ไป๋เซี่ยเหออ่านหนังสือได้สักพัก เจี่ยงอิงเอ๋อร์ก็ยกชาที่เพิ่งชงเสร็จเข้ามา
“คุณหนู อ่านหนังสือนานๆ เสียสายตา พักดื่มชาเก๊กฮวยสักหน่อยเถิดเ้าค่ะ”
ไป๋เซี่ยเหอพยักหน้าแล้วรับชามา กลิ่นหอมอันเจือจางของดอกเก๊กฮวยช่วยขับไล่ความเหนื่อยล้า
“คุณหนู มีสาวใช้มารายงานว่าแม่นมต่งขอเข้าพบ นางรออยู่ข้างนอก บ่าวให้คนไปเปิดประตูแล้วเ้าค่ะ”
ไป๋เซี่ยเหอมองเจี่ยงอิงเอ๋อร์อย่างชื่นชมแล้วผงกศีรษะ
ด้านนอกเรือน
แม่นมต่งเดินหลังตรง หอบสมุดบัญชีสูงเท่าครึ่งตัวคนราวกับไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย นางเดินตามหลังสาวใช้ที่นำทางโดยเว้นระยะห่างไม่ใกล้ไม่ไกลเกินไป
ทว่าเซี่ยวเยี่ยนที่อยู่ข้างกายสุดท้ายแล้วก็ยังอายุน้อย นางมีนิสัยใจร้อน ดวงตาหันซ้ายแลขวาอยู่หลายรอบ แสดงท่าทีอิจฉาริษยาออกมาอย่างชัดเจน
เรือนดีๆ เช่นนี้ นึกไม่ถึงว่าท่านอ๋องจะมอบให้สตรีนางนั้น
พระชายาผู้นี้เป็ผีสางนางไม้อะไรกันแน่? ถึงได้ทำให้ท่านอ๋องหลงใหลเช่นนี้
“ท่านแม่ เราจำเป็ต้องนำสมุดบัญชีมาด้วยหรือเ้าคะ?”
“ต้องสิ เพราะนางเป็เ้านาย ส่วนเราเป็บ่าว บ่าวไม่อาจอยู่เหนือเ้านายได้ นี่คือกฎระเบียบ”
เมื่อก่อนแม่นมต่งปล่อยให้เซี่ยวเยี่ยนก่อเื่เพราะตนเองรู้สึกผิด ทั้งยังมองว่านางยังอายุน้อย
ทว่าเมื่อเกิดเื่ในวันนี้ แม่นมต่งจึงฉุกคิดได้ว่าบุตรีควรเรียนรู้กฎระเบียบได้แล้ว ไม่อย่างนั้นด้วยนิสัยนี้ของนาง ต้องเสียเปรียบไม่ช้าก็เร็วเป็แน่
“แต่ว่าพระชายาเองก็ไม่ได้อายุมากกว่าข้าเท่าไร สมุดบัญชีซับซ้อนปานนี้ นางจะดูเป็หรือเ้าคะ?”
แม่นมต่งมองเซี่ยวเยี่ยน “หากดูไม่เป็ ข้าก็จะสอนนาง”
ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด นางกลับมั่นใจอย่างอธิบายไม่ถูกว่าพระชายาต้องดูเป็
สตรีที่ทำให้ท่านอ๋องชมชอบได้จะเป็สตรีธรรมดาได้อย่างไร?
นอกจากนี้ บุคลิกอันสูงส่งของพระชายา หากเปรียบเทียบกับท่านอ๋องแล้วก็ไม่ด้อยไปกว่ากันเท่าไร
“เซี่ยวเยี่ยน เ้าจำเอาไว้ว่าเ้านายย่อมเป็เ้านายไปตลอด ต่อหน้าเ้านายแล้ว ไม่อนุญาตให้เหิมเกริม!” แม่นมต่งกล่าวกับเซี่ยวเยี่ยนอย่างแน่วแน่และจริงจัง
เซี่ยวเยี่ยนเบะปาก สายตายังคงมองไปที่เรือนอันงดงาม ก่อนจะตอบอย่างไม่ใส่ใจนัก “ข้าเข้าใจแล้วเ้าค่ะ”
เนื่องจากมีคนมาแจ้งแล้ว ฝูเอ๋อร์จึงออกมายืนรออยู่หน้าประตู เมื่อเห็นแม่นมต่ง ก็นำทางเข้าไปอย่างกระตือรือร้น พร้อมยกเก้าอี้และรินชามาให้
“บ่าวถวายบังคมพระชายาเพคะ”
ไป๋เซี่ยเหอนั่งตัวตรงอยู่บนที่นั่งประธาน ท่าทีพูดไม่ได้ว่ากระตือรือร้น ทว่าอย่างน้อยก็ไม่ได้ห่างเหินเป็พิเศษ
“แม่นมต่งลุกขึ้น รีบนั่งลงเถิด”
เมื่อไป๋เซี่ยเหอกวาดตามองสมุดบัญชีที่กองกันเป็ตั้ง ในใจก็ตระหนักขึ้นมาทันที สายตาที่มองแม่นมต่งมีความเคารพเพิ่มขึ้นหลายส่วน
การรักษาอำนาจเป็เื่ง่าย แต่การปล่อยวางอำนาจเป็เื่ยาก
มนุษย์คือผู้ที่หลงระเริงอยู่ในอำนาจได้ง่ายที่สุด
ผู้ที่บอกว่าจะปล่อยวางก็ปล่อยวางอย่างแน่วแน่ได้เหมือนกับแม่นมต่ง มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ทำได้
“คิดว่าพระชายาคงเดาเจตนาที่บ่าวมาเข้าเฝ้าได้แล้ว”
ไป๋เซี่ยเหอพยักหน้าส่งสัญญาณให้นางพูดต่อ
“เดิมทีในจวนไม่มีนายหญิง บ่าวได้รับความกรุณาจากความเชื่อใจของท่านอ๋อง ท่านอ๋องจึงมอบอำนาจในการดูแลจวนให้บ่าว ตอนนี้มีพระชายาแล้ว สมุดบัญชีเหล่านี้จึงควรมอบให้พระชายาเพคะ”
สมุดบัญชีที่วางอยู่บนโต๊ะนั้น แทบจะสูงเท่าศีรษะของไป๋เซี่ยเหอ
“ลำบากแม่นมแล้ว เพียงแต่กิจธุระน้อยใหญ่ของจวน ยังต้องรบกวนให้แม่นมจัดการ สำหรับสมุดบัญชี เพียงมอบให้ข้าตรวจดูหนึ่งครั้งทุกๆ ครึ่งปีก็พอ”
เซี่ยวเยี่ยนเบะปาก พึมพำเสียงเบา “พูดเหมือนท่านดูสมุดบัญชีเป็อย่างนั้นแหละ”
เสียงนั้นไม่ดังนัก ทว่าดังพอให้คนในเรือนได้ยิน แม่นมต่งหน้าแดงทันที ปรารถนาจะลากเซี่ยวเยี่ยนออกไปอบรมสักยก
เพียงแต่พระชายาไม่ได้เอ่ยปาก นางจึงไม่สามารถตัดสินใจโดยพลการ
สาวน้อยนางนี้ถูกตามใจจนเสียนิสัยแล้วจริงๆ!
ไป๋เซี่ยเหอไม่แม้แต่จะชายตามองเซี่ยวเยี่ยน นางยกมือขึ้นหยิบสมุดบัญชีเล่มที่อยู่ใกล้ตนเองที่สุดมาพลิกอ่าน
ฝูเอ๋อร์หยิบลูกคิดมาวางไว้ด้านข้าง
“ไปหยิบกระดาษกับพู่กันมาให้ข้า”
ลูกคิดอะไรเทือกนั้นนางใช้ไม่เป็จริงๆ ทว่าสมุดบัญชีเหล่านี้ ใช้วิธีคำนวณในยุคปัจจุบันก็พอแล้ว
ไป๋เซี่ยเหอขีดเขียนลงบนกระดาษ ไม่มีผู้ใดเข้าใจสิ่งที่นางเขียนสักคน ทว่าเมื่อเห็นนางมีท่าทีจริงจังปานนั้นก็ไม่มีผู้ใดกล้าขัด
สมุดบัญชีหนึ่งเล่มถูกตรวจเสร็จอย่างรวดเร็ว ผลลัพธ์ออกมาตรงกัน
ในที่สุดแม่นมต่งก็ได้รู้ว่า ‘ยันต์ภาพผี’ บนกระดาษแผ่นที่ไป๋เซี่ยเหอขีดเขียนคืออะไร
นั่นคือวิธีคำนวณบัญชีอันมีเอกลักษณ์ของพระชายา ไม่เพียงแต่ตัวเลขจะถูกต้องแม่นยำ การคำนวณยังรวดเร็วอีกด้วย
“พระชายาช่วยสอนวิธีคำนวณนี้ให้บ่าวได้หรือไม่เพคะ?”
แม่นมต่งรู้ความ นางไม่ถามไป๋เซี่ยเหอว่าเรียนรู้วิธีนี้มาจากที่ใด ถึงอย่างไรแผ่นดินอันกว้างใหญ่ล้วนเต็มไปด้วยเื่พิสดาร จึงไม่ควรสอบถามเื่ส่วนตัวของผู้อื่นตามอำเภอใจ
“ได้!”
เื่นี้ไม่ใช่ความลับ แพร่งพรายออกไปล้วนเป็ประโยชน์แก่ทุกคน
ดังนั้น ระหว่างที่ไป๋เซี่ยเหอคำนวณ ก็สอนแม่นมต่งให้รู้จักตัวเลขอารบิกไปด้วย
โชคดีที่แม่นมต่งหัวไว ทั้งยังตั้งใจ จึงเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว
หลังจากคำนวณตามไป๋เซี่ยเหอ แม่นมต่งก็ตระหนักอะไรบางอย่างได้อย่างคร่าวๆ
ท่านอ๋องของพวกนางเก็บสมบัติได้เสียแล้ว!
นี่คือสมุดบัญชีเป็ตั้งที่ใช้เวลาแทบทั้งวันถึงจะตรวจเสร็จเชียวนะ! ตอนนี้แม่นมต่งมุ่งมั่นอยู่กับการเรียนวิธีคำนวณ ถึงกับไม่ยอมกลับจวนเซ่อเจิ้งอ๋อง เอาแต่เรียนรู้อยู่ข้างกายของไป๋เซี่ยเหอ
ส่วนเซี่ยวเยี่ยนถูกฝูเอ๋อร์พาออกไปเดินเล่นในลาน ทั้งสองคนมีนิสัยช่างพูดและร่าเริง ตอนอยู่ด้วยกันจึงไม่เบื่อ เมื่อไป๋เซี่ยเหอตรวจบัญชีเสร็จ พวกนางก็กลับมาแล้ว
“ในเมื่อพระชายาตรวจเสร็จแล้ว บ่าวก็จะยกสมุดบัญชีเหล่านี้กลับไปที่จวนนะเพคะ”
ใบหน้าของแม่นมต่งมีความสุขอย่างยากที่จะปิดบัง วิชาใหม่ที่ได้เรียนในวันนี้ทำให้นางรู้สึกพึงพอใจจนถึงขีดสุด น่าอัศจรรย์ใจเกินไปแล้ว
“ได้ ลำบากแม่นมแล้ว”
ไป๋เซี่ยเหอเชิดหน้าขึ้น สบสายตากับฝูเอ๋อร์ที่อยู่ด้านข้าง
ฝูเอ๋อร์หยิบอาภรณ์สองสามชุดที่เตรียมไว้นานแล้วออกมา
จากนั้นไป๋เซี่ยเหอก็มอบอาภรณ์ให้แม่นมต่งเองกับมือ
“แม่นมต่งเคยอยู่ในวังหลวง มีของล้ำค่าใดไม่เคยพบบ้าง ข้าเองไม่มีของล้ำค่าเ่าั้หรอก อาภรณ์ลายดอกไม้นี้อาจไม่ได้งดงามนัก แต่มีข้อดีตรงที่ทำเอง จึงสวมใส่สบายอย่างยิ่ง”
อาภรณ์ดังกล่าวมีสีเข้ม ดูโปร่งสบาย ไม่สกปรกง่าย
แม่นมต่งรับมาด้วยความดีอกดีใจ “ทำให้พระชายาลำบากแล้วเพคะ”
แม้ว่าจะยังไม่อภิเษกสมรส ทว่าหากดูจากท่าทีหวงแหนของท่านอ๋อง ก็รู้ได้ว่าสตรีนางนี้ต้องหนีไม่พ้นแล้วเป็แน่ เรียกพระชายาล่วงหน้าก็ไม่ใช่เื่ใหญ่อะไร
เซี่ยวเยี่ยนมุ่ยปาก ก่อนจะเชิดหน้าขึ้น “พระชายาคงไม่ได้ตัดเย็บเองกระมังเพคะ?”
รอยยิ้มบนใบหน้าของแม่นมต่งชะงักเล็กน้อย ก่อนจะกระทุ้งศอกใส่เซี่ยวเยี่ยน
ไป๋เซี่ยเหอตวัดสายตาไปมองเซี่ยวเยี่ยนอย่างเฉยเมย ดวงตาสีหมึกเ็าราวกับน้ำแข็ง ความน่าเกรงขามแผ่ออกมาทั่วสรรพางค์กาย ทั้งยังมีจิตสังหารลอยอ้อยอิ่งอยู่เล็กน้อยด้วย
เซี่ยวเยี่ยนกลืนน้ำลาย อดไม่ได้ที่จะหดคอด้วยความหนาวเหน็บ ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด เมื่อมองพระชายาในตอนนี้ ก็เหมือนกับ...
มองเห็นท่านอ๋องอย่างไรอย่างนั้น
รัศมีเหมือนกัน สูงส่งเหมือนกัน และน่าเกรงขามเหมือนกัน
“บ่าว...”
นางคิดที่จะยอมรับผิด ทว่าก็อดรู้สึกเสียหน้าอยู่บ้าง ก่อนหน้านี้ที่จวนเซ่อเจิ้งอ๋อง ทุกคนล้วนต้องเอาอกเอาใจนาง เพราะนางเป็บุตรีของแม่นมต่ง
ทว่าไป๋เซี่ยเหอเองก็คร้านที่จะคิดเล็กคิดน้อยกับเซี่ยวเยี่ยน จึงเอ่ยไปตามความจริง “ข้าไม่มีความสามารถนั้น เป็ฝีมือของฝูเอ๋อร์”
ความจริงแล้วทุกคนล้วนรู้ดีว่า เ้านายที่ไหนบ้างจะลงมือตัดเย็บชุดให้บ่าวไพร่ด้วยตัวเอง ทว่าสิ่งที่น่ายกย่องคือ นางไม่ได้ถือเอาความดีความชอบเป็ของตนเองเพื่อผูกสัมพันธ์กับอีกฝ่าย
แม่นมต่งยิ่งมองไป๋เซี่ยเหอก็ยิ่งชื่นชอบ
------------------------