“อ่าา… โยตะ… ขอบคุณนะ นายต้องช่วยทำความสะอาดให้ฉันอีกแล้ว”
"ไม่เห็นเป็ไรเลย… "
ฉันที่นอนแผ่อยู่บนเตียงกำลังหอบหายใจสั่นเครือ เพราะความลุ่มหลงในวันนี้ช่างเร่าร้อน และเสน่หาที่ยังเหลืออยู่ ก็ทำให้แขนขาชาวาบไร้เรี่ยวเเรง
ส่วนโยตะก็กำลังเช็ดร่างกายส่วนล่างของฉันด้วยกระดาษทิชชู และช่วยทำความสะอาดของเหลวที่ไหลออกมาจากหม้อน้ำผึ้งของฉันอย่างละเอียดลออ
หากไม่นับครั้งแรกที่เขาทิ้งฉันไว้ตามลำพัง หลังๆ มานี้ ถ้ามีเซ็กซ์กันเสร็จแล้ว เขาก็มักจะให้ฉันนอนอยู่นิ่งๆ แล้วช่วยทำความสะอาดอยู่ตลอด ส่วนสิ่งที่ฉันต้องทำ ก็มีแค่ผ่อนลมหายใจไปเท่านั้น
และเมื่อนึกย้อนกลับไป โยตะเคยบอกว่าเขาไม่เคยหลั่งในร่างของสาวคนไหนมาก่อน ดังนั้นบางทีที่เขาเป็แบบนี้ เพราะคงไม่รู้ว่าควรจะจัดการกับมันอย่างไรสินะ?
“ข้างในมีอีกมั้ย?”
“นิดหน่อย… ไปทำความสะอาดที่เหลือในห้องน้ำดีกว่า”
"อืม"
นับั้แ่ที่โยตะตอบรับการนัดของฉัน เราต่างก็รักษาความสัมพันธ์ในการแก้ปัญหาความกระหายของกันและกัน สิ่งนี้อาจเรียกได้ว่าเป็ ความสัมพันธ์แบบเพื่อนคู่นอน หรือ Friends with benefits[1] ประมาณนั้น
เนื่องจากเราทั้งสองอาศัยอยู่ในคอนโดระดับไฮเอนด์ที่มีห้องอยู่สุดทางเดิน ห้องของโยตะจึงไม่ค่อยมีคนมารบกวนนัก และเขายังเป็คนที่ฉันไปมาหาสู่ได้ง่าย เพียงแค่ก้าวออกไปกดกริ่งประตู
ยิ่งไปกว่านั้น ไม่เพียงแต่ใบหน้าของเขาที่ดึงดูดฉันั้แ่แรกเท่านั้น เพราะเมื่อกิจกรรมที่ใกล้ชิดของเราเกิดบ่อยครั้งขึ้น ฉันพบว่าเกือบทุกอย่างที่เกี่ยวกับเขานั้น แทบจะสอดคล้องกับความชอบของฉันทุกอย่าง เขาเอาใจใส่ และคำนึงถึงความรู้สึกของฉันเสมอ จะมีก็เพียงแต่บุคลิกที่ค่อนข้างเก็บตัวของเขา ซึ่งทำให้ฉันต้องใช้ความพยายามมากขึ้นนิดหน่อยในการสื่อสารกับเขา
เนื่องจากฉันพร้อมตอบรับคำขอของโยตะ และเตรียมตัวเป็อย่างดีสำหรับ่เวลาแห่งความสุขสมอยู่เสมอ ฉันจึงยื่นมือข้างหนึ่งไปกดกริ่งประตูของเขาหลายครั้งจนนับไม่ถ้วน
บางทีนี่อาจเป็ความสัมพันธ์ที่ไร้ความกังวล ดังนั้นเมื่อใดก็ตามที่ฉันรู้สึก้า และเราทั้งคู่มีเวลาว่าง ฉันจะไปที่ห้องของโยตะเพื่อสนองความ้าทางร่างกายและจิตใจ ก่อนที่จะกลับห้องตัวเองไปนอนอย่างสงบ และั้แ่ฉันได้รู้จักชื่อของโยตะ สิ่งนี้ก็เกิดขึ้นอยู่ตลอดทั้งหนึ่งเดือน
แต่มีอยู่อย่างหนึ่งที่ทำให้ฉันรู้สึกขัดใจคือ เราไม่อาจระบุเวลาว่างของกันและกันได้อย่างแม่นยำ ตอนนี้เราอาศัยการนัดในเวลาที่ได้พูดคุยกันเท่านั้น หากมันกะทันหันจริงๆ เราก็ทำได้เพียงกดกริ่งประตู แล้วรอลุ้นว่าจะว่างตรงกันบ้างไหม
เพื่อที่จะแก้ไขสถานการณ์แสนไม่สะดวก ฉันจึงแอบคิดวิธีการติดต่อสื่อสารที่จะเอามาใช้แก้ปัญหาเื่นี้ได้
“โยตะ ฉันมีวิธี”
“... ว่ามา”
ฉันหันไปมอง และพูดกับเขาที่กำลังทิ้งทิชชูลงถังขยะ พลางสวมเสื้อผ้าอยู่ เขาก็โบกไม้โบกมือให้ฉันพูดต่อ
ฉันดึงผ้านวมนุ่มๆ ของเขาออก แล้วจ้องไปที่ใบหน้าที่ค่อนข้างเ็าของเขา ด้วยรอยยิ้มที่ผ่อนคลาย
“ฉันอยากทำข้อตกลงที่มีรายละเอียดและครอบคลุมกับนายมากขึ้น”
สีหน้าของโยตะดูงุนงงเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่ได้คัดค้าน เมื่อฉันเห็นปฏิกิริยาของเขาแบบนั้น ฉันก็ไม่สนใจว่าเขาจะตอบอะไรกลับมาอีกไหม
“นอกจากเราจะนัดกันว่าจะทำกันตอนไหนแล้ว ฉันอยากให้ความสัมพันธ์นี้มันสะดวกขึ้นหน่อยน่ะ”
“… อืม”
"มันแน่นอนว่าห้ามให้ใครรู้เื่นี้เด็ดขาด ถ้างั้นนัดกันแบบปกติที่ทำอยู่ก็พอ แต่นายต้องตั้งใจฟังกับสิ่งที่จะทำให้เราสะดวกขึ้น”
“พูดต่อ… ”
บางทีเขาอาจคิดว่าฉันโยกโย้ไร้สาระมากเกินไป เขาที่สวมเสื้อเชิ้ตกับกางเกงบ็อกเซอร์เสร็จจึงเดินไปที่ตู้เย็นในห้องครัว แล้วกลับมาพร้อมกับเบียร์เย็นๆ สองกระป๋อง
ขณะเขาที่เดินกลับมา ก็เปิดกระป๋องด้วยมือข้างหนึ่ง แล้วยื่นกระป๋องที่ยังไม่ได้เปิดอีกกระป๋องให้ฉัน แต่ฉันในฐานะผู้ใหญ่ที่ไม่เคยดื่มมาก่อน จึงปฏิเสธน้ำใจของเขาไป
“ฉันไม่เคยดื่ม นายเก็บมันไว้ดื่มคนเดียวเถอะ”
"งั้นเหรอ?"
เขาวางเบียร์อีกกระป๋องที่ยังไม่เปิดไว้บนโต๊ะกาแฟ แล้วนั่งลงที่ขอบเตียงพร้อมดื่มมันไปคนเดียว
ตอนแรกฉันไม่ได้สังเกตว่าโยตะชอบดื่ม เพราะตอนจูบกันก็ไม่ได้กลิ่นแอลกอฮอล์เลย
แต่หลังจากที่ได้ใกล้ชิดกันมากขึ้นในห้องห้องนี้ ก็ทำให้ฉันได้ค้นพบแง่มุมต่างๆ ของเขา นอกเหนือจากเื่บนเตียงมากขึ้น
ถ้ายังรักษาความสัมพันธ์แบบนี้ต่อไป ฉันอาจพบเจอด้านที่ไม่คาดไม่ถึงของเขาก็เป็ได้
“โยตะชอบดื่มเหรอ?”
“ไม่บ่อยหรอก… เธอพูดมาครึ่งทางแล้วนี่”
“อ่า... คือว่า สรุปก็คือ ฉันอยากจะสร้างข้อตกลงร่วมกันกับโยตะ”
ฉันกระแอมเล็กน้อยเพื่อให้คำพูดของตัวเองชัดเจนขึ้น เพราะอยากให้เราทั้งคู่จดจำสิ่งที่ฉันจะพูดต่อไปนี้
“สิ่งแรกและสำคัญที่สุด ไม่ว่าเราจะทำกันบ่อยแค่ไหน หรือจะสนุกกับความสัมพันธ์ในตอนนี้มากขนาดไหน ยังไงเราก็ต้องห้ามเข้าไปยุ่งกับพื้นที่ส่วนตัวของคนใดคนหนึ่งมากเกินไปเด็ดขาด”
“ฮะ… แล้วไงต่อ?”
หลังจากโยตะยกดื่ม ก็ครืดออกยาวๆออกมา พร้อมกับพูดว่า "มันก็ต้องเป็อย่างงั้นอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?" แม้น้ำเสียงของเขาจะดูเฉยเมยเล็กน้อย แต่อย่างน้อยเราก็มีความเห็นเป็เอกฉันท์ในเื่นี้
“นอกจากนี้ ถ้าโยตะมีเดต ก็ต้องบอกฉันด้วย ฉันไม่อยากติดร่างแหของความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนเกินไป…”
“แล้วถ้าเธอเป็ฝ่ายมีแฟนก่อนล่ะ?”
“จะเป็ไปได้ยังไง! ตราบใดที่ฉันยังเป็ไอดอล ก็เป็ไปไม่ได้ แค่จะหาผู้ชายมามีนอนด้วยก็ยากจะตายอยู่ละ... ถ้าหาแฟนได้ แล้วฉันจะมีนายทำไม?”
“ฉันนึกว่ามีคนมาจีบเธอเยอะแยะซะอีก”
“ใช่ ไม่น้อยเลยแหละ… แต่ฉันตอบตกลงไม่ได้น่ะสิ! แต่ก็นะ มันคงน่าเสียดายมาก ถ้าฉันต้องสูญเสียคู่หูดีๆ อย่างนายไป แต่ยังไงก็เหอะ มันคงดีกว่าการเป็บุคคลที่สามของใคร”
เมื่อฉันพูดจบ ก็เหมือนว่าเขาจะดื่มเสร็จแล้ว เขาทิ้งกระป๋องเปล่าไป แล้วหันมาสวมกางเกงต่อ
ฉันลังเลอยู่ครู่หนึ่งเกี่ยวกับสิ่งที่ตัวเองจะพูดต่อ แต่ในที่สุดฉันก็พูดสิ่งที่ตัวเองคิดไว้ออกไปด้วยความจริงใจ
“และฉันมีอะไรกับโยตะได้เท่านั้น ่นี้ก็ไม่น่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลง... ฉันไม่รู้ว่าฉันเป็ฝ่ายเดียวที่คิดแบบนั้นไหม แต่ถ้าเรา้ารักษาความสัมพันธ์นี้ต่อไป ฉันก็หวังว่าให้นายมีอะไรแค่กับฉันคนเดียว”
"... "
เหมือนโยตะเลือกที่จะเงียบ และไม่ตอบรับคำขอของฉัน
แต่หลังจากพูดคุยกันหลายครั้ง ฉันพบว่าความเงียบของเขามีความหมายแฝงมากมาย บางครั้งเขาอาจจะเลือกไตร่ตรองอย่างละเอียดจากสิ่งที่ได้ยิน ก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะโต้ตอบอย่างไร
“ก็จริงอยู่ที่ว่าอาจสวมถุงยาง แต่พอนึกภาพนายไปนอนกับคนอื่นแล้ว ความสัมพันธ์นี้อาจหลุดวงโคจรไปเลย ฉันแค่อยากกันไว้ดีกว่าแก้น่ะ”
"ฉันรู้แล้ว"
"เอ่อ… ฉันรู้ว่ามันอาจเป็การเรียกร้องที่ไม่ค่อยแฟร์… "
“ไม่… ก็สมเหตุสมผลดี”
โยตะเห็นด้วยอย่างสบายๆ ขณะแต่งตัว แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือและกระเป๋าสตางค์ขึ้นมา ดูเหมือนว่าเขากำลังจะออกไปข้างนอก ฉันจึงใช้เวลานี้เสนอให้เขารู้ถึงวิธีการติดต่อของเรา
“อ่า… และอีกอย่าง ฉันหวังว่าจะมีวิธีอื่นในการติดต่อนาย นอกจากแค่กดกริ่งประตู”
ฉันหยิบโทรศัพท์ของตัวเองที่วางอยู่ข้างเตียงออกมา และแลกบัญชีผู้ใช้ของแอปหนึ่งกับเขา
แม้จะคาดเดาตารางเวลาชีวิตของโยตะได้ ไม่ว่าจะเป็การพบกันในลิฟต์ เจอโดยบังเอิญ หรือเมื่อไหร่เขาจะว่างให้กดกริ่งประตู แต่มันก็มีโอกาสผิดแผนอยู่ดี
ในทางกลับกันโยตะไม่มีทางเริ่มเข้าหาฉันก่อนแน่ จะมีก็แค่ตอนที่เรามีอะไรกันครั้งที่สอง ซึ่งเขาโพล่งถามเื่ข้อตกลงของเราออกมา แต่นอกนั้นเป็ฉันเองทั้งหมดที่ไปหาเขาก่อนเสมอ
“ฉันบอกไว้ก่อนเลยว่าเราส่งข้อความที่ดูโจ่งครึ่มแบบนี้ไม่ได้แน่ ฉันเลยคิดโค้ดลับที่ดูไม่ซับซ้อนและเข้าใจง่ายมา… แต่ฉัน้าให้นายเห็นด้วยก่อน”
“... ไม่เห็นจะต้องอะไรเลย จะเพิ่มเพื่อนก็เพิ่มสิ”
โยตะใช้โทรศัพท์สแกนที่หน้าจอของฉัน และในไม่ช้าการแจ้งเตือนให้เพิ่มเป็เพื่อนก็เด้งเข้ามา
"YOUTA… ชื่อแอ็กเคานต์ของนายก็คือ โยตะ แค่นี้เลยเหรอ"
“เธอดีไปกว่าฉันรึไง… ซาซากิ?”
"อืม… ยังไงก็แล้วแต่ หากเราฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีอารมณ์ขึ้นมาล่ะก็ ก็แค่ส่งสติกเกอร์นี้"
ฉันกดไปที่ตัวเลือกสติกเกอร์แล้วส่งไปให้เขา สติกเกอร์อันนี้ดูเรียบง่าย และไม่ดึงดูดจนไม่น่ามีใครใช้
『OK?』
[1] Friends with benefits หรือตัวย่อว่า FWB คือความสัมพันธ์หลับนอนระหว่างคนสองคน โดยส่วนใหญ่มีกฎเหล็กห้ามมีความสัมพันธ์ที่มากไปกว่าเพื่อนคู่นอน