บทที่ 11
“ตรงนั้นหน่อยเ้ารัก…”
“ได้ครับปู่…ดีขึ้นไหมครับ?”
“ดี ๆ …ฝีมือการนวดไม่มีตกเลยนะ เก่งจริง ๆ เ้าลูกหมาอ้วน”
คนโดนชมยิ้มจนปากบานแล้วตั้งหน้าตั้งตานวดขาให้ปู่ต่อ ่วันหยุดที่รักมักจะใช้เวลาอยู่กับปู่ เพราะเขามีเรียนแทบจะทุกวัน เวลาที่เคยมีร่วมกันจึงลดน้อยลง ถ้ามีเวลาว่างเขาก็จะอยู่กับปู่ให้มากที่สุด แม้ว่าท่านจะไม่เคยบ่นว่าเหงาต้องนั่งดูโทรทัศน์หรืออ่านหนังสือคนเดียว แต่ลึก ๆ แล้วที่รักรู้ว่าปู่รอและอยากอยู่กับเขาเสมอ
ครืด ~
เสียงสั่นแจ้งเตือนทำให้คนตัวเล็กละมือข้างหนึ่งออกจากขาปู่เพื่อเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่ตรงหน้า แต่มืออีกข้างยังคงออกแรงนวดต่อ ที่รักกดรับสายแล้วเอาโทรศัพท์แนบหูโดยใช้ไหล่ช่วยพยุงไว้ก่อนจะกลับไปนวดให้ปู่สองมือเหมือนเดิม
“ว่าไงครับคุณพาฝัน?”
[อยู่ใกล้ๆ จะเขกกะโหลกให้ ทำทะเล้นเรียกชื่อจริง]
“ฮ่า ๆ ว่าไงพี่เบบ? รักกำลังนวดให้ปู่อยู่ อย่ารบกวนเวลาของรักกับปู่ซี่ ~”
[วันนี้ไปงานวันเกิดใกล้ไหม? ใกล้ฝากมาชวน]
“อ้าว วันนี้วันเกิดใกล้เหรอ? ทำไมพี่ดอมไม่ยอมบอกล่วงหน้าเลย รักไม่มีของขวัญให้ใกล้เลยเนี่ย”
[จะไปไหมล่ะ? ถ้าไปฉันจะได้ซื้อเผื่อให้เลยเพราะอยู่ห้างพอดี]
“…”
ที่รักขมวดคิ้วครุ่นคิด ใกล้เป็ลูกพี่ลูกน้องของพี่ดอม เ้าตัวเป็คนที่อัธยาศัยดีมาก ๆ เวลาเจอเขาที่มหา’ ลัยจะชอบปลีกตัวจากกลุ่มเพื่อนเพื่อมาทักทายตลอด แถมงานวันเกิดของเขาเมื่อปีที่แล้วใกล้ก็มาทั้งที่เพิ่งกลับจากเกาหลี ลงจากเครื่องก็เอาของขวัญมาให้เขาเลย
[ว่ายังไง?]
“ไป ๆ พี่เบบ รักฝากเลือกของขวัญให้ใกล้ด้วยนะ เอาอะไรก็ได้ที่เหมาะกับคนน่ารัก ๆ อย่างใกล้อะ…เลือกเป็หรือเปล่า ของน่ารัก ๆ น่ะ ไม่เอาอะไรที่มีสีมืดหม่นนะ”
[ใกล้ก็ไม่ต่างจากแกเลย เลือกให้ใกล้ก็เหมือนเลือกให้แกแหละ]
“ไม่เหมือนสิ ใกล้น่ารักส่วนรักหล่อ”
[หมั่นไส้คนหล่อจริง ๆ! แค่นี้นะ…จะไปซื้อของแล้ว]
“ค้าบ ~”
ที่รักวางสายก่อนจะเงยหน้ามองปู่ที่นั่งอยู่บนโซฟา เขาส่งสายตาลูกหมาให้ปู่เพื่ออ้อนขอไปงานวันเกิดใกล้ ความจริงแล้วปู่อนุญาตเสมอแหละ แต่ที่รักคิดว่าการที่เราสัญญาว่าจะอยู่ด้วยกันทั้งวันแล้วเปลี่ยนคำพูดคงจะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกไม่ดี
“ปู่ค้าบ ~ รักขอไปงานวันเกิดน้องพี่ดอมนะครับ คนที่เคยมางานวันเกิดรักเมื่อปีที่แล้ว”
“ไปเถอะ ปู่ไม่ว่าอะไรหรอก…บางทีวันหยุดอยากออกไปเที่ยวไหนก็ไปนะเ้ารัก ไม่ต้องห่วงปู่ยังไงเราก็เจอหน้ากันทุกวันอยู่แล้ว”
“รักก็ไม่รู้จะไปไหน…อยู่อ้อนปู่แบบนี้ดีกว่า ไม่เปลืองเงินดีด้วย”
ปู่หัวเราะก่อนจะเอื้อมมือมาขยี้ผมเขา “เฮ้อ…ติดปู่แบบนี้จะมีเมียได้ไหมเนี่ย?”
“รักมีแค่ปู่ พ่อ แม่ พี่เบบ พี่ดอม แถมหมูกรอบอีกตัว แค่นี้ก็ไม่้าใครแล้วครับ…” พูดจบดวงตาเรียวรีก็เบิกกว้างเหมือนเพิ่งนึกบางอย่างขึ้นมาได้ “ลืมไปเลย…มีพวกขี้แกล้งสามคนด้วย แค่นี้ก็พอแล้วครับ”
“อย่าให้เห็นเพิ่มใครเข้ามาอีกนะเ้ารัก…”
“พอแล้วจริง ๆ ครับ แค่นี้ก็อบอุ่นจนร้อนไปหมดแล้วครับปู่” คนตัวเล็กพูดปนขำ
“ระวังเถอะ ระวังจะไปใจสั่นกับใครเข้า…ถ้าเป็แบบนั้นงานเข้าเลยนะเ้ารัก…”
คนตัวเล็กที่นั่งยิ้มปากบานอยู่ที่พื้นค่อย ๆ หุบยิ้มก่อนจะกลืนน้ำลายลงคอแล้วหลุบตาลงต่ำ แสดงอาการคล้ายคนถูกจับได้ ประโยคคำพูดของปู่จะไม่มีความหมายเลยถ้าหากเขาไม่ปล่อยให้ตัวเองใจสั่นกับหมื่นฟ้าบ่อย ๆ
เมื่อวานตอนที่หมื่นฟ้าซบไหล่เขา กระซิบที่ข้างหู หัวใจมันเต้นรัวจนควบคุมไม่ได้เลย เขานอนคิดทั้งคืนว่าอีกนานแค่ไหนกว่ามันจะหาย แล้วเมื่อไหร่ที่เขาจะปรับตัวให้อยู่กับหมื่นฟ้าได้โดยไม่ต้องลำบากหัวใจตัวเอง แต่ก็ไม่ได้คำตอบกลับมาเช่นเคยเพราะเขาไม่เคยมีประสบการณ์แบบนี้
ตอนนี้งานเข้าหรือไม่เข้ายังไม่แน่ใจหรอกครับปู่
แต่หัวใจที่สั่นเป็เ้าเข้าน่ะ…รักรู้ตลอดเวลาเลย
งานวันเกิดของใกล้จัดที่ร้านเนื้อย่างเกาหลีแถวสยาม ใกล้บอกว่าที่เลือกมาทานร้านอาหารและไม่ได้จัดงานแบบส่วนตัวเพราะไม่อยากให้ที่บ้านลำบากเตรียมงานใหญ่โต ใกล้อยากได้บรรยากาศสบาย ๆ คล้ายนัดกันกินข้าว่วันหยุดมากกว่า
ที่รักที่มากับพี่เบบพี่ดอมถึงร้านตามเวลานัด และไม่นานก็มีเพื่อนสนิทของใกล้อีกไม่กี่คนตามมา พวกเขาเลยเริ่มสั่งอาหารกินกันไปพลาง ๆ เพื่อรอแขกคนอื่นที่ใกล้ชวนมาร่วมงาน
ก่อนจะมาถึงร้านพี่ดอมได้โทรชวนหมื่นฟ้ามาร่วมงานด้วยเพราะพี่ดอมบอกว่าใกล้กับหมื่นฟ้าเคยเจอกันบ้าง ถ้าหมื่นฟ้ามาพี่ดอมจะได้มีเพื่อนคุยด้วย
“พันลี้มาแล้ว ไอ้ฟ้ายังไม่โผล่มาเลย”
ส่วนพันลี้เป็ตัวแถม…พี่ดอมคิดอะไรไม่รู้ถึงได้ให้เขาโทรชวนเพื่อนสนิทมาร่วมงานด้วย เ้าตัวก็ดันว่างพอดี ตอนแรกพันลี้ลังเลเพราะไม่รู้จักเ้าของวันเกิดเลย แต่พอรู้ว่าพี่ดอมชวนแล้วหมื่นฟ้าไปด้วย เพื่อนสนิทถึงได้ตอบตกลง
“วันนี้แต่งตัวซะหล่อเชียวนะหน้าหมาลี้…แต่ไม่ชนะ รัก นิรันดร์หรอกก…คนนี้หล่อกว่าเยอะ”
“กูอยากจะหยิกปากมึงจริง ๆ ทำหน้าทำตา”
ที่รักยิ้มขำก่อนจะเขยิบให้เพื่อนได้นั่งข้าง ๆ ตัวเอง เก้าอี้ตัวยาวที่สามารถนั่งได้หกคนต่อฝั่งในเวลานี้มีคนนั่งเกือบเต็มทั้งสองฝั่งแล้ว มันดูเหมือนไม่มีที่ว่างไว้ให้สำหรับแขกที่ยังมาไม่ถึง แต่ว่าที่รักแอบเว้นที่ไว้เยอะพอสมควรเพื่อรอใครบางคน
“รัก…มึงเขยิบอีกนิดได้ไหม? กูนั่งจะตกขอบแล้ว”
“ได้อีกแค่นิดเดียวนะ เพราะ…” ที่รักเขยิบให้พันลี้อีกนิดเดียวจริง ๆ ก่อนจะเหลือบมองที่นั่งด้านในที่ตัวเองเว้นไว้ “เพราะพี่ฟ้าตัวใหญ่ เดี๋ยวจะนั่งไม่พอ”
“ไม่เป็ไรหรอกรัก นั่งให้สบายเถอะ ถ้าไม่พอเดี๋ยวเราขอต่อโต๊ะให้…”
“ได้ใช่ไหมใกล้?”
“ได้ครับ เพราะเพื่อนใกล้ก็เหลืออีกหลายคน ยังไงก็คงต้องต่อโต๊ะแหละ”
“โอเค…จะได้หายห่วง” ที่รักพยักหน้าหงึกหงักพร้อมส่งยิ้มให้ใกล้ เ้าของวันเกิดคนนี้น่ารักสุด ๆ ไปเลย ทั้งนิสัยดีทั้งหน้าตาดี สุภาพมาก ๆ ด้วย ถ้าใกล้เป็ผู้หญิงเขาแนะนำให้พันลี้ไปแล้ว
“ห่วงกันจริง ๆ มึงรอเก้อแล้วไอ้แก้มย้อย พี่ฟ้าไม่มาแล้ว”
“มันไม่มาจริงเหรอ?” พี่ดอมที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามถามขึ้น แต่พี่เบบคงคิดเหมือนเขาถึงได้หรี่ตามองพันลี้คล้ายกำลังจับผิด
“จริงพี่ดอม พี่ฟ้าบอกรถติดมาก…วนรถกลับไปแล้ว”
“ถ้าโกหกอีกครั้งจะไม่แบ่งเนื้อย่างให้เลยนะลี้…อันนี้พูดจริง ๆ ไม่ได้ขู่”
“จริง! ไม่เชื่อไปโทรถามเอง”
“ฮึ่ย! ลี้หน้าหมาคิดจะโกหกกันไปถึงไหนนะ…”
“เขาท้าให้ไปโทรถาม แกก็ออกไปโทรถามเลย ได้ความจริงยังไงค่อยกลับมาจัดการลี้” พี่เบบพูด
ที่รักพยักหน้าเห็นด้วยกับพี่สาว เขาจึงบอกให้เพื่อนที่นั่งขวางอยู่ถอยออกไป เขาจะได้ลุกออกไปโทรถามความจริงจากหมื่นฟ้า
“สงสารเด็กรอเก้อจริง ๆ ”
“เดี๋ยว…เดี๋ยวนะพันลี้ ถ้าไม่ใช่เื่จริงมีเสียน้ำตาเพราะที่รักคนโหดแน่ ๆ ” พันลี้ที่โดนเขาชี้หน้าคาดโทษยืนหัวเราะชอบใจ
ที่รักออกมายืนหน้าร้านเพราะข้างในเสียงดังจนเกินไป ทว่าบริเวณทางเดินก็ไม่ได้เงียบสงบอย่างที่คิดเพราะมีเสียงเพลงดังอยู่เช่นกัน แต่เขาคิดว่ายังดีกว่าข้างในเยอะ
คนตัวเล็กล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงก่อนจะกดโทรไลน์หาหมื่นฟ้าเพื่อยืนยันในสิ่งที่พันลี้พูด เขาไม่อยากจะเชื่อว่าเ้าตัวจะเบี้ยวนัด คนมีความรับผิดชอบอย่างหมื่นฟ้าไม่มีทางเทงานวันเกิดรุ่นน้องเพราะแค่รถติด ที่รักมั่นใจว่าพันลี้โกหกเขาแน่ ๆ
แต่ถ้าหมื่นฟ้าไม่มาจริง ๆ
ก็คงจะรู้สึกโล่ง ๆ มั้ง
[ว่าไงครับ?]
“พี่ฟ้าไม่มางานวันเกิดใกล้เหรอครับ? พันลี้บอกว่าพี่ฟ้าจะไม่มาแล้วเพราะรถติดมาก”
[…]
“จริง ๆ เหรอครับ?”
[ครับ]
รู้สึกโล่งจริง ๆ นั่นแหละ
“รถติดมากเลยเหรอครับคุณท้องฟ้า?”
[ติดมากครับ…]
“น่าเสียดายแทนพี่ฟ้านะครับ เพราะอาหารที่นี่อร่อยมาก”
[หึ ๆ]
ที่รักก้มหน้าเม้มริมฝีปากขณะฟังเสียงหัวเราะของหมื่นฟ้า “แต่เดี๋ยวรักกินเผื่อเองครับ”
[ครับ]
“งั้นแค่นี้ก่อนนะครับ รักต้องกลับเข้าไปในร้านแล้ว”
[ครับ…]
ที่รักวางสายจากหมื่นฟ้าก่อนจะหมุนตัวกลับเข้าไปในร้าน แต่เสียงแจ้งเตือนจากไลน์รั้งฝีเท้าเขาไว้ก่อน ที่รักหยุดนิ่งอยู่หน้าประตูแล้วยกโทรศัพท์ขึ้นมาดู
บนหน้าจอปรากฏข้อความจากใครบางคน
M.FAH : หันหลังมาหน่อยครับ
คนที่รู้สึกว่างโล่งหลังจากที่ได้รับคำยืนยันหันกลับไปมองด้านหลังตามใครบางคนบอก และมันเป็ในตอนนั้นเองที่ความรู้สึกว่างโล่งถูกบางอย่างเติมเต็ม
ไม่รู้เป็การมาปรากฏตัวหรือรอยยิ้มของหมื่นฟ้า
ไม่รู้ว่าอะไรที่ช่วยเติมเต็ม
แต่ที่รู้คือ…
ใจเต้นแรงอีกแล้ว
หมื่นฟ้ากำลังเดินมาหาเขา เ้าตัวส่งยิ้มให้อยู่ไกล ๆ แต่ทว่ามันชัดเจนเหมือนยืนอยู่ตรงหน้ากัน แล้วที่รักก็ได้ยินเสียงทุ้มต่ำที่เอ่ยเรียกตัวเองดังชัดพอ ๆ กับเสียงเพลงที่เปิดอยู่บริเวณทางเดิน
“ตัวดื้อ…”
‘อดใจไม่ไหวเมื่อได้พบหน้า ยิ่งเธอส่งยิ้มคืนมายังหวั่นไหว’
“…”
‘ยังเป็อย่างนี้อยู่ทุกวัน ฉันต้องคอยหักห้ามใจ’
“ขอโทษที่โกหกนะครับ พี่ฟ้าแค่อยากรู้ว่ามีคนรอกันอยู่ไหม?”
“ไม่มีใครรอหรอกครับ ไม่มีเลย…” ที่รักแอบเคืองหมื่นฟ้าที่ทำให้รู้สึกว่างโล่ง แต่ตอนนี้เ้าตัวขอโทษและสำนึกผิดแล้ว เขาก็ควรจะให้อภัย “แต่เอาจริง ๆ ก็มีคนรอแหละครับ…นั่งรอกันอยู่ในร้านครับ”
“แล้วคนนี้ล่ะครับ…คนนี้รอพี่ฟ้าอยู่หรือเปล่า?”
“…” พอสักที…หมายถึงหัวใจที่เต้นเร็วกับหมื่นฟ้าน่ะ พอสักที T_____T “ก็…ก็รอเหมือนที่ทุกคนรอนั่นแหละครับ”
“ขอบคุณนะครับที่รอพี่ฟ้า…”
“…”
“แล้วก็ขอบคุณที่หันกลับมามองพี่ฟ้า”
“…”
สายตา น้ำเสียง และรอยยิ้มของหมื่นฟ้าในตอนนี้สร้างปรากฏการณ์บางอย่าง ที่รักเชื่อว่าไม่มีใครเคยเห็นปรากฏการณ์นี้เพราะเหมือนมันจะเกิดขึ้นแค่ในโลกของเขาเท่านั้น…
20 : 25 นาที มีพระอาทิตย์ดวงโตอยู่กลางสยาม
20 : 26 นาที โลกของรัก นิรันดร์ หยุดหมุนโดยสมบูรณ์
#กี่หมื่นฟ้า
ที่รักเคยได้ยินคำว่าโลกหยุดหมุนมานานแล้ว แต่เหตุการณ์นี้ยังไม่เคยเกิดขึ้นกับตัวเองและคิดว่าไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ด้วย ทว่าตอนนี้ที่รักรู้ซึ้งถึงคำว่าโลกหยุดหมุนแล้ว
มันเป็ความรู้สึกแปลก ๆ ที่อธิบายไม่ถูก แต่พอจะรู้ได้ว่ามันเป็อย่างไร ในตอนที่โลกทั้งใบของตัวเองหยุดหมุน ทุกอย่างรอบตัวจะค่อย ๆ หยุดนิ่งแล้วหายไปจากขอบสายตา
สุดท้ายจะเหลือแค่เสียงและคนที่ทำให้โลกของเราหยุดหมุน
ในสายตาเรา…เหลือแค่นั้นจริง ๆ
แต่โลกก็กลับมาโคจรรอบตัวเองอีกครั้งเพราะเสียงหัวเราะเยาะของเพื่อนสนิทที่ดังอยู่ข้างเขา ในตอนนั้นที่รักทั้งโกรธที่พันลี้หลอกกัน และคิดขอบคุณที่ช่วยให้ทุกอย่างกลับคืนสู่สภาวะเดิม
ถ้าไม่มีเสียงหัวเราะเยาะของพันลี้
ตอนนี้เขาคงไม่ได้สติ
“ตัวดื้อเอาน้ำแข็งเยอะไหมครับ?”
“เยอะครับ…”
ที่รักยืนรอหมื่นฟ้าที่กำลังตักน้ำแข็งใส่แก้วให้เขาอยู่ เ้าตัวมาเกือบเป็คนสุดท้ายจึงต้องลุกมาเอาเครื่องดื่มเอง ไม่มีใครเอามาเผื่อเหมือน่แรก ๆ ตอนนี้ทุกคนติดลมนั่งย่างเนื้อกันไม่ยอมลุกแล้ว เขาคิดว่าหมื่นฟ้าไม่น่าจะชอบสถานที่วุ่นวายสักเท่าไหร่ แล้วร้านบุฟเฟ่ต์แบบนี้ก็ยากจะหลีกเลี่ยง เพราะเดาว่าไม่ชอบที่รักเลยยอมลุกมาเอาเครื่องดื่มเป็เพื่อนหมื่นฟ้า
น้ำลิ้นจี่ของตัวเองหมดพอดีด้วยแหละ…ก็เลยมาเป็เพื่อน
“ตัวดื้อเอาน้ำอะไรครับ?”
“ลิ้นจี่ครับ”
หมื่นฟ้าเติมน้ำลิ้นจี่ให้เสร็จก็ยื่นแก้วคืนเขา “อร่อยเหรอครับ?”
“มากกก…คุณท้องฟ้าอยากจะลองไหมครับ?”
คนตัวสูงจ้องมองแก้วน้ำลิ้นจี่ในมือของเขาสักครู่ก่อนจะพยักหน้ารับ ที่รักจึงหันไปกดหลอดเพื่อจะเอามาให้หมื่นฟ้าได้ลองดูดน้ำลิ้นจี่ในแก้วตัวเอง แต่พอเขาหันกลับมาก็เห็นหมื่นฟ้ากำลังดูดน้ำลิ้นจี่โดยใช้หลอดเดียวกับเขา
นั่น…นั่นมันหลอดของเขานะ T______T
เขาไม่ได้รังเกียจหมื่นฟ้าหรอก…แต่แค่รู้สึกแปลก ๆ
หัวใจไม่ได้เต้นแรง แต่มันรู้สึกยิบยุบข้างในยังไงไม่รู้
“อร่อยดีครับ แต่พี่ฟ้ากดชาเขียวมาแล้ว พี่ฟ้าคงต้องกินชาเขียวให้หมดก่อน”
“คะ ครับ”
แล้วหลอดอันใหม่ที่ถืออยู่ในมือก็ต้องโยนทิ้งไปเพราะเขากลัวหมื่นฟ้าจะคิดว่ารังเกียจถึงขนาดต้องเปลี่ยนหลอด หมื่นฟ้ายื่นแก้วชาเขียวให้เขาพร้อมพยักหน้าชวน ที่รักส่ายหน้าปฏิเสธอย่างแรงจนรู้สึกได้ว่าแก้มของตัวเองสั่นคลอนไปหมด
“รักไม่ค่อยชอบดื่มชาเขียวครับ…” จริง ๆ คือดื่มได้ แต่แก้วนี้…ขอเว้นไว้ก่อนละกัน กลัวหัวใจจะเลิกยุบยิบแล้วเปลี่ยนไปเต้นเร็วอีก
“ไม่มีอะไรสู้กะเพราหมูกรอบไข่เจียวได้แล้ว ชาลี บราวน์ ยังสู้ไม่ได้…ชาเขียวก็อย่าหวัง”
ที่รักรู้สึกหน้าเห่อร้อนเพราะหมื่นฟ้ารู้เื่ของเขาไปหมด รู้ดีจนเอามาพูดแซวกันได้ “พี่ฟ้าจะรู้เยอะไปแล้วนะครับ รักเริ่มสงสัยแล้วว่าพี่ฟ้าไปรู้มาจากไหน?” เขาหรี่ตาแกล้งทำท่าจับผิดหมื่นฟ้า “ชาลี บราวน์ รักเป็คนบอกเอง…แต่กะเพราหมูกรอบไข่เจียวไม่เยิ้ม ซอสมะเขือเทศ ไอติมรสช็อกโกแลต พี่ฟ้ารู้มาจากไหนครับ?”
เราเริ่มสนิทกันมากขึ้นแล้ว และความสงสัยที่เริ่มก่อตัวมากขึ้นก็ทำให้เขาเลือกที่จะถามออกไป
“จากหลายที่จนจำไม่ได้เลยครับ ไว้จำได้จะมาบอกนะครับ”
“รักรู้ว่าพี่ฟ้าจำได้นะ แต่พี่ฟ้าไม่ยอมบอกกัน”
“ไม่งอแง…ไว้เดี๋ยวพี่ฟ้าบอกนะครับ” หมื่นฟ้าพูดปนหัวเราะก่อนจะเอื้อมมือมาลูบหัวเขา
ในเมื่อเ้าตัวยังไม่ยอมบอก เขาก็ไม่อยากจะเค้นถาม “รับปากแล้วนะครับ”
“ไม่รับปากครับ…” หมื่นฟ้าถอนมือข้างที่ลูบหัวเขาออก เ้าตัวลดมือลงให้อยู่ในระดับเดียวกับมืออีกข้างของเขาที่ปล่อยทิ้งไว้ข้างกาย ก่อนที่มือหนาจะเคลื่อนเข้ามาใกล้มือของเขา แล้วนิ้วก้อยของหมื่นฟ้าก็เริ่มทำสัญญาโดยการเกี่ยวนิ้วก้อยเขาไว้ “แต่สัญญาเลย…”
ไม่เคยคิดเลย…
ไม่เคยคิดว่าการทำสัญญาแบบเด็ก ๆ การทำสัญญาหน้าตู้กดน้ำ
การทำสัญญากับหมื่นฟ้า…
ตึก ตัก ตึก ตัก
จะต้องให้หัวใจเป็พยานด้วยเสียงตอบรับดังขนาดนี้
“หะ ห้ามผิดสัญญาด้วย! ไม่งั้นรักจะหักคะแนนความสนิท…รักยังไม่ลืมนะพี่ฟ้า”
“ครับ ไม่ผิดสัญญา แค่รอพี่ฟ้าทวนความจำสักหน่อย เดี๋ยวจะรีบมาบอก”
ที่รักไม่เข้าใจในสิ่งที่หมื่นฟ้าพูดทั้งหมด ตอนนี้เขารับรู้ได้เพียงว่าอีกฝ่ายจะไม่ผิดสัญญาต่อกัน และสักวันเขาจะได้คำตอบ เขาจะไม่เค้นถามให้อีกคนรู้สึกลำบากใจ จะไม่ทวงคำตอบหากเ้าตัวยังไม่พร้อมบอก เพราะเขาอยากให้ทุกอย่างมาจากความสบายใจของหมื่นฟ้า
คนตัวเล็กถอนนิ้วก้อยของตัวเองออกจากหมื่นฟ้า ที่รักเม้มริมฝีปากพร้อมหลุบตาลงต่ำก่อนจะหมุนตัวเดินกลับมาที่โต๊ะโดยไม่รอหมื่นฟ้า ตอนนี้เขาเขินจนหน้าร้อนกว่ากระทะปิ้งย่างอีก
ทุกคนกำลังคุยเล่นกันอย่างสนุกสนาน ที่รักนั่งลงบนเก้าอี้ในตำแหน่งใหม่เพราะด้านในสุดโดนพันลี้ยึดไปแล้ว
“ลี้! กินกุ้งเยอะขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“อยากกินเหรอ?”
“ไม่ได้อยากกินเท่าไหร่…ก็คืออยากกินแหละแต่แค่ใกุ้งในจานมึงอะ”
ที่รักเบิกตาโตชี้กุ้งจำนวนมากที่ถูกแกะเปลือกแล้วในจานพันลี้ คนอื่นสั่งแต่เนื้อมากินกัน มีแต่พันลี้เท่านั้นที่สั่งซีฟู้ดมากิน ตอนแรกเขาเขินหมื่นฟ้าจนไม่กล้าสู้หน้าด้วยซ้ำ แต่เพราะกุ้งของพันลี้ทำให้เขาลืมทุกอย่างไปหมด
“พี่ฟ้า ๆ ดูพันลี้สิ แอบแกะกุ้งไว้กินคนเดียว…กองสูงเท่าูเาเลย” พูดพร้อมชี้จานกุ้งของพันลี้ให้คนข้าง ๆ ดู หมื่นฟ้าชะเง้อหน้ามองตามที่เขาชี้ เ้าตัวไม่พูดอะไรทำเพียงแค่คีบกุ้งในเตามาใส่จานตัวเองแล้วเริ่มแกะเงียบ ๆ
“อย่าเว่อร์ไอ้แก้มย้อย…ก็แค่นิดเดียวเอง”
“อย่าเห็นแก่กินขนาดนั้นสิลี้ เกรงใจใกล้บ้าง ใกล้อุตส่าห์พามาเลี้ยง แกะให้เ้าของวันเกิดบ้างสิ…แล้วแบ่งให้เพื่อนเ้าของวันเกิดด้วย…”
“หมายถึงแบ่งให้มึงด้วยใช่ไหม?”
“ใช่…”
พันลี้ส่ายหน้าพอได้ยินคำตอบพลางเหลือบมองเ้าของแก้มย้อย ๆ ที่หัวเราะชอบใจอยู่ “จริง ๆ เลยนะไอ้แก้มย้อย”
“กินไปเถอะ ใครอยากสั่งซีฟู้ดอีกก็เอานะ เราเลือกราคาซีฟู้ดไว้อยู่แล้ว ไม่ได้เสียอะไรเพิ่มหรอก”
“ใกล้นี่ใจดีจริง ๆ ”
“อะ…ของขวัญวันเกิด”
ที่รักมองกุ้งจานโตที่พันลี้ยื่นให้เ้าของวันเกิด ใกล้ดูใเล็กน้อยแต่ก็รับไว้ ไม่ใช่แค่ใกล้คนเดียวที่ใ แต่ทุกคนแสดงสีหน้าประหลาดใจไม่ต่างกัน
“เมื่อกี้เราถามพี่ดอมว่าใกล้ชอบอะไร จะซื้อของขวัญมาให้ย้อนหลังแต่พี่ดอมบอกใกล้ชอบกินกุ้ง งั้นเราแกะกุ้งเป็ของขวัญวันเกิดให้ก่อนละกัน…วันนี้อายุครบยี่สิบใช่ปะ?”
“อะ อื้อ”
“ในจานมีกุ้งยี่สิบตัวตามอายุ…สุขสันต์วันเกิดครับ แล้วก็ยินดีที่ได้รู้จัก”
“ขอบคุณมาก แล้วก็ยินดีที่ได้รู้จักเหมือนกัน”
“ครับผม”
พอใกล้รับจานกุ้งไปและพันลี้เริ่มเอาทิชชู่มาเช็ดทำความสะอาดมือแล้ว ทุกคนก็หันกลับไปให้ความสนใจกับเนื้อในกระทะของตัวเองต่อ ที่รักอมยิ้มพลางคิดว่าวิธีทำความรู้จักของพันลี้น่ารักไม่เบาเลย
“กุ้งอย่างเยอะ…น่าอิจฉาใกล้จริง ๆ ” ที่รักพูดก่อนจะละสายตาจากใกล้ที่มองจานกุ้งอยู่ เขาตั้งท่าจะแกะกุ้งกินบ้าง แต่จู่ ๆ กุ้งตัวโต ๆ ที่ถูกแกะเปลือกแล้วถูกยื่นมาจ่อที่ปาก หันไปมองถึงได้รู้ว่ากุ้งตัวนี้มาจากหมื่นฟ้า
“อยากกินพี่ฟ้าก็แกะให้ได้ ไม่ต้องไปอิจฉาใครครับ”
“…” ไม่ได้คิดว่าหมื่นฟ้าจะแกะให้กินนี่ เห็นนั่งแกะกุ้งเงียบ ๆ ไม่สนใจใคร “พะ พี่ฟ้ากินเองเถอะครับ เดี๋ยวรักแกะเองได้ แค่นี้สบายมาก”
“อ้าปากกว้าง ๆ ครับ เดี๋ยวจะเลอะปาก”
“ตะ แต่…”
“อ้ากว้าง ๆ ครับตัวดื้อ”
ที่รักอ้าปากตามที่หมื่นฟ้าสั่ง กุ้งตัวโตรสหวานถูกป้อนเข้าปากเขา ที่รักเคี้ยวเนื้อนุ่ม ๆ ของมันอย่างมีความสุข ความรู้สึกที่ได้รับตอนนี้คือมันอร่อยจนเหมือนมีแสงพุ่งออกมาจากปาก
“อร่อยไหมครับ?”
“มาก ๆ เลยครับพี่ฟ้า”
“เดี๋ยวพี่ฟ้าแกะให้อีก…” หมื่นฟ้าเอากุ้งอีกตัวในเตามาใส่จานแล้วเริ่มแกะเงียบ ๆ เหมือนเดิม แต่เหมือนจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ถึงเงยหน้ามองเ้าของวันเกิด “ใกล้ เดี๋ยวไปเอาของขวัญที่รถพี่ตอนกลับนะ เตรียมไว้ให้แล้วแต่ลืมหยิบลงมาเพราะรีบ”
“ไม่เป็ครับพี่ฟ้า ขอบคุณมากนะครับ…”
“รีบขนาดไหนถึงได้ลืมของขวัญได้วะ?” พี่ดอมถาม
“ได้ยินเสียงหงอย ๆ ของเด็กแถวนี้ไง…กลัวกูจะไม่มารีบโทรไปตามเลย กูพลอยรีบไปด้วยเลย”
“รักไม่ได้หงอยสักหน่อย พี่ฟ้าเข้าใจผิดแล้ว…”
“เหรอครับ? แล้วถ้าพี่ฟ้าไม่มาจริง ๆ จะเสียใจไหมเนี่ย?”
“…” ช็อตไปเลย สมองเขาเนี่ย…ช็อตไปเลย “ถ้าตอนแรกคงไม่เท่าไหร่ แต่ตอนนี้คงเสียใจมากเพราะไม่มีคนแกะกุ้งให้กิน”
“เห็นแก่กินจริง ๆ ไอ้แก้มย้อยเอ๊ย!” พันลี้พูดแล้วยื่นมือมาหยิกแขนเขา
“โอ๊ย! ลี้! เจ็บนะ…”
“ก็กูหมั่นเขี้ยว”
“พันลี้…กูบอกว่าอย่าแกล้งไง”
ที่รักหันไปยกยิ้มมุมปากใส่พันลี้ ตอนนี้เขามีกองหนุนอย่างหมื่นฟ้าคอยช่วยเหลืออยู่ เพื่อนสนิทขี้แกล้งคงไม่กล้าทำอะไรเขามากแล้ว ทว่าเสียงสั่นครืดจากโทรศัพท์หมื่นฟ้าทำให้เขาต้องละสายตาจากพันลี้ เขาไม่ได้ตั้งใจจะละลาบละล้วงแต่เพราะมันวางอยู่บนโต๊ะเลยทำให้เห็นว่าปลายสายเป็ใคร
“พี่ฟ้าครับ แม่พี่ฟ้าโทรมา…”
“ตัวดื้อรับให้พี่ฟ้าหน่อยครับ”
“อะไรนะครับ!?” ที่รักคงเสียงดังจนเกินไปทุกคนถึงได้หยุดคุยกันแล้วหันมามองเขาเป็ตาเดียว แต่พอเขาส่ายหน้าแล้วส่งยิ้มกลับไปทุกอย่างก็กลับสู่สภาวะเดิม
“รับสายม้าแทนพี่ฟ้าเลยครับ บอกว่าพี่ฟ้าแกะกุ้งให้ตัวดื้ออยู่…”
“จะดีเหรอครับ?” แม่ของหมื่นฟ้าจะมองไม่ดีหรือเปล่าที่ใช้ลูกชายเขาแกะกุ้งจนรับสายเองไม่ได้ “ให้พันลี้รับดีกว่าไหมครับ?”
“มึงนั่นแหละ กูมือเลอะอีกแล้ว”
“รับได้เลยครับ เชื่อพี่ฟ้า”
ที่รักหยิบโทรศัพท์ของหมื่นฟ้ามาก่อนจะกดรับสาย พี่ดอมกับพี่เบบที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามก็มัวแต่คุยสนุกอยู่กับใกล้จนไม่ได้สนใจน้องคนนี้เลย
[ฟ้า…]
“สะ สวัสดีครับ…เอ่อ ตอนนี้พี่ฟ้ามือเลอะอยู่ครับ รักเลยต้องมารับสายแทน”
[อะ อ้าว…นี่รักเหรอลูก?]
“คะ ครับ”
[พี่ฟ้าทำอะไรอยู่นะครับ เมื่อกี้หม่าม้าได้ยินไม่ค่อยชัด]
“พี่ฟ้ากำลังแกะกุ้งอยู่ครับ มือเลอะก็เลยให้รักช่วยรับสายแทนครับ”
[อ๋อ หม่าม้าจะโทรมาถามพี่ฟ้าเื่โซฟาในห้องนั่งเล่นน่ะจ้ะ]
“งั้นเดี๋ยว…” เรียกว่าอะไรดีนะ งั้นเรียกตามที่ท่านแทนตัวคงดีที่สุดแล้ว “เดี๋ยวหม่าม้ารอสักครู่นะครับ”
[จ้ะ]
“พี่ฟ้าครับ หม่าม้ามีธุระจะคุยกับพี่ฟ้า เดี๋ยวรักถือโทรศัพท์ให้พี่ฟ้าคุยนะครับ”
“ครับ” ที่รักเอาโทรศัพท์ไปแนบที่หูของหมื่นฟ้า เ้าตัวนิ่งเงียบไปสักครู่ก่อนเอ่ย “เรียบร้อยแล้วครับ ฟ้าเซ็นรับเรียบร้อยแล้วครับ มีมาส่งแค่โซฟาชุดแรกครับ ตู้เก็บไวน์ยังไม่มาส่งครับ”
“…”
“ครับ ได้ครับม้า…” หมื่นฟ้าผละหน้าออกจากโทรศัพท์แล้วหันมามองเขา “ม้าขอคุยกับตัวดื้อต่อครับ”
“ฮะ? ขอคุยกับรักเหรอครับ” ถามพร้อมชี้ตัวเอง หมื่นฟ้าพยักหน้าตอบรับแล้วส่งกุ้งตัวที่แกะเสร็จแล้วใส่ปากเขา ที่รักรีบเคี้ยวกุ้งให้หมดก่อนจะคุยกับปลายสายต่อ “ครับ หม่าม้า”
[เป็ยังไงบ้างครับลูก ่นี้เรียนหนักไหมครับ?]
หม่าม้าคุยเหมือนรู้จักเขาเป็อย่างดีเลย
“ไม่เท่าไหร่ครับหม่าม้า”
[ถ้าเรียนหนักต้องรักษาสุภาพดี ๆ นะครับ ไม่งั้นจะป่วยบ่อยเหมือนตอนที่พี่ฟ้าเรียนปีสอง ่นั้นพี่ฟ้าเป็หวัดง่ายมากเลย แล้วชอบดื้อไม่ไปหาหมอด้วยนะ]
“คุณหมื่นฟ้าชอบดื้อตลอดแหละครับหม่าม้า…” พอพูดจบก็เบิกตาโตเพราะเพิ่งนึกได้ว่าเผลอเผาหมื่นฟ้ากับหม่าม้า
[ฮ่า ๆ ดื้อจริง ๆ จ้ะ ถ้าฟ้าดื้อมาก ๆ หม่าม้าอนุญาตให้ทำโทษได้เลยนะลูก ยึดกระเป๋าสตางค์ กุญแจรถ หรือกักบริเวณไม่ให้ไปเตะบอลก็ดีจ้ะ]
“ระ รักไม่กล้าทำแบบนั้นหรอกครับหม่าม้า”
[เดี๋ยวสนิทกันมากกว่านี้ก็กล้าครับ เชื่อหม่าม้าสิว่าหมื่นฟ้าน่ะดื้อถึงขั้นต้องทำโทษกันเลย]
ที่รักก้มหน้าเม้มริมฝีปากเพื่อกลั้นยิ้ม ที่หม่าม้าพูดน่าจะเป็จริง “เื่กินข้าวเช้าก็ดื้อมากครับ แต่ตอนนี้ยอมกินบ้างแล้ว”
[หม่าม้าต้องขอบใจมากเลยนะครับลูกที่ทำให้คนดื้ออย่างฟ้ายอมกินข้าวเช้าได้…เดี๋ยวนี้เ้าตัวเขาถ่ายรูปมื้อเช้าส่งมาอวดหม่าม้าตลอดเลย…แล้วยังบอกอีกด้วยนะว่าต้องไปรับรางวัลจากตัวดื้อเพราะกินข้าวเช้าแล้ว]
“…” นี่หมื่นฟ้าบอกหม่าม้าเื่นี้ด้วยเหรอ…
[แล้วนี่ทำอะไรกันอยู่ครับ?]
“มางานวันเกิดน้องชายพี่ดอมครับ”
[อ้าวเหรอจ๊ะ? งั้นหม่าม้าไม่กวนลูก ๆ แล้ว ขอให้สนุกกันนะจ๊ะ]
“คะ ครับหม่าม้า…ดูแลสุขภาพด้วยนะครับหม่าม้า” ที่รักคิดว่าเขาสมควรที่จะบอกหม่าม้าไปอย่างนั้น เพราะท่านดูเป็คนใจดีและใส่ใจคนอื่น เขาควรจะแสดงความใส่ใจให้หม่าม้ารับรู้เหมือนกัน แต่ไม่รู้คำพูดของเขามันน่าตลกตรงไหนถึงได้ทำให้หมื่นฟ้าหัวเราะในลำคอ
[จ้า รักลูก ๆ นะครับ]
“ครับหม่าม้า”
“คุยเสร็จแล้วเหรอครับ?”
“ครับ…” ที่รักวางโทรศัพท์ของหมื่นฟ้าไว้ที่เดิมก่อนจะเอ่ยถามเื่ที่สงสัย “หม่าม้ารู้จักรักด้วยเหรอครับ?”
“รู้ครับ พี่ฟ้าบอกหม่าม้าว่าอยากสนิทกับคนนี้ แล้วตอนนี้ก็กำลังใกล้จะเป็คนสนิทกันแล้ว”
“พี่ฟ้าเล่าอะไรให้หม่าม้าฟังบ้างเนี่ย? ไม่ใช่เอาเื่เด๋อ ๆ ของรักไปเล่าให้หม่าม้าฟังด้วยนะ รักอายนะครับพี่ฟ้า”
หมื่นฟ้าส่ายหน้าน้อย ๆ ก่อนจะป้อนกุ้งตัวที่สามใส่ปากเขา “แค่บอกว่าคน ๆ นี้เป็ตัวดื้อ ม้าก็พอจะเดาได้”
“พี่ฟ้า…ป่านนี้หม่าม้ามองว่ารักเป็เด็กดื้อไปแล้วมั้ง พี่ฟ้าต้องไปแก้ตัวให้รักเลยนะ”
“เดี๋ยวกูแก้ให้เอง…กูคุยกับหม่าม้าทุกวัน”
“แก้ตัวให้ด้วยนะลี้”
“เออ…แลกกับกัดแก้มมึงได้ปะล่ะ?”
“งั้นไม่ต้องละ”
พันลี้หัวเราะแล้วกลับไปให้ความสนใจกับเนื้อย่างของตัวเองต่อ ส่วนที่รักก็เริ่มปิ้งเนื้อของตัวเองบ้าง เขาปรายตามองคนข้างกายที่นั่งแกะกุ้งเงียบ ๆ เหมือนเดิม หมื่นฟ้าไม่คิดจะกินเองบ้างเลย เอาแต่แกะกุ้งป้อนเขาอย่างเดียว
“พี่ฟ้า รักไม่เอาแล้วนะครับ พี่ฟ้ากินเองบ้างสิครับ”
“พี่ฟ้ายังไม่หิวเลย…”
ที่รักถอนหายใจ คุณหมื่นฟ้าคนดื้อก็คือคนดื้อ ขนาดหม่าม้ายังการันตีเลย และเพราะรู้ว่าคนข้างกายดื้อมากขนาดไหน ที่รักเลยใช้ตะเกียบคีบเนื้อชิ้นที่คิดว่าดีที่สุดในเตาย่างมาใส่จานตัวเองแล้วเป่าให้มันเย็นขึ้นบ้าง ก่อนจะเอาไปจ่อที่ปากของคนดื้อ
“คุณท้องฟ้าอ้าปากให้คุณท้องทะเลเดี๋ยวนี้เลยครับ…”
หมื่นฟ้าส่ายหน้า เ้าตัวยังก้มหน้าตั้งใจแกะกุ้งอยู่ “…”
“คุณท้องฟ้า…ถ้าคุณท้องทะเลโกรธขึ้นมา รู้ไหมครับว่าจะเกิดอะไรขึ้น?”
หมื่นฟ้าเงยหน้าสบตากับเขา “เกิดอะไรขึ้นครับ”
“สึนามิครับ…” ที่รักขมวดคิ้วเล็กน้อยพอเห็นหมื่นฟ้าหัวเราะในลำคอ และไม่ใช่แค่หมื่นฟ้าที่ขำ คนอื่นที่ได้ยินคำสนทนาของเขาก็พลอยหัวเราะไปด้วย ตอนนี้ที่รักเขินจนหน้าแดงไปหมด เขาเตรียมจะเอาเนื้อชิ้นนั้นใส่ปากตัวเองเพื่อปลอบใจที่โดนหัวเราะ แต่หมื่นฟ้าก็ใช้ปากงับมันไปก่อน
“ที่พี่ฟ้ากินก็เพราะกลัวคลื่นั์สึนามิเลยนะครับ”
“ฮึ่ย!! ไม่ต้องเลยพี่ฟ้า ทุกคนหัวเราะรักหมดแล้ว”
“เขาหัวเราะมึงก็เพราะเอ็นดูไงไอ้แก้มย้อย ในโลกนี้จะมีใครน่ารักได้เท่ามึงอีกวะ?”
“ไม่มีแล้ว มีคุณท้องทะเลคนเดียวนี่แหละ”
คนตัวเล็กที่โดนแซวด้วยเสียงหัวเราะก้มหน้าปิ้งเนื้อไม่ยอมสบตาใครเลย พี่สาวอย่างเบบยังอดไม่ได้ที่จะขำประโยคคำพูดแสนน่ารักของน้องชาย แต่พอเห็นเ้าของแก้มย้อยอายมาก ๆ เข้าทุกคนเลยเปลี่ยนไปคุยเื่อื่นแทน
“ขอเนื้อให้พี่ฟ้าอีกสักชิ้นได้ไหมครับ?”
“ไหนว่าไม่หิวไงครับ?”
“พี่ฟ้าจะกินไว้เยอะ ๆ จะได้มีแรงหนีเวลาเกิดสึนามิ”
“พี่ฟ้า!!”
“โอ๋ ๆ พี่ฟ้าไม่แกล้งแล้วครับ…” หมื่นฟ้าหัวเราะก่อนจะเอาแขนคล้องคอคนตัวเล็กที่ทำหน้างองุ้มเข้ามาซบอกตัวเอง แต่มือที่เลอะกุ้งอยู่ทำให้ไม่สามารถลูบหัวทุยได้ ทำได้เพียงแค่ส่งกุ้งที่เพิ่งแกะเสร็จใส่ปากคนในอ้อมกอดแทน “ถ้ากินกุ้งแสดงว่าหายโกรธกันแล้ว”
“ยังครับ!” ที่รักงับกุ้งเข้าปากแล้วถอนตัวจากการกอดรัดของหมื่นฟ้า คิดจะง้อเขาด้วยการเอากุ้งมาล่อเหรอ ไม่สำเร็จหรอก โดนเขาหลอกกินกุ้งแล้วยังไม่รู้ตัวอีก
พวกเขานั่งกินกันไปเรื่อย ๆ จนครบกำหนดเวลาของร้าน หลังจากนั้นแยกย้ายกันกลับบ้าน เขากลับกับพี่เบบพี่ดอมเหมือนเดิม ลานจอดรถของเขากับหมื่นฟ้าอยู่ไกลกันคนละฟากฝั่ง แต่เ้าตัวยืนยันจะเดินมาส่งทั้งที่เขาเดินกันมาตั้งสามคนแล้ว
“ไปก่อนนะไอ้ฟ้า”
“เออ ขับรถดี ๆ”
“เหมือนกันมึง”
“รักไปก่อนนะครับพี่ฟ้า”
“ครับ…พรุ่งนี้เจอกันนะครับ”
“ค้าบ บ๊ายบายครับ”
ที่รักโบกมือลาคนตัวสูงที่ยังยืนส่งอยู่ข้างรถ เขาที่นั่งอยู่ในรถตอนนี้กำลังจ้องมองรอยยิ้มที่เหมือนแสงแดดในยามเช้า เพราะรอยยิ้มนั้นของหมื่นฟ้าทำให้เขารู้ว่าปรากฏการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น…
มีเพียงหมื่นฟ้าเท่านั้นที่ทำได้
#กี่หมื่นฟ้า
TBC
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้