"แม่หนูเมิ่ง รีบลุกขึ้นไปตักน้ำล้างหน้าล้างตาที่ถังน้ำข้างนอกจากนั้นตามข้าไปทำกับข้าวในห้องครัว" สตรีแซ่ซ่งเร่งเร้า
อวี๋เจียวลุกขึ้นนั่งอย่างง่วงงุนทันใดนั้นไม่รู้ว่าวันที่เท่าใดคืนใดแล้ว
สตรีแซ่ซ่งหยิบเสื้อผ้าสะอาดมาให้นางหนึ่งชุดแล้ววางลงตรงหัวเตียง“เ้าต้องทำงานอย่างขยันขันแข็ง ฮูหยินเฒ่าถึงจะจับผิดเ้าไม่ได้และจะได้ไม่ชักสีหน้าให้เ้าดู”
อวี๋เจียวเปลี่ยนเสื้อผ้าพลิกกายลงจากเตียง นางก็รู้ว่าหากนาง้าจะอาศัยอยู่ในสกุลอวี๋ต่อไปนางจะต้องคอยสังเกตสีหน้าฮูหยินเฒ่าอวี๋อย่างไม่อาจเลี่ยง
ขณะอวี๋เจียวออกมาจากห้องสตรีแซ่ซ่งกำลังปรนนิบัติอวี๋เมิ่งซานล้างหน้าล้างตาอวี๋เจียวเหลือบมองขาที่ขาดของอวี๋เมิ่งซาน าแเริ่มมีสะเก็ดหลุดออกมาโชคดีที่ตอนนี้อากาศไม่ถึงกับร้อนอบอ้าวไม่เช่นนั้นขาข้างที่ขาดของอวี๋เมิ่งซานคงต้องทนทุกข์ทรมานไม่น้อย
อวี๋ฉี่เจ๋อออกมาจากห้องด้านในเดินผ่านอวี๋เจียวไปโดยไม่ชำเลืองมองนางแม้แต่นิด
อวี๋เจียวไม่ได้สนใจนางตามหลังอวี๋ฉี่เจ๋อที่เดินออกจากห้องฝั่งตะวันออกเดินไปที่โอ่งน้ำขนาดใหญ่ในลานเรือนอวี๋ฉี่เจ๋อใช้กิ่งหลิวจุ่มลงในเกลือเพื่อแปรงฟันบ้วนปากอวี๋เจียวเห็นเช่นไรก็เลียนแบบเช่นนั้นหักกิ่งหลิวหนึ่งกิ่งออกจากต้นหลิวในลานเรือนแล้วจุ่มลงในเกลือทดลองการแปรงฟันแบบใหม่ด้วยสีหน้าตื่นเต้น
กิ่งหลิวเพิ่งจะเข้าไปในปากใบหน้าเล็กของอวี๋เจียวพลันขมวดเข้าหากันเพราะเค็มเกินไปนางรีบอมน้ำอึกใหญ่เพื่อบ้วนปากโดยเร็ว
อวี๋ฉี่เจ๋อมองเห็นผ่านหางตามุมปากยกขึ้นเพียงเล็กน้อยจนไม่อาจรับรู้ ไม่นานกลับเลือนหายไปก้มหน้าก้มหน้าล้างหน้าบ้วนปาก
อวี๋เจียวพยายามอยู่พักหนึ่งปากของนางถึงไม่รู้สึกเค็มถึงขนาดนั้นครั้นกำลังหันกลับไปหมายจะหยิบกระบวยมาตักน้ำล้างหน้าสายตาพลันชะงักจนเคลื่อนผ่านช้าลง
แสงอรุโณทัยในยามเช้าแสนอ่อนโยนสาดส่องลงบนใบหน้าด้านข้างอันขาวสะอาดของอวี๋ฉี่เจ๋องดงามจนทำให้ผู้อื่นใจสั่นไหวด้วยอาการชอบพอ
ถึงขั้นหลังจากนี้ไปอีกแสนนานอวี๋เจียวก็ไม่สามารถลืมเลือนหยดน้ำใสที่ไหลลงจากสันกรามคมของอวี๋ฉี่เจ๋อได้
อวี๋ฉี่เจ๋อใช้ผ้าเช็ดหน้าซับหยดน้ำบนใบหน้าให้สะอาดเหลือบมองอวี๋เจียวที่กำลังเหม่อลอยเพียงครู่จากนั้นเดินผ่านนางไปด้วยสีหน้าท่าทางนิ่งสงบ
อวี๋เจียวได้สติกลับมาหลังจากล้างหน้าเสร็จ นางกำลังจะเข้าไปในห้องครัวแต่ผู้เฒ่าอวี๋กลับเรียกนางเอาไว้
"แม่หนูเมิ่ง เ้ามานี่"
อวี๋เจียวหันมองสตรีแซ่ซ่งที่กำลังยุ่งอยู่ในห้องครัวสตรีแซ่ซ่งรีบยกยิ้มแล้วเอ่ยว่า "ข้าทำคนเดียวได้ นายท่านเรียกเ้ายังไม่รีบไปอีกหรือ?"
อวี๋เจียวจึงเดินไปยังห้องโถง
ผู้เฒ่าอวี๋กำลังคุยกับคนในหมู่บ้านไม่กี่คนที่มาซื้อสมุนไพรและตรวจโรคั้แ่เช้าตรู่ครั้นเห็นอวี๋เจียวเดินเข้ามาจึงยกยิ้มเป็มิตร "แม่หนูเมิ่งเ้าฉลาดหลักแหลมในด้านวิชาแพทย์เป็อย่างมาก ต่อไปนี้ยามข้าตรวจโรคและจัดสมุนไพรเ้าก็คอยเรียนรู้อยู่ข้างๆ ให้มากสักหน่อย"
คนในหมู่บ้านหลายคนรู้แค่ว่าอวี๋เจียวเป็สะใภ้ที่สกุลอวี๋ซื้อตัวมาเสริมมงคลให้อวี๋ฉี่เจ๋อที่ล้มป่วยไม่มีความทรงจำอะไรเกี่ยวกับนางพวกเขาประหลาดใจอย่างยิ่งที่ผู้เฒ่าอวี๋ให้เด็กสาวคนหนึ่งเรียนวิชาหมอกับเขา
สีหน้าของอวี๋เจียวสงบนิ่งและยืนอยู่ข้างหลังผู้เฒ่าอวี๋
ผู้ที่ให้ผู้เฒ่าอวี๋จับชีพจรคนแรกคือบุรุษวัยกลางคนเขาเอ่ยด้วยสีหน้าเช่นคนป่วย“ั้แ่กลางคืนของเมื่อสองสามวันก่อนข้าก็เริ่มท้องเสียตอนแรกข้าคิดว่าไม่เป็อะไรผู้ใดจะรู้ว่าตลอดสามวันนี้กินอะไรก็ไม่ลงและวิ่งเข้าห้องน้ำไม่หยุด”
ผู้เฒ่าอวี๋ถามขึ้น"เมื่อวันก่อนเ้ากินอะไรไปบ้าง?"
ชายหนุ่มพูด"ก็เหมือนกับยามปกติ ไม่ได้กินอย่างอื่น ทุกคนในเรือนต่างปกติดีมีแต่ข้าที่ท้องเสียไม่ยอมหยุด..."
ขณะที่กำลังพูดอยู่นั้นสีหน้าของชายหนุ่มพลันเปลี่ยนไป เขารีบลุกขึ้นแล้ววิ่งออกไปด้านนอกอย่างรวดเร็วก่อนจะวิ่งออกไปยังเอ่ยว่า "ลุงอวี๋ ขอยืมห้องน้ำท่านสักครั้ง"
อวี๋หรูไห่มองอวี๋เจียว"เ้าคิดว่าควรจะเขียนเทียบยาเช่นไร?"
อวี๋เจียวรู้ว่าตาเฒ่าคนนี้หยั่งเชิงระดับความรู้ของนางแต่นางไม่มีเจตนาจะเก็บซ่อน ถ้านาง้าจะหยัดยืนในสกุลอย่างมั่นคงนางย่อมต้องแสดงความสามารถบางอย่างออกมา
"ไม่เคยจับชีพจร ยังไม่รู้ว่าสาเหตุของอาการท้องเสียคืออันใดหากเป็เพราะกินอะไรไม่สะอาด ให้เอาฮั่วเซียง[1] ต้าฟู่ผี[2] เฉินผี[3] โฮ่วผู่[4] ไป๋จื่อ[5] เซินชวี[6] จื่อซู[7] ฝูหลิง[8] ต้าจ่าว[9]และเซิงเจียง[10]มาต้มใส่น้ำเป็เวลาสองก้านธูปกรองเอาน้ำออกแล้วใส่น้ำต้มอีกครั้ง ดื่มขณะอุ่นสองครั้งเช้าเย็น"อวี๋เจียวพูดอย่างเป็ระเบียบแบบแผน
ผู้เฒ่าอวี๋นิ่งอึ้งไปครู่หนึ่งดวงตาเป็ประกายมองไปยังอวี๋เจียวอย่างค่อนข้างกระตือรือร้นลอบคิดในใจว่าท่านอาจารย์ที่เมิ่งอวี๋เจียวเคยกราบไหว้ในตอนนั้นเป็ผู้มากฝีมือในเมืองหลวงจริงๆเทียบยานี้แม่นยำและน่าพิศวง ยาหลายชนิดส่งเสริมซึ่งกันและกันดีกว่าสูตรยาที่บรรพบุรุษสกุลอวี๋ของพวกเขาส่งต่อกันมาเสียอีก
ไม่นานนักบุรุษที่ท้องเสียจนต้องวิ่งไปเข้าห้องน้ำก็เดินหน้าซีดกลับมาอย่างอ่อนแรง"ลุงอวี๋ รีบเขียนเทียบยาให้ข้าเถิด อาการท้องเสียนี้จะคร่าชีวิตน้อยๆ ของข้าแล้วขอรับ"
อวี๋หรูไห่ยกพู่กันขึ้นเตรียมเขียนเทียบยาอวี๋เจียวเอ่ยถามว่า "หลายวันมานี้ท่านสะอึกหรือไม่?"
ชายคนนั้นพยักหน้า"จะว่ามีก็มี แต่เมื่อดื่มน้ำส้มสายชูเข้าไปหนึ่งอึกก็ไม่สะอึกแล้ว"
อวี๋เจียวเอ่ยอย่างเชื่องช้า"อาการท้องเสียของท่านน่าจะเกิดจากความหนาวเย็นแม้ว่าในเดือนห้าอากาศจะอบอุ่นแต่อุณหภูมิระหว่างกลางวันและกลางคืนแตกต่างกันอย่างมาก"
ชายคนนั้นรู้สึกงุนงงเล็กน้อย"อากาศเย็นก็ควรเป็ไข้ไม่ใช่หรือ? แต่วันก่อนและคืนก่อนข้าต้องลมหนาวลืมปิดหน้าต่างตอนนอนหลับจริงๆ"
"บางคนมีอาการท้องเสียเมื่อถูกอากาศเย็น" ความคิดของอวี๋หรูไห่ว่องไวลองถามหยั่งเชิงอีกครั้ง "แม่หนูเมิ่ง จากที่เ้าเห็นอาการท้องเสียที่เกิดจากความเย็นควรเขียนเทียบยาอย่างไรดี"
“ให้นำเก่อเกิน[11] หวงจิน หวงเหลียน[12] ไป๋เสาเย่า[13] ฝูหลิง ชางจู๋[14] หวาสือ[15] เฉ่าไป๋เปี่ยนโต้ว[16] เฉินผี เชอเฉียนจื่อ[17] อูเหมยทั่น[18] ซันจาทั่น[19] กันเฉ่าสด[20]มาใส่น้ำแล้วต้มเป็เวลาสองก้านธูป ดื่มขณะร้อน”อวี๋เจียวเอ่ยอย่างไม่รีบไม่ร้อน
เมื่อนางพูดจบผู้เฒ่าอวี๋ก็เขียนใบสั่งยาตามที่นางกล่าวเสร็จเรียบร้อยเสียแล้ว ทั้งยังชมนางอย่างเสแสร้งว่า"ตั้งใจมากจริงๆ สิ่งที่ข้าเพิ่งสอนไป เ้ากลับจำได้ทั้งหมดแล้ว"
มุมปากของอวี๋เจียวกระตุกชายชราคนนี้ช่างหน้าหนาจริงๆ
อวี๋หรูไห่หยิบเทียบยาขึ้นมาแล้วเอ่ยว่า“ข้าจะพาเขาไปรับยา เ้าช่วยตรวจชีพจรให้คนอื่นไปก่อน”
ผู้ที่มาหาหมอไม่กี่คนไม่เชื่อใจอวี๋เจียวเอ่ยอย่างไม่วางใจว่า "ท่านหมออวี๋ นางเป็เด็กสาวที่อายุยังน้อยนางจะตรวจชีพจรแม่นยำได้อย่างไร อย่าทำให้อาการป่วยของพวกเราต้องเสียเวลา"
อวี๋หรูไห่ยกยิ้มแล้วเอ่ยว่า"ทุกคนวางใจได้ ข้าให้แม่หนูเมิ่งตั้งใจเรียนเื่จับชีพจรรอจนจัดสมุนไพรเสร็จ ข้าจะตรวจทุกคนอีกรอบ"
เช่นนี้พวกเขาไม่กี่คนถึงยอมปิดปาก
อวี๋หรูไห่พาคนไปเอาสมุนไพรที่ห้องฝั่งตะวันตกอวี๋เจียวนั่งลงบนเก้าอี้และตรวจชีพจรให้คนอื่นๆปริปากเอ่ยถามหนึ่งถึงสองประโยคเป็ครั้งคราว
ในขณะนั้นฮูหยินเฒ่าอวี๋ที่พึ่งตื่นนอนเดินออกมาจากทางเรือนฝั่งทิศตะวันออกเมื่อเห็นอวี๋เจียวนั่งอยู่บนเก้าอี้ที่ผู้เฒ่าอวี๋ใช้ตรวจคนไข้ในยามปกติพลางแสร้งจับชีพจรให้คนไข้อย่างสมจริงทันใดนั้นเกิดเป็ความโมโหจนหายใจติดขัด
สตรีแซ่อวี๋โจวแย้มยิ้มให้ผู้ที่มารักษาอาการป่วยไม่กี่คนนั้นเมื่อหันไปทางอวี๋เจียว รอยยิ้มทั้งหมดบนใบหน้าพลันหุบลงดึงตัวอวี๋เจียวขึ้นมาจากเก้าอี้ของผู้เฒ่าอวี๋เอ่ยพลางขบเขี้ยวเคี้ยวฟันเสียงเบาว่า "เ้ามาทำอะไรที่นี่? ในเรือนมีงานตั้งมากมาย เ้าไม่ทำงาน คิดจะรนหาที่ตายงั้นรึ?"
อวี๋เจียวแกะมือของสตรีแซ่อวี๋โจวออกเอ่ยด้วยสีหน้าราบเรียบ “ท่านผู้เฒ่าให้ข้าตรวจชีพจรให้พวกเขาไม่กี่คนเ้าค่ะ”
เมื่ออ้างอวี๋หรูไห่ใบหน้าของสตรีแซ่อวี๋โจวฉายแววกลัดกลุ้มพลางลอบกัดฟัน
ประจวบเหมาะกับอวี๋หรูไห่กลับมาจากเตรียมสมุนไพรที่ห้องฝั่งตะวันตกสตรีแซ่อวี๋โจวรีบเปลี่ยนสีหน้า เอ่ยพลางแย้มยิ้มอ่อนโยนว่า “นายท่านท่านให้แม่หนูเมิ่งมาตรวจชีพจรได้อย่างไรเ้าคะ? นางเป็สตรีถือว่าไม่เหมาะสมยิ่งนักเ้าค่ะ”
เชิงอรรถ
[1] ฮั่วเซียง 藿香 ส่วนเหนือดินที่แห้งของพืชที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Pogostemoncablin (Blanco) Benth.วงศ์ Lamiaceae (Labiatae)
[2] ต้าฟู่ผี 大腹皮 เปลือกผลแห้งที่ยังไม่สุกของพืชที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Arecacatechu L. วงศ์ Arecaceae (Palmae) ช่วยให้ชี่ของกระเพาะอาหารและลำไส้หมุนเวียน ระบายของเสียตกค้าง ขับนํ้า
[3] เฉินผี (陈皮) คือ เปลือกผลสุกแห้งของพืชที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Citrusreticulata Blanco วงศ์ Rutaceae ชื่ออื่นคือ ผิวส้มจีน (ไทย) เฉินผี (จีนกลาง)ถิ่งพ้วย (จีนแต้จิ๋ว)
[4] โฮ่วผู่ (厚朴) คือเปลือกต้นหรือเปลือกราก หรือเปลือกกิ่งของพืชที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Magnoliaofficinalis Rehd. et Wils. หรือ M. officinalisRehd. et Wils. var. biloba Rehd. et Wils. วงศ์ Magnoliaceae มีรสขม เผ็ด อุ่น เข้าสู่เส้นลมปราณม้าม กระเพาะอาหาร ปอด ลำไส้ใหญ่
[5] ไป๋จื่อ 白芷 ชื่อวิทยาศาสตร์: Angelicadahurica อยู่ในวงศ์ Apiaceae เป็พืชท้องถิ่นในไซบีเรีย ตะวันออกไกลของรัสเซีย มองโกเลีย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน ญี่ปุ่นเกาหลี และ ไต้หวัน รากภายนอกเป็สีเทาขาวหรือสีเหลืองขาวด้านในสีขาวรากใช้เป็ยาแก้ปวดบวม ไข้หวัด
[6] เซินชวี 神曲ยาเตรียมที่ได้จากสมุนไพรหลายชนิดได้แก่ ล่าเหลียวเฉ่า Herba Polygoni Salicifoli ชิงเฮา โกฐจุฬาลำพา Herba Artemisiae annuae ซิ่งเหริน Semen Armeniacae Amarum และสมุนไพรอื่นๆมาผสมกับแป้งหมี่หรือเปลือกข้าวสาลี หมักไว้จนกระทั่งเกิดฟองฟูขึ้นแล้วนำมาเตรียมเป็เสินชวีสรรพคุณช่วยย่อยอาหาร
[7] จื่อซู 紫苏 สรรพคุณ ขับไล่ความเย็นระดับเปี่ยว ขับเคลื่อนลมปราณปรับสมดุลกระเพาะอาหารทำให้ครรภ์สงบ
[8] โป่งรากสนหรือฝูหลิง 茯苓 คือเห็ดที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Poria cocos (Schw.)Wolf วงศ์ Polyporaceae คือเห็ดที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Poriacocos (Schw.) Wolf วงศ์ Polyporaceae รสจืดอมหวาน สุขุม มีฤทธิ์ระบายน้ำ สลายความชื้น สรรพคุณแก้อาการบวมน้ำปัสสาวะขัด และมีฤทธิ์บำรุงม้าม กล่อมประสาท แก้อาการม้ามพร่องระบบการย่อยอาหารอ่อนแอ เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย ใจสั่น นอนไม่หลับ
[9] ต้าจ่าว 大枣 dazao หงจ่าว hong zao 紅枣 หรือพุทราจีน ผลบำรุงม้าม ตับ สมอง ช่วยขับปัสสาวะ เพิ่มเื บรรเทาอาการโลหิตจางรักษาเบาหวาน แก้นอนไม่หลับ กระตุ้นภูมิคุ้มกัน ลดไขมันในเืผลแห้งยังใช้แก้อาการท้องเสียเนื่องมาจากม้ามพร่อง
[10] เซิงเจียง生姜หรือขิงสดมีสรรพคุณกระจายลมหนาว อุ่นกระเพาะอาหาร แก้อาเจียน อุ่นปอดสลายเสมหะและแก้พิษจากอาหารทะเล มีสรรพคุณกระจายลมหนาวอุ่นกระเพาะอาหาร แก้อาเจียน อุ่นปอดสลายเสมหะ และแก้พิษจากอาหารทะเล
[11] เก่อเกิน葛根 รสชาติหวานเผ็ด เย็น เข้าสู่เส้นลมปราณ ม้าม กระเพาะอาหาร สรรพคุณลดอาการปวดต้นคอ ลดความดันช่วยขยายหลอดเื ดับกระหาย แก้ท้องเสีย ลดไขมัน ลดเบาหวาน แก้ไข้ตัวร้อนช่วยให้ความจำดีเป็ต้น
[12] หวงเหลียน 黄连 สรรพคุณ ขับร้อน ชื้น ดับไฟ ขับพิษ รสชาติและคุณสมบัติ รสขม เย็นเข้าสู่เส้นลมปราณหัวใจ กระเพาะอาหาร ตับ ม้าม ลำไส้ใหญ่
[13] ไป๋เสาเย่า 白芍药 สรรพคุณ บำรุงเื ปรับประจำเดือนแก้ปวด หยุดเหงื่อ รสชาติและคุณสมบัติ รสขม เปรี้ยว หวาน เย็นเล็กน้อยเข้าสู่เส้นลมปราณ ตับ ม้าม
[14] ชางจู๋ 苍术 cāngzhú ชื่อวิทยาศาสตร์ : Atractylodis LanceaeRhizoma ชื่อไทย : โกษฐ์เขมาเป็เหง้าแห้งของพืชที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Atractylodes lancea(Thunb.) DC. วงศ์ Compositae สรรพคุณ: ชับความชื้น ไล่ความเย็นออก บำรุงม้าม
[15] หวาสือ 滑石 คือแร่ซิลิเคตจำพวกแป้งซึ่งมีองค์ประกอบหลักคือ Hydratedmanesium silicate Mg3 (Si4 O10) (OH) 2 สรรพคุณขับปัสสาวะขับความร้อน ขับความชื้น
[16] เฉ่าไป๋เปี่ยนโต้ว หรือ ถั่วแปบคั่ว (炒白扁豆) รสหวาน ฤทธิ์อุ่นเล็กน้อย เข้าสู่เส้นลมปราณม้ามและกระเพาะอาหาร มีสรรพคุณเสริมม้ามแก้ท้องเสีย
[17] เชอเฉียนจื่อ Cheqianzi 车前子สรรพคุณ: ขับปัสสาวะ ดับร้อนในตับ ช่วยให้ตาสว่าง ดับร้อนในปอด แก้ท้องเสียรสชาติและคุณสมบัติ:รสหวาน เย็น เข้าสู่เส้นลมปราณ:ตับ ไต ปอดลำไส้เล็กปริมาณที่ใช้ 10 – 15 กรัม
[18] อูเหมยทั่น 乌梅炭 หรือบ๊วยดำเผา ผลที่นำมาเผาของพืชที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Prunusmume (Sieb.) Sieb. et Zucc. วงศ์ Rosaceae ช่วยกักเก็บอินชี่ของปอด บรรเทาไอ บรรเทาท้องเสีย สร้างสารนํ้าแก้กระหายนํ้า
[19] ซันจาทั่น 山楂炭 หรือผลซันจาเผาซันจาผลไม้สกุลเบอร์รี่ที่ใช้เป็ยาหรือใช้ทำขนม มีรสเปรี้ยว หวาน อุ่นเล็กน้อยเข้าเส้นลมปราณ ตับ ม้าม กระเพาะอาหาร
[20] กันเฉ่า (甘草) คือรากและลำต้นใต้ดินแห้งของพืชที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Glycyrrhizauralensis Fischer หรือ G. inflata Bat. หรือ G. glabra L. วงศ์ Fabaceae