ผู้เล่น: เมามายซบตักสาวงาม
ระดับ :เลเวล 10
เผ่าพันธุ์: เผ่ามนุษย์
อาชีพ :ผู้ใช้เวทแห่งความตาย
อาชีพที่2 : ซัมมอนเนอร์ (ผู้อัญเชิญิญญาธาตุ) (สถานะ : เปิดใช้งาน)
พลัง : 24 (+25), (ค่ามาตรฐาน = 10)
ความเร็ว : 21 (+22), (ค่ามาตรฐาน = 10)
พลังชีวิต : 1,000 (ค่ามาตรฐาน= 100)
พลังจิต : 400 (ค่ามาตรฐาน/เริ่มต้น = 100)
คุณสมบัติซ่อน :
โชค : 13(ค่ามาตรฐาน = 0)
พร์: 4 (ค่ามาตรฐาน = 0)
กระดูก : 1 (ค่าเริ่มต้น = 0)
แต้มอิสระสำหรับเพิ่มสถานะที่ซ่อนอยู่: +1
ชื่อเสียง: 150
สกิล :
หนามกระดูก : ทักษะพื้นฐานโดยจะยิงกระดูกออกไปเพื่อโจมตีศัตรู พลังโจมตี : 20-30, ความชำนาญ : 0% ใช้ค่าพลังงานิญญา 5 หน่วยต่อการโจมตีแต่ละครั้ง, ระยะเวลาในการเรียกใช้ทักษะ 3 วินาที
อ่อนแรง :ลดค่าสถานะความแข็งแกร่งทุกอย่างของเป้าหมายลง 10 % เป็เวลานาน 20 วินาทีซึ่งสามารถใช้ซ้ำกับเป้าหมายเดิมได้โดยจะลดค่าสถานะเพิ่มอีก 1%(ผลของทักษะจะขึ้นอยู่กับเลเวลของทักษะ และจะได้ผลน้อยลงหากเลเวลของเป้าหมายสูงกว่าผู้เล่น) ใช้ค่าพลังงานิญญา 5หน่วยต่อการใช้ในแต่ละครั้ง ระยะเวลาในการเรียกใช้ทักษะ 3 วินาที
ทักษะการหน่วงเหนี่ยว: ทักษะระดับต้น ระดับความเชี่ยวชาญ 0% ทำให้ศัตรูอยู่ในสถานะติดลบ ความเร็วลดลง10% ระยะเวลา : 20 วินาที ประสิทธิภาพทับซ้อนทับซ้อนครั้งหนึ่งส่งผลให้ค่าเพิ่มขึ้น 1% (หมายเหตุ :หากศัตรูมีระดับสูงกว่าผู้เล่น ประสิทธิภาพจะลดลง ไปตามระดับที่เปลี่ยนไป)ใช้พลังิญญา : 5 แต้มต่อครั้ง ระยะเวลาการร่ายเวท : 3 วินาที
อัญเชิญ :เรียกมอนสเตอร์ต่างมิติออกมาเพื่อช่วยต่อสู้โดยความแข็งแกร่งของมอนสเตอร์ที่เรียกออกมาจะมีผลต่อจำนวนหน่วยพลังงานิญญาที่ต้องใช้โดยไม่สามารถใช้ทักษะอัญเชิญได้ หากพลังงานิญญาเหลือน้อยกว่า 1%, มอนสเตอร์ที่อัญเชิญสำเร็จจะใช้ค่าพลังงานิญญาอย่างต่อเนื่อง โดยค่าพลังงานที่ต้องใช้จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งของมอนสเตอร์ (สามารถใช้พลังชีวิตแทนในการอัญเชิญได้)ระยะเวลาในการเรียกใช้ทักษะ 3 วินาที
ทักษะการรักษาชีพ: เพิ่มพลังชีวิตได้ 500 หน่วย ใช้ได้กับสิ่งมีชีวิตทุกชนิด โดยใช้พลังงานิญญา50 หน่วยต่อครั้ง
การพัฒนาทักษะ : ทักษะระดับพื้นฐาน ความชำนาญอยู่ที่ 68.3%
เทคนิคกับดัก: ระดับพื้นฐาน ความชำนาญอยู่ที่ 2%
เทคนิคการจำแนกพืช: ไม่จำกัดลำดับ
เนตรเซียนพญายม: สามารถมองทะลุลงไปถึงนรกทั้ง 18 ขุม อันนำไปสู่โลกใต้พิภพทั้งเก้าต้นไมู้เาแม่น้ำทั้งหมดล้วนไม่อาจกีดขวางได้ ภูตผีปีศาจไม่อาจหลบซ่อน
เทคนิคดาบลม : เวทระดับต้น ใช้พลังจิต 10 แต้ม ออกกระบวนท่าดาบลม1 กระบวนท่า ใช้เวลาร่ายเวท : 3 วินาที
อุปกรณ์สวมใส่ :
ชุดเสื้อคลุมพิภพ: พลังป้องกัน +11 ความเร็ว +1
รองเท้าพายุ : อุปกรณ์เหล็กดำ ความเร็ว : +16เพิ่มโอกาสหลบหลีกการโจมตี 5%
ไม้เท้าไม้เขียว: อุปกรณ์เหล็กดำ, เพิ่มพลังเวทโจมตี 20%อาชีพที่้า : นักเวท
แหวนเรือทะเลทราย: อุปกรณ์ทองคำ มีมิติว่างขนาด 500 ลูกบาศก์เมตร ไม่ทนของหนักปกป้องของที่อยู่ในมิติไม่ให้หล่นหายเมื่อตาย พลัง : +25 พลังป้องกันเวท : +50จดจำเ้าของ
กำไลเพลิง: อุปกรณ์ทองดำ สกิลเสริม : พรจากเทพธิดาแห่งชีวิต คืนชีพกลับที่เดิม 1 ครั้งเว้นระยะ : 8 ชั่วโมง
สายรัดข้อมือลายงูั์ : อุปกรณ์เหล็กดำพลังโจมตี +5 พลังป้องกันทางกายภาพ +20 ระดับที่้า : เลเวล 7
กำไลข้อมือจุมพิตงูเห่า: อุปกรณ์เหล็กดำ พลังโจมตี +24 ระดับที่้า : เลเวล 8
เสื้อคลุมโลหิต: อุปกรณ์สวมใส่ระดับทองแดง, เพิ่มพลังป้องกันกายภาพ 35หน่วย, เพิ่มความว่องไว 5 หน่วย, ้าเลเวล 9 ถึงจะสวมใส่ได้
อุปกรณ์ทั่วไป : ขวดหยกขาวเสวียนหวง x2 (ของล้ำค่าหายาก), ผลหมื่นิญญาอสรพิษ x1, มาสเตอร์คีย์ x1, น้ำตาแม่พระธรณี x4 หยด, ชิ้นส่วนแผนที่ x2, ไข่นางพญาผึ้ง x1, รังผึ้ง x5, คัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็น, 18 ลูบคลำ
จำนวนเงินที่มี: 38,453 เหรียญทอง, 92เหรียญเงิน, 56 เหรียญทองแดง
ในที่สุดฉินโจ้วก็สรุปได้ว่าความแข็งแกร่งทางิญญาของเขาอ่อนแอเกินกว่าจะเพิ่มความแข็งแกร่งแม้ว่าผ้าคลุมยังสภาพดีอยู่ แต่ก็ควรเปลี่ยนเนื่องจากมันไม่เข้าชุดในขณะที่แต้มสถานะซ่อนนั้น เขามีความคิดจะเก็บสะสมเป็อย่างแรกเงื่อนไขของแต้มสถานะซ่อนยังไม่ชัดเจนซึ่งเป็เื่ยากสำหรับเขาที่จะตัดสินใจในการเพิ่มแต้มเ่าั้
ทันใดนั้น เขานึกถึงอันดับรายชื่อขึ้นได้ เขาจึงคลิกที่รายชื่อเพื่อเปิดดู
อันดับที่หนึ่ง: สัวชิงหลง, พยัคฆ์ขาวไป๋หู่, เพศชาย, อาชีพ นักรบ
อันดับที่สอง: หัตถ์ซ้ายเทพเ้า, เพศชาย, อาชีพ นักรบ
อันดับที่สาม: เมามายซบตักสาวงาม (ไม่เปิดเผย) เพศชาย, อาชีพ ผู้ใช้เวทแห่งความตาย
อันดับที่สี่ : ไท่ชานเทียน, เพศชาย, อาชีพ นักรบ
อันดับที่ห้า: กุหลาบสีม่วง, เพศหญิง, อาชีพนักเวทสายน้ำแข็ง
อันดับที่หก : ทากน้อยพเนจร, เพศชาย, อาชีพ อัศวิน
อันดับที่เจ็ด: เสี่ยวเฟิงชานเย่ (สายลมยามรุ่งอรุณ), เพศชาย, อาชีพ นักธนู
อันดับที่แปด: หน้ากากแห่งความมืด, เพศชาย, อาชีพ ผู้ฝึกสอน
อันดับที่เก้า: เอลฟ์รัตติกาล, เพศหญิง, อาชีพ หัวขโมย
อันดับที่สิบ: นางฟ้าลอยล่อง, เพศหญิง, อาชีพนักบวช
ฉินโจ้วไม่คาดฝันว่าจะได้อันดับที่สามเป็เื่น่ายินดีที่ควรเฉลิมฉลอง ไม่ใช่เื่ง่ายสำหรับอาชีพนักเวทอย่างกุหลาบสีม่วงที่จะไต่เข้าสู่อันดับรายชื่อได้ต้องรู้ก่อนว่านักเวท่ต้นนั้นไม่มีทักษะ พลังโจมตี และความรวดเร็วที่น่าจะทรงพลังที่สุดคงเป็นารีล่องลอยในชุดขาวแม้กระทั่งนักบวชก็เข้าสู่อันดับรายชื่อได้ ซึ่งทำเอาผู้เล่นจำนวนมากที่ไม่อยู่ในอันดับรายชื่ออับอายจนแทบแทรกแผ่นดินหนีนักบวชไม่มีทั้งพลังโจมตีและทักษะใดใด ฉินโจ้วจินตนาการไม่ออกจริงๆว่านักบุญสามารถเข้าสู่อันดับรายชื่อได้อย่างไรกัน
ในความเป็จริงไม่ใช่แค่ฉินโจ้วผู้เล่นทั้งหมดต่างคาดเดาเกี่ยวกับนารีล่องลอยในชุดขาวมันเป็เื่ที่ไม่น่าเกิดขึ้นที่นักเวทจะติดอันดับรายชื่อต่อมานักบวชก็ยังติดอันดับได้อีก โลกนี้ดูจะบ้าไปกันใหญ่แล้ว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีการถกเถียงแสดงความคิดเห็นกันอย่างดุเดือดบางคนสงสัยว่าเมื่อพวกเขาเข้าสู่ระบบ พวกเขาอาจได้รางวัลเป็อุปกรณ์สวมใส่หรือทักษะอื่นๆในขณะที่บางกลุ่มคิดว่าพวกเขาอาจเป็กลุ่มคนขนาดใหญ่ที่จะสร้างนักบวชชั้นสูงแน่นอนบางคนอาจคิดว่าพวกเขาได้รับข้อมูลลับวงในหรืออาจได้รับค่าประสบการณ์จากการทำภารกิจก็เป็ได้
ฉินโจ้วจ่ายค่าอาหารและเดินออกจากภัตตาคารและทันใดนั้นมีเสียงหนึ่งะโขึ้นว่า
"้าแลกเหรียญทองรับแลกเปลี่ยนเหรียญทอง ให้ราคาสูงกว่าราคาตลาดแน่ ผม้าเหรียญทองจำนวนมากด่วน แต่ถ้ามีน้อยกว่า 100 เหรียญทอง ไม่ต้องเรียกให้เสียเวลา"ผู้เล่นอาชีพนักเวทในชุดอุปกรณ์โลหะดำที่ยืนอยู่กลางถนนะโขึ้น
ผู้เล่นหลายคนที่้าแลกเปลี่ยนพอได้ยินประโยคสุดท้ายเข้า พวกเขาก็พากันหยุด หมดความสนใจ และหันกลับไปทันทีตอนนี้มีผู้เล่นระดับ 10 จำนวนไม่มากนักหลังจากจอมเวทเดินหนีไปอย่างหวาดกลัวต่อผู้เล่นที่ยืนอยู่ตรงหน้าถนนก็ว่างเปล่าในทันที
ฉินโจ้วมองชื่อของนักเวทผู้นั้น ''โหวเยี่ยซาน'' ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นักเวทธาตุไฟ เขาถามว่า "อัตราแลกเปลี่ยนเท่าไร?"
โหวเยี่ยซานทำหน้านิ่งเขาชำเลืองมองไปที่ฉินโจ้วเล็กน้อยและเอ่ยว่า "มันสูงกว่าราคาตลาดแน่นอน ขึ้นอยู่กับจำนวนเหรียญทองที่คุณมีเหรียญทองยิ่งมาก ราคายิ่งสูงขึ้น"
"คุณ้าเท่าไร?" ฉินโจ้วถาม
"ยิ่งมาก ยิ่งดี" โหวเยี่ยซานตอบ
"20,000 เหรียญทอง" ฉินโจ้วกล่าวเขาไม่รู้ว่าอัตราแลกเปลี่ยนในอนาคตจะเปลี่ยนแปลงอย่างไรยิ่งไปกว่านั้นเขาเริ่มขาดแคลนเงินจริงๆ ซึ่งจำนวน 20,000เหรียญ ก็คิดเป็ครึ่งหนึ่งของเหรียญทองที่เขามีอยู่ในปัจจุบันแล้วนอกจากนี้เขารู้สึกว่าเงินในเกมอย่างไรก็ไม่ใช่เงินจริงที่จับต้องได้ ซึ่งมันคงดีกว่าถ้าเขาแลกเปลี่ยนเป็เงินหยวนเสีย
"สองหมื่นเหรียญทองหรือ?" โหวเยี่ยซานใเล็กน้อยและไม่คาดคิดว่าจะได้ยินเื่ที่ทำให้ต้องประหลาดใจจากลักษณะของชายตรงหน้า ซึ่งดูท่าทางไม่มีอะไรสะดุดตา หรือเป็ที่ประทับใจเอาเสียเลยคนเรานี่มองเฉพาะรูปลักษณ์ภายนอกไม่ได้จริงๆน้ำเสียงของเขาเปลี่ยนไปเป็จริงใจมากขึ้น เขากล่าวว่า"เนื่องจากจำนวนเงินค่อนข้างมาก ผมต้องขอปรึกษาสักครู่”ฉินโจ้วยักไหล่เป็เชิงเอาที่สบายใจ
ผ่านไปสามนาที โหวเยี่ยซานกล่าวกับฉินโจ้วว่า"อัตราแลกเปลี่ยนในตลาดขณะนี้ 1 เหรียญทองแดง แลกได้ 1.23 หยวน แต่ทางเราให้ราคาที่ 1.25 หยวน ต่อ 1 เหรียญทองแดง”
"ตกลง"ฉินโจ้วตอบตกลงอย่างง่ายดายเขาเคยกังวลเกี่ยวกับราคาของอัตราแลกเปลี่ยนมาก่อนหน้านี้แต่ก็ได้รู้แล้วว่าราคานั้นไม่ต่ำเลย
"ส่งหมายเลขบัญชีของคุณมาผมจะได้โอนเหรียญทองไปให้" ฉินโจ้วกล่าวในขณะเดียวกันเขาก็ส่งหมายเลขบัญชีธนาคารให้กับหัวเยี่ยซานเขาไม่กังวลว่าหัวเยี่ยซานจะเล่นตุกติกกับเขา แม้เขาจะโอนเหรียญทองไปให้แต่ตราบใดที่เขายังไม่ได้กด ''ยืนยัน'' ตราบที่ยังไม่มีการยืนยัน การถ่ายโอนจะไม่เสร็จสมบูรณ์ ประการแรกที่เขาต้องโอนเหรียญทองไปให้หัวเยี่ยซานก่อนก็เพื่อยืนยันว่าเขามีเหรียญทองตามจำนวนจริง และประการที่สองเป็เื่ที่สำคัญอย่างยิ่งการทำธุรกรรมต่างๆระหว่างผู้เล่นจะถูกเก็บบันทึกไว้ในระบบทั้งหมดยิ่งไปกว่านั้นผู้เล่นแต่ละคนต้องผูกบัญชีธนาคารไว้กับตัวเกมอยู่แล้วซึ่งถ้ามีกลุ่มผู้เล่นที่คิดจะอาศัยช่องโหว่หรือ้าโกงจะถูกรวบตัวส่งให้ตำรวจจัดการต่อไปดังนั้นจึงไม่จำเป็ต้องกังวลว่าจะถูกโกงอย่างแน่นอน
ใช้เวลาไม่นาน ฉินโจ้วได้รับแจ้งจากระบบของธนาคารตัวเลขยาวเหยียดหลายบรรทัดเพิ่มเข้ามาในบัญชีของเขา ที่เดิมมียอดเงินเพียงไม่กี่หยวนหลังจากเขาคลิกยืนยัน ยอดเงินในเกมของเขาก็เหลือ 18,453 เหรียญทอง 92 เหรียญเงิน และ 56 เหรียญทองแดง
"ต่อไปถ้าคุณ้าจะแลกเปลี่ยนเหรียญทองอีกก็ติดต่อมาได้เลยไม่ว่าเหรียญทองจะเยอะแค่ไหน ทางเรารับแลกทั้งหมด ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวก่อนต้องรีบไปหาซื้อสินค้าต่อ" หัวเยี่ยซานรีบกล่าว
ฉินโจ้วพยักหน้ายิ้ม กล่าวและโบกมือลา จากนั้นเขาก็ออฟไลน์ออกจากเกม ความรู้สึกที่จู่ๆ ก็กลายเป็เศรษฐีทำให้เขาตื่นเต้นจนไม่มีอารมณ์เล่นเกมต่อ ตัวเลขในบัญชียาวเหยียดเ่าั้ไม่ว่าจะจ้องสักเท่าไร เขาก็ยังไม่รู้สึกพอทุกครั้งที่ได้มองทำให้ใจของเขาเต็มไปด้วยความสุข
ความสุขที่เกิดขึ้นกะทันหันมักไม่ใช่ความสุขที่แท้จริง
ทันทีที่ฉินโจ้วถอดหมวกของเขาออกใบหน้าอันงดงามปานบุปผา จู่ๆก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า เขาสะดุ้งใเผลอขยับตัวและขาข้างที่าเ็คิ้วของเขาเลิกขึ้นเล็กน้อยก่อนจะผ่อนคลายลงเป็ปกติ จากนั้นเอ่ยออกไปว่า"อาจารย์หวังโหรว อาจารย์กลับมาั้แ่เมื่อไร มีเื่อะไรกับผมหรือเปล่า?"
หวังโหรวมองไปที่ใบหน้าอันซีดเซียวจนแทบไม่มีเืฝาดของเขาเธอตำหนิเขาว่า "ถึงเกมจะน่าสนุก น่าตื่นเต้นแค่ไหนก็เถอะแต่เธอจะใช้เวลาอยู่ในเกมตลอดไปไม่ได้นะ แถมเธอยังาเ็อยู่อีกอย่างไรเสียสุขภาพก็สำคัญกว่า หัดส่องกระจกดูสภาพตัวเองบ้างนะ ดูได้ที่ไหน หน้าเธอแทบไม่มีสีเืแล้ว"
"ผมขอโทษครับ อาจารย์หวังโหรวต่อไปนี้ผมจะไม่ทำอีกแล้ว" ฉินโจ้วกล่าวยอมรับผิดโดยทันทีตอนนี้การรู้จักปรับปรุงตัวเป็สิ่งที่สำคัญที่สุด
เพราะฉินโจ้วดูไม่เหมือนคนที่จะตอบไปส่งๆหวังโหรวจึงได้พูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลว่า "นายไม่ต้องขอโทษหรอกเด็กส่วนใหญ่ก็ชอบเล่นเป็เื่ปกติอยู่แล้ว แต่ถึงอย่างนั้นก็ควรมีขอบเขตกันบ้างอย่าหักโหมเกินไป เพราะสุขภาพของนายตอนนี้ยังไม่หายดี ้าการใส่ใจดูแลการพักผ่อนอย่างมาก"
"ครับอาจารย์หวัง ผมจะจำให้ขึ้นใจเลยครับ"ฉินโจ้วชูมือขึ้นสาบานพร้อมทั้งกล่าวอย่างหนักแน่น
"ดีแล้วล่ะ แต่เธอก็ไม่ต้องคิดมากไป มาๆ กินอะไรก่อนสิ"หวังโหรวเตรียมกับข้าวตั้งโต๊ะรอไว้ให้แล้ว
ฉินโจ้วรับรู้ได้ถึงความห่วงใยแฝงอยู่ในน้ำเสียง จากนั้นเขาหยิบชามและตะเกียบขึ้นมาและเริ่มกินอาหารมื้อนั้นอย่างเต็มคราบ