“นี่ น้องห้าเ้าเป็อะไรไป เหตุใดวันนี้ถึงได้ดูโกรธจัดเช่นนี้เล่า” สตรีในชุดสีเขียวและสตรีในชุดม่วงเดินตรงไปหาสตรีในชุดเหลือง
รูปร่างอรชรอ้อนแอ้น ใบหน้านวลผ่องตรงตามคำกล่าวที่ว่า จันทร์หลบโฉมสุดา มวลผกาละอายนาง [1] นั้นไม่ถือว่าเกินจริง
พวกนางทั้งสามคือคุณหนูห้าหานซิน คุณหนูสี่หานเซียง และคุณหนูสามหานเยว่แห่งตระกูลหาน
“ฮึ ไม่ใช่เพราะนาง คนไร้ค่าคนนั้นหรอกหรือเ้าคะ วันนี้ข้าวางแผนให้เสี่ยวเหม่ยทำให้นางอับอายขายหน้า เพื่อให้นางยอมเข้าพิธีมงคลกับเ้าอ้วนตระกูลลู่นั่น ไม่คิดว่าเลยว่านางจะกล้าสังหารคนของข้า”
“โอ้? นางคนไร้ค่านั่นโกรธเสียแล้ว นางกล้าสังหารคนด้วยหรือ” หานเซียงหัวเราะ
“นั่นน่ะสิเ้าคะ พี่สามพี่สี่ พวกท่านรู้หรือไม่ว่านางไร้ค่าคนนั้นยังกล้าพูดจาโอหังอวดดีอีกด้วยนะเ้าคะ นางพูดว่าอีกสามเดือนหลังจากนี้จะกลับมาชำระความกับพวกเรา จะทำเยี่ยงไรดีเ้าคะ ข้ามิยอมแน่” หานซินขยำผ้าเช็ดหน้าที่อยู่ในมือของนางแน่น ดวงตากลมฉายชัดถึงความโเี้
หานเยว่หัวเราะเบาๆ "น้องห้า เ้ายอมไม่ได้ก็ต้องยอม ตามที่ข้ารู้มา ตอนนี้นางคนไร้ค่านั่นออกจากเมืองไปแล้ว ในเมื่อเป็เช่นนี้ก็คงต้องรอนางอีกสามเดือน” หานเยว่นั่งอยู่ที่โต๊ะ จิบชาด้วยท่าทีผ่อนคลาย
“พี่สาม ท่านไม่กลัวนางหนีไปหรือเ้าคะ?” ความโกรธของหานซินยังไม่มีทีท่าว่าจะเบาบางลง เมื่อได้ฟังสิ่งที่หานเยว่พูด ความโกรธที่ไม่รู้ว่ามาจากไหนก็ยิ่งลุกโชนขึ้นอีกครั้ง
มือบางเอื้อมหยิบถ้วยน้ำชา และพูดออกมาประดุจเมฆบางลมเบา [2] “น้องสาวที่โง่งมของข้า ข้านั้นแทบอยากให้นางหนีไปไกลๆ เพราะหากนางหนีไปก็เท่ากับว่าทรยศต่อตระกูลหาน และจะไม่มีที่สำหรับนางอีกต่อไป แน่นอนว่านางไม่สามารถเอาชนะพวกเราได้ง่ายดายถึงเพียงนั้น อย่างไรคนไร้ค่าก็คือคนไร้ค่า ข้าไม่เชื่อว่านางจะสามารถบินขึ้นสู่ยอดไม้จนกลายเป็หงส์ [3] ได้!”
“พี่สาม นางไร้ค่าคนนั้นไร้ค่ามาตั้งสิบห้าปี จู่ๆ นางกลับมีความสามารถขึ้นมา ข้ากังวลว่านางจะมีอะไรซ่อนไว้ให้ประหลาดใจอีกน่ะสิเ้าคะ” หานเซียงเอ่ยปากถาม
หานเยว่หัวเราะ ยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นซับริมฝีปาก "ไม่ต้องกังวลไป พี่ชายของข้าหานเซี่ยวได้สำเร็จระดับแล้วเมื่อวานนี้"
“โอ้? ท่านพี่หานเซี่ยวสำเร็จระดับเสวียนซื่อไปถึงระดับเสวียนซือแล้วหรือเ้าคะ? สำเร็จระดับเสวียนซือตอนอายุสิบเจ็ดปี สมแล้วที่เป็อัจฉริยะของตระกูลหานเรา เป็รองเพียงหานเทียน พี่หานิและพี่ใหญ่หานเสวี่ยเท่านั้น เช่นนั้นแล้วน้องสาวข้า เ้าไม่จำเป็ต้องกังวลอะไรแล้ว”
............................
ป่าไร้ิญญา เป็ป่าที่อยู่บริเวณขอบเทือกเขาม่อโซ่ว ที่แห่งนี้เป็โลกของสัตว์อสูรและเป็สรวง์ของเหล่านักฆ่ารับจ้าง ที่แห่งนี้ไม่มีกฎ มีเพียงแค่ข้อปฏิบัติพื้นฐานที่ต้องทำตามคือ ผู้ที่อ่อนแอเป็เนื้อให้ผู้ที่แข็งแกร่งกิน [4]
ซากศพมากมายนอนเกลื่อนกลาดอยู่บนพื้นทั่วทุกแห่งหน พวกเขาทั้งหมดนี้ล้วนตายจากการถูกปาดคอ โดยที่ไม่มีร่องรอยของาแอื่นเลย เห็นได้ชัดว่าผู้ที่ลงมือนั้นมีฝีมือรวดเร็วเพียงใด
ห่างจากเหล่าซากศพออกไปเพียงไม่กี่ลี้ สตรีสวมชุดจิ้นจวงสีดำกำลังนั่งขัดสมาธิอยู่ในโพรงต้นไม้ และแผ่กลิ่นอายลึกลับออกมาทั่วร่าง
ทันใดนั้นหญิงสาวพลันลืมตาขึ้น หัวเราะออกมาเสียงเบา ก่อนจะกระโจนออกจากโพรงต้นไม้ด้วยท่วงท่าสง่างามปราดเปรียวซึ่งสามารถทำให้ผู้คนเคลิบเคลิ้มได้
“ลิขิต์นี่มันช่างน่าอัศจรรย์เสียจริง ในเวลาเพียงแค่สัปดาห์เดียวข้าก็สำเร็จถึงขั้นกลางของระดับเสวียนซื่อแล้ว ยอดเยี่ยมยิ่งนัก!”
สตรีนางนี้คือหานโม่ เวลาหนึ่งสัปดาห์ที่นางอยู่ในป่าไร้ิญญาแห่งนี้ มีบางคนที่มุ่งหวังความงามของหานโม่ บางคนก็้าผลึกเวทมนตร์ในมือหานโม่ และแม้แต่สัตว์ร้ายในป่าไร้ิญญาแห่งนี้ก็ยังอยากได้ร่างของนางมาเป็อาหารที่แสนโอชะ
เวลาเพียงสัปดาห์เดียวที่ได้เข้ามาแทนที่ร่างเดิมกับการขัดเกลาชีวิตและความตาย ผนวกกับลิขิต์ที่จู่ๆ ความทรงจำเกี่ยวกับการฝึกฝนก็ได้ปรากฏขึ้นมา จนทำให้การฝึกของหานโม่รุดหน้าไปอย่างรวดเร็ว ภายในเวลาหนึ่งสัปดาห์นางสำเร็จระดับเสวียนถูไปสู่ขั้นกลางของระดับเสวียนซื่อ และห่างจากระดับเสวียนซืออีกเพียงแค่ก้าวเดียวเท่านั้น
“ยังพอมีเวลาเหลืออยู่ หวังว่าลิขิต์จะไม่ทำให้ข้าต้องผิดหวัง” หานโม่พึมพำในขณะที่มองขึ้นไปบนท้องฟ้า
“ฮ่าฮ่า พี่รองท่านดูสิ ตรงนี้มีสาวงามอยู่ด้วย” นักฆ่ารับจ้างสองคนะโลงมาจากบนยอดไม้ คนหนึ่งมีเครารกครึ้มบนใบหน้า อีกคนหนึ่งมีคิ้วโจรตาหนู [5] พวกเขาทั้งคู่ล้วนจ้องมาที่หานโม่ด้วยสายตาหื่นกาม "จุ๊ๆ พี่รองท่านดูสิ เอวบางเล็ก ขาเรียวยาวเช่นนี้ ถ้าถูกประกบไว้แบบนี้มันจะต้องเยี่ยมยอดแน่นอน "
นักฆ่ารับจ้างที่มีคิ้วโจรตาหนูผู้นั้นจ้องหานโม่พลางลอบกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ แต่ยังคงรักษาสีหน้าท่าทางปกติ "พี่ใหญ่ หากท่านจะทำก็รีบทำเข้าเถอะ ผลชื่อหลิงใกล้สุกแล้ว"
“เ้าพูดถูก งั้นข้าจะรีบทำให้เสร็จ” คนที่เป็พี่ใหญ่พยักหน้า แล้วเดินเข้ามาหาหานโม่ด้วยใบหน้าราวกับหมู “สาวน้อย ไม่ต้องกลัวไป พี่ชายจะดูแลเ้าอย่างดี รับรองว่ามันจะทำให้เ้ารู้สึกดี!”
........................................................................
เชิงอรรถ
[1] จันทร์หลบโฉมสุดา มวลผกาละอายนาง มาจากโคลงกลอนสี่หญิงงาม ( 四大美人) เป็คำเรียกสตรีสี่นางที่ถือว่ามีความงดงามที่สุดในประวัติศาสตร์จีน
[2] เมฆบางลมเบา หมายถึง ปลอดโปร่งแจ่มใส
[3] บินขึ้นยอดไม้กลายเป็หงส์ หมายถึง เปลี่ยนจากคนที่ฐานะหรือตำแหน่งต่ำต้อย และยกระดับตัวเองขึ้นมามีฐานะ
[4] ผู้ที่อ่อนแอเป็เนื้อให้ผู้ที่แข็งแกร่งกิน หมายถึง สัตว์ที่อ่อนแอกว่า ย่อมตกเป็เหยื่อของสัตว์ที่แข็งแรงกว่า เพื่อให้สัตว์ที่แข็งแรงกว่านั้น สามารถดำรงชีวิตได้ต่อไป
[5] คิ้วโจรตาหนู หมายถึง การบรรยายถึงคนที่มีลักษณะดูไม่น่าไว้วางใจ ดวงตาเล็กเหมือนหนู สายตาล่อกแล่ก เป็ลักษณะของโจร หรือคนที่มีเล่ห์เหลี่ยม และไม่สุจริต
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้