แม้กระทั่งนางก็ไม่ได้คาดคิดว่าครั้งนี้ซูจิ้งเถียนกับหลี่ฉีจะลงมืออวี้เสวียนจีต้องได้ยินจากสายลับองครักษ์กล่าวว่านางมีอันตรายจึงรุดมาทันทีมิฉะนั้นไหนเลยจะมาทันเวลาได้ขนาดนั้น
โชคดีที่เขาปรากฏตัวขึ้นมิฉะนั้นนางกับจือฉิน...
แต่ในเมื่อทั้งนางกับจือฉินต่างไม่เป็อะไรถ้าเช่นนั้นก็มีคนที่ต้องเป็แล้ว
ประกายคมกริบในดวงตาของนางแวบผ่านคราหนึ่งหันหลังอย่างรวดเร็วมองไปยังหลี่ฉีซึ่งนอนอยู่บนพื้นกับซูจิ้งเถียนที่เพิ่งรุดมาถึงพอดี
ขณะที่ซูจิ้งเถียนได้เห็นอวี้เสวียนจีมาถึงก็รู้แต่แรกว่าเื่นี้ต้องแย่แล้วตอนนี้ซูเฟยซื่อไม่เป็ไรตามคาดจริงๆ นางโกรธจนเกือบจะฉีกแขนเสื้อกระจุยเป็ชิ้นๆ
ต้องโทษหลี่ฉีถ้าเขาเคลื่อนไหวเร็วอีกนิด ต่อให้อวี้เสวียนจีรุดมาถึงก็ไม่มีประโยชน์อันใดแล้ว
แต่เื่มาถึงเวลานี้ยังมีอวี้เสวียนจีกับคนมากมายขนาดนั้นในที่เกิดเหตุ นางไหนเลยจะสามารถแสดงความเคียดแค้นออกมาได้?
นอกจากนี้ที่ซูเฟยซื่อโชคดีซ้ำๆจากการประสบภัยร้ายกลายเป็เื่ดี มีหลายครั้งล้วนเป็อวี้เสวียนจีลงมือช่วยเหลือทั้งสิ้น
ถึงแม้ว่านางจะไม่รู้ว่าระหว่างซูเฟยซื่อกับอวี้เสวียนจีมีความสัมพันธ์อะไรแต่ถ้านางสามารถคบหามีความสัมพันธ์อย่างดีกับอวี้เสวียนจีได้ ประโยชน์ที่ได้ไฉนจึงเป็เพียงของซูเฟยซื่อเท่านั้น?
คิดมาถึงตรงนี้ซูจิ้งเถียนสูดลมหายใจลึกๆ ทันที แกล้งทำเป็ร้อนใจวิ่งมาหาซูเฟยซื่อ “พี่สามพี่สามท่านไม่เป็ไรนะ?”
ไม่รอซูเฟยซื่อตอบนางรีบเดินไปตรงหน้าอวี้เสวียนจีก่อนคำนับให้ความเคารพครั้งหนึ่งอย่างสง่างาม“จิ้งเถียนคำนับท่านอ๋องเก้าพันปี วันนี้ขอบคุณท่านอ๋องเก้าพันปีที่ลงมือช่วยพี่สามของข้าจิ้งเถียนขอบพระคุณเป็อย่างยิ่งเ้าค่ะ”
เมื่อซูเฟยซื่อเห็นซูจิ้งเถียนทำท่าทีออดอ้อนเอียงอายอดที่จะหัวเราะเ็าในใจไม่ได้ กระทั่งอวี้เสวียนจีก็คิดอ่อย?
เพียงกลัวว่าผลบั้นปลายจะทำให้นางผิดหวังแล้ว!
“จิ้งเถียนเป็ใคร?” ดวงตาของอวี้เสวียนจีถลึงโตใบหน้าดูว่างเปล่า
ซูจิ้งเถียนขยับมุมปากอย่างกระอักกระอ่วนกำลังจะเอ่ยปากชี้แจงว่านางเป็คุณหนูสี่ของจวนอัครมหาเสนาบดี จู่ๆอวี้เสวียนจีกระจ่างได้สติในทันใดทั้งกล่าวต่อไปว่า “ข้านึกขึ้นมาได้แล้ว เป็คุณหนูสี่ที่ร่ายรำหยาบกระด้างในชุมนุมแข่งม้าคนนั้น”
เสียงของอวี้เสวียนจีไม่ดังไม่ค่อยแต่ก็กำลังดีสามารถทำให้ทุกคนในที่เกิดเหตุได้ยิน พลันเสียงหัวเราะดังไปทั่วกลับกวาดความตึงเครียดเมื่อครู่หายไปหมด
บนใบหน้าซูจิ้งเถียนข่มอารมณ์ไว้ไม่อยู่กัดฟันพลางในดวงตาเต็มไปด้วยความโกรธสาดทั่วสารทิศ
ให้ตายสิขันทีคนหนึ่งถึงกับกล้าทำให้นางขายหน้า อัปยศในที่สาธารณะท่ามกลางฝูงชน
แต่ขันทีคนนี้ดันเป็ท่านอ๋องเก้าพันปีแห่งตงฉ่างอย่าว่าทำให้นางอับอายอัปยศ สังหารนางไปก็เป็เื่ง่ายดุจพลิกฝ่ามือทั้งหมดนางยังสามารถทำอย่างไรได้?
ซูจิ้งเถียนไม่ได้โง่รู้ว่าเวลานี้กล่าวรับวาจาใดล้วนผิดทั้งสิ้นจึงเปลี่ยนหัวเื่ไปให้รู้แล้วรู้รอด เดินไปหาซูเฟยซื่อด้วยท่าทีเป็กังวลห่วงใย“ทำเอาข้าใตายแล้ว พี่สาม ท่านไม่เป็ไรใช่ไหม?”
ไม่คิดว่าเสียงของนางเพิ่งจบลงซูเฟยซื่อก็ตบนางอย่างรุนแรงแล้วฉาดหนึ่ง
ตบครั้งหนึ่งนี้ตบเพื่อจือฉิน
หาเื่นางได้แต่หาเื่กับคนของนางไม่ได้ ครั้งนี้ซูจิ้งเถียนแตะโดนจุดอ่อนนางแล้ว
ซูเฟยซื่อฟาดฝ่ามือลงไปทุกคนต่างพากันวิจารณ์ทันที แม้แต่อวี้เสวียนจีก็อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วแล้ว
เขารู้ว่าครั้งนี้ซูเฟยซื่อโกรธจริงๆแล้วและรู้ด้วยว่าซูจิ้งเถียนสมควรโดนตบฉาดนี้จริงๆ
แต่ในสายตาของบุคคลภายนอกซูเฟยซื่อไม่ได้เป็เพียงคุณหนูสามของอัครมหาเสนาบดี ยังเป็พี่สาวของซูจิ้งเถียน
การตบฉาดหนึ่งลงไปโดยไร้สาเหตุถ้านางไม่สามารถหาคำอธิบายที่มีเหตุผลข้อหนึ่งออกมา ก็จะถูกจับข้อหารังแกน้องสาวหรือว่านางก็มิอาจอดกลั้นความโกรธไว้ได้แบบนี้หรือ?
ซูจิ้งเถียนถูกตบจนมึนแล้วแต่นางก็ได้สติกลับมาโดยเร็ว ในใจอดที่จะหัวเราะเ็าไม่ได้
ฮึ่มเมื่อครู่นางยังหงุดหงิดที่หลี่ฉีลงมือช้าเกินไปไม่สามารถส่งซูเฟยซื่อไปตายได้คิดไม่ถึงว่าซูเฟยซื่อจะถึงขั้นอดไม่ไหวขุดหลุมฝังศพตนเองแล้ว
วันนี้มีคนมากมายมองดูไม่ว่าซูเฟยซื่อมีเหตุผลใด ตีคนก็เป็เื่ผิด ยิ่งกว่านั้นนางยังไม่ได้ทำอะไรผิดนางกลับจะดูว่าซูเฟยซื่อจะมีจุดจบอย่างไร
คิดเสร็จนางรีบกุมปิดหน้าไว้ แกล้งทำท่างดูน่าสงสารออกมา “พี่สาม ท่าน...”
คิดไม่ถึงว่าไม่รอให้นางพูดจบซูเฟยซื่อได้ตบอีกฉาดหนึ่งลงไปแล้ว
ไม่เพียงเท่านี้ซูเฟยซื่อยังชิงลงมือไต่สวนว่า “น้องสี่ เราเป็พี่น้องกันมาที่แท้ข้าไปทำผิดต่อเ้าตรงไหนกัน... เ้าถึงต้องทำร้ายข้าแบบนี้?”
ซูจิ้งเถียนถูกถามจนมึนไปแล้วถึงแม้ว่าเื่นี้เป็นางวางแผนมาจริงๆ แต่ตอนนี้ซูเฟยซื่อไม่มีหลักฐานทำไมกล้าไต่สวนนางบนถนนได้?”
ใช่โง่บรมเกินไปแล้วหรือไม่!
“พี่สามที่พี่พูดนี้หมายความว่าอย่างไรกัน? ข้าห่วงพี่ทั้งยังมาไม่ทัน จะทำร้ายพี่ได้อย่างไร?” ซูจิ้งเถียนพูดอย่างน่าสังเวชบีบน้ำตาออกมาหลายหยดให้รู้แล้วรู้รอดเสียเลย
เห็นแบบนี้ฝูงชนที่ดูละครอดไม่ได้ที่จะเห็นใจนางไปแล้วหลายส่วน ต่างพากันเบนสายตาสงสัยมองไปยังซูเฟยซื่อ
ซูเฟยซื่อกลับไม่ได้หวั่นวิตกกล่าวอย่างห้าวหาญเปี่ยมคุณธรรม “เมื่อคืนญาติผู้พี่ทำตัวลับๆ ล่อๆในสวนบุปผชาติของจวนอัครมหาเสนาบดีแล้วถูกข้าจับได้ ไม่เพียงถูกตียกหนึ่งยังถูกท่านพ่อตำหนิว่ากล่าว เช้านี้เขาปลอมตัวเป็คนขับรถม้าของข้า ไม่เพียงแต่ขับรถเร็วเท่านั้นกระทั่งจือฉินจะตกจากรถม้ายังไม่สนใจ เ้าดูาแบนตัวจือฉิน ถ้าไม่ใช่ท่านอ๋องเก้าพันปีปรากฏตัวทันเวลาเกรงว่านางได้ตายไปนานแล้ว”
ที่แท้เป็เช่นนี้ไม่คิดว่าหลี่ฉีถึงกับเป็คนแบบนี้
กล่าววาจารอบหนึ่งไปทุกคนมองไปยังหลี่ฉีที่ล้มลงกับพื้นอย่างดูิ่เหยียดหยามทันที
ซูจิ้งเถียนยิ่งถลึงจ้องหลี่ฉีอย่างจงเกลียดจงชังคราหนึ่งรีบย้อนว่า “นั่นเป็เพราะม้าบ้าไปแล้ว พี่ชายไม่มีวิธี ยิ่งกว่านี้ ต่อให้พี่ชายตั้งใจจะทำร้ายเ้าแล้วมันเกี่ยวอะไรกับข้า เพราะพี่สามโกรธพี่หลี่ฉีจึงพาลโกรธข้าไปด้วย นี่ออกจะเป็เื่ที่ไม่ถูกต้องนัก”
หลี่ฉีเห็นซูจิ้งเถียนผลักเื่ทุกอย่างทั้งหมดมาที่เขาโกรธจนกระอักเืสดออกมาอีกคำ คิดเปิดปากอธิบาย ทว่าอ้าปากแล้วกลับไม่มีแรงเปล่งเสียง
เท้าของอวี้เสวียนจีเมื่อครู่นั้นน่าจะเตะซี่โครงของเขาหักไปหมดแล้ว
“ม้าบ้าหรือ? ถ้าไม่ใช่ญาติผู้พี่ตั้งใจทำร้ายข้ารอยแส้บนร่างข้านี้เป็ใครตี?” ซูเฟยซื่อชี้ไปที่ไหล่ซ้ายเพียงเห็นบนนั้นถูกฟาดเป็รอยเฆี่ยนเส้นหนึ่ง เืสดซึมออกมาไม่หยุด
เมื่อทุกคนเห็นเช่นนี้ต่างก็อดที่จะสูดอากาศเย็นคำหนึ่งไม่ได้ลงมือโหดร้ายแบบนี้ บอกกับพวกเขาว่าไม่ได้ตั้งใจ พวกเขาล้วนไม่เชื่อ
ไม่รอให้ซูจิ้งเถียนอธิบายโต้แย้งซูเฟยซื่อกล่าวต่อไปว่า “รถม้าของเ้าตามอยู่หลังรถม้าของข้าตลอดถ้าเป็ความจริงอย่างที่เ้าพูด ห่วงใยข้าจริงๆ เช่นนั้นเ้าต้องเปิดม่านเพื่อดูการเคลื่อนไหวของข้าแต่ทั้งๆ ที่เ้าเห็นชัดๆ ว่าญาติผู้พี่ไม่ปรารถนาดีกลับยังจะให้เขากอดข้าไว้เ้าว่าเ้าทำแบบนี้มีความหมายอย่างไร? ถ้าเกิดญาติผู้พี่ฉวยโอกาสฉีกเสื้อผ้าของข้าหรือทำมิดีมิร้ายต่อข้าภายใต้ฝูงชนในที่สาธารณะความบริสุทธิ์ของข้ามิใช่จะถูกทำลายหรอกหรือ? เ้าคิดอยากเห็นข้าอับอายจนคิดฆ่าตัวตายหรือ?"
เมื่อนางกล่าวจบทั่วทั้งสารทิศพากันวิพากวิจารณ์ทันที
เพราะระยะห่างระหว่างรถม้าสองคันยังมี่ห่างที่แน่นอนดังนั้นเสียงะโของซูจิ้งเถียนเมื่อครู่ดังมาก พวกเขาล้วนได้ยินทั้งหมด
ตอนนี้หลังจากได้ยินคำพูดของซูเฟยซื่อเมื่อหวนคิดตามเื่ทั้งหมด อดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าการตบเมื่อครู่นับว่าสมควรแล้ว
พวกเขาเคยได้ยินข่าวเื่ซูจิ้งเถียนว่าเอาแต่ใจ อันธพาล ไม่เคารพพี่สาวมานานแล้ว แต่ไม่เคยคิดว่านางจะจิตใจโหดร้ายอำมหิตมากเช่นนี้กระทั่งชีวิตของพี่สาวยังคิดทำร้าย
ผู้หญิงเช่นนี้มีชีวิตอยู่ในโลกถือเป็หายนะ
ซูจิ้งเถียนอ้าปากกว้างด้วยความประหลาดใจจนแทบจะกลืนไข่ไก่ไปได้ฟองหนึ่ง
นางไม่คิดว่าซูเฟยซื่อจะยังสามารถพูดจาอย่างมีเหตุผลในสถานการณ์ที่ถูกข่มขู่ชวนให้ใกลัวได้ที่น่ากลัวกว่านั้นคือ ทุกคนยังเชื่อนางกันหมด
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้