บรรดาพืชิญญาเคลื่อนไปรอบๆ พร้อมก่อตัวเป็ด่านปิดล้อม ทันใดนั้นดวงตาของเยี่ยชิงก็ฉายแววเ็า เขาอยู่ขอบเขตจิตหยั่งลึกขั้นเจ็ดซึ่งเป็ระดับสูงสุดในบรรดาคนทั้งเจ็ด ณ ที่แห่งนี้ และเขาก็ยังเป็ศิษย์ที่โดดเด่นของสำนักเชียนเฉ่าอีกด้วย
ทว่าด้วยระดับความแข็งแกร่งที่สูงที่สุด ต้นไม้ิญญาจึงคอยจับตาเขาเป็พิเศษ ทั้งยังพยายามทุกวิถีทางเพื่อป้องกันไม่ให้เขาเข้ามาใกล้
หวังต้งมองบ่อน้ำทิพย์อย่างโลภโมโทสัน เขารู้สึกถึงพลังิญญาอันทรงพลังที่แทรกซึมอยู่ ณ บริเวณนั้น ซึ่งเป็สิ่งวิเศษที่หาได้ยากสำหรับเหล่าจื๋อซิว
ไม่เพียงแต่สามารถหล่อเลี้ยงร่างกาย เสริมเืลม และเสริมความแข็งแรงเท่านั้น มันยังช่วยให้ผ่านเข้าสู่ขอบเขตจิตหยั่งลึกขั้นเจ็ดได้โดยตรง
แม้ภายในสำนักร้อยบุปผาจะมีทรัพยากรอย่างบ่อน้ำทิพย์อยู่ ทว่าพวกเขาก็ไม่เคยเปิดให้ศิษย์ฝ่ายในเข้าใช้ ดังนั้น มันจึงเป็ทรัพยากรที่หาได้ยาก และถือเป็โอกาสอันดีที่ได้พบบ่อน้ำทิพย์ที่นี่
หนิงเทียนเองก็สนใจบ่อน้ำทิพย์เช่นกัน แผนที่จิติญญาในเส้นลมปราณแรกของเขาหิวกระหายอย่างมาก จนเขาอยากจะกลืนกินมันลงไปทั้งบ่อ
ยามนี้ต้นไม้ิญญายังคงมีพละกำลังแข็งแกร่ง การบุกฝ่าเข้าไปจึงเป็เื่ที่ค่อนข้างยาก ทำได้เพียงเอาชนะพวกมันเท่านั้น
หลี่ซือฟาดพลังฝ่ามือผสานกับสายอัสนี ซึ่งเป็ทักษะการต่อสู้ที่ทรงพลังของสำนักร้อยบุปผา
หนิงเทียนปล่อยหมัดทะลวงพันชั้นรวมเข้ากับยุทธศาสตร์ครอง์เพื่อต้านทานการโจมตีของหลี่ซือ แรงพลังที่ปะทะกันนั้นยากที่จะบอกความแตกต่างระหว่างพลังของทั้งสองฝ่าย
หลังจากการฟาดฟันอันดุเดือดผ่านไปครึ่งชั่วยาม การต่อสู้ของหนิงเทียนก็พัฒนาขึ้นอย่างก้าวะโ การควบคุมพลังและประสิทธิภาพของทักษะต่างๆ ล้วนดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
“ไปตายเสีย!”
“ย้าก!”
หลี่ซือและหนิงเทียนคำรามขึ้นพร้อมกัน การปะทะในครั้งนี้ไม่ต่างจากดาวตกพุ่งชนกัน มวลพลังทั้งสองกลืนภูผาธารา เืลมพลุ่งพล่าน จนเกิดการสั่นะเืและเสียงสนั่นไปทั่วบริเวณ
หนิงเทียนถอยหลังไปสามก้าว เืไหลออกมาจากมุมปากของเขาเล็กน้อย ดอกบัวเขียวภายนอกร่างดูดซับพลังิญญาอย่างบ้าคลั่ง ทั้งยังค่อยๆ ฟื้นฟูอวัยวะที่ได้รับาเ็ พร้อมช่วยเติมเต็มพลังิญญาที่เขาสูญเสียไป
ทางด้านหลี่ซือก็ถอยไปด้านหลังเช่นกัน เขากระเด็นไปไกลกว่าสามจั้งถึงตั้งหลักได้ แขนเสื้อของเขาขาดวิ่น ปากและจมูกเืไหลทะลัก สภาพของเขาสาหัสยิ่งกว่าหนิงเทียนเสียอีก
เจตนาสังหารแวบเข้ามาในดวงตาของหวังต้ง เขาพุ่งโจมตีหนิงเทียนอย่างรวดเร็ว โดยหารู้ไม่ว่าอีกฝ่ายสังเกตเห็นและเตรียมรับมือล่วงหน้าแล้ว
เยี่ยชิงรีบนำบรรดาศิษย์น้องสำนักเชียนเฉ่าไปยังบ่อน้ำทิพย์ ซึ่งดึงดูดความสนใจของต้นไม้ิญญาทั้งหลาย
ส่วนหนิงเทียนก็เคลื่อนไปรอบๆ อย่างว่องไวเพื่อรอโอกาสอันดี ภายในใจล้วนนึกถึงมาตรการตอบโต้
...
“ข้าจะจับตาดูเขาเอง เ้าก็รอหาโอกาสโจมตีแล้วกัน”
หลี่ซือมีสัญชาตญาณอย่างรุนแรงว่า หนิงเทียนเป็ภัยคุกคามต่อตนเองและต้องกำจัดเขาโดยเร็วที่สุด
“ได้” หวังต้งแสร้งให้ความร่วมมือ ทว่าในใจกำลังนึกถึงสิ่งอื่น
ปล่อยให้หลี่ซือตามรังควานเ้าเด็กบ้านั่นไป และระหว่างที่สำนักเชียนเฉ่ากำลังเรียกความสนใจของต้นไม้ิญญา ตนก็จะสามารถฉวยโอกาสจากจังหวะนี้
ตราบใดที่ยังสามารถเร่งฝีเท้าไปยังบ่อน้ำทิพย์ หวังต้งก็มั่นใจอย่างยิ่งว่าตนสามารถปลูกฝังบ่อน้ำทิพย์เข้าสู่ร่างกายได้ในระยะเวลาอันสั้น
ทันใดนั้น กลิ่นอายอันทรงพลังก็เข้าปกคลุมพื้นที่
“อาวุธิญญาจื๋อซิว!”
ใบหน้าของหวังต้งเปลี่ยนสี เขาหันไปมองเยี่ยชิงก่อนจะเห็นใบหญ้าสีเขียวในมือของอีกฝ่าย บนพื้นผิวมีร่องรอยคล้ายกระบี่ที่สอดประสานกันไปมา
เยี่ยชิงคำรามอย่างดุดันเพื่อปลุกเร้าใบหญ้าเขียวขจี พลังิญญาเดือดพล่านและหลั่งไหลเข้าสู่ใบหญ้าอย่างบ้าคลั่ง พลังบนปลายหญ้าพวยพุ่งออกมาก่อนจะกลายเป็ปราณกระบี่ ฟ้าดินถูกกระชากขาดด้วยเสียงกรรโชก พร้อมเข้าโจมตีต้นไม้ิญญาตรงหน้าอย่างรวดเร็ว
หนิงเทียนรับรู้ได้ทันทีว่าน้ำเต้าเจ็ดสีในเส้นลมปราณแรกค่อยๆ เคลื่อนไหวคล้ายถูกปลุกให้ตื่น
ดวงตาของหลี่ซือร้อนวูบ เขาผละจากหนิงเทียนและรีบพุ่งไปยังบ่อน้ำทิพย์
ปราณกระบี่สีเขียวไร้เทียมทาน ต้นไม้ิญญากรีดร้องแต่ละต้นถูกตัดทิ้ง ก่อนจะเกิดช่องว่างเป็เส้นทางไปสู่บ่อน้ำทิพย์
“ยุทธศาสตร์ครอง์!” หนิงเทียนตาลุกเป็ไฟ เขาใช้ทักษะยุทธศาสตร์ครอง์อย่างเต็มกำลัง ดอกบัวเขียวพุ่งเร็วปานสายฟ้าก่อนจะหยั่งรากลงใต้ดิน คลื่นแห่งความก้าวร้าวหลั่งไหลเข้าสู่ร่างของเหล่าพืชิญญา ก่อให้เกิดการแทรกแซงและการควบคุมใน่เวลาสั้นๆ
หวังต้งและหลี่ซือต่างรุดไปข้างหน้าด้วยพละกำลังทั้งหมดที่พวกเขามี ทว่าก็ถูกบรรดาพืชิญญาขัดขวางเอาไว้
การโจมตีอันทรงพลังของเยี่ยชิง มีเพียงหนิงเทียนเท่านั้นที่สามารถต้านรับได้ เขาอาศัยการข่มเหงของยุทธศาสตร์ครอง์ แล้ววิ่งเข้าหาบ่อน้ำทิพย์อย่างรวดเร็วราวกับเงาปีศาจ
บ่อน้ำทิพย์นี้ประกอบด้วยพลังิญญาอันแข็งแกร่ง ซึ่งแตกต่างจากถ้ำิญญาและบ่อน้ำิญญาค่อนข้างมาก
ทรัพยากริญญาเ่าั้ล้วนกักเก็บพลังิญญาเอาไว้ แต่บ่อน้ำทิพย์เป็สิ่งเดียวที่มีจิตสำนึก ทั้งยังสามารถปลูกฝังเข้าสู่ร่างของผู้บำเพ็ญได้
หนิงเทียนโจมตีอย่างสุดกำลัง แผนที่จิติญญาในร่างสั่นะเื ดอกบัวเขียวด้านนอกเริ่มทำงาน เขากระชากเส้นทางให้เปิดออกแล้วรีบเร่งไปยังบ่อน้ำทิพย์ทันที
ยามนั้นปราณกระบี่อันไร้ซึ่งการตรวจจับเล็งไปที่กลางหว่างคิ้วของหนิงเทียน กล้วยไม้เซียนเก้าชีวิตในร่างของเขาสั่นเทา ในใจััได้ถึงวิกฤตอย่างรุนแรง
หนิงเทียนงอเข่าและบิดลำตัว เืสีแดงฉานไหลออกมาเล็กน้อย เขาเกือบถูกแทงตรงหว่างคิ้ว ทว่ากลับหลีกเลี่ยงการโจมตีได้อย่างลึกลับ
ใกล้บ่อน้ำทิพย์มีหญ้าที่ไม่สะดุดตาขึ้นประปราย ซึ่งสูงไม่เกินหนึ่งชุ่นและมีสีเขียวใส
มันคือผู้โจมตีอย่างเด็ดเดี่ยวเมื่อครู่นี้
“ทุกสิ่งมีิญญาสถิตอยู่เช่นนี้ เห็นทีจะป้องกันยากนัก!”
หนิงเทียนหวาดกลัวจนเหงื่อแตกพลั่ก ก่อนจะตัดสินใจกระโจนลงไปในบ่อน้ำทิพย์ขนาดสามจั้ง
บ่อน้ำทิพย์นี้เต็มไปด้วยพลังิญญาอันมหาศาล ซึ่งช่วยฟื้นฟูร่างกายของหนิงเทียน
เขาจมลงใต้น้ำอย่างสมบูรณ์ เมื่อได้แช่ตัวในบ่อน้ำทิพย์และอ้าปากดื่ม พลันความรู้สึกโล่งสบายก็แผ่ซ่านไปทั่วทั้งร่าง
ดอกบัวเขียวพยายามหยั่งรากลงในบ่อน้ำทิพย์ เหง้าของมันบุกเจาะเข้าไปภายในบ่อ ก่อนจะพบกับการต่อต้านครั้งใหญ่
บ่อน้ำทิพย์ปกป้องตัวเองจากการรุกรานของพลังภายนอก ทว่าดอกบัวเขียวยังคงแกว่งไกวและเผยให้เห็นความลึกลับซึ่งประกอบด้วยกระบวนท่าทั้งเก้า ทันใดนั้นมันก็ทะลวงการป้องกันของบ่อน้ำทิพย์และฝังรากได้สำเร็จ พร้อมผสานรวมกับเส้นลมปราณแรกของหนิงเทียน
ในขณะนั้นเอง น้ำเต้าเจ็ดสีที่ลอยเหนือแผนที่จิติญญาก็เริ่มเคลื่อนตัวอย่างเงียบๆ และกลืนกินต้นกำเนิดแห่งจิติญญาในบ่อน้ำทิพย์เพื่อบำรุงพละกำลัง
แผนที่จิติญญาฟื้นตัวและหลอมละลายบ่อน้ำทิพย์เข้ากับร่างกายอย่างคาดเดาไม่ได้
หนิงเทียนมองเข้าไปข้างในอย่างตั้งใจซึ่งเปรียบเสมือนรากิญญาเล็กๆ ที่หมุนวนและเต้นรำอยู่ในแผนที่จิติญญา ปลายด้านหนึ่งเชื่อมกับน้ำเต้าเจ็ดสี ส่วนปลายอีกด้านก็หยั่งลงไปในแผนที่จิติญญาที่แผ่พลังออกมาตลอดเวลา ซึ่งช่วยหล่อเลี้ยงเส้นลมปราณและร่างกายของเขา
หลังจากบ่อน้ำทิพย์เข้าสู่ร่างกาย ความแข็งแกร่งของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก กระดูกทั่วทั้งร่างได้รับการซ่อมแซม คราบดำจำนวนมากถูกขับออกจากร่างกาย ทำให้เขารู้สึกกระปรี้กระเปร่าเป็อย่างยิ่ง
เหตุการณ์ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพียงชั่วพริบตาเท่านั้น
หลังจากเยี่ยชิงจัดการเสี้ยนหนามทั้งหมดด้วยกระบี่เล่มเดียวแล้ว เขาก็รีบเร่งมายังบ่อน้ำทิพย์ทันที ทว่ากลับพบกับความผันผวนที่แปลกประหลาดในความว่างเปล่า จนเขาต้องแผดเสียงคำรามออกมา
“เ้าคนต่ำช้า ข้าจะฆ่าเ้า!”
หวังต้งและหลี่ซือก็สังเกตเห็นความผันผวนเช่นกัน เมื่อพวกเขาเห็นหนิงเทียนผุดขึ้นมาจากบ่อน้ำ ดวงตาของทั้งคู่ก็เบิกกว้างด้วยความโกรธ
“เป็เ้าเองหรือ? บ้าเอ๊ย!”
การสลายตัวของบ่อน้ำทิพย์ ทำให้ประสิทธิภาพการต่อสู้ของเหล่าพืชิญญาโดยรอบลดลงไปอย่างมาก
หวังต้งพุ่งเข้าหาหนิงเทียนเป็คนแรก พร้อมปล่อยหมัดออกมาด้วยแรงอาฆาต
นั่นเป็ทรัพยากรที่ดีที่สุดในการเข้าสู่ขอบเขตจิตหยั่งลึกขั้นเจ็ด แต่กลับถูกหนิงเทียนพรากไป
“เ้าสมควรตาย!” หนิงเทียนไม่ได้หวาดเกรงทั้งยังปล่อยหมัดตั้งรับ ทันใดนั้นหมัดทั้งสองก็เปล่งแสงสว่างราวกับฝนโปรยปราย และตามมาด้วยแรงกระแทกของคลื่นอากาศ
ตูม!
หนิงเทียนลอยไปด้านหลังพร้อมเสียงดังสนั่น แล้วกระแสเืในอกของเขาก็เดือดพล่านอย่างรุนแรง
หลี่ซือโจมตีด้วยฝ่ามืออย่างกะทันหัน หนิงเทียนไม่อาจหลบเลี่ยงได้ จึงต้องตั้งรับด้วยหมัดอีกครั้ง
ตุบ! ตุบ! ตุบ!
เมื่อหมัดและฝ่ามือกระทบกัน หนิงเทียนก็ถอยหลังกลับไป
ร่างของหลี่ซือก็ลอยออกไปเช่นกัน ทั้งยังาเ็สาหัสจนอาเจียนออกมาเป็เื
หลังจากผสานพลังเข้ากับบ่อน้ำทิพย์ ประสิทธิภาพการต่อสู้ของหนิงเทียนก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก แม้ตอนนี้จะยังไม่สามารถเอาชนะหวังต้งได้ แต่เขาก็ปราบปรามหลี่ซือได้สำเร็จ
“ยะ...แย่แล้ว!” ปราณกระบี่อันน่าสะพรึงกลัวพุ่งเข้าใส่ราวสายฟ้าฟาด ซึ่งนั่นคือกระบี่ใบพฤกษาขจี อาวุธิญญาจื๋อซิวของเยี่ยชิง
“เคลื่อนย้าย!” หนิงเทียนร้องคำราม จากนั้นร่างของเขาก็แปรเปลี่ยนเป็เงาที่บิดเบี้ยว และเคลื่อนตัวหนีไปใน่วิกฤต
เสียงกัมปนาทดังสนั่นจนแผ่นดินแตกร้าว ปราณกระบี่อันรุนแรงทิ้งรอยลึกไว้บนพื้น ฝุ่นละอองฟุ้งกระจายไปทุกหนทุกแห่ง ก่อนจะตามมาด้วยเสียงครวญครางของเหล่าพืชิญญา หนิงเทียนจึงอาศัยจังหวะนี้ควบหนีไปอย่างรวดเร็ว
ความแข็งแกร่งของเขาในยามนี้ยังไม่อาจเทียบกับขอบเขตจิตหยั่งลึกขั้นหกหรือเจ็ดได้ ยิ่งไปกว่านั้น เยี่ยชิงยังมีอาวุธิญญาเพื่อปกป้องร่างอีกด้วย
“หนิงเทียน! แม้เ้าจะหนีไปจนสุดหล้าฟ้าเขียว ข้าก็จะตามไปฆ่าเ้า!”
หวังต้งะโอย่างโกรธเคืองและรีบไล่ตามไปทันที โดยไม่สนใจหลี่ซือเลยแม้แต่น้อย
สีหน้าของเยี่ยชิงซีดลง แม้เขาจะแข็งแกร่งที่สุดแต่กลับถูกหนิงเทียนฉกฉวยผลประโยชน์ไป เช่นนี้จะให้เขาทำใจปล่อยหนิงเทียนไปได้อย่างไร?
ในป่าบนูเา หนิงเทียนวิ่งวนหลบหนีและสร้างรัศมีเป็วงกว้าง ก่อนจะกลับไปยังตีนเขาซึ่งเป็ที่ตั้งของบ่อน้ำทิพย์อีกครา
“หญ้า! มันถูกปล้นไปแล้ว!”
ก่อนหน้านี้ลูกศิษย์สำนักเชียนเฉ่าจำนวนมากเสียชีวิตที่นี่ ดังนั้น ที่แห่งนี้จึงมีเพียงซากศพ หินิญญาและแหวนมิติล้วนไม่เหลือแล้ว
แม้ยอดเขาลูกนี้จะไม่ได้สะดุดตานัก แต่กล้วยไม้เซียนเก้าชีวิตก็มีััที่ว่องไว ซึ่งทำให้หนิงเทียนรับรู้ได้ว่าบนูเานี้ยังมีของดีซ่อนอยู่
ดอกไม้ ต้นไม้ และเถาวัลย์บนูเาเป็พืชิญญาทั้งหมด คนส่วนใหญ่จึงไม่กล้าเข้าใกล้
เท่าที่หนิงเทียนทราบมา ทุกสิ่งในดินแดนหยวนซิงล้วนมีิญญา ไม่ว่าจะเป็พืชหรือสัตว์ก็ล้วนก่อเกิดจิตอสูรได้ทั้งสิ้น และภัยพิบัติจากทัณฑ์์จะเกิดขึ้นเมื่อสิ่งเ่าั้บรรลุถึงสภาวะสมบูรณ์
ผู้คนจำแนกจิตอสูรตามจำนวนความทุกข์ยากจากทัณฑ์์ หากยังไม่เคยรับทัณฑ์์จะนับเป็จิตอสูรระดับแรก ถ้ารอดจากทัณฑ์์หนึ่งครั้งจะเรียกว่าจิตอสูรระดับสอง รอดสองครั้งเรียกว่าจิตอสูรระดับสาม และเรียงเช่นนี้ไปเรื่อยๆ
จิตอสูรระดับแรกเทียบเท่ากับขอบเขตรวบรวมของมนุษย์ ระดับสองเทียบเท่าขอบเขตจิตหยั่งลึก และระดับสามเทียบเท่าขอบเขตผนึกดารา
โดยพื้นฐานแล้ว ผู้บำเพ็ญขอบเขตจิตหยั่งลึกจะปลูกจิตอสูรระดับแรกและระดับสอง และขณะนี้ยังไม่มีผู้ใดทราบแน่ชัดว่ามีการปลูกจิตอสูรระดับสามหรือไม่
หนิงเทียนก้าวเท้าขึ้นไปบนูเา ดอกบัวเขียวพลิ้วไหวไปพร้อมกับเขา เงาบ่อน้ำทิพย์ปรากฏขึ้นบนใบบัว ทำให้เหล่าพฤกษาและอสูรร้ายบนูเาที่กำลังจะเคลื่อนตัวยอมสงบลงในทันใด
“ไม่คิดเลยว่าบ่อน้ำทิพย์จะน่าอัศจรรย์เช่นนี้ ยอดเยี่ยมเหลือเกิน!”
หนิงเทียนมีความสุขมาก เขาเดินเหยียบห้วงอากาศตามที่ดอกบัวเขียวนำทาง โดยไม่ปล่อยให้เท้าแตะฝุ่นดินแม้แต่น้อย
ภายในป่าสลัว หนิงเทียนััได้ถึงกลิ่นอายของรากบ่มเพาะ
“สิ่งนี้อาจนำไปแลกเป็หินิญญาในสำนักได้”
หนิงเทียนใช้ยุทธศาสตร์ครอง์ ดอกบัวเขียวตรงหน้าเปลี่ยนทิศทางอย่างรวดเร็วราวกับเงา และดักจับรากบ่มเพาะมาได้เจ็ดชิ้นในเวลาเพียงหนึ่งเค่อ
“ระดับสุวรรณขั้นกลางหรือ? ชิ! แดนลับนี้เทียบเขาเฮยเสวียนไม่ได้เลยด้วยซ้ำ”
หนิงเทียนหมดความสนใจและรีบขึ้นไปบนูเาโดยเร็วที่สุด
ใกล้ยอดเขามีต้นไม้เก่าแก่ขนาดใหญ่ซึ่งมีเส้นผ่านศูนย์กลางกว่าสามจั้ง บนผิวเปลือกไม้มีร่องรอยสายฟ้าฟาด และบริเวณร้อยจั้งรอบลำต้นก็ปราศจากการเติบโตของต้นหญ้า
กล้วยไม้เซียนเก้าชีวิตมีปฏิกิริยาต่อต้นไม้นี้ ซึ่งทำให้หนิงเทียนสงสัยมากยิ่งขึ้น
ต้นไม้แห้งที่ปราศจากกิ่งก้านสาขา ไร้พลังชีวิต และมีเพียงลำต้นโล่งเตียนสูงห้าจั้งจะสามารถดึงดูดความสนใจของกล้วยไม้เซียนเก้าชีวิตได้อย่างไร?
สถานที่แห่งนี้น่าสงสัยเหลือเกิน ต้นไม้ต้นนี้คงจะประสบทัณฑ์์ครั้งใหญ่ในครานั้น ทุกชีวิตในรัศมีร้อยจั้งจึงสูญพันธุ์มาจนถึงทุกวันนี้
เมื่อสังเกตอย่างละเอียด ต้นไม้ต้นนี้ค่อนข้างหนาและใหญ่กว่าต้นไม้ิญญาต้นอื่นบนูเา ราวกับเป็ั์ปักหลั่น ณ ที่แห่งนี้
หนิงเทียนเดินวนรอบลำต้นสามรอบ ก่อนจะสั่งให้ดอกบัวเขียวหยั่งรากบนลำต้น แต่เขากลับพบแรงต้านที่ไม่คาดคิด
“มีบางอย่างอยู่ในใจกลางของต้นไม้!” หนิงเทียนรู้สึกตื่นเต้นและรีบก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ทว่ากลับมีเสียงตวาดทะลุอากาศเข้ามา
“เ้าหนู ถ้ายังไม่อยากตายจงออกไปเดี๋ยวนี้!” เสียงเย่อหยิ่งดังขึ้น ซึ่งบ่งบอกว่าอีกฝ่ายไม่ได้สนใจหนิงเทียนเลยแม้แต่น้อย
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้