บทที่ 150 เกิดใหม่กี่ชาติ?
เห็นขงเบ้งที่แตกตื่นและเลี่ยงที่จะตอบ เย่จื่อเฉินก็ได้แต่เกาหัว
สุดท้ายเขาก็ไม่ได้พูดถึงเื่ครอบครัวของเซี่ยเขอเข่อ แล้วก็ไม่ได้บอกเหตุผลที่มาที่นี่ด้วย ทิ้งท้ายไว้แค่ประโยคเดียวว่าลืมล็อกประตูร้าน แล้วก็วิ่งหนีไปเลย
"เ้าเด็กนี่ทำไมถึงได้ดูลับๆ ล่อๆ จัง"
เย่จื่อเฉินทำหน้างง แล้วก็หันไปมองเซี่ยเขอเข่อ
"เขาเป็โรคประสาท ไม่ต้องไปสนใจเขาหรอก" เซี่ยเขอเข่อเบ้ปาก แล้วพูด "นายไปเจอเขาได้ยังไง ต่อไปนี้อยู่กับเขาให้น้อยๆ หน่อยนะ"
"งั้นเธอก็ติดต่อที่บ้านเขาให้มารับเขากลับไปสิ ฉันก็คิดว่ามันค่อนข้างเป็ปัญหาอยู่เหมือนกัน"
อันนี้เย่จื่อเฉินพูดจริงๆ ถ้าเซี่ยเขอเข่อสามารถติดต่อครอบครัวเขาได้จริงๆ แล้วให้มารับเขาไป แบบนั้นจะช่วยเขาได้เยอะทีเดียว
"ฉันช่วยนายไม่ได้หรอก"
ใครจะไปรู้ว่าเซี่ยเขอเข่อไม่ใช่แค่ไม่ช่วยเท่านั้น แต่เธอยังดึงซูเหยียนพากันเดินไปโบกรถข้างทางก่อนจะขึ้นรถหายไปทันที
อะไรวะเนี่ย
เขาบึ่งมาช่วยผู้หญิงสองคนนี้ด้วยความยากลำบาก ไม่สนใจความเป็ความตาย ยังไม่ทันจะได้ค่าตอบแทนก็ไปกันแล้วเหรอ
ถ้าปกติ อย่างน้อยโผเข้ามาร้องไห้ในอ้อมกอดเขาก็ยังดี
อีกอย่าง เขายังไม่ได้อธิบายเื่ของซุนหงอคงให้พวกเธอฟังเลย!
"สหาย ไอ้สิ่งที่มาเมื่อครู่นี้มันคือสิ่งใด"
ซุนหงอคงมองดูรถยนต์ที่วิ่งไปวิ่งมา อดเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัยไม่ได้
เย่จื่อเฉินที่ได้ยินก็ปวดหัวขึ้นอีกครั้ง เ้านี่ก็ยังจัดการไม่เสร็จ
"มันคือยานพาหนะในแดนลึกลับแห่งนี้ ที่นี่คือโลกมนุษย์ ไม่สามารถเหาะเหินเดินอากาศเหมือนอย่างเทพเซียนบน์ได้ ผู้คนที่นี่ฉลาดมากที่ได้สั่งสมวัฒนธรรมและได้สร้างเทคโนโลยีพวกนี้ขึ้นมาในเวลาพันกว่าปี"
"แบบนี้นี่เอง ก็เหมือนกับบน์ที่เพิ่งมีการพัฒนาด้านโทรศัพท์สินะ"
ระหว่างที่พูดอยู่นั้น ซุนหงอคงก็ได้เอาของสิ่งหนึ่งที่เหมือนกับโทรศัพท์สมัยใหม่ที่ไม่รู้ว่าเอาออกมาจากไหนออกมา
"ใช่ ประมาณนั้นแหละ"
เย่จื่อเฉินพยักหน้ารับ
โครกคราก!
เสียงท้องร้องดัง
"ซุนหงอคง ท่านจะกลับ์เมื่อไร?"
ก่อนจะไปกินข้าวนั้น เย่จื่อเฉินจะทำการส่งซุนหงอคงกลับไปก่อน
"ข้าไม่กลับไปหรอก ข้าดูแล้วดินแดนลึกลับนี่ก็ไม่เลว เลยคิดว่าจะอยู่ที่นี่สักพักหนึ่งก่อน"
"อะไรนะ..."
เย่จื่อเฉินลนลานเล็กน้อย ท่านเทพผู้นี้ไม่กลับไปแล้ว
"ทำหน้าอะไรของเ้าสหาย?"
ซุนหงอคงจับดูใบหน้าของเบ่จื่อเฉิน
"ไม่มีอะไร..." เย่จื่อเฉินรีบปรับสีหน้าอย่างไว แล้วพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มบางๆ "ท่านซุนหงอคงมาเยือนถิ่นของข้าทั้งที ข้าในฐานะที่เป็เ้าบ้านก็ควรทำการต้อนรับ ถ้าอย่างนั้น่เวลาที่ท่านอยู่ที่นี่ก็ปล่อยให้ข้าเป็คนจัดการเถอะ"
"ไม่ต้องหรอก" ซุนหงอคงโบกมือบอกปัด "แต่ไหนแต่ไรมาข้าก็เดินทางคนเดียว ไปที่ไหนก็ไม่ต้องเดือดร้อนใคร เื่ของข้า...สหายไม่ต้องลำบากหรอก"
"ไม่ได้"
เย่จื่อเฉินหรี่ตายิ้ม
แม่เ้า ถ้าปล่อยให้เขาวิ่งพล่านไปทั่ว ใครจะรู้ว่านิสัยบ้าบิ่นอย่างซุนหงอคงจะก่อเื่วุ่นอะไรขึ้นมาอีก
"ท่านซุนหงอคง ท่านไปกับข้าดีกว่า ถ้าอยู่กับข้า ข้ารับรองว่าท่านจะมีนมเปรี้ยวกินตลอดแน่นอน"
"พูดจริงเหรอ!"
ซุนหงอคงตาเป็ประกาย
"แน่นอนอยู่แล้ว"
"ถ้าอย่างนั้นข้าก็จะอยู่กับเ้า"
ซุนหงอคงพยักหน้ารับอย่างไม่ลังเล
นมเปรี้ยวเลยนะ!
ของล้ำค่าเลยล่ะ!
เนื่องจากว่าเสื้อผ้าของเย่จื่อเฉินนั้นขาดวิ่นจนเกินไป ก่อนที่จะไปเขาก็เลยวิ่งกลับเข้าไปในคฤหาสน์ของตี้เทียนอีกครั้ง
เมื่อเขากลับเข้ามาข้างในอีกครั้ง ทุกคนในคฤหาสน์ก็ตั้งท่าเหมือนเผชิญหน้ากับศัตรู
ยังดีที่เขาแค่เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็ออกมาจากคฤหาสน์
จากนั้นจึงพาซุนหงอคงมาที่ร้านอาหาร
ข้าวหนึ่งมื้อกับเงินหลายพันหยวน ไม่ใช่ว่าราคาอาหารในร้านนั้นแพง แต่เป็เพราะซุนหงอคงกินจุมากต่างหาก
ในระหว่างที่กินข้าว ซุนหงอคงก็ชื่นชมอาหารเหล่านี้ไม่ขาดปากว่าอร่อยกว่าอาหารที่เทพเ้าเตาไฟกับเทพเ้าอาหารทำ
ไม่รู้ว่าถ้าเทพทั้งสองท่านนั้นมาได้ยินประโยคนี้เข้า พวกเขาจะคิดยังไง
จากนั้นจึงพาซุนหงอคงออกมาจากร้านอาหาร เพียงพ้นประตูร้านอาหาร ซุนหงอคงก็ถึงกับถอนหายใจออกมาเบาๆ
"สหาย ดินแดนลึกลับแห่งนี้อุดมสมบูรณ์จริงๆ"
"ก็งั้นๆ แหละ"
เย่จื่อเฉินไม่ได้ให้ความสนใจเท่าไร ถ้าจะให้เขาพูดถึงอะไรที่ไม่ดีสำหรับที่นี่ เขาสามารถสาธยายออกมาได้หลายร้อยข้อเลยล่ะ
แต่สำหรับซุนหงอคงที่ไม่เคยได้ัักับสภาพแวดล้อมแบบนี้มาก่อน ไม่ได้รับรู้ถึงความยากลำบากของที่นี่ ก็ต้องรู้สึกว่ามันไม่เลวอยู่แล้ว
"จริงสิ สหาย ข้ามีอยู่เื่หนึ่งที่อยากถามมาตลอด เด็กผู้หญิงที่อยู่กับเ้าตลอดนั่น นางเป็อะไรกับเ้า?"
อย่างที่คิด ซุนหงอคงเห็นหลิวฉิงจริงๆ ด้วย
"เขา...เขาเป็น้องสาวข้าน่ะ ตายก่อนที่จะหมดอายุขัย ข้ากำลังจะชุบชีวิตใหม่ให้เขา"
"แบบนั้นต้องยุ่งยากมากเลยล่ะ"
เห็นได้ชัดว่าซุนหงอคงรู้วิธีการชุบชีวิต ความจริงเย่จื่อเฉินก็คิดมากกับสิ่งของที่ต้องใช้ในการชุบชีวิตจนหัวจะะเิอยู่แล้ว
ซุนหงอคงเป็ผู้มีอำนาจมากบน์ ไม่แน่ว่า...
"ท่านซุนหงอคง ท่านพอจะช่วยข้าได้ไหม"
"ยาก" ซุนหงอคงขมวดคิ้วมุ่นพร้อมส่ายหน้า "ข้ากับไท่ซางเหล่าจวินเป็ยังไง ทุกคนก็รู้ดี ความเกลียดชังที่ตาเฒ่านั่นมีให้ข้า ข้ายังจำได้ไม่ลืม ส่วนเหล่าเทพโป๊ยเซียนนั้น ข้าก็ไม่ได้สนิทกับพวกเขา ดูเหมือนว่าที่ข้าพอจะช่วยได้ก็คงมีแค่ในส่วนของฉางเอ๋อ แต่ว่าเศษลูกแก้วิญญา..."
"งั้นก็ช่างมันเถอะ"
เย่จื่อเฉินผิดหวัง กว่าจะเจอคนเก่งทั้งทีไม่ใช่ง่ายๆ ยังจะช่วยไม่ได้อีก
"จริงสิ สหาย ข้ายังมีเื่สงสัยอยู่อีกนิดหน่อย"
"พูดมา"
"ทำไมเ้าถึงไม่มีกายทิพย์"
...
หัวใจของเย่จื่อเฉินเต้นรัว คงจะไม่มาโป๊ะแตกตรงนี้หรอกนะ
เขาหรี่ตาลงไม่พูดอะไรอยู่นาน หลิวฉิงที่ลอยอยู่ข้างๆ เขาก็เริ่มเกิดความกังวล
ซุนหงอคงจับดูใบหน้าเขาอีกครั้ง มองดูเย่จื่อเฉินที่ทำหน้าตาอมทุกข์ ก่อนจะหัวเราะร่วน
"ข้าเข้าใจแล้ว"
อึก
กลืนน้ำลายลงคอ...
"เ้ากลับชาติมาเกิดใช่ไหมสหาย ถึงแม้ว่าข้าจะไม่ค่อยชอบตาเฒ่าไท่ไป๋จินซิง แต่ตำแหน่งบน์นั้นไม่เป็สองรองใครแน่นอน แต่เ้าก็ยังสามารถอยู่ระดับเดียวกับเขาได้..."
ฟู่!
ทอดถอนใจอย่างเงียบๆ
โชคดีที่ซุนหงอคงไม่ค่อยฉลาดเท่าไร
ถึงจะไม่รู้ว่ากลับชาติมาเกิดที่เขาพูดถึงมันคืออะไร แต่เออออไปก่อนก็ได้
"ใช่ ข้ากลับชาติมาเกิด"
"ฮ่าฮ่า ข้าว่าแล้วเชียว กล้าพูดกับข้าไหมล่ะ เกิดใหม่กี่ชาติแล้ว"
...
จะไปรู้ได้ยังไงวะ!
ทำสีหน้าลำบากใจอีกครั้ง ซุนหงอคงหรี่ตาเหยียดยิ้ม แล้วพูดอย่างนึกเคือง
"ไม่บอกอีก ใจแคบ ข้าก็แค่อยากรู้ว่าการเป็ครึ่งมนุษย์ครึ่งเซียนมันเป็ยังไง ช่างมันเถอะ ข้าไม่ถามแล้วก็ได้"
"ขอบคุณท่านซุนหงอคงที่เข้าใจ"
"อืม แต่ว่า..." ซุนหงอคงยื่นมือออกมา เลียริมฝีปากและเลิกคิ้วพูด "ไม่ทราบว่าจะให้นมเปรี้ยวข้าตอนไหนเหรอ ข้ารอสิ่งนี้มานานแล้วนะ"
"กำลังจะไปซื้อให้"
หาโรงแรมให้กับซุนหงอคง แล้วก็ซื้อนมเปรี้ยวให้เขาอีกสิบกว่าขวด
ก่อนจะกลับ เย่จื่อเฉินยังกำชับอีกด้วยว่าอย่าเที่ยวเดินเพ่นพ่านไปทั่ว ถ้าจะไปไหนก็ให้ทักวีแชทมาหาเขา
พูดชักแม่น้ำทั้งห้าจนเขาสงบลงได้ เย่จื่อเฉินถึงได้เดินเช็ดเหงื่อออกมาจากโรงแรม
"เย่จื่อเฉิน ซุนหงอคงมาที่นี่ได้ยังไง"
หลิวฉิงลอยอยู่ในอากาศ สีหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจ เย่จื่อเฉินกลอกตาแล้วพูดขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์
"ฉันจะไปรู้ได้ยังไงเล่า"
อยู่ดีๆ ซุนหงอคงก็โผล่มาที่นี่ ตอนนี้เขาก็ปวดหัวอยู่เหมือนกัน
คนจาก์มายังโลกมนุษย์ แบบนี้มันเหมือนกำลังล้อกันเล่นชัดๆ เลย!