ผมชะงักไปทันที ชื่อ ID ในเกมของผมถูกเปิดเผยแล้ว เ้าหมอนี่เป็ใครกันถึงได้รู้ชื่อ ID ผม? แต่เมื่อมองคนตรงหน้าดีๆ จึงนึกขึ้นได้ว่าไอ้คนที่ใส่นาฬิกา Vacheron Constantin บ้านี่ไม่ใช่ใครที่ไหนมันคือ ซีฉู่ป้าหวาง คู่อริของผมในเมืองปาหวางนั่นเอง!
ฉับพลันนั้นผมก็ตั้งสติอีกครั้งก่อนตอบกลับเสียงเรียบๆ“ดูเหมือนว่าฉันจะไม่รู้จักนายมาก่อนนะ”
ดวงตาของอีกฝ่ายแฝงด้วยความเ็าและดุดัน“แกไม่รู้จักฉัน? แต่ฉันรู้จักแก! หึแกคงใช้ดาบหนามนั่นสบายใจเลยสินะ? แถมตอนที่อยู่ในหุบเขาดวงดาราเจ็ดดวงแกยังฆ่าพวกฉันตายอยู่ในถ้ำด้วย ไม่เลวเลยนี่! ”
ผมยิ้มออกมา“ก็ไม่เห็นจะแปลกเลยนี่ที่จะทำโทษพวกคนทรยศยังไงมันก็เป็เื่ที่สมควรทำอยู่แล้ว...”
“ไสหัวออกไป! ”
หลิวอิงมองหลินหว่านเอ๋อร์ที่อยู่ด้านหลังก่อนพูดขึ้น“ดูเหมือนว่าแกจะรู้จักกับหลินหว่านเอ๋อร์คนสวยด้วยสินะ ตอนนี้ฉันไม่อยากจะสุงสิงอะไรกับแกไสหัวออกไปซะ หมาที่ดีไม่ควรขวางทางคนเดิน”
ผมยังคงยืนอยู่ที่เดิม“ฉันบอกแล้วไงว่าหว่านเอ๋อร์ดื่มไปเยอะมากแล้ว เดี๋ยวฉันจะดื่มแทนเอง”
“แกมีสิทธิ์อะไรวะ!”
หลิวอิงรู้สึกโมโหก็เลยสาดเหล้าในมือใส่หน้าผมกลิ่นเหล้าคลุ้งไปทั่ว นี่มันเหล้า 53 ดีกรีที่หมักมาอย่างดีถึง30 ปี ราคาตั้ง 2.5 หมื่นหยวนเลยนะเว้ย!สิ้นเปลืองชะมัดเ้าบ้านี่!
“เ้าหลี่! ”เ้าแว่นมองผมก่อนรีบลุกยืน
ทว่าสายตาอาฆาตของหลิวอิงที่ส่งมาทำให้เ้าแว่นชะงักจนต้องนั่งลงไม่กล้าทำอะไร
……
ส่วนผมยังคงยืนนิ่งอยู่กับที่พร้อมสายตาที่จับจ้องหลิวอิง ตอนนี้ผมมีวิธีฆ่าเ้าบ้านี่มากกว่า 20 วิธี แต่ผมต้องพยายามควบคุมอารมณ์ตัวเองให้นิ่งที่สุดเพราะหลินเทียนหนานและหัวหน้าหวางพูดกับผมไว้ก่อนหน้านี้ว่าผมถือเป็เงาข้างตัวของหลินหว่านเอ๋อร์ ไม่สามารถเปิดเผยตัวตนและห้ามลงมือให้คนอื่นเห็นเด็ดขาด ผมต้องเก็บตัวเงียบไม่เป็ที่สะดุดตาให้มากที่สุด เพราะหากผมลงมือเพียงครั้งเดียวสิ่งที่ทำมาทั้งหมดก็จะสูญเปล่าทันที
“ทำไม? จะจัดการฉันสินะ? ”
หลิวอิงยิ้มเยาะ“หรือว่านายเป็พวกขี้ขลาดตาขาว ก็เลยไม่กล้าทำอะไรฉัน? ”
ผมมองเขาด้วยสายตาเ็าและเปี่ยมด้วยความอาฆาต
“ฟึบๆ ”
เท้าของหลิวอิงก้าวถอยโดยไม่รู้ตัวราวกับมันรู้สึกได้ถึงรังสีอำมหิตที่ถูกส่งออกไป
ทันใดนั้นหลินหว่านเอ๋อร์ที่อยู่ด้านหลังก็ค่อยๆลุกขึ้นก่อนจะยกแก้วไวน์แล้วพูดกับหลิวอิง “เอาเถอะๆ ฉันจะชนแก้วกับนายก็แล้วกัน”
ว่าแล้วเธอก็กระดกแก้วไวน์ขึ้นดื่มจนหมดพร้อมมองมาที่ผมก่อนจะหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดคราบเหล้าบนหน้า
หลิวอิงยืนนิ่งที่เดิมพร้อมถลึงตาใส่ผม“ฝากไว้ก่อนเถอะ ฉันจะจัดการแก เอาให้เ็ปจนลืมไม่ลงเลยคอยดู! คนอย่างหลิวอิงหากคิดจะจัดการใครแล้ว ไม่มีทางปล่อยให้พวกมันลอยหน้าลอยตาได้นานหรอกโว้ย จำไว้! ”
ผมหันกลับไปมองเพื่อนนักเรียนคลาส1 ก่อนจะเช็ดคราบที่เปื้อนบนหน้าเงียบๆจากนั้นก็กระดกเหล้าในแก้วจนหมดเพื่อสะกดอารมณ์ และพยายามบอกกับตัวเองว่าตอนนี้เขาไม่ใช่พวกเด็กหนุ่มเืร้อนเหมือนสมัยก่อน ตอนนี้ผมคือบอดี้การ์ดของหลินหว่านเอ๋อร์และผมมีภารกิจที่สำคัญกว่าการะเิอารมณ์ตัวเองออกไป
เพื่อนนักเรียนมองผมด้วยสีหน้าตกตะลึงโดยไม่มีใครเอ่ยปากพูดแม้แต่คนเดียว
ตงเฉิงเยว่มองผมก่อนพูดขึ้น“เซียวเหยา ลำบากนายแล้วนะ...”
ผมยิ้มออกมา“ไม่เป็ไร...”
หลินหว่านเอ๋อร์ลุกขึ้นก่อนจะหันไปหาทุกคน“ขอโทษทีนะทุกคน ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบาย ขอตัวกลับก่อน”
พูดจบเธอก็หมุนตัวเดินออกไปผมรีบเดินตามไปทันที
……
ด้านนอกงานเลี้ยงลมเย็นพัดโชยมาอย่างต่อเนื่อง ห่างไปไม่กี่เมตรหลินหว่านเอ๋อร์ที่สวมชุดเดรสสีน้ำเงินกำลังยืนรับลมพร้อมกับขาเรียวยาวขาวประหนึ่งหิมะที่โดดเด่นภายใต้แสงไฟ ดึงดูดสายตาผู้ที่พบเห็นถึงตอนนี้เป็เพราะฤทธิ์ไวน์ที่ดื่มเข้าไปทำให้เธอเริ่มเดินเซผมรีบวิ่งเข้าไปประคองแขนเธอไว้ “คุณหนูไม่เป็ไรใช่ไหม? ”
เธอส่ายหน้าก่อนดึงมือออก“อย่ามาถูกตัวฉัน”
ผม “...”
ผมเดินตามเธอไปช้าๆสักพักเธอก็นั่งบนเก้าอี้หินแล้วกอดอก ร้องไห้ท่าทางของเธอราวกับลูกแมวที่ได้รับาเ็
ผมยืนอยู่ข้างๆโดยไม่พูดอะไร และไม่ขยับเขยื้อนไปไหน
ผ่านไปครู่หนึ่งเธอก็เงยหน้าขึ้นพร้อมดวงตาที่ยังมีคราบน้ำตา ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงปนโมโห “หลี่เซียวเหยานายรู้หรือเปล่าว่าฉันเกลียดนาย ฉันเกลียดนายที่สุดเลย”
ผม “…”
เธอยังคงส่งเสียงร้องพร้อมพูดต่อ“นายมันก็เหมือนเงาของเขาที่คอยตามติดฉันตลอดเวลา ทำไมต้องเป็แบบนี้ด้วย!!!ฉันกับแม่เป็แค่เครื่องมือของเขางั้นเหรอ? ทำไมฉันถึงไม่ได้ทำในสิ่งที่อยากทำ?ทำไมฉันถึงต้องคอยถูกจับตามองเหมือนกับคนที่ทำความผิดอยู่ตลอดเวลาแบบนี้ด้วย?ฉันไม่อยากได้ชีวิตแบบนี้ ฉันเกลียดฉันเกลียดเขาเหมือนกับที่เกลียดนาย! ”
ผมยังคงเงียบและเขาที่เธอพูดถึงคงไม่ใช่ใครที่ไหน เธอกำลังหมายถึงหลินเทียนหนานพ่อของเธอนั่นแหละ
“คุณหนู...”
เวลาผ่านไปครู่หนึ่งผมจึงพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ“ตอนกลางคืนอากาศเย็น ผมว่ารีบกลับกันเถอะครับ เดี๋ยวจะไม่สบาย”
หลินหว่านเอ๋อร์ยังคงนั่งนิ่งพร้อมกับร้องไห้ด้วยความอึดอัดใจสักพักเธอก็เช็ดคราบน้ำตาแล้วลุกขึ้นยืนพร้อมกับดวงตาที่แดงก่ำ “ขอโทษนะ”
ผมส่ายหน้าแล้วยิ้มให้“ไม่เห็นต้องขอโทษเลยครับ คุณไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย”
“ฉันไม่ควรพูดกับนายแบบนั้น”
“ไม่เป็ไรครับผมชอบที่คุณเป็แบบนี้...”
“ประสาท...”
“หา...”
“คิๆ ”
อารมณ์ของผู้หญิงนี่อย่างกับสภาพอากาศเลยแฮะเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาว เฮ้อ! แต่ผมก็รู้ดีว่าแม้ระยะห่างของเราสองคนจะดูเหมือนใกล้กันแต่จริงๆ แล้วมันช่างห่างเหินเสียเหลือเกิน
ระหว่างที่เดินอยู่ตรงทางเดิน
ผมก็ถามขึ้นว่า“นี่คุณหนู… คุณหนูคงอยากฝืนกฎที่มีมากสินะครับ? ”
เธอหยุดเดินก่อนหันมามองผมด้วยความประหลาดใจ“นะ... นายพูดแบบนั้นหมายความว่ายังไง? ”
ผมยิ้มออกมา“ก็ถ้าคุณอยากทำแบบนั้น ผมช่วยคุณได้นะ”
หลินหว่านเอ๋อร์มองผมเงียบๆก่อนจะหัวเราะพร้อมกับตบบ่าผม “ช่างเถอะ ฉันไม่เชื่อนายหรอกเพราะยังไงนายก็เป็สุนัขรับใช้ของพ่อฉันอยู่ดี”
“สุนัขรับใช้...”ผมรู้สึกโมโหขึ้นมา
หลินหว่านเอ๋อร์เดินไปด้านหน้าพร้อมกับหัวเราะใช้เวลาไม่นานพวกผมก็เดินมาถึงหอหญิง
……
หลังจากที่เธอกลับขึ้นห้องไปแล้วสักครู่หนึ่งก็มีสาวสวยหิ้วกระเป๋าสีแดงใบเล็กเดินเข้ามาพร้อมกับยิ้มให้ผม“สุดหล่อ ไปดื่มด้วยกันไหมจ๊ะ? ”
ให้ตายเถอะในมหาวิทยาลัยมีสาวประเภทนี้ด้วยเหรอวะเนี่ย?
ผมกัดฟันไม่พูดอะไร
ทันใดนั้นห่างไปไม่ไกลก็มีกลุ่มคนเดินเข้ามาด้วยท่าทางโซซัดโซเซซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหน พวกหลิวอิงนี่เองเ้านั่นมาพร้อมกับเหล้าขาวที่เหลืออยู่ครึ่งขวดและท่าทางน่าเวทนา“น่าเสียดายชะมัด วันนี้ยังไม่ได้แตะแม้แต่ปลายผมหลินหว่านเอ๋อร์เลยด้วยซ้ำ จุ๊ๆหุ่นก็โคตรดี แถมใบหน้ารูปไข่ที่งดงามนั่นอีก หึๆ ถ้าลากขึ้นเตียงได้ละก็จะไม่ให้ลุกจากเตียง 3 วัน 3 คืนเลยคอยดูเถอะ”
พูดจบเสียงหัวเราะของคนพวกนั้นก็ดังขึ้น
ได้ยินแล้วผมก็มีแผนในใจผมเดินไปด้านหน้าแล้วลากมือผู้หญิงที่เดินเข้ามาทักผมก่อนจะพุ่งตัวเข้าไปในป่าที่อยู่ข้างๆ
“นี่สุดหล่ออย่ารีบสิ” ว่าแล้วแม่สาวข้างๆก็เอาตัวเข้ามาแนบชิดผมพร้อมหายใจแรงจนััได้ถึงความร้อน“หรือว่านายอยากจะลองทำกิจกรรมบนพื้นแบบนี้เหรอ? ได้สิแต่ครั้งละ 50 หยวนนะ นายอยากได้กี่ครั้งล่ะ? 2 ครั้งพอไหม? เอาเป็ว่าฉันคิดนายครั้งละ 100 หยวนก็แล้วกัน”
ผมรีบหยิบเงิน 200 หยวนออกมาก่อนจะบอกว่า “เอาเงินนี่ไป แต่เธอต้องช่วยอะไรฉันอย่างหนึ่ง”
“ช่วยอะไร?”
“เธอเห็นเ้าหนุ่มผมแดงนั่นไหมเขารวยมากเลยนะ เธอลากเขาแล้วจัดการเปิดห้องกับเขาซะ ทำได้ไหมล่ะ”
“เป็คนรวยเหรอ?”
“รวยมาก!!! ”
“ตกลง...”
……
แม่สาวลูบไล้หน้าอกผมต่อสักพักก่อนเดินไปหาเป้าหมายที่ผมสั่งหลังจากยืนคุยอยู่ครู่หนึ่งก็ดูเหมือนว่าการตกลงจะเป็ไปอย่างราบรื่นท่าทางเ้าหลิวอิงสนใจแม่สาวคนนั้นไม่น้อยคงเพราะมันอยากจะขึ้นเตียงกับหลินหว่านเอ๋อร์เต็มแก่ แต่ดันถูกปฏิเสธจนหน้าหงายถึงตอนนี้ความ้าในตัวก็คงจะยังเดือดพล่านและ้าระบายกับใครสักคนเพื่อให้ความกระหายทุเลาลงและแน่นอนว่าในเวลานี้แม่สาวตรงหน้าคือเหยื่อชั้นดีที่สุด
ระหว่างที่ผมกำลังแอบมองจากมุมมืดก็หยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาหวางซิ่นทันที
“ฮัลโหลมีอะไรหรือเปล่าเ้าหนู? ” หวางซิ่นพูด
“หัวหน้าหวาง!ผมมีเื่จะแจ้งหัวหน้าช่วยเรียกพวกที่ต่อต้านเื่การค้าประเวณีมาแถวมหาวิทยาลัยหลิวหัวหน่อยได้ไหม?อ้อ แล้วช่วยเตรียมชุดตำรวจให้ผมด้วยนะ ถึงแล้วโทรหาผมด้วยพอดีวันนี้ผมมีคนที่ต้องจัดการน่ะ”
“หา? ทำไมจู่ๆ นายถึงได้สนใจเื่พวกนี้ขึ้นมาได้ล่ะเนี่ย? ”
“ผมก็แค่ชอบน่ะรีบส่งคนมาเร็วๆ นะหัวหน้า ไม่งั้นผมจะปล่อยคนพวกนี้ไป”
“โอเคๆเข้าใจแล้ว นายนี่จริงๆ เลยนะ ยังกล้ามาขู่ฉันอีก ฉันจะส่งคนไปเดี๋ยวนี้แหละ”
“ครับ”
……
ผมเดินตามหลิวอิงกับแม่สาวขายบริการที่เข้าไปในโรงแรมด้วยความรวดเร็วขณะนั้นเองตำรวจ 4 นายก็ปรากฏตัวขึ้น ผมรีบโบกมือเรียกพวกเขา“พี่เซียวเหยา! ”
“ชุดเครื่องแบบของฉันล่ะ?”
“ผมเอามาแล้วครับ”
ผมเปลี่ยนชุดทันทีภายในกระเป๋าเสื้อก็มีบัตรประจำตัวเ้าหน้าที่เตรียมไว้ให้แล้ว ให้ตายสินี่มันชุดเครื่องแบบของท่านรองนี่หว่า
เมื่อเข้ามาในโรงแรมผมก็แสดงตัวกับพนักงานต้อนรับเพื่อขอตรวจห้องพักของหลิวอิงหลังจากได้ข้อมูลว่าหลิวอิงเปิดห้องเบอร์ 308 ผมก็ยิ้มให้กับพนักงานสาวตรงหน้า“ขอบคุณที่ให้ความร่วมมือนะคนสวย”
พนักงานสาวหน้าแดงก่ำ“เอ่อ ด้วยความยินดีค่ะพี่ชายสุดหล่อ...”
……
เมื่อเดินมาถึงชั้น 3 แล้วตรงไปหยุดที่หน้าห้อง 308 ผมก็รูดบัตรเข้าไปทว่ากลับพบว่าด้านในมีการล็อกประตูไว้อีกหนึ่งชั้น ผมจึงถีบประตูเข้าไปอย่างแรงทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงครางดังจากด้านใน
ผมเดินเข้าไปก่อนจะแสดงบัตรค้นพร้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่น่าเกรงขาม“หยุด นี่เ้าหน้าที่ตำรวจ!พวกผมมีเบาะแสว่าคุณมีส่วนร่วมในการซื้อขายบริการผิดกฎหมายคุณสามารถเรียกทนายความเพื่อรับความช่วยเหลือแต่ตอนนี้คุณต้องไปที่สถานีตำรวจกับพวกผมก่อน”
หลิวอิงที่ยังคงมึนงงด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์มองผมก่อนพูดว่า“พูดบ้าอะไรของแกวะ ไสหัวออกไปให้หมด! พวกแกรู้ไหมว่าฉันลูกใคร หา?! ”
ผมตรงไปข้างหน้าก่อนจะซัดหมัดใส่หน้าอีกฝ่ายจนเืตกยางออก
“ผมไม่สนหรอกว่าคุณจะเป็ใคร...ลุกขึ้นมา! ”
ผมยิ้มก่อนจะหมุนตัวออกไปพร้อมกับถอดเครื่องแบบและบัตรประจำตัวส่งคืนตำรวจที่ถูกส่งมาก่อนจะกระซิบบอกตำรวจพวกนั้นว่าให้ปล่อยผู้หญิงคนนั้นไป จับแค่หลิวอิงคนเดียวพอหลังจากจัดการทุกอย่างแล้วผมก็รีบเดินออกจากโรงแรมไปอย่างรวดเร็ว หึๆ สะใจชะมัดความโกรธของผมได้หายไปแล้ว ที่ผมไม่ตอบโต้ในงานเลี้ยงไม่ได้หมายความว่าผมจะไม่ทำอะไรหรอกนะ ผมก็แค่ทำตามกฎเท่านั้นแหละ แต่ยังไงผมก็ต้องยึดมั่นในกฎข้อหนึ่งที่ยังคงอยู่ในใจของผมเสมอมา...สุภาพบุรุษต้องล้างแค้นในคืนที่เกิดเื่เท่านั้นโว้ย!