เมื่อรถฮัมเมอร์พุ่งเข้ามาอย่างอุกอาจ ผู้คนที่อยู่บริเวณนั้นต่างก็ใ แก๊งเป่าซานเป็เพียงแก๊งเล็กๆ อยู่ในชนบท มีเพียงรถตู้สองสามคันก็นับว่าดีมากแล้ว จะมีรถหรูอย่างรถฮัมเมอร์ได้อย่างไร? วิธีการของเตาปาถูกต้องแล้ว เพียงขับรถฮัมเมอร์ออกมาไม่จำเป็ต้องเสียแรงลงมือเองก็ทำให้ผู้คนจำนวนมากใกลัวได้ ถือเป็การหลีกเลี่ยงปัญหาได้ดีเยี่ยม
เมื่อเตาปาลงจากรถก็ทำให้คนที่เห็นตกตะลึงกับรอยแผลเป็ของเขา ซ้ำรอยนั้นยังอยู่บนใบหน้าของเขา!
เหตุการณ์ถัดมาก็ยิ่งทำให้พวกเขาหวาดกลัวจนปัสสาวะแทบราด ชายหนุ่มอีกคนที่นั่งตำแหน่งโดยสาร หน้าตาน่ารักกำลังควงปืนในมือ บางครั้งสายตาจับจ้องมายังกลุ่มคนของแก๊งเป่าซาน ดูเหมือนพร้อมจะเหนี่ยวไกปืนเพื่อปลิดชีพพวกเขาโดยไม่ทันตั้งตัว
“ผมผิดไปแล้ว พี่ชาย ผมผิดไปแล้ว!” ทันใดนั้นก็มีคนหวาดกลัวจนปัสสาวะราดกางเกง เนื้อตัวสั่นเทา คิดอยากวิ่งหนีไปให้ไกล ทว่าไม่สามารถทำได้ เมื่อถูกจ้าวอี้เปยถือปืนเล็งเอาไว้ อันธพาลเด็กเหล่านี้จะไม่กลัวได้อย่างไร?
บัดซบ คนพวกนี้คงเป็แก๊งอิทธิพลมืดตัวจริงเสียงจริง! คนหนึ่งมีรอยแผลเป็จากการโดนฟัน ส่วนอีกคนก็พร้อมยิงปืนสังหารคนได้โดยไม่กะพริบตา! แล้วจะให้พวกเขายั่วยุอีกฝ่ายได้อย่างไร?
แน่นอนว่าความจริงจ้าวอี้เปยไม่คิดจะยิงพวกเขา ไม่ใช่เพราะกลัวจะเกิดปัญหา เพียงแต่เสียดายลูกะุเท่านั้น
เย่เฟิงโยนชายร่างอ้วนโยนไปข้างทุ่งนา จากนั้นขึ้นรถไปกับเตาปา ก่อนเปลี่ยนเป็ชุดสูทที่อีกฝ่ายนำมาให้ เป็ครั้งแรกที่เขาได้ใส่ชุดสูท แต่ก็ได้รับคำแนะนำจากเตาปาจึงเป็ไปอย่างเรียบร้อย เย่เฟิงในชุดสูทดูดียิ่งกว่าเดิมเสียอีก
“คิกๆ ลูกพี่เย่ พี่กลับไปในสภาพดูดีอย่างนี้ ผมรับรองได้เลยว่าพี่สะใภ้ต้องมองพี่ตาค้างแน่” จ้าวอี้เป้ยพูดกลั้วหัวเราะ
“เลิกกวนแล้วขับรถไป เราต้องรีบกลับไป” เย่เฟิงยิ้มบางก่อนโบกมือให้เด็กหนุ่มขับรถต่อ
จากการเดินทางด้วยกันก่อนหน้านี้ทำให้เขารู้จักตัวตนที่แท้จริงของจ้าวอี้เป้ย เมื่อสิบปีก่อนเตาปามีภรรยาคนหนึ่งและจ้าวอี้เปยก็คือน้องชายของภรรยาเขา ซึ่งตอนนั้นเขายังเด็กมาก คืนหนึ่งมีชายคนหนึ่งถือดาบไล่สังหารผู้คนอย่างไม่เกรงกลัว ภรรยาของเขาก็เป็หนึ่งในผู้ที่ต้องนอนจมกองเืและไม่สามารถลุกขึ้นมาได้อีก ดังนั้นั้แ่เด็กจ้าวอี้เปยจึงเติบโตมากับเตาปา หลังจากเขาเรียนจบชั้นมัธยมต้นก็ไม่เรียนต่ออีก
เตาปาทั้งห่วงใยและเชื่อใจจ้าวอี้เปยมาก จึงให้เขาขับรถให้เย่เฟิงโดยเฉพาะ โดยหวังว่าเด็กหนุ่มจะมีสัมพันธ์ที่ดีกับเย่เฟิง และสามารถพัฒนาอนาคตของตัวเองให้ดียิ่งขึ้น
ในสายตาของเย่เฟิง จ้าวอี้เปยเป็ชายหนุ่มร่าเริงสดใสและมักพูดคำแสลงในอินเทอร์เน็ต เป็เพียงหนุ่มน้อยหน้าตาใสซื่ออายุใกล้เคียงกับเขา
รถฮัมเมอร์กลับรถแล้วตรงไปตามถนนคอนกรีตออกจากหมู่บ้านอย่างรวดเร็ว กลุ่มวัยรุ่นของแก๊งเป่าซานต่างมองตามอย่างตกตะลึง
ชายร่างอ้วนถึงกับเช็ดเหงื่อที่ไหลเต็มหน้าผาก เขามองตามรถฮัมเมอร์ที่ขับห่างออกไปก่อนถอนหายใจอย่างโล่งอก
เขาใช้แรงพาตัวเองปีนขึ้นมาจากทุ่งนา เมื่อมองวัยรุ่นสี่คนที่ล้มระเนระนาดก็นึกโกรธแค้นขึ้นมา บัดซบ จะหาเื่ใครก็ไม่ดูให้ดีก่อน
ความรู้สึกหลังจากถูกเย่เฟิงจับคอเสื้อไว้แน่นทำให้เขาอารมณ์เสียมาก ชายร่างอ้วนคับแค้นใจ ั้แ่วินาทีนี้ไปเขาจะไม่ยอมให้เป็แบบนี้อีก เขาจะต้องไปสู่จุดสูงสุดให้ได้!
เมื่อมองป้ายทะเบียนรถฮัมเมอร์ก็เห็นว่ามาจากเมืองเยี่ยนจิง ขาจึงตัดสินใจว่าตนจะต้องไปเมืองเยี่ยนจิง!
............
รถออฟโรดก็เป็รถที่มีประโยชน์ตามที่ควรมี ถนนจากหมู่บ้านหนานกังไปถึงเมืองหลินเจียงหากเปลี่ยนเป็รถธรรมดาทั่วไป ผิวถนนขรุขระคงทำให้คนในรถลำบากจนอยากตาย แต่รถฮัมเมอร์ทำให้การเดินทางของพวกเขายังถือว่าสบายไปตลอดทาง
ขณะผ่านเมืองหลินเจียง เย่เฟิงก็นึกถึงหญิงสาวที่ถูกไอ้หนุ่มตระกูลหลงบีบให้ะโตึก จึงถามเื่นี้กับเตาปา
เป็ไปตามคาด ด้วยอำนาจของตระกูลหลงทำให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกลายเป็ ‘เื่เล็กน้อย’ เวลานั้นหลงเสียนถูกควบคุมตัวไว้เพียงไม่กี่นาทีก็ถูกปล่อยตัวออกมาแล้ว อีกทั้งยังตบหน้าแฟนหนุ่มของหญิงสาวที่ะโตึกคนนั้น และถูกปล่อยลอยชายเช่นเดิม แค่ชดเชยด้วยเงินนิดหน่อยเท่านั้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่ารุนแรงไม่น้อย ทว่ากลับไม่มีสำนักข่าวไหนรายงานข่าวเื่นี้เลย และเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของคนในพื้นที่ทั้งหมดก็ถูกกดดันในเงียบลง เห็นได้ชัดว่าตระกูลหลงใช้อำนาจจัดการเื่นี้ด้วย
‘ดูท่าการตายของหมอนั่นก็ถือว่าเป็เื่สมควร’ เย่เฟิงหวนนึกถึงตอนอยู่บนูเาฉางไป๋ การที่เขาไม่ใจอ่อนให้อีกฝ่ายก็ถือว่าถูกต้องแล้ว
เมื่อรถฮัมเมอร์ออกห่างจากเมืองหลินเจียงก็หมายความว่าการมาเยือนูเาฉางไป๋ในครั้งนี้สิ้นสุดลงแล้ว ชายหนุ่มหันกลับไปมอง ภายในใจยังเป็ห่วงหลงหว่านเอ๋อร์ ผ่านไปครึ่งเดือนแล้วไม่รู้ตอนนี้เธอจะเป็อย่างไรบ้าง?
ความจริงที่ว่าพ่อของหญิงสาวเป็คนสังหารพ่อของเขาบนโลกใบนี้... ยิ่งตอกย้ำความรู้สึกของเย่เฟิง เื่ระหว่างตนและหลงหว่านเอ๋อร์นับเป็เื่ยากที่อาจไม่มีวันเกิดขึ้น อย่าว่าแต่ตระกูลหลงเลย แม้แต่เย่เวิ่นเทียนก็ไม่อาจก้าวข้ามไปได้ เย่เฟิงส่ายหัวพยายามขจัดความคิดเื่นี้ออกไปก่อน รอวันที่เขาแข็งแกร่งมากพอ แล้วยังจะมีใครหยุดเขาได้อีก?
รถฮัมเมอร์วิ่งด้วยความเร็วสูงตลอดทาง จนกระทั่งบ่ายสามโมงพวกเขาก็อยู่ห่างจากตัวเมืองเยี่ยนจิงไม่ถึงสามสิบกิโลเมตร
เมื่อมาถึงที่นี่สีหน้าของเตาปาและจ้าวอี้เปยก็ดูเคร่งขรึมขึ้นมา นึกไม่ถึงว่าบนถนนจะมีเ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนมากตั้งด่านตรวจ ตามปกติเื่แบบนี้ก็ไม่มีอะไรน่าใ แต่ปัญหากลับอยู่ที่ผู้บังคับการสำนักรักษาความปลอดภัยสาธารณะเขตเยี่ยนจิงอย่างผู้บัญชาการโหมวเจิ้นเฉียงถึงกับอยู่ที่นี่ด้วยตัวเอง!
หากเป็แบบนี้ก็แสดงว่ามีสถานกาณ์ร้ายแรงเกิดขึ้น
เพียงเห็นชายวัยกลางคนในชุดตำรวจพร้อมอินทรธนูของผู้บัญชาการตำรวจ เย่เฟิงก็นึกถึงเหตุการณ์ขณะอยู่ภัตตาคารจิงเฉิง ชายคนนั้นพากองกำลังตำรวจมาเหมือน้าโอ้อวดอำนาจ
โหมวเจิ้นเฉียงมีความสัมพันธ์บางอย่างกับตระกูลหลง แม้หลงหว่านเอ๋อร์จะสั่งการเขาได้ แต่ก็เห็นได้ชัดว่าโหมวเจิ้นเฉียงเต็มใจฟังคำสั่งจากหลงโม่หรานมากกว่า ดังนั้นในสายตาของคนคนนี้จึงเห็นเย่เฟิงเป็ศัตรู
ตอนที่รถฮัมเมอร์ขับเข้าไปใกล้ก็ถูกโบกให้จอดตามปกติ เมื่อโหมวเจิ้นเฉียงเห็นทั้งสามคน สายตาก็แสดงออกชัดเจนว่า ‘ในที่สุดก็มาแล้ว’ จากนั้นมือใหญ่ก็โบกเป็สัญญาณให้กลุ่มตำรวจรีบพุ่งเข้ามา
............
ในเวลานั้นเองทั้งสามคนก็ถูกหยุดบนถนนทางหลวง ห่างออกไปหลายพันไมล์มีถ้ำซึ่งเป็หนึ่งในสิบถ้ำที่ขนาดใหญ่ที่สุด นั่นก็คือถ้ำหวังหวู๋ซาน ภายในถ้ำมีบุคคลหนึ่งซึ่งอยู่ในอารมณ์เดือดดาล
ยุทธจักรในปัจจุบันความแข็งแกร่งของตระกูลหลงนับว่าไม่เป็รองใคร และถ้ำหวังหวู๋ซานที่ซ่อนตัวจากโลกภายนอกและเป็หนึ่งในสิบถ้ำที่ขนาดใหญ่ที่สุดซึ่งอยู่ในของตระกูลหลง ภายในถ้ำเป็ศูนย์รวมพลังจิติญญาซึ่งเป็สถานที่ที่เหมาะแก่การฝึกของคนตระกูลหลงอีกทั้งที่นี่ยังมีประโยชน์อยู่อีกมาก
วันนี้หลงโม่หรานกำลังฉุนเฉียวมาก เดิมเขาคิดกักบริเวณหลงหว่านเอ๋อร์เป็เวลาหนึ่งปี คาดไม่ถึงว่าเธอจะแอบหนีลงเขาไปแล้ว!
ส่วนจะหนีไปที่ไหนนั้นยังต้องให้พูดอีกเหรอ? แน่นอนว่าต้องหนีไปเมืองเยี่ยนจิงเพื่อตามหาไอ้ชายสวมหน้ากากนั่น!
“หลงจื่อ หลงชิง ลงเขาไปพายัยเด็กนั่นกลับมาให้ฉัน ถ้าเธอไม่ยอมกลับมา ก็อย่าคิดว่าฉันจะเห็นเธอเป็ลูกสาวอีก!” หลงโม่หรานออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงดุดัน
“รับทราบครับนายท่าน” ชายหนุ่มสองคนยืนสงบนิ่งรับคำสั่งอย่างว่าง่าย พวกเขาอายุประมาณยี่สิบเจ็ดถึงยี่สิบแปดปี จากกลิ่นอายก็รู้ได้ว่าพวกเขาแข็งแกร่งกว่าหลีฮวาและไห่ถางจากวิหารดาบ์เสียอีก!
เมื่อเห็นคนทั้งคู่หมุนตัวจากไป หลงโม่หรานที่ยังอยู่ในอารมณ์โกรธก็รำพึงกับตัวเอง “เย่เฟิง ในที่สุดแกก็กลับมาจากูเาฉางไป๋แล้ว ฉันอยากจะรู้นักว่าไอ้คนสวมหน้ากากนั่นมีอะไรเกี่ยวข้องกับแกกันแน่...”
เขาเตรียมสายข่าวไว้ที่เมืองหลินเจียงเพื่อคอยเป็หูเป็ตาให้กับเขา เมื่อรถฮัมเมอร์มุ่งหน้าออกจากเมืองหลินเจียง สายข่าวของเขาก็รายงานให้ทราบทันที หลงจื่อและหลงชิงนอกจากต้องตามหลงหว่านเอ๋อร์กลับมาแล้ว ยังต้องตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างเย่เฟิงและชายสวมหน้ากากให้ชัดเจนอีกด้วย
หลงโม่หรานยังมีเื่สำคัญอย่างอื่นต้องจัดการ
มีข่าวลือแพร่สะพัดว่า่นี้มีหญิงสาวลึกลับที่งดงามราวเทพธิดาปรากฏตัวขึ้นที่แถบทะเลตะวันออก เธองดงามยิ่งกว่าผู้หญิงคนใดในโลกมนุษย์เสียอีก!
ั้แ่หลงโม่หรานตัดหัวสังหารภรรยาของตัวเอง ตลอดเวลายี่สิบปีที่ผ่านมาเขาก็ไม่แต่งงานใหม่อีก ไม่ใช่เพราะเขาหลงใหลในความรัก แต่เขารู้สึกว่าไม่มีผู้หญิงคนไหนบนโลกนี้คู่ควรกับเขา
แต่ข่าวลือเื่เทพธิดาที่ปรากฏตัวแถบทะเลตะวันออก หากเธองดงามจริงดั่งข่าวลือเขาอาจตัดสินใจแต่งงานอีกรอบก็ได้...
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้