เซี่ยเสี่ยวหลานขายเสื้อผ้าราวกับเก็บเงินทองได้โดยเปล่า
เงินในกระเป๋าคาดเอวเหลือเฟือ เธอเองก็ไม่ใช่คนตระหนี่ถี่เหนียว
จึงชักชวนคังเหว่ยด้วยเสียเลย จากนั้นกลับบ้านไปรับหลิวเฟินหลิวเฟินกลับบอกว่ารับประทานแล้ว หลิวเฟินอดทนต่อความลำบากเก่ง แต่นิสัยหน่อมแน้มเนิบนาบไม่อาจแก้ไขได้ในระยะเวลาสั้นๆหากให้เธอไปสถานที่อย่างภัตตาคารเธอจะต้องรู้สึกกระสับกระส่ายเป็แน่เซี่ยเสี่ยวหลานรู้ดี คงต้องพามารดาไปที่แบบนี้บ่อยๆ นานวันผ่านไปสถานการณ์อาจจะดีขึ้น
ทว่าอยู่ต่อหน้าโจวเฉิงและคังเหว่ย เธอไม่ยินดีปล่อยให้หลิวเฟินประหม่าจึงไม่บังคับ
ส่งปลาไหลให้ภัตตาคารตั้งมากมายขนาดนั้นเซี่ยเสี่ยวหลานกลับสั่งผัดปลาไหลในภัตตาคารเป็ครั้งแรก
อาหารในยุค 80 ไม่อร่อยหรือ?
อร่อยจนทนไม่ไหว!
ไร้น้ำมันใช้ซ้ำ ไร้สารปรุงแต่งอาหารชนิดต่างๆแม้แต่หมูยังเลี้ยงด้วยการกินหญ้าเคี้ยวรำธรรมดาทั่วไปเป็ปีถึงเชือดได้ วัตถุดิบด้านอาหารธรรมชาติคุณภาพสูงอาหารที่ทำออกมาจะรสชาติไม่ดีได้อย่างไร?
ผู้คนเพียงแค่ไม่มีเงินทองเหลือเฟือเพียงเพื่อเพลิดเพลินกับอาหารเลิศรสเพราะอาหารเลิศรสมักจะอยู่ในภัตตาคารของรัฐหรือในร้านดั้งเดิมที่โด่งดัง
เซี่ยเสี่ยวหลานรู้สึกอิ่มเอมไปทั้งใบหน้า
ชาติก่อนเธอไม่ใช่คนให้ความสำคัญกับความปรารถนาในรสชาติตอนนี้กลายเป็วัยรุ่นอีกครั้ง เธอกลับถูกอาหารหลายอย่างดึงดูดจนรู้สึกคันยุบยิบอยู่ในใจเสียได้
จังหวะการคีบตะเกียบทั้งว่องไวและสม่ำเสมอทุกครั้งที่ลงตะเกียบสามารถคีบปลาไหลได้หลายชิ้นอย่างแม่นยำ
เส้นปลาไหลที่มีความหนาเท่ากัน คีบขึ้นมาแล้วแกว่งไหวสั่นระริกซอสแดงน้ำมันข้น [1] ถึงจะเป็ผัดปลาไหลปรุงด้วยความร้อนพอดีทำให้เมื่อเข้าปากแล้วทั้งนุ่ม ลื่น หนึบ และสู้ฟันปลาไหลในตอนนี้เป็ของดี เติบโตในคลองจับได้ในนาไม่ใช่แบบที่ผู้คนร่ำลือว่าเร่งโตด้วยยาคุมกำเนิด
เซี่ยเสี่ยวหลานรับประทานได้อย่างสบายใจไร้กังวลขนาดเห็นเธอรับประทานด้วยท่าทางสำรวม คังเหว่ยยังกลืนน้ำลายโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว
ตระกูลคังไม่ขัดสนเื่อาหารการกิน แม้เวลาอดอยากจนทุกคนต้องใช้ชีวิตแบบรัดเข็มขัดคุณย่าคังก็ไม่ปล่อยให้คังเหว่ยหิวโหย เขาเคยรับประทานของดีมามากมายผัดปลาไหลของภัตตาคารแห่งนี้ก็ทำได้ไม่เลว แต่เวลาเซี่ยเสี่ยวหลานรับประทานได้แสดงสีหน้าที่มีศรัทธาแรงกล้าเหลือเกิน
อร่อยขนาดนั้นเลยหรือ?
คงไม่เคยพบของดีั้แ่เด็กสินะ
คังเหว่ยนึกถึงพื้นเพของเซี่ยเสี่ยวหลาน เด็กสาวชนบท ครอบครัวยากจนทั้งไม่เป็ที่รักใคร่เอ็นดู
คังเหว่ยชะงักตะเกียบเล็กน้อยขณะกำลังคีบปลาไหล ช่างเถอะ ให้เธอได้รับประทานมากๆดีกว่า
โจวเฉิงชำเลืองมองเขาน้อยๆ อาจหาญดีจริงนะกล้าแสดงอารมณ์สงสารต่อภรรยาของเขาอย่างนั้นหรือ?
โจวเฉิงไม่ได้สงสารเซี่ยเสี่ยวหลาน แต่เขาเอ็นดูเธอ
เขารู้สึกรื่นรมย์อยู่กับการมองเธอรับประทานอาหาร แม้โจวเฉิงจะไม่ได้รับประทานเองก็ยังคงมีความสุข
“ผัดกุ้งกับปลาทอดเปรี้ยวหวานเธอน่าจะชอบ รีบชิมเร็ว...”
เซี่ยเสี่ยวหลานส่งยิ้มให้เขา กลืนปลาไหล และพึมพำออกมาเสียงเบา “ขายปลาไหลมานานขนาดนั้น ฉันยังไม่เคยกินอาหารนี้ในภัตตาคารมาก่อน พอได้กินมีความสุขแล้ว”
ปลาไหลเหนียวเหนอะหนะทั้งคาวทั้งมันไม่ใช่หรือ?
ตัวเธอเป็ผู้หญิง ชาติก่อนเธอไม่เคยทำงานอย่างการขายปลาไหลเช่นนี้ของที่นิ่มลื่นเหมือนงู เซี่ยเสี่ยวหลานชื่นชอบสิถึงแปลก!
ทว่าเพื่อการดำรงชีวิต เธอต้องทนความขยะแขยงหันไปทำธุรกิจนี้ เซี่ยเสี่ยวหลานรู้สึกว่าผัดปลาไหลรสชาติอร่อยยิ่งนักไม่เพียงอร่อยด้วยตัวมันเองเท่านั้นแต่การนั่งอยู่ในภัตตาคารสั่งผัดปลาไหลหนึ่งที่หมายความว่าเซี่ยเสี่ยวหลานได้ใช้ชีวิตที่ดีขึ้นแล้ว
ต้องมีเงินทองมีเวลา ถึงกล้าเดินเข้าภัตตาคารของรัฐสั่งอาหารโต๊ะใหญ่เลี้ยงผู้อื่น
เมื่อเรียกเก็บเงิน เซี่ยเสี่ยวหลานเป็คนจ่าย
อย่างน้อยเธอเป็ถึงคนที่เคยนั่งตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงของบริษัทข้ามชาติอาหารเลิศรสทั่วไปจะทำให้เธอถึงกับเสียอาการได้ที่ไหน
แต่หลิวเฟินไม่เคยรับประทานของดีอะไรเลย เซี่ยเสี่ยวหลานไม่ได้ตื่นเต้นเมื่อเจออาหารทะเลทว่าสั่ง ‘ปลิงทะเลตุ๋น’ ที่แพงที่สุดในภัตตาคารห่อกลับบ้านไปให้หลิวเฟิน
“ฉันบอกแล้วว่าจะทำให้แม่ได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขแค่ปลิงทะเลตุ๋นที่เดียวเอง”
เซี่ยเสี่ยวหลานกล่าวพลางแกว่งไกวห่ออาหาร
โดนไล่ออกจากตระกูลเซี่ยโดยหอบมันเทศเพียง 20 ชั่ง วันนี้เธอสามารถทำให้หลิวเฟินได้รับประทาน ‘ปลิงทะเลตุ๋น’ ราคา 20 หยวน อีกหน่อยย่อมทำให้หลิวเฟินได้มีความสุขที่ยิ่งใหญ่มากขึ้น! ตระกูลเซี่ยเป็แค่อะไรกัน? เฮอะ!
โจวเฉิงรู้ดีว่าเธอเบิกบานใจ
เขาส่งเซี่ยเสี่ยวหลานกลับบ้าน มองประตูบานนั้นปิดลง หันกลับมาก็ใบหน้าบึ้งตึงมีความร้ายกาจจากการเสแสร้งแกล้งยิ้ม
“คังจื่อ พี่สะใภ้นายหน้าตาสะสวย มักมีคนเล็งเธออยู่เรื่อยฉันก็เฝ้าอยู่ซางตูทุกวันไม่ได้ด้วย นายว่าทำอย่างไรดี?”
คังเหว่ยขาดแค่ยกสองมือขึ้นยอมจำนนแล้ว
คังเหว่ยไร้ซึ่งประสงค์ร้ายต่อว่าที่พี่สะใภ้ของเขาอย่างแท้จริงแรกเริ่มนั้นตกตะลึงในความงดงาม แต่ต่อมาเธอถูกพี่เฉิงจื่อเลือกแล้วคังเหว่ยจึงดับความคิดของตนเสีย
เขากล่าวอย่างระมัดระวัง “ปีหน้าพี่สะใภ้ไม่ได้จะไปเรียนหนังสือในปักกิ่งหรือ?”
พี่ชาย พี่อดทนอีกสักเกือบปีก็ไม่มีอะไรแล้ว
ไม่ถูกต้อง ปักกิ่งมิได้สงบสุขโดยสมบูรณ์เช่นกัน เพราะยังมีหวังเจี้ยนหัวผู้ต้องสงสัยว่าเป็ ‘รักแรก’ ของเซี่ยเสี่ยวหลานอยู่ทั้งคน แค่กๆคังเหว่ยเกือบสำลักน้ำลายตัวเองตายเสียแล้ว
ใช้เส้นสายคุณลุงของเสี่ยวกวงดึงหลิวหย่งออกจากวงการแล้วยังต้องใช้เส้นสายคุณลุงของเสี่ยวกวงช่วยพี่เฉิงจื่อตัดความ้าของศัตรูหัวใจอีกหรือ? ทำเื่เล็กให้กลายเป็เื่ใหญ่เช่นนี้ หากแพร่ไปถึงปักกิ่งต้องโดนคนหัวเราะเยาะตายแน่นอน
เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงการโดนคนหัวเราะเยาะ คังเหว่ยใช้ความจริงใจทั้งหมดที่มีเพื่อเกลี้ยกล่อม
“พี่สะใภ้ไม่ชอบคนอื่นหรอก”
แน่นอน เสี่ยวหลานพูดแล้วว่าชอบเขาสิ่งนี้ทำให้หัวใจของโจวเฉิงตั้งมั่นขึ้นเล็กน้อย
-----------------------------------------
เซี่ยเสี่ยวหลานนำห่ออาหารกลับบ้าน ปลิงทะเลตุ๋นยังมีไอร้อนอยู่
หลิวเฟินไม่เคยลิ้มลองปลิงทะเลมาก่อน และคาดไม่ถึงว่าอาหารชนิดนี้กล้าขายที่ราคาละ 20 หยวน เซี่ยเสี่ยวหลานตั้งใจนำมาให้เธอ เธอจึงรับประทานอย่างเต็มใจรสชาติช่างดีงามยิ่งนัก เซี่ยเสี่ยวหลานบอกว่าคือ ‘ปลิงทะเล’ เป็สิ่งหนึ่งที่อยู่ในทะเล หลิวเฟินพยักหน้ารับ
“อร่อย เสี่ยวหลานลูกก็กินสิ”
“ฉันกินที่ร้านมาแล้ว แม่กินเยอะๆ หน่อย เ้านี่บำรุงร่างกายดีนะ”
หลิวเฟินผ่ายผอมเกินไปแล้ว
ไปโน่นมานี่ทุกวี่วัน ทำให้เธอไม่มีโอกาสผิวพรรณผ่องใส ทว่าั์ตาเปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวามีความแตกต่างจากหญิงชนบทที่สภาพราวกับหุ่นเชิดไม้นั้นเมื่อครั้งเซี่ยเสี่ยวหลานเพิ่ง ‘ฟื้น’ ซากศพเดินได้ถูกบรรจุจิติญญาหลิวเฟินเกิดความหวังต่ออนาคตของตนแล้ว
เธอเลียบเคียงถามเื่ระหว่างเซี่ยเสี่ยวหลานกับโจวเฉิงเซี่ยเสี่ยวหลานยอมรับอย่างเถรตรง
“ฉันคิดว่าเขาไม่เลว ลองคบหาไปก่อน อย่างไรเสียก็ไม่ต้องเจอหน้ากันทุกวันไม่ถ่วงรั้งธุระใดทั้งนั้น”
“โจวเฉิงเป็คนขับรถบรรทุกหรือ?”
“ทำงานในหน่วยงานลับ ตอนนี้อยู่ระหว่างลาพักงาน”
ทำงานในหน่วยงานลับ? เช่นนั้นไม่ใช่ว่าเซี่ยเสี่ยวหลานต้องเป็สมาชิกในครอบครัวหรือหลิวเฟินคิดไปไกลชั่วพริบตา
ตามแิของหลิวเฟิน คบหาดูใจกับคนอื่นล้วนมีเป้าหมายเป็การวิวาห์คนซื่อตรงอย่างเธอไม่เคยคิดว่าจะมีใครใจร้ายเหมือนลูกสาวแบบนี้ความรักและการแต่งงานยังรวมเป็เื่เดียวกันไม่ได้เซี่ยเสี่ยวหลานแค่อยากมีความรักกับโจวเฉิงก็เท่านั้น!
“เป็สมาชิกครอบครัวน่ะดีทีเดียว ดีทีเดียว...”
โจวเฉิงอายุยังน้อย หลิวเฟินไม่กล้าคิดว่าเขาคือพนังงานของหน่วยงานอะไรในใจเชื่อมั่นว่าเขาเป็คนธรรมดาสามัญ
คนธรรมดา แม้จะอยู่ปักกิ่ง ทว่าหน้าตาหล่อเหลาเสี่ยวหลานของเธอยังมีอะไรที่ไม่คู่ควรหรือ? เสี่ยวหลานหน้าตาสะสวยเสี่ยวหลานเอาการเอางาน ทั้งเสี่ยวหลานยังอาจจะสอบติดมหาวิทยาลัยด้วยในสมองของหลิวเฟินไม่มีความคิดรังเกียจคนจนโปรดปรานคนรวยสามีภรรยาล้วนใช้ชีวิตโดยพยายามไปด้วยกัน คนสองคนรักใคร่กลมเกลียวใครหาเงินก็เหมือนกันทั้งนั้น
ขอเพียงโจวเฉิงไม่รังเกียจชื่อเสียในอดีตของเสี่ยวหลาน
หลิวเฟินกังวลเล็กน้อย แต่แล้วก็ปลาบปลื้ม อุตส่าห์ย้ายมาเมืองซางตูแล้วเื่ราวก่อนหน้านี้มีไม่กี่คนที่รับรู้
โชคดีที่หย่ากับเซี่ยต้าจวิน!
โชคดีที่ย้ายบ้านแล้ว!
สองสิ่งนี้ตัดสินใจทำได้ถูกต้องเหมาะสมเหลือเกินใบหน้าของหลิวเฟินมีความยินดีที่ห้ามไว้ไม่อยู่
“เหมือนลุงลูกจะไม่ค่อยเห็นด้วยกับเื่ของลูกและโจวเฉิง ถ้าเขาตำหนิลูกลูกก็ฟังอย่างว่านอนสอนง่ายไปเสีย ลุงดีกับลูกมาก...”
หลิวเฟิ่นทำได้เพียงบ่นยืดเยื้อไปเรื่อย เซี่ยเสี่ยวหลานไม่รู้สึกรำคาญแม้แต่นิดเดียวทั้งเธอยังหางานให้หลิวเฟินทำเพิ่มอีกอย่างหนึ่ง คือการให้หลิวเฟินนับเงินในกระเป๋าคาดเอว
เชิงอรรถ
[1]浓油赤酱 ซอสแดงน้ำมันข้น คือลักษณะของการทำอาหารที่น้ำมันมากและรสชาติเข้มข้นปรุงด้วยน้ำตาลจนมีสีซอสแดงหรือสีน้ำตาล
