนั้นกลับมีเ้าเพียงคนเดียวที่กลับมาถึงตอนนี้ยังคิดจะโยนบาปไปให้ซูมู่จื่ออีกหรือ โต้วเซียงหลัน เขาคือบุตรชายเพียงคนเดียวของเหล่าฟูเชียวนะ”ดวงตาแดงก่ำเต็มไปด้วยเส้นโลหิตพาดผ่านถลึงจ้องอย่างโกรธเกรี้ยว ยื่นมือหยาบกร้านออกไปเค้นบนลำคอของโต้วเซียงหลันอย่างแรงราวกับขาดสติ
“อึก...ทะ... ท่านพี่ ระ... รีบปล่อยมือ หากข้าภรรยาเป็อะไรไป ซะ... ซู่หลวนต้องไม่ปล่อยท่านไปแน่...”โต้วเซียงหลันตาเหลือกถลนจดจ้องผู้เป็สามีที่ดูน่ากลัวราวกับสัตว์ป่าที่ถูกกักขังมานานและเพิ่งถูกปล่อยออกจากกรงใบหน้าเริ่มกลายเป็สีม่วงคล้ำ
“หากเสียบุตรชายไปเหล่าฟูก็จะไม่เอานางไว้เหมือนกัน นึกว่าผู้อื่นรู้ไม่เท่าทันความคิดของเ้าหรือไงฮึโต้วเซียงหลัน! เ้าประเมินบุตรสาวตนเองสูงเกินไป ถ้านางเก่งกล้าจริง ป่านนี้คงขึ้นแท่นเป็หวงโฮ่วไปแล้วไหนเลยจะมาจมปลักอยู่แค่ตำแหน่งหวงกุ้ยเฟย เหล่าฟูจะให้โอกาสอีกครั้ง ส่งตัวอวี้เอ๋อร์มาแล้วข้าจะไว้ชีวิตเ้า มิเช่นนั้น...” เหยาเจิ้นถิงหรี่ตาแผ่กำจายรังสีดุดัน กำลังมือยิ่งเค้นที่ลำคอหนักขึ้น
“อึก...ปละ... ปล่อยข้า... ระ... เร็ว...” เสียงของโต้วเซียงหลันค่อยแ่ลงไปเรื่อยๆ ตาเหลือกจนพลิกกลับแล้วจู่ๆ ประตูห้องก็ถูกคนผลักเข้ามา เหยาอวี้วิ่งตื๋อเข้าไปด้านใน
ด้านหลังเหยาโม่หว่านยืนหน้านิ่งอยู่ที่ประตู แววตาเยียบเย็นดั่งถูกฉาบด้วยน้ำค้างเหมันต์ นางไม่คิดจะปล่อยให้โต้วเซียงหลันตายง่ายเกินไปเช่นนี้บัญชีแค้นจะต้องได้รับการสะสางอย่างสาสม
“อวี้เอ๋อร์อวี้เอ๋อร์ลูกพ่อ เ้าไม่เป็อันใดใช่หรือไม่ ประเสริฐ ช่างประเสริฐยิ่ง!” ทันทีที่เห็นบุตรชายมาปรากฏตัวเหยาเจิ้นถิงก็สลัดโต้วเซียงหลันออกไป รั้งตัวเหยาอวี้เข้ามากอดไว้แน่นในอ้อมอก ริมฝีปากที่เริ่มเห็นหนวดเครารางๆจุมพิตบนดวงหน้าน้อยไม่หยุด
เหยาโม่หว่านเห็นกระทั่งน้ำตาที่เอ่อคลอเบ้าของผู้เป็บิดาซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าเขารักบุตรชายคนนี้มากแค่ไหน
“แค่กๆแค่กๆ ๆ” ส่วนโต้วเซียงหลัน หลังจากถูกสะบัดลงไปกองที่พื้นก็พยายามสูดหายใจอย่างแรงสภาพดูน่าอนาถเป็อย่างยิ่ง แต่เพียงไม่ช้าสีหน้าก็กลับมาเป็ปรกติ
“หว่านเอ๋อร์คารวะบิดาเ้าค่ะ”หลังจากชมละครฉากเด็ดไปแล้ว เหยาโม่หว่านถึงก้าวเข้ามาในห้อง เดินมาหยุดที่เบื้องหน้าของเหยาเจิ้นถิง
“หว่านเอ๋อร์...เอ้อ...กระหม่อมถวายบังคมซู่ชินหวาง และพระสนมเหยาเฟยพ่ะย่ะค่ะ” เหยาเจิ้นถิงมองเหยาโม่หว่านด้วยแววตาประหลาดใจแต่เมื่อเห็นเย่จวินชิงเดินเข้ามาด้วย ถึงรู้สึกตัวว่าตนเองทำเสียกิริยา จึงรีบปล่อยตัวเหยาอวี้แล้วก้าวเข้ามาทำความเคารพ
“หว่านเอ๋อร์จะรับการคารวะจากบิดาได้อย่างไรรีบลุกขึ้นมาเถิด” เหยาโม่หว่านเห็นเช่นนั้น ก็กระวีกระวาดเข้ามาประคองเหยาเจิ้นถิงขึ้นมา
“เ้ายังจะยืนบื้ออยู่ทำไมไม่รีบไปยกน้ำชามาต้อนรับเหยาเฟยกับซู่ชินหวางอีกหรือ” เหยาเจิ้นถิงถลึงตา พลางตะคอกใส่โต้วเซียงหลัน
“เหยาโม่หว่านเหตุใดเหยาอวี้จึงไปอยู่กับเ้าได้ เ้าเป็คนพาเขาไปซ่อนไว้ใช่หรือไม่? พูดมาสิ” ทันทีที่เห็นเหยาอวี้กับเหยาโม่หว่านโต้วเซียงหลันก็รู้แจ้งในทันที มิน่าเล่าไฉ่อิ๋งถึงหาตัวเหยาอวี้ไม่พบ ที่แท้เป็เพราะนังเด็กแสบคนนี้นี่เอง
“พี่หว่านเอ๋อร์ไม่ได้ทำอย่างนั้นเสียหน่อยเป็นางกำนัลที่ชื่อไฉ่อิ๋งต่างหากที่คิดกลั่นแกล้ง นางจะผลักอวี้เอ๋อร์ให้ตกลงไปในทะเลสาบอวี้เอ๋อร์กลัวถึงต้องวิ่งหนี หลังจากนั้นจึงไปพบกับพี่หว่านเอ๋อร์โดยบังเอิญ ท่านพ่อพี่หญิงสามดูแลอวี้เอ๋อร์เป็อย่างดีเลยขอรับ” เหยาอวี้กระตุกชายเสื้อของบิดา เอ่ยวาจากลั้วยิ้มอย่างบริสุทธิ์ไร้เดียงสา