“การส่งมอบ” อย่างสันติ สุดท้ายกำลังจะเปลี่ยนเป็การแจ้งความว่า “หลิงเมิ่งจ่ายเงินว่าจ้างสั่งคนไปทำร้ายผู้อื่น”
ซูอินไม่เก็บซ่อนอารมณ์ของตนเอง แววตาข่มขู่ของเธอมองพวกเขาสามคนเหมือนจะบอกเป็นัยว่าหากไม่ยอมย้ายฉันออกจากทะเบียนบ้าน ฉันก็จะแจ้งเื่นี้กับสถานีตำรวจทันที
อันที่จริงเื่นี้ยังมีวิธีอื่นที่จะจัดการ แต่เธอรู้นิสัยตระกูลหลิงดี หากจะให้ค่อยๆ พูดหาทางออก พวกเขาได้คืบจะเอาศอก หาโอกาสเสนอเงื่อนไขอื่นๆ อย่างแน่นอน หางตาของเธอมองบิดามารดาผู้ซื่อสัตย์ที่อยู่ข้างๆ หากมีการเจรจา คาดว่าสองสามีตระกูลซูคงถูกหลิงจื้อเฉิงใช้เงินซื้อใจเพื่อหาผลประโยชน์แน่ๆ
ตัดปัญหาและใช้วิธีแก้แบบเอาตัวรอดอย่างลวกๆ
อู๋อู๋รู้สึกตื่นตระหนก…
ทว่าเมื่อเห็นสองสามีภรรยาตระกูลซูที่อยู่ตรงหน้า เธอก็รีบคุมสติ โดยเฉพาะเมื่อมองไปทางเมิ่งเถียนเฟิน คำพูดเมื่อครู่ของอีกฝ่ายยังก้องอยู่ในหู เธอไม่เชื่อเด็ดขาด…
“เธอก็ไม่ได้เป็อะไรไม่ใช่หรือ ทำไมต้องโวยวายให้เป็เื่ใหญ่”
แจ้งความแล้วจะอย่างไรล่ะ ครอบครัวตระกูลหลิงของพวกเขาไม่ใช่คนบ้านนอกที่ไร้อำนาจแบบตระกูลซูสักหน่อย พวกเขามีคนรู้จักเป็ถึงอัยการ ต่อให้ซูอินแจ้งความ พวกเขาจะจัดการเื่เล็กน้อยอย่างนี้ไม่ได้เชียวหรือ
ยิ่งคิดอู๋อู๋ก็ยิ่งมั่นใจ เธอจึงไม่แสดงท่าทีเกรงใจเช่นเมื่อครู่แล้วเอ่ยอย่างเสแสร้ง “นี่ เดิมทีฉันก็คิดว่าจะยอมประนีประนอมไม่ทำเื่เล็กให้เป็เื่ใหญ่ แต่เมื่อพูดมาถึงขั้นนี้ ฉันก็ขอบอกไว้เลยว่า พวกเราไม่กลัว…”
ไม่เคยพบเคยเจอคนหน้าหนาเช่นนี้มาก่อน!
นี่คือสิ่งที่ทั้งสามคนจากตระกูลซูคิดเหมือนกัน
สองสามีภรรยาตระกูลซูยังคงตกตะลึง แต่ซูอินดึงสติกลับมาได้ก่อน
มีอำนาจ ทำอะไรตามอำเภอใจ
หลิงจื้อเฉิงทำธุรกิจได้ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ มักจะมีการติดต่อกับหน่วยงานต่างๆ ทำให้รู้จักผู้นำมากมาย แม้ว่าหลิงเมิ่งจะทำเื่เลวร้าย อู๋อู๋ก็จะย้ำเสมอว่าซูอินไม่ได้รับอันตราย ไม่ควรทำเื่เล็กให้เป็เื่ใหญ่
เฮ้อ...
ซูอินกัดริมฝีปาก แสดงสีหน้าจนใจ
เมื่อเห็นแววตาที่เปลี่ยนไปของซูอิน ทำให้หลิงเมิ่งซึ่งมีท่าทีตื่นตระหนกในตอนแรกค่อยๆ สงบลง เธอยืดเอวขึ้นและมองไปข้างหน้าพร้อมพูดด้วยน้ำเสียงภาคภูมิใจ
“ถ้าฉันทำแล้วจะทำไม เธอทำให้ฉันไม่มีทางเลือกเอง”
“เมิ่งเมิ่ง!”
เมิ่งเถียนเฟินะโ แววตาของเธอในตอนนี้แทบไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน เ็ปใจ…รู้สึกสับสนไปหมด
อู๋อู๋รู้สึกเช่นกันว่าการกระทำเช่นนี้ของหลิงเมิ่งไม่ถูกต้อง แต่สำหรับคนนอกโดยเฉพาะเด็กร้ายกาจคนนั้น เธอไม่มีทางทำให้บุตรสาวของตนเองเสียศักดิ์ศรีอย่างแน่นอน เธอจึงตบมือของหลิงเมิ่งเพื่อปลอบ เมื่อเอ่ยปากอีกครั้ง ก็ปรับอารมณ์เข้าสู่โหมดปกติก่อนจะใช้อำนาจกับญาติที่อยู่ตรงหน้า
“คนไม่มีค่าอย่างเธอมีสิทธิ์อะไรมาะโใส่ลูกสาวของฉัน ฉันพูดไปแล้ว ฉันไม่กลัวเื่พวกนั้นหรอก!”
“อู๋อู๋!”
คนที่พูดคือหลิงจื้อเฉิง เขามองภรรยาด้วยท่าทีร้อนรน ใบหน้าที่มองอู๋อู๋ราวกับเขียนคำว่า “อย่าสร้างปัญหา”
“จื้อเฉิง คุณคิดว่าเธอจะช่วยพวกเรางั้นหรือ”
“ซูอิน อยากหาเื่อะไรก็เชิญ อยากบอกอะไรก็บอกไป บอกแล้วเธอก็ชนะ ส่วนฉันก็แพ้แค่นั้น!”
คนทำผิดยังกล้าแสดงท่าทีหยิ่งผยองขนาดนั้นอีกหรือ
เปลวไฟลุกโชนขึ้นในใจของซูอิน ไฟโหมกระหน่ำถูกห่อหุ้มไว้ด้วยสิ่งที่ไม่อาจหยุดยั้ง ทุกอย่างแผ่ซ่านไปทั้งร่าง เธอรู้สึกได้เพียงว่าอึดอัดไปทั่วกาย หากต้องอดกลั้นไว้แบบนี้ เกรงว่าตัวเองต้องะเิออกมาแน่ๆ
ทำไมต้องรู้สึกผิดเพราะคนเหล่านี้ด้วย
“ไม่ต้องพูดถึงสิ่งที่พวกคุณทำกับฉันเมื่อครึ่งเดือนที่ผ่านมา แค่ท่าทีในวันนี้ยังหวังจะให้ฉันช่วยเหลืออีกหรือ”
เธอลุกขึ้นยืนและกดสายตามองอู๋อู๋ “ฉันรู้ว่าทำไมคุณถึงไม่กลัว เพราะคิดว่ามีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นของตระกูลหลิงอยู่ใช่ไหม แต่อย่าลืมสิ ว่าความสัมพันธ์ที่ฉันมี มัน แข็ง แกร่ง ยิ่ง กว่า!”
ซูอินพูดเน้นออกมาทีละคำ
เธอทำสำเร็จ แววตาของอู๋อู๋วูบไหว หลิงเมิ่งมีสีหน้าหวาดกลัวที่ปกปิดไม่มิด ในใจของซูอินรู้สึกผ่อนคลายลงไม่น้อย
หลิงจื้อเฉิงก็หวาดกลัวเช่นกัน หลังจากที่อู๋อู๋ระบายออกมาอย่างขาดสติจนเื่วุ่นวายไปกันใหญ่ แต่ในใจของเขายังคงมีหวัง อินอินเป็เด็กดีและเชื่อฟังขนาดนี้ ผลการเรียนก็ดี ั้แ่เล็กไม่เคยสร้างปัญหาให้ตระกูลหลิง ตอนนี้เธอคงไม่ทำให้เื่นี้กลายเป็เื่ใหญ่ขึ้นมาจริงๆ
แต่ไม่นานความหวังนั้นก็แตกสลาย
เื่ที่เขากลัวที่สุดกำลังเกิดขึ้นแล้ว ความสัมพันธ์ของอินอินที่เติบโตมากับตระกูลหลิงไม่อาจนำมาใช้ประโยชน์ แต่อาจกลับมาเล่นงานตระกูลหลิงเสียมากกว่า
จนกระทั่งวันนี้เขาก็ยังไม่รู้ว่าตระกูลนั้นคือใคร แต่หากถึงขั้นเลขาธิการผู้อำนวยการกองโจวยังต้องเกรงใจ คงต้องใหญ่คับฟ้าอย่างแน่นอน
ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกหน้ามืด
“อินอิน~”
เขาพยายามฝืนยิ้มอย่างอ่อนโยน “แม่เด็กคนนี้ ทำไมใจร้อนนักล่ะ แม่ของลูกก็แค่หยอกเล่น ส่วนเมิ่งเมิ่ง เดี๋ยวพ่อให้เขาขอโทษลูกดีไหม”
เมื่อหันไปมองหลิงเมิ่ง ใบหน้าของเขาเคร่งขรึม “เมิ่งเมิ่ง ลูกทำแบบนี้ได้ยังไง พวกอันธพาลนั่นเป็คนไม่ดี ไปข้องแวะมากๆ เดี๋ยววันหนึ่งก็จะเกิดเื่กับลูก หลังจากนี้พ่อไม่อนุญาตให้ลูกทำเื่แบบนี้อีก รีบขอโทษพี่เขาเร็วๆ เข้า!”
หลิงเมิ่งกัดริมฝีปาก สีหน้าที่ยังไม่คลายความหวาดกลัวแสดงความไม่พอใจ แต่สุดท้ายเธอก็ไม่สามารถชนะหลิงจื้อเฉิง
เธอยืนขึ้นและก้มศีรษะ ก่อนจะเค้นคำพูดออกจากปาก “พี่คะ…ขอโทษค่ะ…”
ในใจเธอได้แต่กู่ร้องว่าไม่้า ไม่้าทำโดยไม่มีความสุข เธอไม่อาจกลั้นน้ำตา มือกำแน่นอยู่ข้างลำตัว
ใบหน้าของหลิงจื้อเฉิงเต็มไปด้วยความพอใจ “อินอิน ลูกดู…”
ซูอินไม่ปล่อยให้เขาได้พูดต่อ “หนูเห็นแล้วค่ะ เธอโกรธมาก คาดว่าการที่ต้องขอโทษฉันคงรู้สึกอึดอัดใจมาก”
เมื่อมองตามสายตาของเธอ ทุกคนเห็นหลิงเมิ่งกำหมัดแน่น สองสามีภรรยาตระกูลหลิงรู้สึกเห็นใจ ท่าทีสะอึกสะอื้นนั้นทำให้เธอกลับมาสับสนอีกครั้ง
“ช่างเถอะ ไม่คาดหวังว่าเธอจะขอโทษอยู่แล้ว ความแค้นของฉัน ฉันจะแก้แค้นเอง”
เธอหันไปมองอู๋อู๋อีกครั้ง “เมื่อครู่คุณบอกว่าให้ฉันโวยวายได้ตามอำเภอใจ อยากบอกอะไรก็บอก ถ้างั้นฉันจะทำตามคำขอ!”
หากคำขอโทษมีประโยชน์ จะมีเ้าหน้าที่ตำรวจไว้เพื่ออะไร
เมื่อครู่เธอคิดผิดเอง พยายามจะแก้ปัญหา ใช้ความสัมพันธ์ของตระกูลหลิงเพื่อจัดการเื่ย้ายทะเบียนบ้าน ตอนนี้เธอได้สติ แม้ว่าเมื่อครู่ตระกูลหลิงจะรับปาก แต่การที่หลิงเมิ่งใช้วิธีชั่วร้ายเพื่อหลอกล่อเธอ นอกจากทำให้เธอเกือบไม่ได้เข้าสอบ ยังเกือบตกอยู่ในเงื้อมมือของเหล่าอันธพาล
แม้ว่าเื่ราวจะไม่เป็เช่นนั้น แต่มันไม่ต่างอะไรกับการพยายามฆ่า
เธอแทบจินตนาการไม่ออกว่า หากในวันนั้นฉินหล่างไม่ผ่านมา เธอต้องเจอกับฝันร้ายอะไรบ้าง
หากไม่เอาเื่ เธอคงรู้สึกผิดหวังอย่างแน่นอน
หากยุ่งยากสักหน่อยจะเป็อะไรไป ไม่เชื่อหรอกว่าการที่เธอมีเอกสารต่างๆ พร้อม จะไม่สามารถย้ายทะเบียนบ้าน