เฟิ่งเฉี่ยนใจร้อนดั่งไฟสุม นางรีบขอความช่วยเหลือจากระบบ “ฟ่านฟ่าน ฟ่านฟ่าน เ้าอยู่หรือไม่ รีบช่วยข้า!”
[ขอโทษฮะเ้านาย! การขอความช่วยเหลือของท่านอยู่นอกเหนือความสามารถของระบบ ฟ่านฟ่านเองก็ไร้สามารถ!]
“ให้ตายเถอะ!” เฟิ่งเฉี่ยนก่นด่า ในเวลาวิกฤติ อาศัยระบบไม่ได้ นางได้แต่พึ่งพาตนเองแล้ว!
ไอสังหารอันเยียบเย็นพุ่งเข้ามาด้านเหนือศีรษะ เฟิ่งเฉี่ยนช้อนตาขึ้นมอง พบว่าสุนัขจิ้งจอกตัวนั้นขึ้นไปอยู่้าศีรษะนางั้แ่เมื่อใด มันกำลังแยกเขี้ยวจ้องมองนาง!
ดวงตาสีแดงฉานจ้องตะครุบเหยื่อ ทำให้คนหวาดกลัวจนตัวสั่น
หัวใจเฟิ่งเฉี่ยนสะดุด ในสมองรีบรื้อความทรงจำเมื่อสามปีก่อนที่นางเดินทางไปปฏิบัติภารกิจที่ไซบีเรียและได้พบกับสุนัขจิ้งจอกไซบีเรีย สายตาของสุนัขจิ้งจอกป่าตัวนั้นยังทำให้นางจดจำฝังใจมาจนถึงตอนนี้...
ดวงตาสีเขียวคู่นั้นเยียบเย็น แววตาที่สะท้อนออกมาจากดวงตาคู่นั้นราวกับเหล็กหมาด ทำให้คนหนาวไปถึงกระดูกสันหลัง สายตานั้นนิ่งลึก คมปลาบราวกับทะลุทะลวงร่างกาย ทั้งเหมือนเข็มอาบยาพิษที่ทำให้คนสั่นสะท้านไปถึงจิติญญา!
พลังอำนาจของผู้แข็งแกร่งที่มีติดตัวมาแต่กำเนิด ทำให้นางตกตะลึงจนแน่นิ่ง...
นางหลับตาลง ก่อนจะลืมตาขึ้นอีกครั้ง ดวงตาของนางเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง!
ความเยียบเย็นราวกับเหล็กหมาด นิ่งลึกเฉกเช่นเข็มอาบยาพิษ
ราวกับนางได้ประสานร่างเป็หนึ่งเดียวกับสุนัขจิ้งจอกป่าตัวนั้น!
แววตาของสุนัขจิ้งจอกป่าไม่ปรากฏสายตาแห่งความปราชัย มีเพียงการยืนหยัดต่อสู้เพื่ออิสระของตนโดยไม่ยอมล่าถอย!
ต่อให้นาทีถัดไปต้องตายตกไป นางก็ไม่มีทางก้มหัวยอมรับความพ่ายแพ้!
เมื่อประสานสายตากับนาง ราวกับสุนัขจิ้งจอกได้รับการท้าทาย ดวงตาสีแดงฉานของมันพลันเบิกกว้างขึ้นอีก มันส่งเสียงร้องคำราม
มันยังคงไม่กระโจนเข้าโจมตีโดยทันที แต่กลับเดินวนไปวนมาเพื่อหยั่งท่าที!
เฟิ่งเฉี่ยนสู้ไม่ถอย มันยิ่งดุร้ายแววตาของนางก็จะยิ่งเหี้ยมโหด!
กฎของสัตว์ทุกชนิดบนโลกใบนี้ มีเพียงผู้ชนะเป็าาเท่านั้น!
หากเ้ายิ่งดุร้าย สัตว์อื่นก็จะยิ่งกลัวเ้า หากเ้าแสดงท่าทีอ่อนแอให้เห็นเพียงเล็กน้อย สัตว์อื่นก็จะกระโจนเข้ามาและสังหารเ้าเพื่อกินเป็อาหาร!
นางแจ่มแจ้งถึงหลักการนี้ดี!
หนึ่งคน หนึ่งสุนัข ประสานสายตากันเช่นนี้
ศัตรูไม่เคลื่อนไหว เราไม่เคลื่อนไหว!
ประตูอุโมงค์น้ำแข็งพลันถูกเปิดออกในเวลานี้เอง มีองครักษ์ยื่นหน้าเข้ามาเมียงมองหมายจะดูว่าเหตุการณ์ข้างในเป็อย่างไรบ้าง
และเป็เพราะการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันนี้ ทำให้สถานการณ์หยั่งท่าทีตรงหน้าถูกทำลายลง!
สุนัขจิ้งจอกรับรู้ได้ถึงการถูกข่มขู่ มันคิดว่าคนข้างนอกจะเข้ามาช่วยคน ดังนั้นมันจึงต้องลงมือก่อนเพื่อชิงความได้เปรียบ ขาทั้งคู่ของมันกระโจนขึ้นกลางอากาศ อ้าปากกว้าง พุ่งเข้าใส่เฟิ่งเฉี่ยน
“สมควรตาย!”
เฟิ่งเฉี่ยนสบถเสียงดังลั่น และเพิ่งจะได้สติว่าตนเองพูดได้แล้ว...
นางออกแรงกางนิ้วออก พบว่าร่างกายของตนขยับได้แล้ว นางจึงพลิกตัวกลิ้งออกไปสามรอบติดๆ จึงหลบการโจมตีหมายเอาชีวิตนี้ไปได้อย่างหวุดหวิด!
ส่วนคนที่อยู่ด้านนอกประตูเห็นเหตุการณ์เช่นนี้ เขารีบปิดประตูแล้วใส่กุญแจเอาไว้ด้วยความใ
“สารเลว!”
เฟิ่งเฉี่ยนก่นด่าอีกครั้ง มือทั้งคู่ของนางยันกับพื้นเพื่อดีดตัวขึ้นหลบการโจมตีของสุนัขจิ้งจอกแล้วออกวิ่ง
สุนัขจิ้งจอกวิ่งไล่ตามนางในอุโมงค์น้ำแข็งอย่างบ้าคลั่ง พร้อมกับส่งเสียงร้องคำราม!
ด้านนอกประตู มู่ชิงหว่านมิได้ไปไหนไกล นางได้ยินเสียงร้องคำรามที่ดังมาจากอุโมงค์น้ำแข็งเป็พักๆ นางหัวเราะอย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง “เฟิ่งเฉี่ยน ข้ากลัวว่าเ้าอยู่คนเดียวจะเหงา จึงได้จัดหาสัตว์เลี้ยงน่ารักให้อยู่เป็เพื่อนเ้า เ้าควรขอบคุณข้าจึงจะถูก ฮ่าๆๆๆๆ...”
สาวใช้ปิดปากหัวเราะ “ต้าฮุยไม่ได้กินอาหารมาสองวันแล้วเ้าค่ะ มันจะต้องพอใจกับอาหารที่คุณหนูเตรียมไว้ให้มันแน่นอน”
สองนายบ่าวหัวเราะประสานเสียงกัน เสียงในอุโมงค์น้ำแข็งพลันเงียบลง และไม่ได้ยินเสียงอะไรอีก
“เหตุใดจึงไม่มีเสียงแล้ว” มู่ชิงหว่านพูดอย่างประหลาดใจ
องครักษ์ “เมื่อสักครู่บ่าวเห็นแม่นางเฟิงถูกต้าฮุยวิ่งไล่ตามอย่างบ้าคลั่ง เวลานี้น่าจะถูกต้าฮุยตามทันและตายไปแล้วขอรับ!”
สาวใช้กล่าวว่า “คุณหนู หากนางตายไปจริงๆ ยาถอนพิษของไท่ฟู่จะทำอย่างไรเ้าคะ”
มู่ชิงหว่านแค่นหัวเราะเสียงเย็น “กลัวอะไร? หากนางเป็คนวางยาพิษจริงๆ ยาถอนพิษต้องอยู่บนตัวนาง รอให้นางตายแล้วค่อยค้นตัวนางก็ได้แล้ว!”
สาวใช้ “ยังคงเป็คุณหนูที่ฉลาดเฉลียว! เฟิงเฉี่ยนผู้นั้นเป็คนไม่รู้จักประมาณตนโดยแท้ เป็แค่นางกำนัลเล็กๆ คนหนึ่ง ถึงกับกล้าแย่งความโปรดปรานกับคุณหนู ช่างไม่รู้จักที่ตาย!”
สีหน้าของมู่ชิงหว่านเปลี่ยนไปทันที นางถลึงตามองสาวใช้ “อย่างนางหรือจะแย่งความโปรดปรานกับข้าได้”
สาวใช้ “ถูกต้อง ถูกต้องเ้าค่ะ ถือรองเท้าให้คุณหนูก็ยังไม่คู่ควรเ้าค่ะ!”
สีหน้าของมู่ชิงหว่านจึงดีขึ้นเล็กน้อย นางจดจ้องไปที่ประตูอุโมงค์น้ำแข็ง ั์ตากลอกไปมาและเอ่ยขึ้นว่า “เปิดประตู! ข้าจะเข้าไปดูสภาพนางที่ถูกสุนัขจิ้งจอกขย้ำจนตายทั้งเป็ด้วยตัวเอง!”
องครักษ์เปิดประตูอุโมงค์น้ำแข้ง ข้างในเงียบสนิท เงียบเหลือเกิน บรรยากาศภายในเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเืและน่าสะพรึงกลัว
“สุนัขและคนเล่า เหตุใดจึงมองไม่เห็นกัน” องครักษ์ยืนอยู่ข้างประตู เขายื่นหน้าเข้าไปเมียงมอง เห็นเพียงภายในอุโมงค์น้ำแข็งว่างเปล่า ข้างในมีรอยเืเป็จุดๆ ตามพื้น เขาอดที่จะตัวสั่นด้วยความหวาดกลัวไม่ได้ ทว่ากลับไม่กล้าเดินเข้าไป
“หลีกไป! เ้าสิ่งของไร้ประโยชน์!” มู่ชิงหว่านผลักเขาไปให้พ้นทางจากด้านหลังแล้วเดินเข้าไป
“คุณหนู ระวังเ้าค่ะ!” สาวใช้คิดจะตามเข้าไปด้วย ทว่าประตูกลับปิดเสียงดัง พ่าง
มู่ชิงหว่านหันกลับมาด้วยสีหน้าหวาดกลัว
“เ้า...เ้า...”
เห็นเพียงด้านหลังประตู หนึ่งคนหนึ่งสุนัขยืนมองนางด้วยสายตาของพยัคฆ์อยู่ที่นั่น สายตานั้นจับจ้องนางราวกับเป็เหยื่อของนายพราน!
เฟิ่งเฉี่ยนยื่นมือออกไปลูบศีรษะของต้าฮุย ต้าฮุยนั่งอยู่ข้างกายนางอย่างสงบ มันแลบลิ้นด้วยท่าทางเหมือนสุนัขสายพันธุ์ปั๊ก ไหนเลยจะมีท่าทีกางเล็บอ้าปากกว้างดุร้ายเหี้ยมโหดเช่นก่อนหน้านี้
“นี่...นี่มันเป็ไปไม่ได้! เ้าทำได้อย่างไรกัน” มู่ชิงหว่านเหลือกตามองเฟิ่งเฉี่ยนด้วยความหวาดกลัว ราวกับเห็นผีอย่างไรอย่างนั้น ต่อให้ผ่าสมองของนางออกมานางก็คิดไม่ตกว่าเหตุใดต้าฮุยที่เป็สุนัขนิสัยดุร้าย เวลานี้จึงได้สงบเสงี่ยมราวกับเป็แมวตัวหนึ่ง นี่มันไร้เหตุผลสิ้นดี!
เฟิ่งเฉี่ยนแค่นเสียงฮึ นางสามารถจัดการสุนัขจิ้งจอกในไซบีเรียด้วยมือเปล่า ต้าฮุยเป็เพียงสุนัขตัวหนึ่ง ไม่เหลือมือนางอยู่แล้ว!
ริมฝีปากยกขึ้นเป็รอยยิ้มกระชากิญญาเปี่ยมไปด้วยอันตราย ั์ตาดำขลับของเฟิ่งเฉี่ยนทอประกายคมปลาบราวกับเหล็กหมาดอาบรังสีสังหารอย่างไรอย่างนั้น “อยากรู้หรือไม่ เช่นนั้นข้าจะเป็คนบอกเ้าเอง...ต้าฮุย!”
ได้ยินคำสั่งของนาง ท่าทีของต้าฮุยเปลี่ยนไปทันที ขนบนลำตัวของมันตั้งขึ้น ดวงตาสีแดงฉานทอประกายดุร้ายออกมา มู่ชิงหว่านหวาดกลัวจนดวงตาแทบถลน นางคิดจะหลบหนี ทว่ากลับพบว่าขาทั้งสองข้างสั่นเทิ้มจนถึงขั้นก้าวขาไม่ออก
“ไม่ ไม่ เ้าจะทำกับข้าเช่นนี้ไม่ได้! ข้า ข้าคือคุณหนูสามสกุลมู่...”
เฟิ่งเฉี่ยนพลันหัวเราะขึ้นมา นางหัวเราะจนหงายหน้าไปด้านหลัง “ฮ่าๆๆๆ...ข้าทำกับเ้าเยี่ยงนี้ไม่ได้หรือ นี่เป็เื่น่าขันที่สุดเท่าที่ข้าเคยได้ยินมา! คุณหนูมู่ ในสายตาของเ้าชีวิตของผู้อื่นเป็เหมือนต้นหญ้าต้นหนึ่ง มีเพียงชีวิตของเ้าที่มีค่าสูงส่งใช่หรือไม่ นาทีที่เ้าปล่อยสุนัขเข้ามา เ้าก็ควรใคร่ครวญให้ดีถึงผลลัพธ์ที่จะตามมาภายหลัง คิดจะเอาชนะ ก่อนอื่นก็ต้องแพ้ให้เป็เสียก่อน!”
ั์ของนางหม่นวูบ นาทีถัดมากลับทอประกายกล้า สายตานั้นดุร้ายเหี้ยมโหดกว่าสายตาของต้าฮุย!
“ต้าฮุย ไปจัดการ!”
ทันทีที่สิ้นเสียง ต้าฮุยก็พุ่งกระโจนออกไปราวกับลูกธนูที่วิ่งออกจากแล่ง มันกระโจนออกไปเพียงไม่กี่ก้าวก็ตะครุบร่างของมู่ชิงหว่าน ลากนางไปกับพื้นพร้อมกับกัดฉีกกระชากอย่างโหดร้าย!