“เฮอะๆ ฮ่าๆๆ พวกข้าจะรอเ้าอยู่ใต้พิภพ” นายกองหัวเราะรวดร้าว ร่างกายสั่นไหวจนเซคว่ำลงไป
อีกสองคนเองก็ล้มลงไล่เลียกัน
กลิ่นคาวเืตลบอบอวล
“เป็ดตายต้มสุกแล้วแท้ๆ ยังจะปากแข็งอีก...ทว่าก็น่าเสียดายนะ พลังไม่เลว ทหารเอกในกองทัพ ดันลดตัวมาเป็มือสังหาร” เ่ิูส่ายหน้า เมื่อครู่ที่เขาลงมืออย่างไร้ปรานี ย่อมหมายความว่าไม่มีความจำเป็ใดต้องปรานี
สามคนนี้มิใช่ประเภทที่พร้อมจะเปิดโปงบุคคลที่ชักใยอยู่เื้ัตัวเอง พรรคพวกนี้เตรียมการมานานจนถึงขั้นแทรกซึมเข้ามาในกรมไส้ศึกได้ ต้องไม่มีทางเคี้ยวง่ายอยู่แล้ว สามคนนี้ต้องเป็เดนตายที่คัดเลือกมาแล้วเป็พันหมื่นครั้ง ต่อให้โดนไต่สวนหรือทรมานเพียงใดก็ไม่มีทางพูดเด็ดขาด
สิ่งเดียวที่มั่นใจได้ก็คือ คนที่วางแผนสกปรกอยู่เื้ันี้ อำนาจอิทธิพลและตำแหน่งในสังคมต้องเคี้ยวยากแน่นอน
นับไปนับมา คนที่สามารถพอจะแทรกแซงกรมสอดแนมประจำการณ์แห่งอาณาจักรได้ก็มีอยู่นับคนได้
และคนๆ นี้อยากจะฆ่าเขา เท่านั้นก็ชัดเจนพอแล้ว
เ่ิูมีคำตอบอยู่ในใจเรียบร้อย
ข้างหูมีเสียงกรนดังแว่วมา
เ่ิูเบนหน้าไปมอง
นายกองคนสุดท้ายนอนกรนเหมือนฟ้าผ่าอยู่บนเตียงน้ำแข็ง ท่าจะกำลังนอนฝันหวาน คนๆ นี้หลับเก่งดีจริง ในห้องน้ำแข็งเพิ่งมีคนสู้กันไปเกือบครึ่งวัน เขาเป็จอมยุทธ์คนหนึ่งแท้ๆ แต่กลับจับจุดไม่ได้ ยังหลับสบายอารมณ์ หากอยู่ในเวลาอื่นน่ากลัวจะตายไม่รู้ตัว
เ่ิูยิ้ม เขาเก็บกระบี่แล้วเดินเข้าไปตบเขา
นายกองลืมตาสะลึมสะลือ มองเห็นเ่ิูทีก็ใ รีบะโขึ้นมาจากเตียง แล้วจึงถามพร้อมกับขยี้ตาและลูบท้ายทอยตัวเอง “อา? ทำไมหรือ? ใต้เท้าเย่...ฟ้าสวางแล้วหรือ? ต้องออกเดินทางแล้วใช่ไหมขอรับ?...ข้านอนมากไปหรือเปล่า?”
เ่ิูส่ายหน้า ก่อนชี้ไปยังศพสามศพที่นอนแอ้งแม้งอยู่บนพื้น
นายกองอุทานพรวดหนึ่ง ความง่วงอันตรธานทันที เขาเดินปรี่เข้าไปนั่งยองๆ สีหน้าตระหนกเมื่อมองสำรวจพักหนึ่ง แล้วจึงว่า “แผลจากกระบี่...กระบี่เร็วมาก...เกิดอะไรขึ้น? มีศัตรูลอบกัดหรือ? ไม่สิ ใต้เท้าท่าน...นี่มันเกิดอะไรขึ้นหรือขอรับ?”
เ่ิูเล่าทุกอย่างที่เพิ่งเกิดขึ้นให้เขาฟังทั้งหมด
“อะไร?” นายกองะโขึ้นมา “เป็ไปไม่ได้!”
เ่ิูจะยิ้มก็ไม่ใช่ จะไม่ยิ้มก็ไม่เชิง “ทำไมไม่ได้เล่า? เ้าหมายความว่าข้าโกหกงั้นหรือ?”
นายกองรีบเอ่ยบัวไม่ให้ช้ำน้ำไม่ให้อุ่น “ผู้น้อยมิกล้า แต่เื่นี้มีเลศนัยเกินไปขอรับ พวกเขาสามคนเป็ทหารของกรมไส้ศึกมาสี่ปีเต็มแล้ว ตอนนั้นพวกเราสมัครเป็ทหารพร้อมกัน ข้าเข้าใจพวกเขาดียิ่ง พวกเขาลงมือลอบสังหารท่านนั่นเท่ากับโทษถึงตายนะขอรับ หรือว่า...พวกเขาจะบ้าไปแล้ว?”
นายกองคนนี้ทั้งหมดอาลัยตายอยากและตะลึง ท่าทางลำบากใจมาก ไม่เหมือนเป็คำพูดของคนโกหก
เ่ิูพยักหน้าเข้าใจ เขาไม่เอ่ยอะไรอีก
เื่นี้ ช่างแปลกจริงนัก
“ความจริงของเื่นี้ค่อยๆ ตรวจสอบเรื่อยๆ เถอะ” เ่ิูเดินกลับมาที่หน้าหน้าต่างห้องน้ำแข็งเชื่องช้า มองหิมะโปรยหนักจนเป็สีขาวไกลสุดลูกหูลูกตา เขาเอ่ยอย่างตัดสินใจไว้แล้ว “เ้าไม่ต้องห่วง ข้าไม่โทษเ้าหรอก สุดท้ายน้ำลดตอมันก็ผุด ข้ามีลางสังหรณ์ว่าทางนี้ของพวกเราไม่มีทางราบรื่นอยู่แล้ว”
นายกองฟังคำแล้วก็ซาบซึ้งใจนัก เขาโค้งกายทำความเคารพ “ขอบพระคุณใต้เท้าที่เชื่อใจ”
เอ่ยไม่ทันจบ
ฟิ้ว!
ศาสตราวุธสีเงินราวกับงูพิษออกจากรู พวยพุ่งออกมาจากก้านคอนายกองเมื่อเขาก้มหัวเคารพ มันยิงตรงไปยังเ่ิู
เ่ิูที่หันหลังให้เขาอยู่ ไม่มีทางเห็นการกระทำเล็กน้อยเพียงนี้ได้
อาวุธลับนี้ก็ดันไม่มีเสียงเสียด้วย
สังหารได้เบ็ดเสร็จแน่
ทว่า
เคร้งๆๆ!
เสียงเหล็กปะทะกันถี่กระชั้น
กลางประกายไฟเสียดสี เข็มเงินสามเล่มพร้อมแทงก็โดนกระแทกจนไปเสียบอยู่กับผนังน้ำแข็ง
เ่ิูถือกระบี่ฉ่าวชางไว้ในมือซ้าย เขาหันมานานแล้ว ไม่วายมองนายกองพร้อมรอยยิ้มเยาะเย้ยเต็มเปี่ยม
นายกองเมื่อลอบกัดไม่สำเร็จก็ตอบสนองไว้มาก เหมือนอสรพิษขยับไหวบนพื้นดิน ร่างกายแวบไป รักษาระยะห่างจนไกลกว่าสิบเมตรออกไป ตอนนี้เองถึงมองเ่ิูอย่างใ “เ้า...เ้าเตรียมป้องกันมาตลอดก็จริง แต่ว่า ทำไมเ้าถึงรู้ว่าข้าเป็มือสังหารได้?”
“เฮอะๆ ผู้แข็งแกร่งอาณาน้ำพุิญญาคนหนึ่งจะนอนหลับลึกได้ถึงเพียงไหนกัน? กระทั่งคลื่นพลังปราณแข็งแกร่งเพียงนั้นยังรู้สึกไม่ถึง?” เ่ิูกำกระบี่ฉ่าวชางไว้ในมือเดียว ตัวกระบี่ดั่งน้ำในฤดูใบไม้ร่วงส่องแสงเป็ประกายในห้องน้ำแข็ง เหมือนน้ำเงินรุกคืบเข้ามาหาทีละก้าวๆ “แกล้งหลับในสถานการณ์แบบนั้น? เ้ามันโง่ หรือว่าเขลากันแน่ล่ะ?”
ใบหน้านายกองปะทุด้วยความโกรธและอับอาย “ตายซะ!”
ข้อต่อเขาขยับเหมือนเครื่องจักร
ฟิ้วๆๆ!
ไอมืดนับไม่ถ้วนผ่าอากาศเข้าจู่โจม
ล้วนแล้วแต่เป็อาวุธมืด
อาวุธมืดเต็มฟ้าเหมือนลมแรงและพายุใหญ่ปกคลุมไว้พร้อมกัน
ในห้องน้ำแข็งที่คับแคบเช่นนี้แล้ว การจะหลบซ่อนบรรยากาศอาวุธิญญานี่มันก็ต้องยากที่สุดอยู่แล้ว
แต่เ่ิูก็ไม่เคยคิดจะหลบซ่อนอยู่เป็ทุนเดิมอยู่แล้ว
เขาะเิหัวเราะแล้วย่างสามขุมเข้ามาหา กระบี่ฉ่าวชางในมือกลายเป็พายุคะนองคมกระบี่ ไม่เคยหลบหนี แต่ม้วนกายกลืนกินทุกสิ่งทุกอย่าง
เคร้งๆๆๆ!
สาดกระจายดวงไฟไม่เว้นว่าง
พายุอาวุธมืดราวกับฝนฟ้าถูกพายุคมกระบี่กลืนกิน จากนั้นก็โดนรัดจนเละและกระแทกจนลอยไปไกล ไม่มีอาวุธมืดใดสามารถเข้ามาในเขตรอบตัวเ่ิูในระยะสามเมตรได้
เ่ิูรุดเข้ามาทีละก้าวๆ
แววตาของนายกองผู้นั้นยิ่งนานยิ่งโหดร้าย เหมือนสัตว์รันทดต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอด
ท่ามกลางเสียงผ่าอากาศไม่เว้น่นั้น มีอาวุธมืดมากมายทุกรูปแบบ ออกมาจากท่อนแขน ลาดไหล่ หน้าอก เอว ข้อศอก เท้าหรือแม้แต่ที่แปลกๆ พุ่งออกมาตลอดเวลา พาให้คนไม่อาจป้องกันได้ทัน
แต่ไม่ว่าอาวุธใดก็ตาม ล้วนไม่อาจคุกคามการก่อร่างของเ่ิูได้
มือกำกระบี่ฉ่าวชางไว้ เ่ิูเหมือนผู้ผดุงความยุติธรรมกางร่มเดินไปท่ามกลางห่าฝน กันฝนมิให้เฉียดกรายตัว
เมื่อเห็นเ่ิูอยู่ไกลจากตัวเองไม่ถึงสามเมตร นายกองก็รู้ได้ว่า ตัวเองได้สูญเสียระยะปล่อยอาวุธมืดที่เหมาะเจาะที่สุดไปแล้ว เขาแวบไปมา ใคร่จะดึงระยะให้ได้ก่อนแล้วค่อยต่อสู้...
เ่ิูกลับไม่ให้โอกาสเขาเลย
“สลาตันคมกระบี่!”
พลังอำนาจของท่าสลาตันคมกระบี่แห่งสี่กระบวนยุทธ์ทหารเอกหนึ่งนิรันดร์นั้นเพิ่มพูนอย่างที่สุด
เ่ิูร่างกลายเป็ลำแสง หนึ่งคนหนึ่งกระบี่รวดเร็วยิ่งนัก ไอกระบี่เต็มฟ้าวับวาว จมร่างนายกองคนนั้นหายไปในพริบตา
ลมกระบี่โชยมา
จากนั้นก็หยุดลง
เ่ิูหยุดเดิน
กระบี่ฉ่าวชางในมือไม่มีแม้รอยเืให้ขุ่นหมอง ยังคงใสวับเหมือนวารี
ด้านหลัง
สีหน้าน่ากลัวและดุร้ายของนายกอง มาพร้อมกับปากที่อ้ากว้าง ร่างกายแข็งทื่อ ให้ตายก็จะไปปล่อยอาวุธิญญาออกมาได้อีก คอมันเปล่งเสียงกึกๆๆ เสียงชือๆๆ ดังแ่เบามา เืสาดกระฉูดห้าหกสาย ทั้งเนื้อตัวล้มพับเหมือนไม้ผุ ร่างกายโดนหั่นออกเป็หกเจ็ดส่วน
เ่ิูหันหลังกลับมา
เขามองศพแหละเละเบื้องล่างแล้วเป็ต้องใเสียเอง
หลังใจนพูดไม่ออก าามารเย่ก็เอ่ยอย่างขอโทษขอโพย “โอ้โห ขอโทษนะขอโทษ ข้าขอโทษจริงๆ พอดีใช้สลาตันคมกระบี่เป็ครั้งแรก มือมันไปเอง ไม่นึกเลยว่าอานุภาพจะร้ายกาจขนาดนี้ ถึงได้ทำให้ศพเ้าขาดกันหมด คราวหน้าข้าจะระวัง อย่างน้อยก็ให้ศพเ้าอยู่ทั้งตัวก็แล้วกันนะ”
นอกประตูห้องน้ำแข็ง
หัวหน้าผู้รักษาป้อมและคนอื่นที่รู้ข่าวก็รีบมาหาเ่ิูอย่างแตกตื่น
เ่ิูยิ้มแล้วอธิบาย “ไม่เกี่ยวกับข้าเลย พวกเขาอยากฆ่าข้าก่อน”
“นี่...” เขาและเหล่าทหารรักษาป้อมยังคงระแวงอยู่เต็มอก
เ่ิูทำเพียงตอบ “ตอนข้าอยู่ลู่ินั้นเคยทำให้คนกลุ่มหนึ่งไม่พอใจ ถึงได้โดนกระทบกระทั่งลับๆ เช่นนี้ นายกองสี่คนนี้คือนักฆ่าที่คนพวกนั้นจ้างวานมา...เป็ไงเล่า ข้าพูดเท่านี้ พวกท่านคงเข้าใจแล้วใช่ไหม?”
หัวหน้าผู้รักษาป้อมและเหล่าทหารยังคงมองเ่ิูอย่างระแวง
เ่ิูเก็บกระบี่ฉ่าวชางกลับโลกตันเถียนเช่นเดิม เขาลูบคางอย่างไม่ใส่ใจ และเพื่อเพิ่มความสะดวก จึงหยิบตราทองเหลืองแห่งวีรบุรุษขึ้นมาลวกๆ วางให้เห็นจะๆ ตาบนฝ่ามือ
นี่คือหมัดลองเชิงของเ่ิู
ไม่นึกเลยว่า พริบตาเดียวที่เห็นเข็มตรา หัวหน้าผู้รักษาป้อมทหารและทหารในสังกัดจะสิ้นความสงสัยในแววตา เปลี่ยนเป็ความเคารพและนับถือที่ยากจะอธิบายมาแทน กายพวกเขาสั่นไหวเล็กน้อย โดยเฉพาะหัวหน้าผู้รักษา ั์ตานั้นมีแววตื้นตัน
“ทหารอายุสิบหกปี หัวหน้าป้อมรักษาการณ์ที่ห้าสิบห้าแห่งกรมจุดกลับ เยี่ยนฝาน คารวะใต้เท้า!”
“คารวะใต้เท้า!”
“คารวะใต้เท้า!”
พวกเขายืนตัวตรง ทำความเคารพเป็แบบแผนและอุ่นหนาฝาคั่งเช่นที่ทำกับพระจักรพรรดิ
เ่ิูนิ่งไป
เขาไม่รู้ว่าเข้าใจผิดไปหรือไม่ แต่ตอนนี้ เขากลับเห็นร่างที่เคยจืดจางของทหารเก่าแก่พวกนี้เปล่งประกายที่ผู้แข็งแกร่งเช่นหวังเจี้ยนหรูยังไม่มี ความรู้สึกที่ยากจะหาคำใดมาจำกัดความได้จมจ่อมเ่ิูทั้งตัว เป็ภาพลักษณ์ของทหารสูงใหญ่ในสายตาเด็กหนุ่มขึ้นมาแล้ว
เ่ิูคำนับเช่นชาติทหารตอบ
เป็ครั้งแรกที่ในชีวิตเขาที่คำนับเช่นทหาร
ท่าทีเขาแข็งไปบ้าง แต่ก็ถูกระเบียบมาก
ชัดเจนมากว่าตราที่เ่ิูเห็นว่าประโยชน์สูงสุดของมันคือเอาไว้ขู่พวกชนชั้นสูงเล่น ทำให้หัวหน้าผู้รักษาการณ์ป้อมเยี่ยนฝานและทหารประจำป้อมหมดสิ้นความสงสัยในตัวเขา ในสายตาของทหารเหล่านี้ ตราแห่งวีรบุรุษมีกำลังอันศักดิ์สิทธิ์ แทบจะเรียกได้ว่าคือพลังแห่งศรัทธา เพียงได้เห็นมัน พวกเขาก็เชื่อเ่ิูอย่างไร้ข้อแม้ใด
พูดให้เกินไปอีกหน่อยก็คือ ขอเพียงตราแห่งวีรบุรุษอยู่ในมือ ต่อให้เ่ิูเป็ฆาตกรตัวจริง เยี่ยนฝานและคนอื่นก็จะยืนหยัดอยู่ฝ่ายเขาอย่างหนักแน่นแน่นอน
เ่ิูคิดว่า ตัวเขาเมื่อก่อนเหมือนจะมองข้ามอานุภาพของตรานี้ที่มีต่อแวดวงทหารไปแล้วกระมัง
“ใต้เท้า พวกข้ามาเก็บศพขอรับ...” เยี่ยนฝานเริ่มตัดสินใจเื่ต่างๆ จากมุมของเ่ิู
เ่ิูพยักหน้า
เยี่ยนฝานเ้ากรรมรีบเก็บกวาดห้องน้ำแข็งในทันที
เขาคนนี้ลงมือด้วยตัวเอง ตรวจสอบศพทั้งสี่อย่างถี่ถ้วนรอบหนึ่ง จดจำบันทึกรายละเอียดเพื่อใช้สืบค้นเบาะแสในวันต่อๆ ไป ลงลายมือชื่อบนบันทึก เพื่อแสดงว่าเขาจะเป็คนมารับรองด้วยตัวเอง กระนั้นก็ยังขอความเห็นจากเ่ิูด้วย
“กระบวนอักขระเคลื่อนย้ายติดต่อได้หรือยัง?” เ่ิูยังคงเป็ห่วงเื่นี้อยู่
เยี่ยนฝานส่ายหน้าละอายใจ
“ลองดูอีกหน่อยเถอะ ข้าไม่ได้รีบร้อน...” เ่ิูว่า “พวกเ้าอย่ากดดันตัวเองเลย”
เอ่ยไม่ทันจบ
ตูม!
พลังน่ากลัวปะทะกระบวนอักขระป้องกันรอบนอก แทบจะเรียกได้ว่าเป็กระบวนที่ต้านทานแรงโจมตีทีเดียวของจอมยุทธ์อาณาน้ำพุิญญาตาที่ยี่สิบได้
ผาน้ำแข็งรอบป้อมพังทลาย
พื้นห้องน้ำแข็งสั่นไหวรุนแรง
“อะไร?” เ่ิูชะงัก
“ข้าศึก! ข้าศึกบุก! รีบส่งสัญญาณเตือนภัยเร็ว!” หัวหน้าผู้รักษาป้อมและทหารสีหน้าหนักอึ้งขึ้นมา
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้