บทที่ 6
เงาในสวนหิมะ (ตอนพิเศษ)
ยามเฉิน หิมะยังโปรยจากฟ้าไม่หยุด สวนด้านทิศเหนือของวังหลวงเงียบสงบ ดอกเหมยแดงต้นเดียวเบ่งบานอยู่กลางลานหิน แสงเช้าแตะปลายกลีบดอก เหมือนหยาดโลหิตในหิมะ
ร่างบางในชุดคลุมฟ้าอ่อนแอบเดินย่องเข้ามา เส้นผมมัดหลวม ๆ แก้มแดงระเรื่อเพราะลมหนาวนั่นคือ เสิ่นหรงหรง น้องสาวต่างมารดาของชายาเอก
“ง่ายดายเหมือนตอนปีนกำแพงสำนักเลย…” เธอะโข้ามกำแพงเตี้ย ๆ อย่างคล่องแคล่ว รองเท้ากำมะหยี่จมหิมะนุ่ม เธอหัวเราะเบา ๆ ด้วยความภูมิใจในฝีมือตัวเอง
“หากเป็นักฆ่า ข้าคงจับตัวไว้ั้แ่ยังไม่แตะพื้นแล้ว” แต่ยังไม่ทันได้ก้าวไปต่อ เสียงหนึ่งดังขึ้นด้านหลัง เสียงต่ำ เย็น และเด็ดขาด
หรงหรงสะดุ้งสุดตัว เธอหมุนขวับหันกลับไป ชายในชุดองครักษ์สีดำยืนอยู่ใต้ต้นเหมย เขาสูงใหญ่ เกราะสะท้อนแสงหิมะเย็นเยียบ ใบหน้าคมเฉียบดั่งแกะจากหิน จ้องมองนางด้วยสายตาเรียบไร้อารมณ์
“ท่าน...อวี๋ซื่อหลง!”
“คุณหนูเสิ่นรอง” เขาค้อมหัวเล็กน้อย “เข้าวังโดยไม่ได้รับอนุญาต ถือว่าผิดกฎ”
“ข้าแค่มาเยี่ยมพี่อิงอิงเท่านั้น ไม่ได้ก่อเื่อะไรเสียหน่อย”หรงหรงรีบยิ้มประจบ
“แต่ข้าเห็นเพียงโจรปีนกำแพง…”
“...” เธอย่นจมูกแล้วสะบัดหน้า “เ้าพูดเหมือนตำราขันทีเลย ไม่เบื่อบ้างหรือ?”
“หน้าที่ขององครักษ์ ไม่ใช่การยิ้ม” เขาขมวดคิ้วแต่ยังคงน้ำเสียงราบเรียบ
“แต่ข้าว่าคนที่ไม่ยิ้มเลย ดูน่าสงสารนะ”
คำพูดนั้นทำให้เขาเงียบไปครู่หนึ่งหิมะโปรยผ่านระหว่างคนทั้งคู่ เส้นผมดำขลับของเธอปลิวตามลม เขามองอยู่เพียงอึดใจ ก่อนรีบหลบตา
“เ้าชื่ออวี๋ซื่อหลง ข้าได้ยินว่าชำนาญเพลงกระบี่นัก
แต่ข้าว่าท่าทางเ้าชำนาญการ ‘ขมวดคิ้ว’ มากกว่า”หรงหรงเดินวนรอบเขา พลางยิ้มเ้าเล่ห์
“หากข้าไม่ขมวดคิ้ว อาจต้องรายงานโทษของท่าน” เขาตอบเสียงเรียบ
“งั้นเ้าก็อย่าขมวดเลย ข้าจะวาดหน้าเ้าบนกำแพงแทน เป็การลงโทษ”
เธอหยิบพู่กันจากแขนเสื้อ ปลายพู่กันชุบน้ำหมึกในถ้วยหยกเล็ก ๆ ที่พกมา
เขาเลิกคิ้วอย่างระวัง
“หิมะตกทั้งวัน ไม่มีทางที่หมึกจะแห้ง”
“ไม่เป็ไร ข้าไม่้าให้มันแห้ง แค่อยากให้เ้าจำว่า…มีคนคนหนึ่งเคยปีนกำแพงมาพบเ้าในวันหิมะตก”
เธอวาดเส้นเบา ๆ ลงบนผนังหินเย็นเยียบ เพียงไม่กี่เส้น ก่อเป็ภาพชายในชุดเกราะตัวเล็กเก้งก้างเหมือนฝีมือเด็กหัดวาดภาพ อวี๋ซื่อหลงมองภาพนั้นอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนเอ่ยเสียงเบา
“วังนี้...มีแต่คนที่อยากจำสิ่งที่ไม่ควรจำ”
“บางครั้ง ความทรงจำที่ผิดกฎ...ก็น่าจดจำที่สุดมิใช่หรือ” เธอยิ้ม
“กลับเถิด ก่อนที่หิมะจะกลบทาง” เขาหยิบผ้าคลุมจากไหล่ตนเอง คลุมให้นางโดยไม่พูดอะไร
“อวี๋ซื่อหลง...” เธอมองเขาในความเงียบ ดวงตาใสแจ๋วสะท้อนแสงหิมะ
“?”
“เ้ามีหัวใจหรือเปล่า” เขาสะดุ้งน้อย ๆ
“เหตุใดถึงถามเช่นนั้น”
“เพราะทุกคนในวังนี้ เหมือนถูกฝังไว้ใต้หิมะหมดแล้ว แต่ข้าอยากเชื่อว่าเ้าคงยังมีหัวใจอยู่ข้างใต้เกราะนั้น”
เธอยิ้มบาง ๆ ก่อนเดินกลับช้า ๆ เขามองตาม เห็นผ้าคลุมของเขาโบกสะบัดบนหลังเธอในสายหิมะ และเพิ่งรู้ตัวว่า… นี่คือครั้งแรกในรอบหลายปี ที่เขารู้สึก “อบอุ่น”
