“จริงเหรอ กินได้แน่นะ” อันนายังคงมีท่าทางเคลือบแคลงใจมาตลอด 20 นาที
“กินได้หรือกินไม่ได้แม่ไปกินดูก็จะรู้เองไม่ใช่เหรอ” กู้หลานอันวางทัพพีตักโจ๊กลงและดันเธอออกไป “สงสัยก็ไปกินดูเลยครับอย่ามารบกวนผมตรงนี้ อีกไม่กี่อึดใจผมก็ทำเสร็จแล้ว”
“โอ้” อันนาอุทานออกมาขมวดคิ้วมองกู้หลานอันที่กำลังต้มโจ๊ก รู้สึกตัวสั่นเทา รีบก้าวเท้าตรงไปที่กู้ฝูเซิ่งผู้ซึ่งกำลังอ่านหนังสือพิมพ์และทานขนมปังด้วยสีหน้ามีความสุขกระซิบถามข้างหูเขาว่า “ตาแก่ บอกมาตามตรงนะรสชาติมันปกติไหม”
“รสชาติดีมาก” กู้ฝูเซิ่งดื่มนมอึกหนึ่งเขย่าหนังสือพิมพ์ให้เรียบแล้วตอบ
“จริงเหรอ” อันนาโยนความเคลือบแคลงใจที่มีมาตลอดทิ้งไป “ทำครั้งแรกก็สามารถทำให้คุณชมได้ขนาดนี้เลยเหรอ คุณอย่าริอ่านหลอกฉันนะ ฉันไม่อยากท้องเสีย”
“ไม่หรอก ไม่เชื่อคุณก็ลองฉีกไปชิมดูหน่อยสิ” กู้ฝูเซิ่งค่อยๆวางหนังสือพิมพ์ลง ส่งสัญญาณทางสายตาให้อันนาว่าให้ชิมชิ้นไหน
“อืม” อันนาพยักหน้า ฉีกไปชิ้นหนึ่งขมวดหัวคิ้วแล้วเอาเข้าปาก จู่ ๆ ก็เบิกตาโพลง มองกู้หลานอันที่ยกโจ๊กเดินตรงมาชูนิ้วโป้งขึ้นมาให้เขา หลังจากกลืนขนมปังลงไปแล้ว ก็พูดชมไม่หยุดปากว่า “อร่อยมาก อร่อยมาก อร่อยจริง ๆ ดีมากเลยลูก ลูกแม่มีพร์ทางด้านนี้”
“อร่อยก็ดีแล้วครับ” กู้หลานอันยกมุมปากขึ้นเบา ๆซ่อนความอาลัยที่ไม่อาจสังเกตเห็นได้ในดวงตาไว้ครั้งแรกที่เขาทำอาหารในชาติที่แล้ว รสชาติแปลกประหลาดจนกินไม่ได้แต่ตอนนั้นเจาเยี่ยกลับกินมันลงไปจนหมดกินหมดแล้วยังลูบหัวเขาราวกับเป็แม่แถมยังชมเขาอีกด้วย บอกว่าเขาได้พาภรรยาที่ดีมากคนหนึ่งกลับมาที่บ้านตลอดชีวิตหลังจากนี้ต้องขอพึ่งเธอแล้ว
กู้หลานอันปกปิดความรู้สึกในดวงตาไว้ วางโจ๊กไว้บนโต๊ะตักให้พ่อและแม่เสร็จเรียบร้อย พลางมองกู้ฝูเซิ่งกินจนหมดแล้วรีบถามว่า “พ่อครับ เติมอีกไหมครับ”
“ไม่ต้อง พ่ออิ่มแล้ว” กู้ฝูเซิ่งพูดจบพับหนังสือพิมพ์แล้ววางไว้บนโต๊ะ กำลังจะลุกขึ้นเพื่อออกไปทำงาน ก็ได้ยินกู้หลานอันถามว่า “งั้นพ่อว่าผมทำได้อร่อยไหมครับ” เขาหันกลับไปมองก็พบกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง กู้ฝูเซิ่งพยักหน้าแล้วชมว่า “ไม่เลวเลย เยี่ยมมาก”
“จริงเหรอครับ” กู้หลานอันดวงตาเป็ประกายแล้วถามว่า “งั้นมีรางวัลอะไรให้รึเปล่า”
“จะเอารางวัลเหรอ ก็ได้ สองหมื่นเหรียญให้ลูกไปใช้” กู้ฝูเซิ่งพูด ถ้าเป็ปกติ กู้หลานอันฟังแล้วคงจะดีใจแทบเป็บ้าแน่นอนแต่เขาในเวลานี้กลับไม่รู้สึกตื่นเต้นสักนิดไม่มีแม้แต่ความเบิกบานใจ “ขออย่างอื่นอีกได้ไหมครับ”
“อย่างอื่น อะไรล่ะ” กู้ฝูเซิ่งไม่เข้าใจ
“พ่อยังจำเื่ที่เคยรับปากผมว่าจะช่วยให้ผมเข้าวงการบันเทิงไว้ก่อนหน้านี้ได้ไหมครับ” กู้หลานอันไม่ได้รีบตอบ แค่พูดมันออกมาอย่างอ้อมๆ “รางวัลที่ผมอยากได้ ก็คือพ่อต้องรีบช่วยผมจัดการให้เร็วที่สุดเพราะผมมีเวลาอยู่ในนั้นแค่ 1 ปี”
“ได้” กู้ฝูเซิ่งตอบรับ
อย่างไรก็ตาม คืนที่ผ่านมา คนที่มีชื่อเสียงที่สุดในวงการต่างก็รู้กันแล้วว่ากู้หลานอันเป็ว่าที่คนที่จะมากุมบังเหียนของตระกูลกู้คงไม่มีใครกล้าที่จะเมินเฉยไม่เอาอกเอาใจเขา ปฏิบัติกับเขาไม่ดี “เดี๋ยวลูกตรงไปที่บราเดอร์เอ็นเตอร์เทนเมนต์พ่อจะโทรหาประธานกรรมการบริหาร ให้เขาจัดการวางแผนให้ลูก”
“ขอบคุณครับพ่อ ผมจะขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว” กู้หลานอันตอบเสร็จก็วิ่งพรวดขึ้นห้องไป
“ลูกไม่ทานอาหารเช้าก่อนเหรอ” อันนาที่ก้มหน้าครุ่นคิดตลอดเวลาที่กู้ฝูเซิ่งและกู้หลานอันคุยกันถามขึ้นมา
“ไม่กินแล้วครับ ผมจะออกไปพร้อมกับพ่อ” กู้หลานอันตอบ
“ออกไปพร้อมกับฉัน ฮ่า ๆๆ เ้าลูกคนนี้ออกจากบ้านไปสักพักล่าสุดไม่กลัวฉันแล้วหรือนี่” ยิ่งได้ฟังกู้หลานอันพูดแบบนี้กู้ฝูเซิ่งยิ่งมีความสุข มองไปที่อันนา กลับเห็นเธออารมณ์ท้อแท้หมดกำลังใจ “มีอะไรเหรอ ถึงได้แสดงท่าทีแบบนี้ ลูกชายกับผมสนิทกันคุณหึงเหรอ”
“ไม่ใช่” อันนาส่ายหัวมองกู้ฝูเซิ่งขมวดคิ้วแล้วถาม “ตาแก่ฉันก็อยากจะกลับเข้าสู่วงการบันเทิงด้วย คุณก็วางแผนให้ฉันไปบราเดอร์เอ็นเตอร์เทนเมนต์อีกคนได้ไหมถ้าเป็ผู้จัดการคนเดียวกันกับลูกได้ก็จะยิ่งดี