“พอได้แล้วน่ะ อีกฝั่งเป็ถึงท่านหานอ๋องผู้สูงส่ง เราก็เป็แค่สามัญชนธรรมดา สถานะต้องคู่ควรกัน เื่นี้เ้ารู้หรือไม่” อวิ๋นซีมองดูซือถูเวยที่กังวลเกี่ยวกับเื่ใหญ่ในชีวิตแทนนาง ก็อดไม่ได้ที่จะพูดจาเ็าดับฝันซะ
พวกราชวงศ์ ก็เป็เพียงแค่ศัตรูของนางเท่านั้น
นางไปกับซือถูเวยเพื่อซื้อรูปปั้นหยกสลักให้ท่านปู่ซือถู จากนั้นก็เดินเล่นอยู่ข้างนอกสักพัก กินอะไรนิดหน่อยแล้วถึงค่อยแยกย้ายกันกลับเรือนของตนเองไป เมื่ออวิ๋นซีกลับมาถึงสำนักแพทย์ คนที่ลู่เหวินเจินส่งมาก็มาถึงแล้ว
ดูเหมือนว่า คนของลู่เหวินเจินกำลังมีปากเสียงกับบิดาของนางอยู่ เมื่อเห็นบิดาที่เคยสุภาพอ่อนโยนของนางโกรธจนหน้าดำหน้าแดง สีหน้าของอวิ๋นซีก็เปลี่ยนไปในทันที นางรีบสับเท้าเข้าไปในสำนักแพทย์ พอดีกับที่ชายวัยกลางคนผู้หนึ่งพูดออกมาอย่างอวดดีว่า “อย่าคิดว่านังแม่หญิงป่าเถื่อนจากสกุลเ้ามีท่านหานอ๋องเข้าข้างแล้วจะเก่งกล้าสามารถนะ ตระกูลพวกเ้ามันจะสักแค่ไหน? ก็แค่พวกขายยา ท่านหานอ๋องเป็ถึงโอรสของฝ่าา ไม่ใช่ผู้ที่คนชั้นต่ำอย่างพวกเ้าจะตีสนิทได้”
“หมาบ้าที่ไหนมาะโโหวกเหวกโวยวายที่นี่กัน” อวิ๋นซีก้าวไปข้างหน้า และมองชายวัยกลางคนอย่างเ็า ก่อนที่นางจะยกขาขึ้นมาถีบชายคนนั้นออกไปโดยไม่คิดทันที เ้าของร่างเดิมแรงดีใช่ย่อย การถีบครั้งนี้โดนจุดกลางท้องที่ได้รับาเ็ได้ง่ายที่สุด ดังนั้นชายวัยกลางคนผู้นี้จึงล้มลงกับพื้นและเปล่งเสียงโอดครวญด้วยความเ็ปทันที
เมื่ออวิ๋นซานเห็นดังนั้นก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะถอนหายใจ “อาซี เ้าอย่าเป็คนป่าเถื่อนเช่นนี้ ไม่มีความอ่อนโยนและความสง่างามที่หญิงสาวพึงมีเลยแม้แต่นิด” อวิ๋นซานห้ามบุตรสาวของตนไม่ให้บ้าคลั่งไปมากกว่านี้ ั์ตาแฝงคำห้ามปรามที่มองไม่ชัดอยู่
อวิ๋นซีงุนงงเล็กน้อยว่าเหตุใดทำเพื่อบิดาแล้วจึงได้รับสายตาเช่นนั้นกลับมา นางตบมือของบิดาเบาๆ ก่อนจะเอ่ยเสียงเบาว่า “ท่านพ่อ ใช้ความรุนแรงจัดการกับหมาบ้าเช่นนี้เป็เื่ถูกแล้ว ท่านพ่อคุยกับคนเช่นนี้ด้วยเหตุผลไปก็เปล่าประโยชน์!”
อวิ๋นซานไม่ใช่คนที่ซับซ้อน นี่คือความคิดเดียวของนาง ณ เวลานี้ เพียงแต่ก่อนที่นางจะได้รู้ที่มาที่ไปอย่างละเอียดจากอวิ๋นซาน นางก็ทำได้เพียงแต่รอจังหวะบุกโจมตี หรืออีกอย่างก็คือ ไม่ว่าเขาจะทำอะไรก็เพื่อให้เกิดผลดีกับตนเองทั้งนั้น
“อาซี” อวิ๋นซานอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่อวิ๋นซีกลับหยุดเอาไว้ก่อน “ท่านพ่อ เื่พวกนี้ปล่อยให้ข้าจัดการเอง”
หลังจากพูดจบ นางก็ก้าวไปข้างหน้าและกวาดตามองนายทหารจากทางการเหล่านี้อย่างเ็า “พวกเ้าใช่คนที่นายอำเภอลู่ส่งมาหรือเปล่า?”
นายทหารเ่าั้พยักหน้า ก่อนจะพูดวางมาดใหญ่โตว่า “ใช่ พวกข้าถูกท่านนายอำเภอส่งมา” ก่อนที่พวกเขาจะมาถึง ก็รับรู้แล้วว่าแม่นางน่ารังเกียจผู้นี้ล่วงเกินท่านนายอำเภอ อีกทั้งยังทำร้ายคุณหนูอีก ดังนั้นเพื่อนพวกเขาและพวกพ้องทั้งหลายจึงตั้งใจจะสั่งสอนแม่นางนี่สักหน่อย ให้นางรู้ว่าอะไรคือที่ต่ำที่สูง
อวิ๋นซีเห็นว่ามองออกว่าคนเหล่านี้วางแผนอะไรอยู่ในใจ นางจึงแค่นเสียงเย็นว่า “ท่านนายอำเภอของพวกเ้าให้พวกเ้าส่งเงินหนึ่งหมื่นตำลึงมาให้ หรือส่งพวกเ้ามาอาละวาดที่นี่กันแน่? พวกเ้าพูดมาให้กระจ่าง ข้าจะได้คำนวณดูว่าจะต้อนรับพวกท่านๆ ทั้งหลายอย่างไรดี”
ดวงตาของนางเฉียบแหลม ราวกับดวงตาของเหยี่ยวไห่ตงชิง[1]บนเขาชางโม่ในแถบตะวันตกเฉียงเหนือ ทำให้ผู้มองดูรู้สึกหนาวสั่น เหล่านายทหารทางการมือเปื้อนเืเหล่านี้อดไม่ได้ที่จะรู้สึกขลาดกลัวขึ้นมา เพียงแต่ไม่นานพวกเขาก็นึกขึ้นมาได้ว่าที่นี่คือหานโจว ไม่ใช่ชายแดนตะวันตกเฉียงเหนือ ไม่ต้องเผชิญหน้ากับพวกชาวหู[2]ที่โเี้ป่าเถื่อน ผู้ที่อยู่ตรงหน้าก็เป็เพียงแค่แม่นางร่างเล็กคนหนึ่งเท่านั้น
“แล้วถ้าพวกข้ามาอาละวาดแล้วจะทำไม? สภาพอย่างเ้าก็ยังกล้าที่จะขอเงินหมื่นตำลึงจากท่านนายอำเภอของพวกเรา ช่างน่าขันเสียจริง” หัวหน้านายทหารลุกขึ้นพูดอย่างขุ่นเคืองว่า “เ้าทำร้ายคุณหนูของพวกเรา แล้วตอนนี้ก็ยังกล้าที่จะขอเงินอีก เห็นกันอยู่ชัดๆ ว่าเ้าจงใจหาเื่ใส่ตัว”
เมื่อเป็เช่นนี้ อวิ๋นซีก็หัวเราะ “ดูเหมือนว่าพวกเ้าจะไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาโดยแท้ เงินหนึ่งหมื่นตำลึงนี้ท่านนายอำเภอกล่าวต่อหน้าท่านหานอ๋องเองเลยว่าจะมอบให้ข้า ตอนนี้กลับจะบิดพลิ้วกันได้ ดีเสียจริง ถ้าอย่างนั้นพวกเ้าอย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจก็แล้วกัน”
หลังจากพูดจบ นางก็พูดกับเตี๋ยชุ่ยว่า “ยังไม่รีบไปปล่อยต้าเฮยออกมาอีก”
เดิมเตี๋ยชุ่ยกังวลว่าคุณหนูจะรับมืออย่างไรดี แต่ก็ไม่คิดว่านางจะให้ปล่อยต้าเฮยออกมา จึงหัวเราะฮี่ๆ “เ้าค่ะ ข้าจะไปเดี๋ยวนี้”
เมื่อผู้คนโดยรอบหลายคนได้ยินชื่อ “ต้าเฮย” สองพยางค์นี้ ก็พลันแยกย้ายหายวับไปในทันที นายทหารจากทางการเ่าั้ยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เห็นอวิ๋นซีลากอวิ๋นซานเดินไปอีกด้าน แล้วมองดูพวกเขาอย่างนึกสนุก ท่าทางเช่นนั้น ราวกับนักล่าที่เห็นเหยื่อที่ตรงใจและกำลังหาโอกาสที่จะล่าให้ได้อยู่
“อย่ามาหลอกกันซะให้ยาก” หลังจากพูดจบ หนึ่งในนายทหารทางการก็กำลังจะไปเริ่มทำลายข้าวของในร้านขายยา
และทันใดนั้นเอง เงาร่างสีดำก็พลันพุ่งตัวออกมาในทันที ทุกคนยังไม่ทันขวัญหายกระเจิงก็ได้ยินเสียงกรีดร้องอันน่าสลดของนายทหารผู้นั้นแล้ว และเมื่อทุกคนได้มอง ก็เห็นสุนัขสีดำตัวใหญ่กำลังกัดนายทหารผู้นั้นอย่างดุร้ายไม่ปล่อย
อวิ๋นซีมองดูคนเหล่านี้ จากนั้นก็มองไปยังต้าเฮยซึ่งกำลังดึงลากตัวคนผู้นั้นอย่างบ้าคลั่ง นางเอ่ยเรียบๆ ว่า “ต้าเฮย พวกนี้แล้วก็พวกนี้น่ะรีบๆ ไล่ออกไปให้พ้นหน้าข้าที เห็นแล้วรำคาญใจนัก”
หลังจากที่ต้าเฮยได้ยิน ก็เห่าออกมาหลายทีก่อน จากนั้นก็ค่อยๆ มุ่งเล็งไปทางคนอื่นที่เหลือ นายทหารเ่าั้เพิ่งเคยเห็นสุนัขตัวสูงใหญ่เช่นนี้เป็ครั้งแรก ชั่วขณะหนึ่งก็ใกลัวจนหนีกระเจิงคนละทิศละทาง ในไม่ช้า ที่แห่งนี้ก็เหลือเพียงคนไม่กี่คนที่โดนต้าเฮยกัดจนาเ็และชายวัยกลางคนที่โดนนางถีบ
อวิ๋นซีเดาสถานะของชายวัยกลางผู้นี้ออกแล้ว เขาเป็พ่อบ้านของลู่เหวินเจิน นางเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้มพลางนั่งยองๆ ลงไปข้างหน้าพ่อบ้าน และพูดเรียบๆ ว่า “ได้ยินมาว่าจวนท่านนายอำเภอลู่มีพ่อบ้านผู้รู้วิธีคำนวณ เห็นทีว่าคงเป็เ้าเสียแล้วล่ะ”
เมื่อพ่อบ้านได้ยินก็มองไปยังอวิ๋นซี ตอนนี้เขาต้องเผชิญหน้ากับอวิ๋นซีอย่างตรงไปตรงมาแล้ว หากเขาไม่รู้ที่มาที่ไปจริงๆ และรู้ว่านางเป็บุตรสาวของอวิ๋นซานละก็ เขาก็จะคิดว่านางเป็ตัวปลอมอย่างแน่นอน อวิ๋นซานนับว่าเป็หมอที่มีชื่อเสียงในหานโจว และหลายๆ คนก็รู้จักบุตรสาวของเขา นางเป็หญิงผู้อ่อนโยน แต่เมื่อได้เจอในวันนี้แล้ว ข่าวลือก็เชื่อถือไมได้อีกต่อไปแล้ว
พิสูจน์ได้แล้วว่าหญิงผู้นี้ช่างมีจิตใจที่อำมหิตมากกว่าเ้าต้าเฮยตัวนั้นเสียอีก “ใช่ ข้าเป็พ่อบ้านของจวนสกุลลู่เอง ข้าไม่เชื่อหรอกว่าเ้าจะกล้าลงไม้ลงมือกับข้า” เ้านายของเขาเป็ถึงนายอำเภอของหานโจว นอกจากจะเจอกับหานอ๋องและคนข้างกายของท่านแล้ว เขาก็ไม่เกรงกลัวใครหน้าไหนในหานโจวอีก
“ก็ไม่ใช่แค่หมาตัวหนึ่งที่ลู่เหวินเจินเลี้ยงไว้งั้นๆ หรอกหรือ” อวิ๋นซีเอ่ยอย่างเ็า “ก่อนที่จะออกมา เ้านายของเ้าไม่ได้บอกเ้าก่อนหรือว่าตั๋วเงินหมื่นตำลึงนั่นที่เ้าซ่อนเอาไว้น่ะจะต้องนำไปซื้อของมอบให้แก่หานอ๋อง?”
หลังจากได้ฟัง สีหน้าของพ่อบ้านก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย เ้านายของตนไม่ได้บอกเื่นี้จริงๆ เพียงแค่บอกว่าหากไม่ต้องมอบหนึ่งหมื่นตำลึงนี้ได้ก็จะเป็การดีที่สุด ดังนั้นเขาถึงได้คิดวิธีที่จะทำให้คนของบ้านสกุลอวิ๋นรู้สึกยุ่งยากจนต้องถอดใจซะ
“ดูเหมือนว่าเ้านายของพวกเ้าเองก็ไม่ได้เห็นค่าเ้ามากขนาดนั้นสินะ เื่ที่สำคัญเช่นนี้ก็ไม่กำชับเ้าให้ดี หรือว่าตั้งใจจะใช้ประโยชน์จากเงื้อมมือของท่านหานอ๋องเขี่ยเ้าออกกันแน่ล่ะ โอ๊ะ หรือเ้าไปร่วมหลับนอนกับหญิงสักคนของเ้านายเ้าใช่ไหม?” นางมองพ่อบ้านด้วยความสงสัย และถามด้วยเสียงเบาว่า “ดังนั้น เ้านายของเ้าก็เลยรอที่จะกำจัดเ้าทิ้งไม่ไหวเลยอย่างไรล่ะ”
ยิ่งพ่อบ้านได้ฟัง สีหน้าก็ยิ่งยากที่จะมองขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะเมื่อได้ยินอวิ๋นซีกล่าวว่า ‘ร่วมหลับนอนกับหญิงสักคนของเ้านายเ้า’ แค่คำพูดเหล่านี้ หัวใจของเขาก็กระตุกอย่างแรงในทันที
เมื่อเห็นเขาเป็เช่นนี้ อวิ๋นซีก็รู้ว่าตนเองดันพูดถูกเสียแล้ว เหอะๆ คิดไม่ถึงเลยว่าลู่เหวินเจินจะถูกพ่อบ้านที่ตนเองให้ความสำคัญลักลอบเล่นชู้ลับหลังเสียได้
***********************
[1] เหยี่ยวไห่ตงชิง หรือเรียกว่า ไจร์ฟัลคอนแดง (Gyrfalcon) เป็นกเหยี่ยวล่าสัตว์ ดวงตาแหลมคม มีกล้ามเนื้ออันทรงพลัง
[2] ชาวหู เป็คำที่คนจีนชาวฮั่นใช้เรียกชาวชนเผ่าเร่ร่อน ล่าสัตว์ที่อยู่นอกด่านซึ่งต้องสู้รบด้วยบ่อยครั้งในสมัยโบราณ โดยมองว่าเป็พวกไร้อารยธรรม
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้