บทที่ 17
...
“ได้เื่อะไรไหมธันวา”
“สิ้นเดือนนี้ปอร์เช่มีบินไปไต้หวัน”
“งานหรือส่วนตัว”
“ไม่มีระบุในตารางงาน”
“จัดการให้ด้วย มีโอกาสที่จะบินไปหากอหญ้า”
“แล้วถ้าไม่ใช่ละ อีกอย่างโปรเจ็คงานกับคุณมาคัสแกต้องดูแลด้วยตัวเองนะราชันย์”
“งั้นแกก็ไป”
“แบบนี้แหละดีแล้ว ที่เหลือฉันจัดการให้เอง”
“อืม”
หนานโถว ประเทศไต้หวัน
ธันวานั่งรถตามบุคคลด้านหน้ามาเรื่อย ๆ ผ่านทะเลสาบที่กว้างใหญ่ที่ยิ่งมองยิ่งดูสบายตา เขานั่งมองรถด้านหน้าด้วยสายตาที่จับจ้องราวกับเสือที่้าตะครุบเหยื่อก็ไม่ปาน เขานั่งรถตามมาติด ๆ เพียงเวลาไม่นานรถด้านหน้าก็หยุดลง
ด้านหน้าพบบ้านหลังหนึ่งถึงแม้จะไม่ใหญ่โตมากแต่รู้สึกร่มรื่น และสบายตาพร้อมกับร้างผู้ชายที่เขาตามติดมาเดินลงจากรถอย่างช้า ๆ เขาเดินไปกดกริ่งที่หน้าประตูไม้สีขาว ที่ถูกดอกกุหลาบสีแดงสดปกคลุมไปกว่าครึ่งที่หน้าบ้าน
เพียงไม่นานนักประตูไม้บานใหญ่ก็ถูกเปิดออกโดยเด็กสาวคนหนึ่งที่มีใบหน้าจิ้มลิ้ม พร้อมกับส่งรอยยิ้มที่กว้างจนตาหยีมาให้ ก่อนที่ผู้ชายคนนั้นจะเดินตามเธอเข้าบ้านไป ธันวาค่อย ๆ ก้าวขาลงจากรถก่อนจะยื่นมือไปสแกนค่าใช้จ่ายกับโชเฟอร์ ก่อนจะเดินมาที่หน้าบ้าน เขาเดินไปเรื่อย ๆ พร้อมกับลอบมองผ่านรั้วเข้าไปในบ้านอย่างช้า ๆ เพื่อมองหาบุคคลด้านใน
“หรือว่าจะคาดผิด ทำไมมีแต่เด็กผู้หญิง”
เขาหยุดยืนนิ่ง ๆ ก่อนจะลอบมองเข้าไปสำรวจในบ้านอีกครั้ง เด็กผู้หญิงคนเดิมก็เดินออกมาพอดิบพอดี เธอที่ยืนถือไม้กวาดอยู่นั้นหันมามองที่ธันวาก่อนจะทำหน้าฉงนเล็กน้อย มองธันวาสลับกับหันไปมองในบ้าน เพียงสักครู่เธอก็เดินออกมาพร้อมกับทำหน้าหงิกงอเป็เชิงขู่ แต่ก็ยังย่ำเท้าออกมาจนถึงประตู
“คุณมาหาใคร”
“แค่ผ่านมา เห็นว่าบ้านสวยดีเลยแวะดู”
“ต้องสวยอยู่แล้ว เพราะต้นไม้ทุกต้น ดอกไม้ทุกดอกพี่สาวเป็คนดูแลทั้งหมด”
“เธอมีพี่สาวด้วยงั้นหรอ”
“มีสิ สวยมากด้วย แต่ไม่ให้คุณจีบหรอกนะ”
“ทำไมละ พี่สาวเธอมีแฟนแล้วหรอ”
“แล้วทำไมฉันต้องบอกกับคุณด้วยเนี่ย คุณดูพอแล้วก็ไปเถอะ มาทำลับ ๆ ล่อ ๆ แบบนี้ เดี๋ยวพี่ชายมาเห็นคุณจะแย่นะ พี่ชายคนนี้ของฉันดุมาก ๆ”
ธันวาได้ฟังสิ่งที่เด็กสาวคนนี้พูดก็ลอบมองเข้าไปในบ้านอีกครั้ง แต่ก็ต้องละสายตาออกมาเพราะมีร่างบาง ๆ ของเด็กสาวที่กำลังเท้าเอวมายืนบังสายตาเขาอยู่ เธอทำหน้าย่นคิ้วผูกโบที่ดูยังไงก็ไม่มีความน่ากลัวเลยสักนิด
เมื่อเห็นว่าเด็กสาวคนนี้เริ่มไม่พอใจที่เขายืนอยู่หน้าบ้านนาน ๆ ธันวาก็ยกมือขึ้นเหนือหน้าอกสองข้างเป็การแสดงทีท่าว่ายอมแพ้ เด็กสาวด้านหน้ายังคงเท้าเอวทั้งที่ในมือยังถือไม้กวาดอยู่ พรางหรี่สายตาดวงโตลงอย่างจ้องจับผิด ธันวาตัดสินใจถอยหลังออกจากรั้วบ้านก่อน เพื่อจะไปจัดการเื่ที่พัก ในเมื่อเด็กสาวคนนี้บอกว่าเธอมีพี่สาวและอยู่ที่นี่ ดูจากรูปร่างแล้วถ้าพี่สาวคนนั้นคือกอหญ้าก็อาจจะเป็ไปได้
ธันวาเดินออกมาจากบ้านหลังนั้น ก่อนจะเดินเท้าไปเรื่อย ๆ เขาจำได้ว่าผ่านทะเลสาบมาแล้วจะมีหมู่บ้านอยู่น่าจะมีที่พักให้เขาได้พักในคืนนี้ เขาเดินมาเรื่อย ๆ อย่างชิล ๆ ไม่รีบร้อน ปกติในทุก ๆ วันเขาจะได้แต่ทำงาน งาน และก็งาน แต่เมื่อมีโอกาสได้ออกมาทำงานแบบชิล ๆ อย่างนี้ได้ทีหาเื่อู้งานสักหน่อยก็คงไม่เป็ไร
“คุยกับใครหรอเว่ยเอิน”
“ผู้ชายท่าทางประหลาด ๆ คนหนึ่งค่ะพี่กอหญ้า แต่เว่ยเอินไล่ไปแล้ว”
“ถ้ารู้ว่าเขาประหลาดก็อย่าไปยุ่งกับเขาสิ ไม่กล้วหรอ”
“เว่ยเอินซะอย่าง มีเว่ยเอินอยู่พี่กอหญ้าไม่ต้องกลัวเลย”
“จ้า แม่คนเก่ง แล้ววันนี้จะกวาดเสร็จไหมบ้านอะ”
“จริงด้วย! เดี๋ยวไปทำเดี๋ยวนี้เลยค่า”
กอหญ้าที่ปัจจุบันตั้งครรภ์ได้ 29 สัปดาห์แล้ว เดินอุ้มท้องที่โตเกินกว่าจะเป็ท้องแรกออกมายืนคุยกับเด็กสาวที่ปอร์เช่ให้มาอยู่ดูแลตอนที่เขาไม่อยู่จนตอนนี้เธอมองเว่ยอินเป็น้องสาวแท้ ๆ อีกคนไปแล้ว เมื่อมีเว่ยอินอยู่ด้วยก็ทำให้เธอไม่เหงาไม่โดดเดี่ยว เด็กสาวคนนี้เป็เด็กที่อารมณ์ดีมาก
“แต่งตัวเรียบร้อยหรือยังหญ้า”
“อืม เราไปกันเลยไหม”
“ไปกัน เดี๋ยวรถก็มาถึงแล้ว”
“ปอร์เช่ หญ้าอยากไปดูเสื้อผ้ากับของใช้ไว้เตรียมคลอดด้วยอะ”
“ได้สิ เดี๋ยวเราไปหาหมอเสร็จ ไปห้างกัน”
“ขอบคุณนะ ยังไม่ได้พักเลยก็ต้องออกไปกับหญ้าอีกแล้ว”
“พอเลย เราเต็มใจ เราอยากรู้ด้วยว่าหลานของเราแข็งแรงแค่ไหน”
“แข็งแรงมาก ๆ ไม่ต้องห่วงเลย”
“แน่นอนอยู่แล้ว หลานของลุงปอร์เช่ต้องแข็งแรงแน่นอนอยู่แล้ว …รถมาพอดี ค่อย ๆ เดินนะ”
ทั้งคู่นั่งรถออกมาในตัวเมือง ปลายทางมุ่งหน้าไปยัง รพ. ที่เธอฝากครรภ์ วันนี้เป็วันที่หมอนัดตรวจครรภ์ตามปกติ ทั้งคู่เดินมากดบัตรคิวก่อนที่พยาบาลจะเรียกให้กอหญ้าไปซักประวัติเบื้องต้น ก่อนจะเดินกลับมานั่งอีกครั้ง และรอเพียงไม่นานก็มีเสียงพยาบาลเดินมาเรียกให้เธอเข้าไปพบคุณหมอคนสวยประจำตัว
ปอร์เช่เดินตามกอหญ้ามาติด ๆ เพราะกอหญ้าบอกว่าวันนี้คุณหมอจะทำการอัลตราซาวด์ดูสุขภาพเด็ก ๆ เมื่อมาถึงคุณหมอก็ให้เธอนอนลงบนเตียงก่อนจะอ่านประวัติเล็กน้อย แล้วหันมายิ้มหวานให้เธอพร้อมกับชี้แจงว่าวันนี้จะทำอะไรบ้าง
เจลเย็นถูกปาดลงบนท้องกลม ๆ ของเธอก่อนจะถูกคลึงไปจนทั่ว เธอหันมองหน้าจอที่แสดงภาพขาวดำที่กำลังยุกยิกไปมา เธอดูภาพนั้นอย่างตั้งใจ แต่พยายามมองเท่าไหร่ก็ไม่สามารถรับรู้ได้เลยว่าในภาพนั้นคือส่วนไหน จนเมื่อคุณหมอคลึงไปสักพัก ก็หันกลับมายิ้มหวานให้เธออีกครั้ง
“คุณแม่คะ ได้แฝดนะคะ คนนี้เป็ผู้ชาย ส่วนนี้เป็ขาทั้งสองข้างคุณแม่มองออกไหมคะ ส่วนกลม ๆ นี้คือศีรษะของน้อง ในนี้มองไม่เห็นแขนน้อง ดูจากภาพแล้วน้องกำลังเอาแขนหลบ แต่สุขภาพแข็งแรงมาก คนนี้หมอไม่ยืนยันว่าผู้หญิงหรือชายนะคะเพราะน้องหนีบขาไม่ให้ดูเลย นี่คือส่วนขาและแขน ตัวเล็กกว่าน้องผู้ชายนิดหน่อยแต่แข็งแรงดีมากค่ะ”
“ขอบคุณค่ะหมอ”
“คุณแม่ คุณพ่ออยากสอบถามอะไรเพิ่มเติมไหมคะ”
“เอ่อ..”
“พอจะกำหนดวันคลอดได้ไหมครับ พอดีผมต้องเดินทาง ไป ๆ มา ๆ ต่างประเทศกลัวว่าจะมาไม่ทันกำหนดอยากได้เวลาคร่าว ๆ ครับ”
“เท่าที่หมอดูและอายุครรภ์คาดว่าน่าจะคลอดประมาณวันที่31ธันวาพอดีค่ะ”
“อีกสี่เดือน ขอบคุณมากครับหมอ”
ทั้งคู่นั่งรอรับยาเพียงไม่นาน เมื่อได้ยามาแล้วก็เดินทางออกจาก รพ. ทันที ก่อนจะเดินมาเรื่อย ๆ เพราะห้างของที่นี่อยู่ไม่ห่างจาก รพ. มากนักถือว่าเป็การเดินออกกำลังให้กอหญ้าไปในตัว
“ทำไมเมื่อกี้ไม่บอกหมอไปละว่าไม่ใช่พ่อเด็ก”
“ก็ไม่ทำไม หมอจะมองว่าเราเป็พ่อหรือลุงหรืออาน้าปู่ ก็ไม่ได้มีเหตุผลอะไรที่ต้องแก้”
“ขอบคุณนะ ที่วันนี้มาเป็เพื่อน หญ้าทำให้ลำบากมาหลายเดือนเลย”
“สำหรับพวกเรามันมีอะไรที่ต้องขอบคุณหรอหญ้า”
“นั่นสิ ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้วงั้นน้องแฝดวันนี้จะไปผลาญเงินลุงปอร์เช่ให้เกลี้ยงกระเป๋าเลยเป็ไง”
กอหญ้าลูบท้องของเธอไปมา พรางหันไปทำหน้าทะเล้นให้ปอร์เช่ ปอร์เช่ไม่เพียงแค่ยิ้มหวาน แต่ดึงข้อมือเล็ก ๆ ของเธอให้เดินตามแรงของเขาไปด้วย ก่อนจะมุ่งหน้ามาในร้านของใช้เด็กอ่อนแบรนด์ดัง
“หญ้าเลือกไปก่อนนะ เราไปเอาตะกร้าก่อน”
“อื้อ”
เขาลูบศีรษะกอหญ้าไปมาเล็กน้อย ก่อนจะผละเดินออกไปหยิบตะกร้า กอหญ้าที่กำลังเดินเลือกเสื้อผ้าอยู่เพลิน ๆ ไม่ทันได้สังเกตก็เดินชนเข้ากับผู้ชายคนหนึ่งที่หยุดยืนขวางเธอไว้เบา ๆ เธอใก้มขอโทษคนตรงข้าม แต่ก็ไร้ซึ่งเสียงตอบกลับมา
ทำให้เธอต้องแหงนหน้ามองบุคคลตรงข้ามที่ยืนอยู่นั้น เป็ผู้ชายที่มีเส้นผมสีทอง ผิวหน้าเรียบเนียน ไร้ตำหนิเรียกได้ว่าหล่อเหลาเอาการอีกคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ ดูแล้วอายุน่าจะประมาณสามสิบต้น ๆ สายตาของเขานั้นจ้องมองเธอเขม็งราวกับว่าเธอไปทำมิดีมิร้ายอะไรเขาไว้ไม่มีผิด
“ขอโทษด้วยนะคะที่เมื่อกี้ไม่ทันได้มอง คุณเจ็บตรงไหนไหมคะ”
“เธอชื่ออะไร”
“คะ?”
“ฉันถามว่าเธอชื่ออะไร”
“เอ่อ.. คือ”
“เกิดอะไรขึ้นหรอ”
“เราเดินชนคุณผู้ชายคนนี้น่ะ ไม่มีอะไรมาก”
“ผู้ชายคนนี้ แฟนเธอหรอ”
“ใช่ครับ ผมเป็สามีของเธอ และเป็พ่อของลูกในท้องเธอด้วย ไม่ทราบว่าคุณมีอะไรกับภรรยาผมหรือเปล่าครับ”
“ไม่มี”
ชายหนุ่มคนนั้นหันมามองกอหญ้าอีกครั้งเป็การหยั่งเชิง เธอเองก็ไม่ได้พูดอะไรเพราะรู้สึกบรรยากาศนี้มันแปลก ๆ เธอเหลือบมองผู้ชายตรงหน้าอีกครั้งซึ่งเขาเองก็ยังไม่ละสายตาออกจากเธอ ผ่านไปเกือบสองนาทีเธอก็เห็นสายตาของเขาเหลือบมองที่ท้องกลมของเธอแวบหนึ่งก่อนจะเดินออกไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ทิ้งให้เธอยืนงงเกาหัวแกรก ๆ ก่อนจะหันไปมองหน้าปอร์เช่ที่ก็ยืนมองตามหลังชายคนนั้นไปอย่างไม่ละสายตา ทำให้กอหญ้าเองก็หันตามสายตาของเขาไปดูด้วยก็เห็นมีผู้ชายที่แต่งตัวด้วยชุดดำอีกคนเดินเข้าไปหาผู้ชายคนนั้นก่อนจะกระซิบกระซาบกันเล็กน้อย เขาหันกลับมามองเธออีกครั้งก่อนจะเดินจากไปทันที
“อะไรอะ”
“หญ้าต้องระวังตัวเองหน่อยนะ เราไม่ไว้ใจผู้ชายคนนี้เลย”
“เขาอาจจะจำคนผิด เราไปเดินซื้อของกันเถอะ”
“หวังว่าเราจะแค่คิดมากนะ ปะ”
