เล่มที่ 10 บทที่ 281 นรกอเวจี
ดูประหลาดมากทีเดียว…
ภายใต้สถานการณ์คับขันเช่นนี้ สองั์เนตรของหลินเฟยกลับเปล่งประกายขึ้นเรื่อยๆ…
เพราะหลินเฟยพบว่า…
การต่อกรกับปีศาจเยาหวังสองตนพร้อมกันเช่นนี้ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ตอนแรกเขาเองก็ยังประหลาดใจอยู่บ้างเหมือนกัน แต่หลังจากพินิจดูชั่วครู่ ก็เข้าใจขึ้นมาทันที เพราะปีศาจเยาหวังทั้งสองตนเสียสติไปแล้ว จึงไม่ต่างอะไรกับสัตว์ป่าทั่วๆไป แม้จะจ้องทำร้ายหลินเฟย แต่พวกมันก็ทำร้ายกันเองด้วยเช่นกัน ไม่ได้มีความเข้าขากันเลยแม้แต่น้อย …
เมื่อคิดได้ดังนั้น หลินเฟยก็ใจกระตุกขึ้นมา
‘ใช่แล้วล่ะ บัดนี้เ้าปีศาจสิงโตและปีศาจงูได้คลุ้มคลั่งไปแล้ว จึงเหลือเพียงการต่อสู้แบบดิบเถื่อนราวกับสัตว์ป่าเท่านั้น ไม่เหลือสติสัมปชัญญะแม้แต่น้อย…’
‘ในเมื่อเป็เช่นนี้ มันจะเขมือบใครเข้าไปก็คงจะมีค่าเท่ากันสินะ’
“เช่นนั้นข้าจะให้ของกำนัลชิ้นโตแก่พวกเ้าก็แล้วกัน!” เมื่อสิ้นเสียง หลินเฟยก็ปลดปล่อยคัมภีร์โครงกระดูกออกมา จากนั้นม่านรัตติกาลสีดำก็เข้าไปปิดกั้นปีศาจเยาหวังซึ่งเป็ครึ่งอสรพิษครึ่งคนที่กำลังจะสำแดงร่างจริงทันที พริบตาถัดมาหลินเฟยก็ปลดปล่อยปราณกระบี่ไท่อี๋ออกมาด้วยเช่นกัน ก่อนจะสะบั้นไปที่ด้านหลังของเ้าปีศาจสิงโตไฟอย่างรุนแรง…
พริบตานั้นเองก็เกิดเป็รอยแผลลึกกว่าหนึ่งจ้าง ทำให้เืแดงสดไหลทะลักออกมาราวกับสายน้ำ แถมยังสาดกระเซ็นไปทั่วบริเวณอีกด้วย…
และแล้วก็เป็อย่างที่คิด เพราะว่าชั่วขณะที่เืทะลักออกมานั้น เ้าปีศาจครึ่งอสรพิษครึ่งคนก็ถูกกลิ่นคาวเืเข้มข้นกระตุ้นเข้าทันที ั์ตางูของมันก็พลันหดแคบลง กลิ่นอายรอบตัวปั่นป่วนรุนแรง หลังจากคำรามออกมาเสียงดัง มันก็ดิ้นร่างให้สลัดหลุดออกจากพันธนาการคัมภีร์โครงกระดูก ก่อนจะพุ่งไปทางสิงโตไฟอย่างรวดเร็ว…
“โฮก!”
หลังจากนั้นเ้าปีศาจสิงโตไฟก็ร้องโหยหวนด้วยความเ็ป เมื่อครู่นี้มันเพิ่งจะถูกหลินเฟยสะบั้นกระบี่ใส่กลางหลังไปหยกๆ บัดนี้ยังถูกปีศาจเยาหวังอีกตนกัดย้ำเข้าไปที่เดิมอีก ก่อนที่มันจะถูกฉีกกระชากจนเนื้อหลุดติดออกมา เ้าปีศาจสิงโตเ็ปจนเปลวไฟที่รายล้อมอยู่เกิดะเิรุนแรงขึ้น ขณะเดียวกันก็เกิดเปลวไฟร้อนแรงพวยพุ่ง ก่อนที่มันจะหันไปโจมตีปีศาจอสรพิษอย่างเอาเป็เอาตาย…
“ใช่จริงๆ ด้วย…”
และเวลานี้เองก็มีปีศาจเยาหวังที่มีรูปร่างคล้ายคเชนทร์ขนาดมหึมากำลังพุ่งทะยานเข้ามา เพราะกลิ่นคาวเืคละคลุ้งอยู่นั่นเอง ราวกับว่ามันอดใจไม่ไหวที่จะเข้ามาร่วมวงด้วย…
จากนั้นปีศาจเยาหวังทั้งสามก็พากันตะลุมบอนอย่างอุตลุด…
หลินเฟยจึงถือโอกาสนี้ ถอนตัวออกมาจากวงการต่อสู้นี้ และขณะเดียวกันเขาก็ปลดปล่อยปีศาจกระบี่ออกมา ก่อนจะเอ่ยด้วยขึ้นด้วน้ำเสียงร้อนรน
“ไปเร็ว!”
ปีศาจกระบี่ผ่านการหลอมด้วยเคล็ดหลอมห้าธาตุอู่ตุ้นมา มันจึงสามารถหายตัวไปไหนมาไหนได้อย่างไร้ร่องรอย แถมยังมีความเร็วที่มากกว่าปกติ ดังนั้นเพียงครู่เดียว มันก็สามารถพาหลินเฟยบินห่างออกมาได้นับสิบลี้…
เมื่อเห็นว่าหนีห่างออกมาได้สักพักแล้ว หลินเฟยจึงออกคำสั่งให้ปีศาจกระบี่หยุดพักหายใจชั่วครู่…
ทว่า…
ยังไม่ทันได้หายใจหายคอ สายตาก็พลันเห็นเงาร่างอันคุ้นเคยปรากฏขึ้นมาเสียก่อน…
เงานั้นมีรูปร่างเตี้ย แถมใบหน้าก็ยังมีเหลี่ยมมุมชัดเจน
“จิงต้าไห่งั้นหรือ?”
หลินเฟยหยุดชะงักไปชั่วครู่…
บัดนี้จิงต้าไห่ดูสะบักสะบอมเป็อย่างมาก ทั่วทั้งร่างก็ชุ่มโชกไปด้วยเื เสื้อผ้าอาภรณ์ขาดวิ่นเหมือนผ่านศึกษาหนักมาอย่างโชกโชน หลินเฟยครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ จึงเอ่ยเรียกจิงต้าไห่ที่ยังอยู่ห่างออกไปไกลทันที
หลังจากจิงต้าไห่เดินเข้ามาๆ หลินเฟยจึงพาอีกฝ่ายไปยังที่ลับตาก่อนจะถามออกมา
“เกิดอะไรขึ้น เมื่อวานยังดีๆอยู่เลยไม่ใช่หรือ?”
“อย่าถามเลย…” จิงต้าไห่ตอบด้วยสีหน้าย่ำแย่ เป็นานกว่าจะเอ่ยเสริมออกมา
“เมื่อวานหลังจากที่แยกจากกัน ข้าก็มุ่งหน้าไปทางเหนือ แล้วก็ได้เข้ากับเจอศิษย์สำนักหนานิจริงๆ แถมยังเป็ศิษย์พี่เ้าสำนักอีกด้วย…”
“เช่นนั้นก็เป็เื่น่ายินดีไม่ใช่หรือ?”
“น่ายินดี?” จิงต้าไห่ได้ยินดังนั้นก็ยิ้มขมขื่นออกมา ก่อนจะส่ายหน้าและเอ่ยตอบ
“การเจอศิษย์พี่เ้าสำนักถือเป็เื่น่ายินดีก็จริง แต่ข้ากลับเจอสองต่อเลยนี่สิ…”
“…” หลินเฟยได้ยินเช่นนั้นก็ชะงักลง
‘สองงั้นหรือ?’
‘หมายความว่าอย่างไรกัน?’
“ตอนนั้นข้าตกตะลึงจนทำอะไรไม่ถูก เพราะศิษย์พี่เ้าสำนักทั้งคู่มีพลังและศาสตราวุธเหมือนกันเป๊ะๆ ข้าแยกไม่ออกเลยสักนิดว่าคนไหนคือตัวจริง คนไหนคือตัวปลอม…”
“หลังจากนั้นล่ะ?”
“ตอนข้าไปถึงหุบเขาตอนเหนือก็เห็นศิษยพี่เ้าสำนักทั้งสองคนกำลังต่อสู้กันอย่างเอาเป็เอาตาย ตอนแรกข้าตั้งใจจะเอ่ยห้าม แต่กลับไม่สามารถทำอะไรได้เลย เพราะไม่รู้ว่าควรจะช่วยคนไหนดี พวกเขาต่างก็เอ่ยว่าตนเองคือตัวจริง ส่วนอีกคนเป็มารปีศาจที่แปลงกายมา ทว่าข้ากลับแยกไม่ออกเลยแม้แต่น้อย…”
“บ้าไปแล้ว…” หลินเฟยได้ยินดังนั้นก็รู้สึกปวดหัวขึ้นทันที
‘บ้าเอ๊ย เ้าสำนักหนานิที่เหมือนกันอย่างกับแกะสองคน แถมยังมีพลังและศาสตราวุธเหมือนกันอีก ถ้าแยกได้ก็แปลกแล้วล่ะ…’
“ข้ายังไม่ทัน0tแยกออกว่าใครเป็ใคร ศิษย์พี่เ้าสำนักอีกคนก็ถูกฆ่าตายเสียก่อน จากนั้นศิษย์พี่เ้าสำนักที่เหลือก็หันมามองข้าด้วยแววตาประหลาดพร้อมรอยยิ้ม…”
“จากนั้นเ้าก็หนีมางั้นหรือ?”
“หากไม่หนีแล้วจะทำอะไรได้ล่ะ?” จิงต้าไห่สวนกลับทันที
“ช่างเถอะ…” หลินเฟยตบบ่าจิงต้าไห่เบาๆ โดยไม่ได้พูดอะไรต่ออีก เพราะไม่ว่าใครที่ได้เจอเื่เช่นนี้ ก็คงมีอาการไม่ต่างกับจิงต้าไห่…
เป็เวลานานกว่าจิงต้าไห่จะเริ่มสงบสติอารมณ์ได้ หลังจากนั้นก็หันไปมองรอบๆและวกกลับมามองหลินเฟยอีกครั้ง ก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเป็กังวล
“เ้าว่าเื่นี้เกี่ยวกับโลงศพหินบนยอดเขาหรือเปล่า?”
“ข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกัน…” หลินเฟยเงยหน้ามองโลงศพหินที่ถูกแขวนอยู่บนยอดเขา บัดนี้โลงศพหินมีลำแสงสีแดงสาดส่องออกมาไม่หยุด เป็นาน ถึงได้เอ่ยออกมาอีกครั้งด้วยรอยยิ้ม
“แต่ว่าข้ารู้เื่บางอย่างมา…”
“อะไรงั้นหรือ?”
“คำตอบของปริศนาจะต้องซ่อนอยู่ที่ยอดเขาเป็แน่…”
“เช่นนั้น…” ขณะที่จิงต้าไห่กำลังจะเอ่ยตอบ จู่ๆใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนสีลง…
เพราะระหว่างที่ทั้งคู่กำลังพูดคุยกันอยู่นั้น จุดที่ห่างออกไปไม่ถึงร้อยลี้ก็มีไออสูรเข้มข้นพวยพุ่งขึ้นมา ก่อนจะรวมตัวกันกลายเป็เมฆดำจำนวนมาก และกำลังแพร่กระจายมาทางนี้…
“หนีเร็ว!” หลังจากผ่านการต่อสู้กับปีศาจเยาหวังทั้งสามตนแล้ว บัดนี้หลินเฟยก็รู้สึกขยาดกับเหล่ามารปีศาจในหุบเขาเป็อย่างมาก เมื่อเห็นเมฆดำกำลังเคลื่อนตัวเข้ามาก็หลินเฟยก็ราวกับนกตื่นเกาทัณฑ์ รีบพาจิงต้าไห้หนีทันที…
หลังจากนั้นทั้งคู่ก็เอาแต่หลบหนีปีศาจเยาหวังและอสุรกายกุ่ยหวัง และมุ่งหน้าไปทางยอดเขาอย่างเอาเป็เอาตาย…
นับว่าเป็การเดินทางที่ยากลำบากและยาวนานมากเลยทีเดียว…
เพราะหุบเขาแห่งนี้ได้กลายสภาพไม่ต่างกับนรกบนดิน ไม่มีกลิ่นอายแห่งชีวิตเลยแม้แต่น้อย ทุกที่ที่หลินเฟยและจิงต้าไห่ผ่าน ก็ล้วนเต็มไปด้วยคราบเืเจิ่งนอง และเศษซากมารปีศาจกระจัดกระจายไปทั่ว… มีทั้งปีศาจเยาหวัง อสุรกายกุ่ยหวัง และลูกสมุนมารปีศาจจำนวนมาก แทบจะเรียกได้ว่าคลุ้มคลั่งไปทั่วทั้งหุบเขาแล้ว ที่แห่งนี้มีแต่การเข่นฆ่ากลืนกินพวกพ้องเดียวกันราวกับนรกอเวจีเลยก็ว่าได้ เืเนื้อมากมายสาดกระเซ็นไปทั่วทั้งหุบเขา…
หลังจากเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลินเฟยก็นึกถึงคำพูดของนักพรตเฒ่าผู้เป็อาจารย์ขึ้นได้ทันที เพราะก่อนที่สิบสำนักใหญ่จะเข้ามายึดครอง พิภพซ่างจงก็มีลักษณะเช่นนี้เหมือนกัน มารปีศาจอยู่ร่วมกันก็จริง แต่กลับเข่นฆ่ากลืนกินกันเอง ราวกับสนามประลองที่เต็มไปด้วยความโเี้ ความรุนแรงและคาวเื…
---------------------------------------------------------------------------------------------------------