เมื่อหลินหลินรู้สึกว่าวิ่งมาไกลพอสมควรแล้ว นางจึงหยุดฝีเท้าใต้ต้นไม้ใหญ่ หิมะยังคงโปรยปรายลงมา นางมองสำรวจรอบๆ ต้นไม้ต้นนี้แม้จะถูกหิมะปกคลุมแต่กิ่งก้านของมันยังแข็งแกร่ง
“เฮ้ออ ดูเหมือนพวกชาวบ้านจะไม่ได้ตามมาแล้ว” หลินหลินเอ่ย ขณะที่ยกมือขึ้นทาบอกพยายามควบคุมจังหวะหายใจให้กลับมาเป็ปกติ
ซูจินที่วิ่งตามมาก็พยุงตัวหอบเบาๆ ใบหน้าของนางซีดเซียวเพราะความหนาวและความเหนื่อย ล้าจากการวิ่งเมื่อครู่ ทว่าเมื่อเงยหน้าขึ้นเห็นหญิงสาวที่ตนรักและเคารพอยู่ตรงหน้า ความรู้สึกดีใจของซูจินก็เอ่อล้นขึ้นมาอีกครั้ง
“คุณหนู..” ซูจินพึมพำ ดวงตาแดงก่ำของนางฉายแววรู้สึกผิดที่ทิ้งจ้าวเหม่ยหลินไว้คนเดียวในเรือนปะปนกับความโล่งใจที่เจอจ้าวเหม่ยหลิน
หลินหลินมองเด็กสาวอย่างไม่เข้าใจ “คุณหนูหรอ” นางเอียงศีรษะเล็กน้อยแล้วชี้มาที่ตัวเอง “หมายถึงฉันเหรอ?”
เด็กสาวพยักหน้ารัวๆ ก่อนน้ำตาจะร่วงลงมาอีกครั้ง นางไม่สนว่าอีกฝ่ายจะพูดจาแปลกไป นางเพียงดีใจที่เห็นเ้านายปลอดภัย อย่างไรเวลานี้คนตรงหน้าก็คือจ้าวเหม่ยหลิน
ซูจินขยับเข้าไปจับมือของจ้าวเหม่ยหลินแน่น ราวกับกลัวว่านางจะหายไปอีก
หลินหลินที่ถูกจับมือใไม่น้อย ก่อนจะถอนหายใจออกมายาวๆ นางไม่เคยโดนผู้หญิงจับมือมาก่อน “โอเค เธอใจเย็นๆ นะ”
หลินหลินก้มมองสำรวจตัวเองพบว่าเสื้อผ้าที่นางสวมอยู่ไม่ใช่ชุดของศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ด แต่เป็ชุดผ้าแบบโบราณที่ให้ความรู้สึกหนักและรุ่มร่าม นางยกมือลูบแขนเสื้อของตัวเอง รู้สึกััเนื้อผ้าแปลกจากเดิม
“นี่…ฉันทะลุมิติมาจริงใช่ไหมเนี่ย”
“คุณหนูพูดอะไรเ้าคะ” ซูจินยืนอยู่ข้างๆ นางขมวดคิ้วอย่างสงสัย
“เปล่า” หลินหลินเม้มปากแน่น นางไม่แน่ใจว่าควรจะเล่าเื่ทั้งหมดให้เด็กสาวฟังดีไหมว่านางไม่ใช่คนของที่นี่ แต่บอกไปเด็กสาวตรงหน้าก็คงไม่เชื่อ
“อ่า ตอนนี้เธอช่วยบอกข้อมูลเกี่ยวกับยัยนี่หน่อยได้ไหม” หลินหลินถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง ถึงอย่างไรเวลานี้ก็ยังไม่มีวิธีที่จะกลับไปยังโลกเดิม เช่นนั้นก็ของใช้ร่างยัยนี่ก่อนแล้วกัน
“ยัยนี่? หรือเ้าคะ” ซูจินมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยความแปลกใจ แต่เมื่อเห็นแววตาที่ดูสับสนอย่างเห็นได้ชัด นางก็ขมวดคิ้วแน่นขึ้นไปอีก
หญิงสาวเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนพยักหน้า “ฉันไง เื่ของฉัน? ..ฉันอยากทดสอบความจำเธอน่ะ”
“เ้าค่ะ” ซูจินเอ่ยตอบ ก่อนเล่าว่าเ้าของร่างนี้มีชื่อว่าจ้าวเหม่ยหลินเป็บุตรีของรองเสนาบดีคลังกับจินเหนียงสาวรับใช้ในจวน ทั้งสองคนดูเหมือนจะรักกันมากแต่ด้วยสถานะนางเป็สาวรับใช้จึงไม่ถูกใจฮูหยินผู้เฒ่านัก
ฮูหยินผู้เฒ่าจึงหาสาวงามจากตระกูลเก่าแก่มาสมรสกับลูกชาย นั่นก็คือฮูหยินรองจากตระกูลเกานามว่าเกาฟาง ทว่านางเป็ลูกอนุจึงไม่สามารถแต่งตั้งเป็ภรรยาเอกได้
เวลาผ่านไปเกาฮูหยินพบว่าสามีเอาแต่สนใจและเอ็นดูสาวรับใช้กับลูกมาก จึงได้ใส่ร้ายว่าจิงเหนียงเป็คนที่ทำให้ลูกในครรภ์ของนางตาย จินเหนียงถูกไล่ออกจากจวนและขายให้ตลาดทาส
ส่วนลูกสาวอย่างจ้าวเหม่ยหลินถูกย้ายมาเลี้ยงดูในหมู่บ้านชนบทแห่งนี้ แต่ถึงอย่างไรเกาฟางก็ยังใจดีส่งคนมาคอยรังแกจ้าวเหม่ยหลินถึงสองคน
หลินหลินขมวดคิ้ว เมื่อคำพูดของซูจินเริ่มประติดประต่อเป็ภาพในหัว
“งั้นคำอธิบายเดียวก็คือ..ยัยนี่ถูกรังแกจนตาย ิญญาของฉันย้อนเวลากลับมาแล้วหลุดเข้าร่างของยัยนี่” นางพูดในใจ แต่ั์ตาฉายแววสับสัน “นางตายได้ยังไง”
“เ้าคะ?”
“หมายถึงฉันออกจากเรือนได้ยังไง”
ซูจินเงยหน้ามองจ้าวเหม่ยหลินด้วยแววตาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด นางเม้มริมฝีปาก ก่อนจะทรุดตัวลงคุกเข่าตรงหน้าเ้านาย มือสองข้างจับชายกระโปรงของหญิงสาวไว้แน่น
“บ่าวสมควรตายเ้าค่ะ” ร่างเล็กสะอื้นไห้ “ทั้งหมดเป็ความผิดของบ่าวเอง บ่าวทิ้งคุณหนูไว้คนเดียวในเรือน…บ่าวสมควรตายเ้าค่ะ”
หลินหลินเห็นเช่นนั้นก็ทำตัวไม่ถูก นางรับก้มลงไปจับไหล่ของเด็กสาวไว้ นางรู้สึกถึงความเสียใจของอีกฝ่าย “ใจเย็นก่อน หยุดร้องไห้ได้แล้ว”
” เ้าค่ะ” ซูจินกัดริมฝีปากพยายามสะกดกลั้นเสียงสะอื้นของตัวเอง
หลินหลินถอนหายใจ คุณหนูจ้าวผู้นี้โดนฆ่าอำพรางศพสินะ เช่นนั้นก่อนจะหาทางกลับบ้านก็ขอแก้แค้นให้เ้าของร่างนี้ก่อนแล้วกัน ถือว่าทำความดีและตอบแทนที่นางให้ใช้ร่างชั่วคราว
“ไป! พาฉันกลับเรือน” จ้าวเหม่ยหลินคนใหม่เอ่ยขึ้นอย่างหนักแน่น
ซูจินเงยหน้าขึ้นมองอย่างใ ก่อนจะพยักหน้าแรงๆ แล้วลุกขึ้นยืน “เ้าค่ะ!”
จ้าวเหม่ยหลินพยักหน้ารับ ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด “เอาคืนให้สาสม แล้วกลับบ้านกัน”
ใช้เวลาไม่นานทั้งสองก็มาถึงเรือนเก่าที่ทรุดโทรม เสียงลมพัดผ่านช่องหน้าต่างที่ปิดไม่สนิทส่งเสียงครางเบาๆ อย่างน่าขนลุก
“ให้ตายเถอะ นี่มันที่อยู่ของคนหรืออะไรกันแน่ บ้านผีสิงเหรอ?” จ้าวเหม่ยหลินคิดในใจ พลางกวาดสายตามองรอบเรือน
ทว่าเวลานี้จ้าวเหม่ยหลินไม่มีเวลามาคิดเื่ไร้สาระ นางกระชับท่อนไม้ที่หยิบติดมือมาจากทางเข้าเรือน ก่อนจะรีบผลักเปิดบานประตูเข้าไปอย่างเต็มแรง
ปัง!
” ไอ้—!!” ร่างเล็กะโลั่น แต่คำพูดต่อมากลับกลืนหายลงคอ เมื่อนางเห็นร่างอ้วนของเสี่ยวถังที่กำลังนั่งเอกเขนกอยู่กลางเรือน
จ้าวเหม่ยหลินมองสำรวจร่างท้วนที่ตัวใหญ่กว่าตัวเองถึงสามเท่า เสี่ยวถังนั่งกินขนมอย่างสบายอารมณ์ แต่ทันทีที่นางหันมามองตามเสียงที่ร่างเล็กะโ ดวงตาคู่นั้นก็หรี่ลงอย่างไม่เป็มิตร
“เข้าผิดน่ะ ..เข้าผิดบ้าน” จ้าวเหม่ยหลินนิ่งค้าง ก่อนจะลดมือที่ถือท่อนไม้ลงแนบลำตัว ใครจะกล้าหาเื่กับคนที่ตัวโตกว่าล่ะ! ฮ่าฮ่า
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้