“เธอ เธอ... เธอมันไร้ยางอาย!”
ติงอ้ายเจินโกรธเคืองเสียจนไร้ซึ่งคำพูดใด
โจวเฉิงหน้าตาเหล่อเหลา ประเด็นนี้เธอไม่มีทางหาเหตุผลมาหักล้างทำได้เพียงก่นด่าโจวเฉิงว่าไร้ยางอาย โจวเฉิงกลับแสดงสีหน้าเคร่งขรึม
“คุณชี้แจงสิ่งที่พูดเมื่อครู่ให้ชัดเจนใครยั่วยวนลูกชายคุณเพื่อขายของเล็กน้อยให้แก่ภัตตาคารหรือ?”
ขายปลาไหลให้ภัตตาคาร ยังต้องยั่วยวนคนจัดซื้อ?
โจวเฉิงทั้งโมโหและขบขันในคราวเดียวกัน
ั้แ่เขาได้พบหน้าเซี่ยเสี่ยวหลานครั้งแรก ก็ไม่เคยปิดบังความรู้สึกดีๆ ต่อเธอเลยและไม่เคยปกปิดสถานะทางการเงินของตนเองด้วย ทั้งเอ่ยปากอย่างตรงไปตรงมาว่าจะพาเซี่ยเสี่ยวหลานมาทำธุรกิจด้วยกันหากจะยั่วยวน ไม่ควรมายั่วยวนเขาแทนหรอกหรือ?
โจวเฉิงรู้ดีว่าอาชีพแต่ละอาชีพไม่แบ่งแยกสูงส่งต่ำต้อยลูกชายทำงานจัดซื้อให้ภัตตาคารขนาดเล็ก คนเป็มารดาก็คงเก่งกาจไปกว่านี้ไม่ได้
เขาโดนคนระดับปลายแถวเช่นนี้ชี้หน้าด่า ไม่เกิดเพลิงโทสะสิถึงจะแปลก
เซี่ยเสี่ยวหลานกลัวโจวเฉิงจะทำร้ายคน ความร้ายแรงระหว่างผู้หญิงยื้อยุดกันเองกับผู้ชายทำร้ายผู้หญิงนั้นไม่เหมือนกันเซี่ยเสี่ยวหลานคิดว่ามารดาของจูฟ่างสมควรโดน เมื่อครู่เธอจึงชิงลงมือด้วยตนเองเธอไม่มีทางปล่อยให้มารดาจูฟ่างปรามาสแล้วจากไปเฉยๆ แน่เซี่ยเสี่ยวหลานยังต้องทำธุรกิจในซางตูอยู่นะ
“ฉันส่งสินค้าให้ภัตตาคารอย่างซื่อสัตย์สุจริต คุณภาพของปลาไหลก็เห็นๆกันอยู่ คุณยังจะบอกว่านั่นเป็เพราะฉัน้ายั่วยวนลูกชายคุณให้ได้คุณพูดเช่นนี้คือการหยามเกียรติและจรรยาบรรณในอาชีพของลูกชายคุณ กล่าวหาว่าเขาละเลยหน้าที่ด้วยความสัมพันธ์ส่วนตัวไม่มีความละอายใจต่อความเชื่อมั่นขององค์กรใช่หรือไม่? ยิ่งกว่านั้นฉันไม่มีความรู้สึกระหว่างชายหญิงกับลูกชายคุณคราวก่อนคุณเตือนฉันว่าให้อยู่ห่างจากลูกชายคุณไว้หน่อย แถมบอกเป็นัยว่าสามารถจัดหางานให้ฉันได้นี่ฉันก็แก้ไขแล้ว และไม่้างานที่คุณหาให้ด้วย ตอนนี้ก็อยู่ห่างจากลูกชายคุณไกลพอแล้วทำไมคุณยังเอะอะโวยวายอีก?!”
น้ำเสียงของเซี่ยเสี่ยวหลานแสดงถึงความรังเกียจอย่างสุดซึ้ง
มีมารดาบังเกิดเกล้าเช่นไม้กวนอุจจาระ [1] ต่อให้จูฟ่างหน้าตาเหมือนโจวเฉิง เธอก็ไม่สนใจ
คบหาดูใจด้วยยังรำคาญความวุ่นวายไม่ต้องพูดถึงแต่งงานเข้าเป็ลูกสะใภ้ตระกูลจู!
ไม่รู้เหมือนกันว่ามารดาของโจวเฉิงจะเป็คนอัธยาศัยดีหรือเปล่า?
โชคดีที่เธออยู่ในซางตู ตระกูลโจวอยู่ที่ปักกิ่ง ไม่ต้องเผชิญหน้ากับสมาชิกครอบครัวของโจวเฉิงในระยะเวลาสั้นๆนี้
เซี่ยเสี่ยวหลานกลอกตาขาวใส่โจวเฉิงโจวเฉิงรู้สึกน้อยใจขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ
ติงอ้ายเจินโดนหลายประโยคของเซี่ยเสี่ยวหลานยอกย้อนจนอับอาย
เซี่ยเสี่ยวหลานกล่าวอย่างชัดเจน ว่าไม่ได้สนใจลูกชายเธอดังนั้นจึงไม่ทำธุรกิจปลาไหลแล้ว และหลีกห่างจากคนในตระกูลจูให้ไกลติงอ้ายเจินไร้หนทางจะรับไหว คุณสมบัติลูกชายเธอยอดเยี่ยมถึงเพียงนี้กลับถูกเซี่ยเสี่ยวหลานรังเกียจรังงอนเสียได้ และเธอไม่สามารถโต้แย้งคำพูดของเซี่ยเสี่ยวหลานหากยังยืนกรานบอกว่าเซี่ยเสี่ยวหลานยั่วยวนจูฟ่างผู้ทำงานอยู่ฝ่ายจัดซื้อต่อไปนั่นก็คือจูฟ่างได้ทำผิดต่อความเชื่อมั่นขององค์กรเห็นแก่พรรคพวกในขณะทำการจัดซื้อ เื่แบบนี้ทุกคนล้วนทำกันหมดทว่ายอมรับออกนอกหน้าไม่ได้!
จิ้งจอกสาวอย่างเซี่ยเสี่ยวหลานต้องชั่งน้ำหนักคุณและโทษก่อนถึงตัดสินใจเลือกอยู่แล้ว เมื่อติงอ้ายเจินอารมณ์สงบลงแล้วจึงมองโจวเฉิงคนผู้นี้ไม่เหมือนคนทั่วไปจริงๆ
เห็นติงอ้ายเจินเงียบงันเช่นนี้ คนอื่นก็มองทะลุประโปร่งสิ่งที่เซี่ยเสี่ยวหลานพูดคือความจริงทั้งหมด
หากพวกเธอประสบพบเจอเื่แบบนี้บ้างจะไม่หยุดแค่นำสิ่งของฟาดผู้หญิงคลั่งคนนี้แน่ แต่จะไม่เหลือหนทางการมีชีวิตให้เลยทีเดียว!
ติงอ้ายเจินทนการชี้โบ๊ชี้เบ๊ของฝูงชน พยายามสลัดตัวให้หลุดจากพันธนาการของโจวเฉิง
เธอไม่กล้าต่อปากต่อคำ เบียดตัวออกจากกลุ่มคนด้วยความอับอายหายวับลับตาไปอย่างรวดเร็ว
ทั้งที่ตั้งอกตั้งใจทำธุรกิจ กลับถูกมารดาของจูฟ่างก่อกวนยกใหญ่เซี่ยเสี่ยวหลานไม่สบอารมณ์เลยแม้แต่น้อย มีเพียงการหาเงินที่สามารถปลอบประโลมความหดหู่ของเธอได้เล็กน้อย
ได้มีลูกค้าหญิงหยอกล้อให้เถ้าแก่เซี่ยเห็นแก่คนที่ช่วยถกเถียงเมื่อครู่แล้วลดราคาอีกสักหน่อย
เซี่ยเสี่ยวหลานแสดงสีหน้าไม่อยากจะเชื่อออกมา
“ฉันใช้ชีวิตลำบากขนาดนี้ โชคร้ายมาถึงตัวทั้งที่อยู่เฉยๆ โดยแท้พวกคุณมีกะจิตกะใจขอให้ฉันลดราคาอีกหรือ?”
น่าอนาถจริงๆ ถ้ามีงานการมั่นคง ใครจะยินดีทำธุรกิจอิสระกันเล่าแม้ธุรกิจอิสระจะทำเงินได้ แต่ถูกคนดูแคลน ถึงหญิงคลั่งเมื่อครู่จะหน้าด้านหน้าทนก็มีคำพูดบางส่วนที่เป็ความจริงอยู่ดี พวกเธอช่วยเซี่ยเสี่ยวหลานโต้แย้งนั่นเป็เพราะว่าเซี่ยเสี่ยวหลานไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของพวกเธอหากลูกชายหรือพี่น้องในครอบครัวคบหากับเด็กสาวชนบทผู้ไม่มีอะไรเลยนอกจากหน้าตาจริงๆพวกเธอต้องลุกขึ้นมาคัดค้านอย่างแน่นอน
พวกเธอไม่อาจเรียกร้องให้เซี่ยเสี่ยวหลานลดราคาได้อีก แต่เซี่ยเสี่ยวหลานกลับยิ้มเ้าเล่ห์
“ลดราคาไม่ได้ แต่แถมถุงมือเพิ่มอีกคู่ได้”
หา?!
ปากบอกใช้ชีวิตลำบากลำบน แต่ใบหน้ากลับไม่แสดงถึงความหม่นหมองด้วยซ้ำ
เซี่ยเสี่ยวหลานใจกว้างและเถรตรง คนจึงให้คุณค่ามากกว่าการที่เธอแสร้งทำตัวน่าสงสารขอความเห็นใจเหล่าลูกค้าหญิงผู้เห็นคุณค่าเธอได้แสดงออกอย่างเต็มความสามารถโดยการพุ่งเข้าไปแย่งชิงถุงมือ
“ฉันเอาสีฟ้าคู่นั้น!”
“ฉันเห็นก่อนชัดๆ น้องสาวมาตัดสินที...”
ติงอ้ายเจินก่อความวุ่นวายใหญ่โต ทว่ากลับไม่กระทบต่อธุรกิจของเซี่ยเสี่ยวหลานแม้แต้น้อยเมื่อเสื้อผ้าของเธอขายได้ประมาณหนึ่งแล้วจึงเก็บแผง
มีลูกค้าถามเธอว่าพรุ่งนี้ตั้งแผงหรือไม่ เซี่ยเสี่ยวหลานจนปัญญา
“คุณยังซื้อไม่พอหรือ? ฉันนำเข้าสินค้าต้องใช้เวลาอย่างเร็วที่สุดก็อีกสามสี่วัน สถานที่เดิมตรงนี้แหละ รบกวนทุกท่านช่วยโฆษณามากๆลูกค้าประจำแนะนำมาฉันจะลดราคาให้แน่นอน!”
มีโจวเฉิงช่วยเหลือ เธอตั้งจึงแผงและเก็บแผงได้อย่างว่องไว
ธนบัตรชนิดต่างๆ ในกระเป๋าไม่สามารถจัดระเบียบได้ทันเซี่ยเสี่ยวหลานซื้อกระเป๋าคาดเอวใบน้อยจากหยางเฉิงหนึ่งใบสามารถคาดติดเอวได้แ่า เงินขายสินค้าของวันนี้ก็ใส่ไว้ข้างในนี้ทั้งหมด
“วันนี้เหนื่อยหน่อยนะ อยากกินอะไรไหมฉันเลี้ยงเอง ห้ามเกรงใจฉันเด็ดขาด!”
เซี่ยเสี่ยวหลานยิ้มแย้มแจ่มใส โจวเฉิงก็ยิ้มออกมาด้วยเช่นกันนิสัยและรูปลักษณ์ของเซี่ยเสี่ยวหลานมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนหน้าตาจิ้มลิ้มพริ้มพราย ทว่ากลับมีนิสัยใจกว้างตรงไปตรงมาเมื่อบอกว่าจะเลี้ยงก็เลี้ยงจริง เขาไม่เกรงใจเธอแน่
เซี่ยเสี่ยวหลานจ่ายเงินเพื่อคนข้างกายได้ ราวกับว่าทะนงตนทีเดียว
โจวเฉิงโปรดปรานความมั่นใจและทะนงตนเช่นนี้ของเธอเหลือเกิน
“คุณย่าเ้าของบ้านไม่ชอบให้เธอพาคนอื่นกลับไป เช่นนั้นพวกเรารับคุณน้าออกมาด้วยกันเถอะกินข้าวในภัตตาคารดีๆ สักมื้อ ฉันไม่ประหยัดให้เธอแน่ เธออย่าเสียดายล่ะ”
ย่าอวี๋ไม่ใช่คนอัธยาศัยดีโจวเฉิงจึงไม่เยี่ยมเยียนถึงประตูบ้านให้คนเขาเกลียด
กฎเกณฑ์เข้มงวดก็มีข้อดีของมัน โจวเฉิงเยือนถึงบ้านไม่ได้คนอย่างผู้หญิงบ้าคลั่งในวันนี้ย่อมไม่สามารถรบกวนเซี่ยเสี่ยวหลานได้ตามใจชอบเช่นกัน
โจวเฉิงนึกถึงหญิงคลั่งแล้วยังคงรู้สึกไม่สบายใจนัก “ฉันคิดว่าในใจของผู้หญิงที่โผล่มาวันนี้ยังไม่ยอมแพ้หรอก เธอตั้งแผงลอยที่เดียวเสมอไม่ช้าก็เร็วต้องเสร็จเขาแน่”
ปะทะกันผิวเผินนั้นไม่กลัวเซี่ยเสี่ยวหลานไม่ใช่พวกอ่อนด้อยรังแกได้ง่ายดายอยู่แล้ว
หากคิดบัญชีลับหลังเล่า?
อีกฝ่ายเป็คนในพื้นที่ซางตู ดูท่าทางพอมีอิทธิพลบ้างมัจจุราชไม่น่าเกรงกลัวแต่ปีศาจรับใช้ต่อกรยาก [2]โจวเฉิงไม่ไว้วางใจ เขาทราบดีว่าเซี่ยเสี่ยวหลานเป็หญิงสาวที่ฉลาดเฉลียวคนหนึ่งเธอจัดการความไม่เบิกบานต่างๆ นานาในชีวิตได้ทว่าอารมณ์กำลังเข้าครอบงำดุลยพินิจของเขา
เซี่ยเสี่ยวหลานหรี่ตาครุ่นคิด มารดาจูฟ่างพูดจาได้ระคายหูยิ่งนักเดิมทีเธอไม่อยากทำจูฟ่างกระอักกระอ่วน นอกจากชอบเธอแล้วจูฟ่างก็ไม่ได้ทำความผิดอะไรเสียหน่อย
แต่ใครใช้ให้เขามีมารดาผู้คิดว่าตนถูกเสมอแถมยังปากคอเราะร้ายกันเล่า เขาจึงพลอยติดร่างแหกับมารดาไปด้วยอย่างเลี่ยงไม่ได้
โจวเฉิงเชื่อคำสบประมาทของมารดาจูฟ่างหรือไม่ เซี่ยเสี่ยวหลานไม่แม้แต่จะคิดถาม
ถ้าเื่แบบนี้ยังต้องอธิบายคนรักของเธอคนนี้ก็คบกันอย่างน่าเบื่อเกินไปแล้ว
“เื่ที่ทะเลาะกับผู้หญิงคนนั้น เธอไม่ต้องใส่ใจไป ถ้าฉันจัดการไม่ได้ค่อยขอให้เธอช่วยเหลือ”
เซี่ยเสี่ยวหลานกล่าวอย่างสง่าผ่าเผยโจวเฉิงก็รู้สึกว่าตนเองฟาดงวงฟาดงากับสตรีวัยกลางคนคนเดียวนั้นน่าขายหน้าเหลือเกินแน่นอน หากภรรยาของเขามีการรับสั่ง ขายหน้าก็เป็อีกเื่หนึ่งเกียรติจะสำคัญกว่าคนของเขาได้อย่างไร!
โจวเฉิงไม่ติดใจเื่นี้ เพราะเมื่อครู่หญิงคลั่งคนนั้นไม่ได้ประโยชน์ใดอะไรเลย
นอกจากนั้นยังถูกเซี่ยเสี่ยวหลานฟาดเข้าแสกหน้าหนึ่งยก ทั้งยังโดนตำหนิจนไม่กล้าสู้หน้าใครพ่ายแพ้กระเจิดกระเจิงเลยทีเดียว
หากวันนี้เซี่ยเสี่ยวหลานเสียเปรียบ เกรงว่าโจวเฉิงคงบ้าคลั่งแทนแน่นอน
เป้าหมายที่เขาบ้าคลั่งใส่คราวก่อนคือจางเสเพล ซึ่งถูกตัดสินจำคุกถึง 20 ปี คนที่สามารถทำธุรกิจค้าบุหรี่เก็งกำไรกับคังเหว่ยได้นั้นย่อมมิใช่พระผู้เป็เ้าสุดแสนเอื้อเฟื้อ หากด่าทอโจวเฉิงสักสองสามประโยคยังถือว่าเป็เพียงสุนัขบ้าเห่าหอนซี้ซั้วแต่ว่าหากทำร้ายเซี่ยเสี่ยวหลานย่อมไม่ได้
ทาสรักภรรยาทั่วหล้าเมื่อไร้เหตุผลล้วนมีพฤติกรรมเดียวกัน!
เชิงอรรถ
[1]搅屎棍 ไม้กวนอุจจาระ เดิมหมายถึงไม้ที่ใช้กวนของเสียให้เข้ากันแล้วนำไปรดผลผลิตทางการเกษตรแทนปุ๋ย ต่อมามีความหมายว่า คนที่ชอบก่อเื่ ยุแยงให้เกิดความวุ่นวาย
[2]阎王好过小鬼难缠 มัจจุราชไม่น่าเกรงกลัวแต่ปีศาจรับใช้ต่อกรยาก มีที่มาจากปีศาจรับใช้ของพญายมราชในนรกแม้ไม่ใช่พญายมราชที่มีอำนาจที่สุด แต่ก็ไม่ใช่ผู้ที่จะรับมือได้ง่ายๆเปรียบเปรยถึง คนที่ต่อหน้าว่าง่าย แต่ลับหลังแอบมีอุบายเล่นงาน
