ชายอ้วนชุดเทาคิดว่าถ้าะโไปแบบนี้แล้ว จะสามารถข่มขู่คนที่ยิงธนูได้ แต่เขาคิดไม่ถึงเลยว่า เมื่อะโไปแบบนั้น ด้านนอกยิ่งยิงธนูเข้ามามากขึ้น
ประตูหน้าต่างต่างมีลูกธนูที่ยิงเข้ามา ทุกคนถูกลูกศรกดจนไม่อาจจะเงยหน้าขึ้นมาได้
หยางหนิงรู้สึกแปลกใจมาก ในใจคิดว่าคนด้านนอกน่าจะตามสายลับเป่ยฮั่นกลุ่มนี้มาแน่ๆ เป้าหมายก็น่าจะเพื่อช่วยตัวประกันที่พวกเขาจับมา
ตามหลักแล้ว ตัวประกันอยู่ในมือของสายลับ คนข้างนอกก็ไม่น่าจะยิงอาวุธเข้ามาหนักขนาดนี้ แต่ในตอนนี้เหมือนกับว่าไม่ได้สนใจว่าตัวประกันจะเป็หรือตายเลย
ชายอ้วนชุดเทาโกรธมาก ะโออกไปว่า “หากพวกเ้ายังไม่หยุด ข้าก็จะฆ่าเขาซะ”
เมื่อเขาพูดจบ ก็ได้ยินเสียงดัง “เพล้ง” ตรงหน้าต่างมีเงาของคนพุ่งเข้ามา เคลื่อนที่ไวมาก หลังจากนั้นก็ตวัดดาบสังหารคนที่อยู่ตรงใต้หน้าต่าง หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงดังต่อเนื่องอีกหลายเสียง คนอีกหลายคนมาจากช่องรูของศาลเ้า ไม่พูดมาก เห็นคนก็ฟันอย่างเดียวเลย
ลูกธนูหยุดยิงแล้ว คนด้านนอกอาศัยเครื่องยิงธนู แอบบุกเข้ามาในศาลเ้า
สายลับเป่ยฮั่นเองถือดาบรับมืออยู่ในศาลเ้า พริบตาเดียวก็เกิดการต่อสู้กันของทั้งสองฝ่าย
หยางหนิงใมาก แต่กลับรู้สึกว่าเซียวกวงกำลังดึงชายเสื้อของเขาเอาไว้ ก็เลยหันไปดู เห็นเซียวกวงยกมือขึ้น ชี้ไปทางด้านหน้า หยางหนิงมองไปทางทิศที่เขาชี้ เห็นที่มุมๆ หนึ่ง มีช่องอิฐแตกที่มีรูขนาดใหญ่
หยางหนิงเข้าใจความหมายของเซียวกวง
ในศาลเ้าเกิดการต่อสู้อย่างหนักหน่วง หลบอยู่ที่หลังแท่นหิน ช้าเร็วก็ต้องถูกพบ ทั้งสองไม่ว่าฝ่ายไหนก็ไม่ควรไปยุ่ง ฉวยโอกาสในตอนนี้ ที่ยังไม่มีใครเจอหนีไปดีกว่า
เสียงร้องโหยหวนดังอย่างต่อเนื่องไม่มีหยุด
เื่นี้จะช้าไม่ได้ ด้วยนิสัยของหยางหนิง ก็พุ่งตัวไปยังสายตาของเซียวกวง เขาคลานไปกับพื้น เซียวกวงเห็นหยางหนิงคลานไปกับพื้น ก็ใขมวดคิ้ว แต่ก็รู้ว่ามีเพียงวิธีนี้เท่านั้นถึงจะไม่มีใครสังเกตเห็น เขาเลยคลานด้วยเช่นกัน
ได้ยินเสียงของชายอ้วนชุดเทาว่า “พวกเ้าเป็ใครกัน? ไม่อยากได้ชีวิตของเขางั้นหรือ?”
เห็นทั้งสองฝ่ายฆ่าฟันกันอย่างหนักหน่วง ไม่มีใครสนใจเขาเลย ชายอ้วนชุดเทาแต่เดิมมีคนอยู่เจ็ดแปดคน แต่ในตอนนี้ถูกฆ่าไปแล้วสามสี่คน อีกฝ่ายก็ถูกสังหารไปสองคน
หยางหนิงคลายไปถึงมุม ยื่นมือไปยกอิฐที่ขวางรูออก เซียวกวงเห็นดังนั้นก็เข้ามาช่วย ยกออกจนคนสามารถรอดผ่านออกไปได้ หยางหนิงอยากให้เซียวกวงออกไปก่อน เซียวกวงเองก็ไม่ได้เกรงใจ รอดออกไปก่อน หยางหนิงรอดตามออกไป
เมื่อรอดออกมาจากรู ด้านนอกเป็พื้นที่กว้าง ด้านหลังของศาลเ้าเป็พื้นที่กว้างใหญ่ ไม่ไกลนักมีป่าอยู่ ทั้งสองก็ไม่ได้สนใจเื่ภายในศาลเ้า ลุกขึ้นมา แล้ววิ่งไปทางป่า
“จึก!”
หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงเซียวกวงร้องออกมา หยางหนิงหันไปดู เห็นเซียวกวงล้มลงกับพื้น ขาของเขาถูกธนูยิง
หยางหนิงใ หันไปดู เห็นด้านข้างมีคนสี่ห้าคนโผล่ออกมา สองคนในกลุ่มนั้นยิงธนูมา อีกสามคนถือดาบ กำลังวิ่งตามมา
“เ้า...รีบหนีไป!” เซียวกวงเงยหน้ามองหยางหนิง สีหน้าซีดเซียว “ไม่ต้อง...ไม่ต้องห่วงข้า...!”
หยางหนิงไม่พูดอะไรมาก เดินไปแบกเซียวกวงขึ้นหลัง แล้วด่าว่า “เ้าคนแซ่เซียว เ้านี่มันตัวซวยจริงๆ ข้าตามเ้า มีแต่คนตามฆ่า” ด่าไปพลางแบกเซียวกวงวิ่งไปทางป่า
ด้านหลังมีธนูอีกหลายดอกตามหลังมา หยางหนิงไม่วิ่งทางตรงแต่วิ่งโค้งไปมา ไม่รู้ว่าเขาฉลาดหรือว่ามือธนูสองคนนั้นฝีมือไม่ดี เพราะธนูยิงไม่ถูกหยางหนิงเลย
“แย่แล้ว...!” เซียวกวงที่อยู่ด้านหลังร้องะโออกมา “ระวังข้างหน้า!”
หยางหนิงแบกเซียวกวงก้มหน้าวิ่ง ได้ยินเซียวกวงะโดังนั้น ก็เงยหน้าไปดู เห็นด้านหน้ามีชายสามคนถือดาบรออยู่ เขาใ หยุดวิ่ง หันกลับไปดู คนด้านหลังก็กำลังตามมา ในตอนนี้ไม่มีทางจะหนีอีกแล้ว
หยางหนิงถอนหายใจยาวๆ เซียวกวงสีหน้าตื่นใ สายตาเต็มไปด้วยความโกรธ
“เ้าคนแซ่เซียว ข้าเข้าใจแล้ว...!” หยางหนิงยิ้มแหยๆ “คนพวกนี้ไม่ได้ตามฆ่าชาวเป่ยฮั่นนั่น แต่ว่า... แต่ว่าตามฆ่าเ้า”
“จากที่ดูแล้วเหมือนจะเป็อย่างนั้น” เซียวกวงกัดฟันพูด “ชาวเป่ยฮั่นพวกนั้นโชคร้ายเอง จริงสิ สรุปแล้วเ้าชื่ออะไรกันแน่ อย่ารอข้าตายก็ไม่รู้ชื่อจริงของเ้าเลย”
หยางหนิงไม่ได้พูดดีด้วย “อย่าพูดมาก เ้าจำไว้ เ้าติดเงินข้าห้าร้อยตำลึงทอง ต่อให้ตาย เ้าก็ห้ามบิดพลิ้ว”
ตอนนี้คนด้านหน้าพุ่งตัวเข้ามา ต่างคนต่างตวัดดาบพุ่งเข้าฟันหยางหนิง เป็การลงมือง่ายและได้ผลดี
หยางหนิงรู้ดีว่าไม่มีทางอื่นรับมือได้อีกแล้ว มีเพียงท่าเดินทางอย่างเริงใจเท่านั้น
ท่าเดินทางอย่างเริงใจเมื่อเริ่มแล้ว มันก็แปลกจับทางไม่ได้ ต่อให้มู่เซิ๋นจวินที่เป็ยอดฝีมือ ก็ยากที่จะจับทางได้ แต่หยางหนิงก็รู้ว่า หากต้องรับมือสองคนข้างหน้านี้ ท่าเดินทางอย่างเริงใจอาจจะไม่สามารถหลบหลีกได้ แต่ว่าในเวลานี้หน้าหลังล้อมไว้เจ็ดแปดคน รับมือได้ยากจริงๆ
คนๆ นั้นฟันดาบลงมา หยางหนิงไม่คิดอะไรมาก เริ่มใช้ท่าเดินทางอย่างเริงใจ ก้าวแรกหลบคมดาบของอีกฝ่ายได้ แทบจะไม่ได้คิดเลยว่าอีกฝ่ายจะฟันดาบลงมาต่อหรือไม่ ก็ก้าวเท้าด้วยท่าเดินทางอย่างเริงใจก้าวที่สอง
ในตอนนี้ข้างหลังเองก็มีคนฟันดาบมา แล้วหยางหนิงก็หลบได้ทัน
มือดาบห้าคนล้อมพวกเขาทั้งสองเอาไว้ตรงกลาง แถมยังลงมือแบบไม่มีลังเลด้วย คนพวกนี้ลงมือเหี้ยมโหดมาก กะว่าจะเอาให้ตายเลย
เซียวกวงคิดว่าครั้งนี้ตายแน่นอนแล้ว แต่คิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายฟันมากี่ที่ หยางหนิงก็สามารถหลบหลีกได้อย่างกะภูตผีิญญา ซ้ายทีขวาที อีกฝ่ายกำลังจะลงดาบ หยางหนิงก็เคลื่อนที่ด้วยวิชาแปลกๆ เอาตัวรอดได้ทุกครั้ง
“ระวัง...!” เหลือบไปเห็นดาบมาทั้งด้านซ้ายด้านขวา เซียวกวงร้องด้วยความใ หยางหนิงถอยหลังไปหนึ่งก้าว มือดาบทั้งสองฟันกันเอง
ไม่ไกลนัก มือธนูสองคนก็ง้างคันธนูเตรียมยิงมาตรงหยางหนิง แต่ว่าหยางหนิงก็เคลื่อนที่แปลกๆ ซ้ายทีขวาที มือธนูทั้งสองเล็งไม่ถูกเลย ก็เลยไม่กล้ายิงออกไป เพราะกลัวจะโดนพวกเดียวกัน
มือดาบสลับกันลงมือ แต่ทุกครั้งก็พลาดเป้าตลอด หลายคนรู้สึกประหลาดใจ แล้วก็เริ่มรู้สึกโกรธ
ถึงแม้ว่าหยางหนิงจะสามารถหลบลูกธนูของอีกฝ่ายได้หลายครั้ง แต่ั้แ่ต้นก็เคลื่อนที่ตามท่าเดินทางอย่างเริงใจ ไม่กล้าเปลี่ยนแปลงอะไรมากมาย แต่หากเป็อย่างนี้ต่อไป เกิดพวกเขาจับจุดได้ ก็กลัวว่าอาจจะหลุดออกจากวงล้อมนี้ไม่ได้แน่ๆ เพราะมือดาบพวกนี้ฝีมือก็ไม่ธรรมดา เมื่อไหร่ก็ตามที่มีคนพลาด คนที่เหลือก็จะสอดแทรกขึ้นมาทันที พวกเขาสามารถล้อมพวกเขาสองคนเอาไว้ได้
หยางหนิงใช้เวลาฝึกท่าเดินทางอย่างเริงใจสั่นมาก ถึงแม้จะคุ้นชินหลายกระบวนท่ามากแล้ว แต่ในตอนนี้ก็ยื้อได้แค่นี้ ไม่ได้มีท่าไม้ตายอะไรมากกว่านี้
ถึงแม้เขาจะคุ้นเคยกับท่าเดินทางอย่างเริงใจ แต่ท่าทางของเขาก็ดูไม่ดีเอาซะเลย มันไม่ได้ดูเท่ห์เลย เหมือนคนเมาซะมากกว่า
ทันใดนั้นเองก็เห็นคนอีกหลายคนวิ่งออกมาจากศาลเ้า ในมือของคนพวกนั้นถือทั้งกระบี่ทั้งดาบ หรือบ้างก็ถือธนู มีประมาณสิบกว่าคน ที่ดูไม่เร่งรีบ ห่างไปไม่ไกล เห็นมือดาบห้าคนกำลังโจมตีใส่พวกหยางหนิง คนพวกนั้นกลับมีความสุขที่จะดูอยู่เฉยๆ
เซียกวงเห็นทุกอย่าง สายตาของเขาดูจริงจังมาก
ในใจของเขารู้ดีว่า คนพวกนี้เป็อย่างไร ความจริงมันก็เป็แบบนั้น ถึงแม้หยางหนิงจะมีวิชาสามารถหลบหลีกได้ แต่สุดท้ายแล้วก็ยังอยู่ในวงล้อมของพวกเขา อีกฝ่ายตอนนี้มีประมาณยี่สิบคนอยู่รอบๆ ด้วยแรงของหยางหนิงคนเดียว ยื้อเอาไว้ไม่ได้นานแน่
เมื่อไหร่ก็ตามที่หยางหนิงเริ่มเหนื่อย อีกฝ่ายก็จะเริ่มลงมือจริงๆ ตอนนั้นก็จะง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปากไป
ตามที่เซียวกวงคิด หยางหนิงก็คิดแบบนี้เหมือนกัน เขาเดินมานานมาก แต่สุดท้ายก็เงารอบๆ ตัวก็ไม่ได้หายไป ในใจคิดว่าหากเป็อย่างนี้ต่อไป ไม่ต้องรอให้อีกฝ่ายมาฆ่าหรือก เขาก็จะเหนื่อยตายไปเอง
เหมือนเขาใช้ท่าเดินทางอย่างเริงใจครบหนึ่งรอบ ก็กลับมายังจุดเดิม หยางหนิงก็หยุดเดิน เมื่อกำลังจะเดินอีกครั้ง ก็รู้สึกว่ามีรังสีดาบกำลังฟันมาที่เขา
หยางหนิงใ จนต้องถอยหลังไป แต่การถอยหลังของเขาครั้งนี้ มันไม่เหมือนท่าเดินทางอย่างเริงใจแบบปกติ เมื่อคิดจะหาจังหวะ ข้างๆ ตัวก็มีดาบฟันลงมาอีก เซียวกวงรู้สึกแปลกใจ แต่ก็ะโออกไปว่า “ระวัง ซ้ายมา...!”
หยางหนิงเริ่มโมโห ในใจคิดว่าะโทำไม ข้าสับสนไปหมด ฝืนหลบไปข้างๆ อีกด้านก็ฟันลงมาอีก
ทันใดนั้นเอง ก็ได้ยินเสียงดัง “เฮือก” แล้วก็ได้ยินเสียง “อ๊าก” หลังจากสองเสียงร้องจบลง หยางหนิงยังงงอยู่ว่าเกิดอะไรขึ้น เหมือนได้ยินเสีบงร้องไม่ไกลนัก
เขาใช้หางตามองไป เห็นสองคนข้างๆ เขาที่ลงดาบมาล้มลงไปพร้อมกัน
หยางหนิงใก่อน จากนั้นก็ดีใจ ฉวยโอกาสหลบไปทางด้านนั้น แล้วหาจังหวะจนเจอ แล้วใช่ท่าเดินทางอย่างเริงใจก้าวเดินอีก แต่คราวนี้ไม่มีดาบมา เขาเลยฉวยโอกาสหลบห่างออกไป
เขาดึงระยะให้ห่างออกมา แต่พบว่าพวกมือดาบไม่ตามมา มันน่าแปลกมาก ในใจคิดว่าทำไมมือดาบสองคนนั้นจู่ๆ ก็ล้มลงแบบนั้น เหลือบไปมอง ก็เห็นว่าบนคอของสองคนนั้นมีลูกธนูปักอยู่ ทิศของลูกธนูมันยิงมาจากด้านหลัง
หยางหนิงดึงระยะออกมา แล้วหยุดเดิน กวาดสายตาไป เห็นเหล่ามือดาบมือธนูมองไปยังทิศทางเดียวกัน หยางหนิงก็มองตามไป พบว่าห่างจากตัวเขาไม่กี่ก้าว มีคนๆ หนึ่งนั่งอยู่บนหลังม้า โผล่มาอย่างกะิญญา ไม่รู้ว่ามาเมื่อไหร่
คนๆ นั้นอยู่บนหลังม้า แต่ร่างกายของเขาดูออกชัดเจนว่ากำยำมาก ไม่ใช่ิญญาแน่ มีหนวดเคราจนเห็นรูปปากเป็สี่เหลี่ยม จอนผมหนา ทำให้เห็นโครงหน้าแค่ครึ่งเดียว
ถึงแม้ว่าเคราของเขาจะหนาจนบดบังใบหน้าไปครึ่งหนึ่ง แต่ก็ยังสามารถสร้างความประทับใจให้กับคนที่เห็นเขาครั้งแรกได้ คนคนนั้นอยู่ไม่ไกลจากหยางหนิง สายตาของหยางหนิงที่มองเขามีความประหลาดใจ ั์ตาของเขาแปลกประหลาดมาก ราวกับว่าเขามีั์ตาอยู่สองดวง