บทที่ 8: มิติในห้วงคำนึง
หลังจากค่ำคืนแห่งความหวังผ่านพ้นไป เหลียนฮวาก็กลับสู่วังวนการทำงานอันน่าเบื่อหน่ายที่ร้านโอสถหมื่นพฤกษาเช่นเคย นางยังคงทำหน้าที่ของตนอย่างเงียบขรึมและไร้ที่ติ การเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ น้อย ๆ ในวิธีการจัดการสมุนไพรของนางยังคงดำเนินต่อไป แต่เนื่องจากมันแเีและค่อยเป็ค่อยไป จึงไม่มีใครสังเกตเห็นความผิดปกติที่แท้จริง
มีเพียงเถ้าแก่เนี้ยแห่งหอโอสถวสันต์เท่านั้นที่ดูจะพอใจกับคุณภาพของสมุนไพรจาก ร้านโอสถหมื่นพฤกษามากขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงกับเพิ่มปริมาณการสั่งซื้อ ซึ่งสร้างความยินดีให้แก่เถ้าแก่เ้าของร้านเป็อย่างมาก โดยไม่รู้เลยว่าเครดิตทั้งหมดนั้นควรจะเป็ของเด็กสาวล้างสมุนไพรที่เขาไม่เคยเห็น อยู่ในสายตา
หลายวันผ่านไปอย่างสงบ...
เหลียนฮวายังคงแอบปรุง "ยาขนานเศษขยะ" ให้มารดาดื่มทุกคืน อาการของเหลียนซูดีขึ้นอย่างช้าๆ แต่มั่นคง นางเริ่มกินอาหารได้มากขึ้น ใบหน้ามีสีเืฝาด และสามารถลุกขึ้นนั่งพูดคุยได้นานขึ้น ปาฏิหาริย์เล็ก ๆ นี้สร้างความสุขและความหวังให้แก่คนทั้งสามในบ้านเช่าแคบ ๆ อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
ทว่า...เหลียนฮวารู้ดีว่านี่เป็เพียงการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ยาจากสมุนไพรธรรมดาทำได้เพียงประคับประคองอาการและฟื้นฟูร่างกายได้ใน ระดับหนึ่งเท่านั้นมันไม่สามารถ"รักษา"รากเหง้าของโรคที่ฝังลึกอยู่ในกายของมารดา ได้
การจะสร้าง "ยาเม็ดฟื้นฟูรากฐาน" ที่แท้จริงได้นั้น จำเป็ต้องมีสองสิ่ง...
หนึ่ง... สมุนไพรที่มีพลังงานิญญาบริสุทธิ์
และสอง... พลังลมปราณที่แข็งแกร่งพอที่จะควบคุมเตาหลอมและเปลวไฟได้
ซึ่งทั้งสองสิ่ง...คือสิ่งที่นางขาดแคลนที่สุดในตอนนี้
คืนนั้น หลังจากดูแลแม่และน้องสาวจนหลับใหลไปแล้ว เหลียนฮวาก็นั่งลงขัดสมาธิอยู่บนพื้นห้องที่เย็นเฉียบ นางตัดสินใจที่จะลองทำในสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็ไปไม่ได้... นั่นคือการ "บำเพ็ญเพียร"
นางหลับตาลง พยายามรวบรวมสมาธิและโคจรลมหายใจตามหลักการฝึกปราณขั้นพื้นฐานที่สุดที่ นางจำได้จากชาติก่อน นางพยายามจะััถึง "พลังปราณฟ้าดิน" ที่ล่องลอยอยู่ในอากาศ เพื่อดูดซับมันเข้ามาในร่างกายที่ว่างเปล่าของตน
หนึ่งเค่อ... สองเค่อ... ผ่านไปหนึ่งชั่วยาม...
ความเงียบ... ทุกอย่างยังคงเงียบสงัด
นางไม่สามารถััถึงพลังงานใด ๆ ได้เลยแม้แต่น้อย ร่างกายของนาง... "กายาธุลีดิน" นี้... มันเหมือนกับภาชนะดินเผาที่ปิดสนิท ไม่มีรูพรุนใด ๆ ที่จะให้พลังงานจากภายนอกแทรกซึมเข้าไปได้เลยแม้แต่น้อยนิด
ความรู้สึกท้อแท้เริ่มคืบคลานเข้ามาในจิตใจอีกครั้ง นางพยายามแล้วพยายามเล่าจนเหงื่อซึมไปทั้งแผ่นหลัง แต่ผลลัพธ์ก็ยังคงเป็ศูนย์ ร่างกายที่อ่อนล้าจากการทำงานหนักมาทั้งวันเริ่มประท้วง ความง่วงงุนเข้าครอบงำสติของนางอย่างรวดเร็ว
"หรือว่า...มันจะเป็ไปไม่ได้จริง ๆ ..."
นั่นคือความคิดสุดท้ายของนาง ก่อนที่สติทั้งหมดจะดับวูบลง และนางก็จมดิ่งสู่ห้วงนิทราอันล้ำลึก...
...
แต่...นี่ไม่ใช่การนอนหลับธรรมดา
แทนที่จะจมลงสู่ความมืดมิดอันว่างเปล่า เหลียนฮวากลับรู้สึกว่าจิติญญาของนางกำลังถูก "ดึง" ไปยังที่ใดที่หนึ่ง มันเป็ความรู้สึกที่แปลกประหลาดราวกับกำลังล่องลอยอยู่ในกระแสน้ำอันอบอุ่นที่ มองไม่เห็น
เมื่อนาง "ลืมตา" ขึ้นอีกครั้ง...
ภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าทำให้นางถึงกับพูดไม่ออก!
นางไม่ได้อยู่ในห้องเช่าแคบ ๆ ที่มืดทึบอีกต่อไปแล้ว แต่กลับยืนอยู่กลางทุ่งหญ้าสีเขียวมรกตที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา ท้องฟ้าเบื้องบนเป็สีครามสดใส มีปุยเมฆสีขาวลอยเอื่อยอย่างสงบ อากาศรอบกายบริสุทธิ์และสดชื่นจนทำให้รู้สึกว่าทุกครั้งที่หายใจเข้า พลังชีวิตอันมหาศาลกำลังไหลเข้าสู่ร่างกาย
ใจกลางของทุ่งหญ้านั้น มีต้นไม้ใหญ่ั์ต้นหนึ่งตั้งตระหง่านอยู่เพียงลำพัง มันเป็ต้นไม้ที่นางไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิตลำต้นของมันเป็สีเงินยวงราวกับถูก หลอมขึ้นจากแสงจันทร์กิ่งก้านสาขาแผ่ขยายออกไปกว้างใหญ่ราวกับจะโอบอุ้มท้อง ฟ้าไว้ทั้งใบ และใบไม้ทุกใบของมันก็เป็สีทองอร่ามที่ส่องประกายระยิบระยับ
ใต้ต้นไม้ใหญ่นั้น มีบ่อน้ำพุขนาดเล็กอยู่บ่อหนึ่ง น้ำในบ่อใสสะอาดจนมองเห็นก้อนกรวดที่อยู่ก้นบ่อได้อย่างชัดเจน แต่สิ่งที่น่าอัศจรรย์คือ...ผิวน้ำนั้นไม่ได้สะท้อนภาพท้องฟ้าสีคราม แต่กลับสะท้อนภาพของดวงดาวและหมู่เมฆในยามค่ำคืน! ไอน้ำที่ลอยขึ้นมาจากบ่อนั้นมีสีเงินจางๆ และให้ความรู้สึกเย็นสบายอย่างน่าประหลาด
และที่น่าตกตะลึงที่สุด... คือสิ่งที่อยู่รายล้อมรอบ ๆ ต้นไม้และบ่อน้ำพุแห่งนั้น
มันคือ "แปลงสมุนไพร"แต่ไม่ใช่แปลงสมุนไพรธรรมดา!
แปลงที่หนึ่ง...
"ดอกบัวหิมะเจ็ดสี" ที่แต่ละกลีบมีสีรุ้งแตกต่างกันไป กำลังเบ่งบานอย่างงดงาม สมุนไพริญญาระดับสูงที่ใช้ในการรักษาอาการาเ็ภายในที่สาหัสที่สุด
แปลงที่สอง...
"หญ้าิญญาั"ที่มีใบเรียวยาวคล้ายเกล็ดัและส่องแสงสีทองจาง ๆ สมุนไพรที่ใช้เป็ส่วนประกอบหลักในการปรุง "ยาเม็ดทะลวงชีพจร"
แปลงที่สาม... "ผลหยินหยางคืนชีวิต"ผลไม้สีขาวดำขนาดเท่ากำปั้นที่ในตำนานกล่าวว่าสามารถยืด อายุขัยให้ยืนยาวออกไปได้นับสิบปี
สมุนไพริญญาในตำนานที่นางเคยได้ยินหรือเคยเห็นเพียงในคัมภีร์โบราณเมื่อชาติก่อน บัดนี้กลับมาปรากฏอยู่ตรงหน้านางอย่างสมบูรณ์และมีชีวิตชีวา!
"นี่มัน...ที่ไหนกัน?" เหลียนฮวาพึมพำกับตัวเองด้วยความสับสนและตื่นตะลึง นางลองก้มลงหยิกแขนตัวเอง...แต่กลับไม่รู้สึกเจ็บ
นี่คือความฝันงั้นรึ? หรือเป็ภาพมายาที่จิตใจของนางสร้างขึ้นเพราะความปรารถนาอันแรงกล้า?
นางลองเดินเข้าไปใกล้บ่อน้ำพุใต้ต้นไม้ใหญ่อย่างช้า ๆ เมื่อไปถึงริมบ่อ นางก็ต้องประหลาดใจอีกครั้ง ข้าง ๆ บ่อน้ำพุนั้นมีศิลาจารึกสีดำขลับแผ่นหนึ่งตั้งอยู่ บนแผ่นศิลานั้นมีอักขระโบราณสี่ตัวสลักเอาไว้
"สวนโอสถห้วงคำนึง"
หัวใจของนางเต้นรัวราวกับจะหลุดออกมานอกอกชื่อนี้...นางเคยได้ยินมาจากที่ไหน กัน?
นางพยายามเค้นความทรงจำที่ขาดห้วงของเซียนโอสถ...และแล้วภาพเลือนรางภาพ หนึ่งก็ผุดขึ้นมา มันคือภาพของอาจารย์ของนางในชาติก่อน... ปรมาจารย์เทวะผู้ยิ่งใหญ่ กำลังมอบตำราเล่มหนึ่งให้นาง พร้อมกับกล่าวว่า...
"ซินหลัน...นี่คือ 'ตำราโอสถเทวะ' และวิธีเปิดประตูสู่ 'สวนโอสถห้วงคำนึง' มิติส่วนตัวที่สืบทอดกันมาในสายเืของปรมาจารย์โอสถเท่านั้น จงรักษามันไว้ให้ดี..."
ความทรงจำนั้นขาดหายไปแค่นั้น แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้เหลียนฮวาเข้าใจทุกอย่างได้ในบัดดล!
ที่นี่ไม่ใช่ความฝัน! ไม่ใช่ภาพมายา!
แต่มันคือ "มิติสวนโอสถ์" ที่ติดมากับิญญาของนาง!
มันคือมรดกตกทอดที่ทรงคุณค่าที่สุดของเซียนโอสถ! คือขุมทรัพย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่นางหลงลืมไป!
ความรู้สึกปีติยินดีอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนแล่นพล่านไปทั่วทั้งจิติญญา นางหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง สลับกับร้องไห้ด้วยความดีใจจนน้ำตานองหน้า
"์! ท่านยังไม่ทอดทิ้งข้าโดยสิ้นเชิง!"
หลังจากสงบสติอารมณ์ลงได้แล้ว นางก็เริ่มสำรวจ "บ้าน" ที่แท้จริงของนางอีกครั้งอย่างละเอียด นางเดินไปตามแปลงสมุนไพรต่าง ๆ ลูบไล้กลีบดอกไม้และใบหญ้าทุกต้นด้วยความรักใคร่ทะนุถนอม แต่แล้วนางก็สังเกตเห็นบางอย่างที่ผิดปกติ
สมุนไพริญญาส่วนใหญ่ในสวนแห่งนี้... ดูเหมือนจะอยู่ในสภาพ "หลับใหล" พวกมันมีสีสันที่ซีดจางกว่าที่ควรจะเป็ และพลังงานิญญาที่แผ่ออกมาก็อ่อนแออย่างยิ่ง ราวกับพืชที่ขาดน้ำและสารอาหารมาเป็เวลานาน
มีเพียงสมุนไพรไม่กี่ชนิดที่อยู่ใกล้กับบ่อน้ำพุเท่านั้นที่ยังคงดูสดชื่นและมีชีวิตชีวา
นางเดินกลับไปที่บ่อน้ำพุอีกครั้ง ก้มลงมองเงาของหมู่ดาวบนผิวน้ำ แล้วความคิดหนึ่งก็ผุดวาบขึ้นมา
หรือว่า...น้ำในบ่อนี้คือแหล่งพลังงานของทุกสิ่งในมิติแห่งนี้?
นางลองใช้สองมือวักน้ำในบ่อขึ้นมา ความรู้สึกเย็นสบายและบริสุทธิ์แผ่ซ่านไปทั่วทั้งสองมือ พลังิญญาอันมหาศาลที่ควบแน่นอยู่ในน้ำทุกหยดทำให้นางรู้สึกสดชื่นอย่างบอกไม่ถูก นางลองดื่มน้ำนั้นเข้าไปอึกหนึ่ง
ทันทีที่น้ำไหลผ่านลำคอลงสู่ท้อง จิติญญาของนางก็สั่นะเือย่างรุนแรง! พลังงานิญญาอันบริสุทธิ์ได้แผ่ซ่านไปทั่วทั้งดวงจิตที่เคยอ่อนล้าของนางอย่างรวด เร็ว ฟื้นฟูและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอราวกับน้ำทิพย์ชโลมใจ
นางรู้สึกได้ทันทีว่า "ร่างิญญา" ของนางในมิติแห่งนี้แข็งแกร่งขึ้นเล็กน้อย!
"น้ำพุจันทรา!" นางอุทานออกมาด้วยความตื่นเต้นอีกครั้ง ชื่อของบ่อน้ำพุนี้ผุดขึ้นมาในความทรงจำที่ขาดห้วงของนาง มันคือน้ำพุที่รวบรวมแก่นแท้ของพลังจันทราและดวงดาวเอาไว้ใช้ในการหล่อเลี้ยง สมุนไพริญญาทั้งหมดในสวนแห่งนี้!
การที่สมุนไพรส่วนใหญ่กำลังจะตาย เป็เพราะิญญาของนางซึ่งเป็ "นายหญิง" ของมิติแห่งนี้ได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง ทำให้การทำงานของมิติรวนเรไปหมด น้ำพุจันทราไม่สามารถส่งพลังงานไปหล่อเลี้ยงสวนทั้งหมดได้อย่างทั่วถึง
เหลียนฮวายืนนิ่งอย่างใช้ความคิด
นางยังไม่สามารถนำสมุนไพริญญาเหล่านี้ออกไปใช้ในโลกภายนอกได้ เพราะพลังงานของมันรุนแรงเกินกว่าที่ร่างกายมนุษย์ของนางจะรับไหว และการนำมันออกไปก็จะทำให้คนอื่นสงสัยในที่มาของมันอีกด้วย
แต่...นางสามารถใช้ประโยชน์จากมิติแห่งนี้ได้ในทางอื่น!
ความคิดอันหลักแหลมของเซียนโอสถเริ่มทำงานอย่างรวดเร็ว
หนึ่ง... ข้าสามารถเข้ามา "ฝึกจิต" ในนี้ได้ การดื่มน้ำพุจันทราจะช่วยฟื้นฟูและเสริมความแข็งแกร่งให้แก่ิญญาของข้าโดยตรง!
สอง... ข้าสามารถนำสมุนไพร "ธรรมดา" จากโลกภายนอก เข้ามาปลูกในนี้ได้! ดินในสวนแห่งนี้เต็มไปด้วยพลังงานิญญา และยังมีน้ำพุจันทราคอยหล่อเลี้ยง แม้แต่สมุนไพรที่ธรรมดาที่สุด เมื่อนำมาปลูกในนี้ ก็จะกลายเป็สมุนไพรชั้นเลิศที่มีคุณภาพสูงกว่าสมุนไพรที่ดีที่สุดในโลกภายนอก หลายเท่า!
และสาม... เวลา! ข้ารู้สึกได้ว่าเวลาในมิติแห่งนี้ไหลเร็วกว่าโลกภายนอก!
นางลองเพ่งสมาธิไปที่ต้นไม้ใหญ่สีเงินยวงใจกลางสวน มันคือ "ต้นไม้แห่งกาลเวลา" ซึ่งเป็แกนกลางของมิติ นางััได้ทันทีว่าอัตราการไหลของเวลาในนี้คือ... สิบต่อหนึ่ง!
เวลาหนึ่งวันที่ผ่านไปในโลกภายนอก เท่ากับสิบวันที่ผ่านไปในสวนโอสถห้วงคำนึงแห่งนี้!
นั่นหมายความว่า...นางสามารถเข้ามาฝึกฝนและปลูกพืชในนี้ได้อย่างเต็มที่โดยที่เวลา ในโลกจริงผ่านไปเพียงน้อยนิด!
"ฮ่าๆๆๆ!" นางหัวเราะออกมาอย่างสุดจะกลั้น "์! ท่านมอบกายาธุลีดินให้ข้า แต่ก็ยังมอบหนทางรอดตายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดให้ข้าด้วย!"
นี่คือการค้นพบที่จะเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่างโดยสิ้นเชิง!
กายาธุลีดินที่เคยเป็อุปสรรคที่ใหญ่ที่สุด บัดนี้กลับดูเป็เื่เล็กน้อยไปเลย
เหลียนฮวากำหมัดแน่นแววตาของนางลุกโชนไปด้วยความมุ่งมั่นและความหวังที่เจิด จ้ากว่าครั้งไหนๆ
นางมีทั้งความรู้ มีทั้งพื้นที่ มีทั้งวัตถุดิบ (ในอนาคต) และมีทั้งเวลา
เส้นทางสู่การเป็ยอดฝีมือและการพลิกชะตากรรม...ได้ถูกเปิดออกอย่างเป็ทางการ แล้ว
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้