บทที่ 56 จูบทางอ้อม
รูปร่างของเ้าของร่างเดิมไม่ได้สูงมากนัก ประมาณร้อยหกสิบสี่เิเ ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับกลางค่อนข้างสูงในประชาคมชีหลี่แห่งนี้
ยังไงก็ตาม เธอมีทรวดทรงองค์เอวที่สวยงาม อกเป็อก เอวเป็เอว สะโพกผาย เพราะทำงานหนักมาั้แ่เด็กและไม่รู้จักบำรุงผิว มือและใบหน้าจึงค่อนข้างหยาบกร้าน แต่พื้นฐานดี
ที่น่าอัศจรรย์ที่สุดคือแค่เธอบำรุงผิวเพียงเล็กน้อย ผิวก็กลับมานุ่มชุ่มชื้นอย่างไม่น่าเชื่อ
ชุดกระโปรงที่เธอใส่เป็แบบเรียบง่าย แต่สิ่งที่แตกต่างคือการจับจีบ่เอว ทำให้เห็นเอวคอดที่งดงาม กระโปรงยาวคลุมเข่า เผยให้เห็นเรียวขาสวยที่ขาวเนียน น่ามองเป็พิเศษ
เมื่อเธอออกมา ลู่จิ่งซานก็รู้สึกเสียใจ
ถึงแม้ว่าลู่จิ่งซานจะยังไม่รู้ว่าความไม่ชอบใจเล็กๆ น้อยๆ ในใจเขานั้นคืออะไร และอยากจะบอกให้เธอเปลี่ยนชุด แต่ชุดนี้ก็ไม่ได้โป๊อะไร
ตรงกันข้ามมันเรียบร้อยมาก ไม่ได้ดูโดดเด่น แต่เป็เพราะคนที่สวมใส่มันนั้นโดดเด่นเกินไป
“สวยจังเลย” จ้าวลี่เจวียนดึงมือสวี่จือจืออย่างดีใจ “์ คุณแม่ ดูสิว่าจือจือของพวกเราสวยเหมือนนางฟ้าที่เดินออกมาจากภาพวาดเลยไหมคะ?”
นี่คือคำชมที่ดีที่สุดของผู้หญิงบ้านนอกที่ไม่รู้หนังสืออย่างจ้าวลี่เจวียนจะสามารถพูดออกมาได้
“สวยจริงๆ” คุณนายลู่พูดด้วยรอยยิ้ม
เมื่อเห็นท่าทางของหลานชายก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้นไปอีก
ลู่จิ่งซานถูกเลี้ยงดูมากับมือ สิ่งอื่นเธอไม่กล้าพูด แต่สีหน้าหึงหวงที่ปรากฏบนใบหน้าของหลานชายในตอนนี้ ทำให้หญิงชรารู้สึกสนุก
เ้าเด็กนี่ บอกว่าสนใจคนเขาแท้ๆ แล้วยังจะปากแข็งอีก
ฮึ่ม! ไม่เชื่อคนแก่ เดี๋ยวได้เสียใจไปตลอดชีวิต
สาวงามขนาดนี้ ถ้าไม่รีบคว้าไว้ ระวังจะมานั่งร้องไห้เสียใจทีหลัง
คุณนายลู่ตัดสินใจเติมเชื้อไฟ “ถ้าเดินออกไปข้างนอก จะไม่ดึงดูดสายตาหนุ่มๆ สักหลายคนได้เหรอ”
ลู่จิ่งซาน “...” แล้วคุณย่าเป็อะไร? เป็คนที่คอยแทงใจดำเขาโดยเฉพาะเหรอ?
“สวยจริงๆ เหรอคะ?” สวี่จือจือขยับตัวไปมา แล้วเอียงคอถามลู่จิ่งซาน “หืม?”
หัวใจของลู่จิ่งซานเต้นผิดจังหวะ
“อืม” เขากล่าวอย่างสับสนเล็กน้อย
สวี่จือจือถามอย่างไม่แน่ใจอีกครั้ง “ฉันใส่แบบนี้ จะมีปัญหาอะไรไหม?”
“จะมีปัญหาอะไรได้?” หญิงชราพูดอย่างตำหนิ “หน้าที่ของเธอก็คือแต่งตัวให้สวยๆ เท่านั้นแหละ”
เธอมีหน้าที่หาเงินเลี้ยงครอบครัว ฉันมีหน้าที่สวยงาม? สวี่จือจือคิดถึงประโยคนี้ขึ้นมา
เขินจริงๆ
ลู่จิ่งซานเข็นจักรยานออกมาแล้ว เพราะวันนี้สวี่จือจือใส่กระโปรง เขาจึงตั้งใจใช้เท้าเหยียบพื้นเพื่อให้จักรยานตั้งตรงอยู่กับที่ รอจนสวี่จือจือนั่งเรียบร้อยแล้วจึงปั่นจักรยานออกไป
บ้านตระกูลลู่อยู่ใจกลางหมู่บ้าน ผู้คนที่พบเจอต่างก็มองทั้งสองคน
“จิ่งซานจะขี่จักรยานพาเมียไปไหนน่ะ?” มีคนทักทาย
“ไปทำธุระที่อำเภอหน่อยครับ” ลู่จิ่งซานตอบด้วยรอยยิ้ม
“วันนี้จือจือสวยจังเลย”
“ชุดกระโปรงตัวนี้สวยจริงๆ”
ผู้หญิงและสาวๆ ในหมู่บ้านกล่าวด้วยความอิจฉา
อันฉินพูดอย่างประชดประชัน “ถ้าสวมบนตัวย่วนย่วนคงจะสวยกว่านี้แน่นอน”
ยังไงก็ตาม เธอจะไม่ยอมรับว่าผู้หญิงบ้านนอกจะสวยกว่าสาวๆ ในเมืองอย่างพวกเธอได้ แต่ไม่มีใครสนใจคำพูดของเธอเลย
“ทั้งสองคนดูเหมาะสมกันจริงๆ” มีคนมองตามหลังแล้วพูดด้วยความชื่นชม
“เหมาะสมอะไรกัน” อันฉินกลอกตา “ไม่ใช่ว่ายังไม่ได้เข้าหอกันเหรอ? ใครจะรู้ว่าข้างในนั้นมันมีอะไรกันแน่”
“บางทีอาจจะเป็ของเหลือ...”
ซ่า!
เธอยังพูดไม่ทันจบก็ถูกใครบางคนสาดน้ำเย็นใส่
“กรี๊ด!” อันฉินกรีดร้อง เอามือปิดบังหน้าอก มองไปยังอีกฝ่ายอย่างไม่เชื่อสายตา “ย่วนย่วน เธอสาดน้ำใส่ฉันทำไม?”
“ปากไม่สะอาด ฉันช่วยเธอทำความสะอาดหน่อย” ฟางย่วนย่วนกล่าวอย่างเ็า
อันฉินโมโหแทบตา อีกฝ่ายพูดอะไร?!
“นั่นสิ” หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งมองอันฉินอย่างเยาะเย้ย “เธอเป็สาวเป็แส้ จะไปรู้ได้ยังไงว่าเขาเข้าหอกันหรือยัง? แถมยังเป็คนมีการศึกษาเสียด้วย”
ถุ้ย! ถ้าเป็ลูกสาวบ้านเธอ เธอคงตบปากไปแล้ว
เื่ส่วนตัวของสามีภรรยา อีกฝ่ายกลับเอามาพูดจาเหลวไหล เป็สาวเป็แส้แบบนี้ ไม่มียางอายบ้างเลยเหรอ?
“เมื่อกี้เห็นพวกเขาสองคนรักกันปานจะกลืนกิน ยังไงก็ต้องเข้าหอกันอยู่แล้ว” หญิงวัยกลางคนหัวเราะเยาะแล้วพูด “บางคนก็ชอบเอาเื่ที่ไม่ใช่ของตัวเองมาใส่ใจ”
อันฉินหน้าแดงก่ำ เอามือปิดหน้าแล้ววิ่งร้องไห้เข้าไปในศูนย์พักของยุวปัญญาชน
ลู่จิ่งซานจะไปที่ว่าการอำเภอ สวี่จือจือนั่งรอเขาอยู่ที่ห้องยาม
“เป็อะไรไปเหรอ?” เมื่อเขาออกมา เธอก็รู้สึกได้ว่าอารมณ์ของเขาไม่ค่อยดี
“ไม่มีอะไร รอผมนานไหม?” ลู่จิ่งซานกล่าว “เดี๋ยวจะพาไปกินอะไรอร่อยๆ”
สวี่จือจือไม่ได้พูดอะไร
ครู่ต่อมาก็ได้ยินลู่จิ่งซานพูดอย่างอึดอัด “ผมคงอยู่ที่บ้านได้อีกไม่นานแล้ว”
เมื่อวานนี้คนทำบัญชีของหมู่บ้านมาทำธุระที่อำเภอ ได้ฝากข้อความให้เขามาที่อำเภอวันนี้ บังเอิญว่าเขาก็มีเื่ต้องจัดการพอดีเลยมา แต่ไม่คิดว่าจะเป็โทรศัพท์จากกองทัพ และบอกให้เขากลับเข้าประจำการโดยเร็ว
“อ้อ” สวี่จือจือพยักหน้า เธอเตรียมใจไว้แล้วเลยไม่ได้รู้สึกอะไร
หลังจากทำธุระเสร็จ ทั้งคู่ก็ออกมาจากที่ว่าการอำเภอ เดินไปได้ไม่ไกลก็เห็นเหอเสวี่ยฉินถือของเดินออกมาจากตรอก เมื่อเห็นพวกเขาก็ใเล็กน้อย จากนั้นก็จ้องมองสวี่จือจืออย่างอาฆาตแค้น และชุดกระโปรงสวยๆ ที่เธอใส่อยู่
ลูกชายของเธอกำลังนอนเ็ปอยู่ที่โรงพยาบาล แต่คนสองคนนี้กลับเดินเล่นกันอย่างมีความสุข จะไม่ให้เธอโมโหได้ยังไง!
สวี่จือจือไม่ได้กลัวอีกฝ่าย โจวเป่าเฉิงกล้าที่จะทำตัวอันธพาลในหมู่บ้าน ส่วนใหญ่ก็เป็เพราะเหอเสวี่ยฉินเลี้ยงดูมาอย่างผิดๆ
“น้าเหอไปไหนมาเหรอคะ?” สวี่จือจือเดินเข้าไปถามด้วยรอยยิ้ม “โจวเป่าเฉิงเป็ยังไงบ้างคะ?”
นังแพศยา อะไรคือเป็ยังไง? นี่มันแทงใจดำเธอชัดๆ!
เหอเสวี่ยฉินโมโหจนแทบกระอักเื มองสวี่จือจืออย่างเ็าแล้วถือของเดินจากไป
“หล่อนไปแล้วเหรอ?” สวี่จือจือคิดว่าอย่างน้อยคงต้องทะเลาะกับเหอเสวี่ยฉินสักสองสามยก แต่ผลปรากฏว่าอีกฝ่ายกลับยอมแพ้ ทำให้เธอรู้สึกงุนงง ไม่เหมือนสไตล์ของเหอเสวี่ยฉินเลยนี่นา
“ไม่มีอะไรหรอก” ลู่จิ่งซานกล่าว “แต่ต่อไปคุณต้องระวังตัวหน่อย ผู้หญิงคนนี้เ้าเล่ห์เพทุบายมาก”
“อืมๆ” สวี่จือจือพยักหน้า “ถ้าหล่อนไม่มายุ่งกับฉัน ฉันก็ไม่มีเวลาไปสนใจพวกเขาหรอก”
ทุกครั้งพวกเขาเป็ฝ่ายเริ่มก่อนเสมอ จะให้ทนให้เขาทำร้ายฝ่ายเดียวได้ยังไง? ไม่ใช่สไตล์ของเธอสักหน่อย
ลู่จิ่งซานอยากจะลูบศีรษะของเธอ เธอเป็แบบนี้ก็ดี ไม่ยอมให้ใครมาเอาเปรียบ
“ไปกินข้าวกันเถอะ” เขากล่าว
“ฉันได้ยินมาว่ามีร้านบะหมี่เหอเล่า[1]เ้าอร่อยอยู่ตรงสี่แยกสถานีดับเพลิง ไปกินร้านนั้นกันเถอะ” สวี่จือจือกล่าว
“ได้สิ” ลู่จิ่งซานพยักหน้า
บะหมี่เหอเล่าในอำเภอเล็กๆ แห่งนี้ไม่เหมือนที่อื่น เส้นจะเหนียวมาก เครื่องทำบะหมี่เหอเล่าทำจากไม้ โดยนำเส้นใส่ในกระบอกทรงกระบอก คนนั่งบนท่อนซุงหยาบๆ แล้วกด เส้นก๋วยเตี๋ยวจะถูกบีบออกมาเป็เส้นเล็กๆ แล้วตกลงไปในหม้อน้ำเดือดด้านล่าง ต้มประมาณสามน้ำก็ตักขึ้นมาแช่ในน้ำเย็น แล้วเอาไปลวกในหม้อเดือดอีกครั้ง โรยหน้าด้วยใบกุยช่าย ราดด้วยน้ำซุป รสเปรี้ยวขึ้นมาเล็กน้อย ทำให้เจริญอาหาร
หลังจากกินเสร็จ สวี่จือจือก็มีเหงื่อผุดขึ้นมาตามหน้าผาก
สบายมาก!
ลู่จิ่งซานยื่นผ้าเช็ดหน้าให้เธอซับเหงื่อ ผ้าเช็ดหน้าของเขาสะอาดและพับอย่างเรียบร้อยเสมอ
“ขอบคุณนะ” สวี่จือจือซับเหงื่อ “เดี๋ยวฉันเอาไปซักแล้วคืนให้”
เมื่อก่อนเวลาออกไปข้างนอกเธอจะพกกระเป๋าใบเล็กๆ ใส่โทรศัพท์มือถือและกระดาษทิชชู แต่ั้แ่มาอยู่ที่นี่ โทรศัพท์มือถือและสิ่งอื่นๆ ก็ถูกตัดขาดไปหมดแล้ว
อีกอย่างร้านอาหารสมัยนี้ไม่มีทิชชูให้ ซับเหงื่อแล้วก็ต้องเช็ดปากด้วย
“ไม่เป็ไร เดี๋ยวผมเอาไปซักเอง” เขาพูดจบก็หยิบผ้าเช็ดหน้าจากมือเธอ เปิดออกแล้วใช้ด้านที่สะอาด
สวี่จือจือ “...”
เมื่อก่อนตอนอ่านนิยาย มักจะเจอฉากที่พระเอกดื่มน้ำจากแก้วที่นางเอกดื่ม แล้วนางเอกก็จะหน้าแดง รู้สึกเหมือนกำลังจูบทางอ้อม
ตอนที่อ่านถึงตรงนี้ เธอที่โสดมาั้แ่เกิดจะคิดว่า มีอะไรให้หน้าแดงกัน?
แต่ตอนนี้การใช้ผ้าเช็ดหน้าร่วมกันทำให้เธอหน้าแดงได้ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้รู้สึกเหมือนนางเอกนิยายที่กำลังจูบทางอ้อม แต่มันก็สนิทสนมกันเกินไปหน่อย...หรือเปล่านะ?
.............................
[1] บะหมี่เหอเล่า หมายถึง บะหมี่ประเภทหนึ่งของจีน มักพบในมณฑลเหอหนานและส่านซี เส้นบะหมี่ทำโดยใช้เครื่องกดแป้งให้ไหลผ่านรูเล็กๆ ลงไปต้มในน้ำเดือด ลักษณะเส้นจะหนาและเหนียวนุ่ม มักเสิร์ฟกับซุปเนื้อ น้ำซุปใส หรือราดด้วยซอสเข้มข้น แล้วแต่สูตรของแต่ละท้องถิ่น
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้