เกือบชั่วโมงแล้วที่หยางเฉินและโม่เชี่ยนนีออกจากมาบริษัทรับเหมาก่อสร้างจงหนาน
เมื่อหยางเฉินออกจากห้องพักมาเขาก็ถือกระดาษบางอย่างติดมือมาด้วยและไม่พูดไม่จาอีกเลยนั่นทำให้โม่เชี่ยนนีขุ่นเคืองใจเป็อย่างมาก
ย้อนกลับมาภายในรถหยางเฉินยังคงเงียบขรึม จนในที่สุดโม่เชี่ยนนีก็ไม่สามารถอดทนได้อีกต่อไป
"นั่นอะไรน่ะ?"
"เห็นได้ชัดว่าคุณอยากถามผมมาโดยตลอดแต่เมื่อเห็นว่าผมไม่มีทีท่าจะบอกคุณ คุณก็รอจนกระทั่งทนไม่ไหวถึงเอ่ยปากถามนี่คือสิ่งที่เค้าเรียกกันว่าปากไม่ตรงกับใจอย่างนั้นหรือ"
เมื่อหยางเฉินถามจี้เข้าตรงจุดของโม่เชี่ยนนีใบหน้าของเธอก็เปลี่ยนเป็ขึ้นสี จากนั้นรีบคว้ากระดาษแผ่นนั้นจากหยางเฉินทันที
หลังจากได้กระดาษแผ่นนั้นมาอ่านดวงตาของโม่เชี่ยนนีพลันเบิกกว้าง เธอมองหยางเฉินด้วยสีหน้าแปลกๆจากนั้นกล่าวขึ้นว่า
"ฉันรู้สึกเห็นใจพวกนั้นขึ้นทันใดต้องโดนข่มขู่เช่นไรพวกเขาถึงยอมเขียนอะไรที่เลวร้ายคล้ายฆ่าตัวตายแบบนี้..."
กระดาษที่อยู่ในมือหยางเฉินมีรายละเอียดคำสารภาพทั้งหมดไม่ว่าจะเป็การก่ออาชญากรรม การพนัน การวิวาทบีบบังคับ และการฉ้อโกงไม่สำคัญว่าสิ่งที่เขียนจะเป็จริงหรือเท็จแต่กระดาษแผ่นนี้มีลายเซ็นของพวกเขากำกับไว้ รวมถึงการประทับตราด้วยเื...
เมื่อมอบกระดาษแผ่นนี้ให้ตำรวจแน่นอนว่าสามารถทำให้พวกมันเข้าคุกเป็เวลาอย่างน้อย 2-3ปี และเสียค่าปรับอีกมหาศาล
หยางเฉินชี้ไปเอกสารพลางกล่าวว่า
"มันคือใบรับรองว่าเป็ลูกหนี้จากต้าจุนถ้าคุณจำเป็ต้องใช้เงินคุณสามารถเรียกเงินจากต้าจุนหรือพี่เขยของมันได้ถึงหนึ่งแสนหยวนแต่ถ้าคุณรู้สึกี้เีเกินไปที่จะลงโทษพวกมัน คุณก็แค่โยนมันทิ้งไป"
แต่เดิมเธอเป็ลูกหนี้แต่ตอนนี้เธอกลายเป็เ้าหนี้เสียแล้ว!
"นายไม่ได้ใช้กำลังบังคับพวกนั้นเหมือนในหนังใช่ไหม?"โม่เชี่ยนนีเอ่ยถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ ฉากนองเืและน่ากลัวโผล่ขึ้นมาในจิตใจทำให้เธอรู้สึกหวั่นไหว
หยางเฉินส่ายหัวด้วยใบหน้าจริงจัง
"ผมดูเป็คนแบบนั้นหรือยังไง?สิ่งที่ผมทำก็แค่พูดคุยกับพวกเขาถึงเื่ชีวิตในภายภาคหน้า"
"ชีวิตในภายภาคหน้า?"
"ใช่ผมแค่ถามพวกเขาไปว่า ยังอยากจะมีคนสืบสกุลต่อหรืออยากจะจบมันตรงนี้..."
"..."
โม่เชี่ยนนีเก็บกระดาษแผ่นนั้นในช่องเก็บของในรถเธอถอนหายใจและกล่าวด้วยเสียงที่ชัดเจน
"ถึงแม้ว่าฉันจะไม่รู้ว่านายทำได้อย่างไรแต่ยังไงฉันก็ต้องขอบคุณนายอีกครั้ง"
"คนพวกนั้น้าทำร้ายผมดังนั้นจึงไม่ใช่เพราะคุณ" หยางเฉินลังเลเล็กน้อยก่อนพูดขึ้นว่า "ผมทำพ่อเลี้ยงของคุณาเ็นั่นไม่เป็ปัญหาอะไรใช่ไหม"
"ไม่มีปัญหาฉันเช่าบ้านใกล้ๆ ที่นั่นให้เขาอยู่ สักพักเขาก็กลับไปบ้านเอง"โม่เชี่ยนนีขมวดคิ้วเต็มไปด้วยความเศร้าโศกโดยจากการกระทำของจางฟู่กุ้ย เธอถอนหายใจลึกแล้วกล่าวว่า "ฉันไม่้าได้ยินชื่อของคนนั้นอีกหยางเฉินมากับฉันได้ไหม ฉัน้าขอบคุณนาย"
"คุณจะพาผมไปทานอาหารแผงลอยริมถนนอีกครั้งนั้นหรือ?"หยางเฉินเบ้ปาก"อาหารที่นั่นเผ็ดจนปากของผมพองไปหมดแล้ว"
โม่เชี่ยนนีอารมณ์ดีขึ้นอย่างถนัดตาท่าทางของเธอกลับมามีความเชื่อมั่นที่เต็มเปี่ยมอีกครั้งเธอมองที่หยางเฉินด้วยรอยยิ้มกว้าง
"นายลืมเื่กินไปก่อนที่ที่ฉันจะพาไปรับรองนายต้องชอบแน่ๆ"
หยางเฉินเริ่มคิดอีกแล้วว่าทุกครั้งที่เขาไปกับโม่เชี่ยนนีมักจะเป็สถานที่แปลกๆ เสมอ
ครึ่งชั่วโมงต่อมาโม่เชี่ยนนีก็นำหยางเฉินไปยังพื้นที่ชายฝั่งทะเลในภาคตะวันออกของเมืองจงไห่และเข้าไปในสถานที่ที่คล้ายกับสวนป่าเธอขับรถไปตามถนนสองทางเต็มไปด้วยต้นไม้เขียวขจี รถออดี้สีแดงไหลไปตามทางอย่างช้าๆ
ภายในป่านั้นเต็มไปด้วยสภาพแวดล้อมที่อุดมไปด้วยต้นไม้เขียวขจีและความเงียบสงบ ทิวทัศน์ูเาที่มีลายเส้นสีเหลืองของฤดูใบไม้ร่วง ที่ค่อยๆกล้ำกรายเข้ามา บางครั้งมีนกบินท่ามกลางหมู่ไม้ ใบไม้ปลิดปลิวไสวกระจัดกระจายเมื่อรถแล่นผ่าน
ผ่านไปสิบนาทีหยางเฉินก็เห็นศูนย์กีฬาครบวงจรขนาดใหญ่ มันมีสนามแข่งกีฬาต่างๆแม้กระทั่งสนามแข่งรถ
"ที่ที่คุณบอกว่าผมต้องชอบแน่ๆคือศูนย์กีฬางั้นหรือ?" หยางเฉินถามด้วยใบหน้าขมขื่น
โม่เชี่ยนนีพยักหน้า
"เมื่อไรที่ฉันอารมณ์ไม่ดีฉันมักจะมาที่นี่เพื่อออกกำลังกายจนเหงื่อออกจากรูขุมขนเมื่อนั้นทุกอย่างที่เกิดขึ้นแล้วล้วนไม่มีค่าอันใดอีกต่อไป"
"แต่ผมไม่ชอบออกกำลังกาย"
"นายต่อสู้เก่งจะไม่ชอบออกกำลังกายได้ยังไง?" โม่เชี่ยนนีถามอย่างไม่เข้าใจ
แค่รู้ศิลปะการต่อสู้ก็กลายเป็คนชอบเล่นกีฬาไปในทันที? หยางเฉินคิดในใจ
"ผมเป็คนที่ี้เีแม้แต่เล่นเกมก็เถอะ ผมไม่เล่นอะไรอย่างพวกกีฬาหรอก"
"งั้นนายก็นั่งอยู่ข้างสนามมองสาวๆไปก็แล้วกัน ฉันรู้ว่านายชอบมัน"
"มีสาวสวยมากมายที่นั่นงั้นหรือ?"หยางเฉินเปลี่ยนเป็ตื่นเต้นเล็กน้อย
โม่เชี่ยนนีมองหยางเฉินด้วยความรังเกียจ
"ฮึ่ม...นายแต่งงานแล้วแท้ๆ ยังกลัดมันอีก ที่เมเปิ้ลฟอเรสฟิตเนสเป็ศูนย์สันทนาการที่เปิดมากว่ายี่สิบปีแล้ว หญิงสาวนักธุรกิจระดับสูงและลูกสาวคนรวยมากมายต่างมาออกกำลังกายกันที่นี่ แทนที่จะเรียกมันว่าศูนย์กีฬานายควรจะเรียกมันว่าคันทรีคลับชั้นยอด เรียกได้ว่ามันเป็สรวง์ของพวกผู้ชายก็ว่าได้"
"ฉันไม่ใช่คนปากแข็งแต่เพื่อสุขภาพที่ดีของคุณโม่แล้ว ผมว่าเรารีบไปที่นั่นกันดีกว่า"หยางเฉินพูดขึ้นด้วยท่าทีจริงจัง
เช่นเดียวกับที่โม่เชี่ยนนีพูดทันทีที่เข้ามาข้างในก็พบกับหญิงสาวในชุดออกกำลังกายขาสั้นเผยให้เห็นต้นขาขาวงดงาม เรียกได้ว่าเป็บรรยากาศที่สามารถทำให้ชายทุกคนชุ่มชื่นหัวใจ
เนื่องจากการออกกำลังกายกลิ่นกายของสาวๆ จึงผสมปนเปกับกลิ่นของน้ำหอม จนกลายเป็กลิ่นหอมที่สุดจะบรรยายตราบเท่าที่พวกเธอเดินผ่านกลิ่นรัญจวนนั่นก็จะซึมเข้าไปในจมูกทันที
โม่เชี่ยนนีหันมองหยางเฉินที่กำลังใช้สายตาอกุศลไปยังเหล่าสาวๆแบบไม่มีปิดบัง นั่นทำให้เธออดที่จะกล่าวเตือนไม่ได้
"นี่แม้ว่าคุณ้าจะส่องสาว แต่นายก็ห้ามทำอย่างโจ่งแจ้งเป็อันขาด ถ้าแฟนของสาวๆเ่าั้มาเห็นเข้า มันจะเกิดปัญหาได้"
"ปัญหาอะไรงั้นหรือ?"หยางเฉินยิ้มแย้ม "ในกรณีที่เลวร้ายที่สุดผมก็แค่ปฏิเสธไปว่าไม่ได้มอง แค่นั้นเอง"
โม่เชี่ยนนีเหลือบมองไปทางอื่นเธอไม่ใส่ใจกับความหน้าด้านของหยางเฉินอีก
ที่นี่ถูกสร้างขึ้นจากแก้วโปร่งใสการออกแบบของมันทั้งหรูทั้งทันสมัย มีทั้งพืชพรรณและบอนไซทั้งยังให้ความรู้สึกกว้างขวางและเต็มไปด้วยอากาศบริสุทธิ์
พนักงานทุกคนที่นี่ล้วนสวยหล่อทุกคนจะมีรอยยิ้มประดับอยู่บนใบหน้าเสมอ และสวมเสื้อยืดรูปใบเมเปิ้ลซึ่งเป็โลโก้ของศูนย์ออกกำลังกายแห่งนี้
พวกเขาเดินเข้าไปในล็อบบี้หญิงสาวนางหนึ่งซึ่งเป็พนักงานต้อนรับก็ส่งยิ้มหวานเป็การทักทาย โม่เชี่ยนนีนำบัตรสีแดงออกมาแล้วชี้ไปที่หยางเฉิน
"คนนี้คือผู้ติดตามของฉันเองค่ะเราสามารถเข้าไปด้วยกันได้มั้ยคะ?"
"บัตรของคุณผู้หญิงเป็บัตรวีไอพีคุณมีสิทธิที่จะนำเพื่อนเข้าไปได้หนึ่งคนค่ะ"
หยางเฉินลูบจมูกเดินตามโม่เชี่ยนนีไปพลางกล่าวว่า
"ทำไมผมถึงรู้สึกเหมือนเป็เด็กเลี้ยงของแม่ยกเลย?"
"อะไรกันหน้าของนายไม่ได้ขาวซะหน่อย" โม่เชี่ยนนีกล่าวล้อเลียน
หยางเฉินรู้สึกผิดหวังอยู่ในใจหญิงสาวคนนี้ซุกซนเกินไป ไม่ทันไรก็ลืมเสียแล้วว่าเขาเป็ผู้มีพระคุณ
"คุณโม่คะไม่เจอกันนานนะคะ" เสียงอันคุ้นเคยดังขึ้นจากทางด้านข้าง
โม่เชี่ยนนีหันกลับมาพร้อมรอยยิ้มอย่างเป็ธรรมชาติตามแบบฉบับสาวประชาสัมพันธ์
เมื่อหยางเฉินหันมาเขาก็ต้องสะดุ้งทำไมถึงเป็เธอ?
ถังหว่านสวมเครื่องแต่งกายสบายๆเธอพบว่าคนที่เข้ามาเป็หยางเฉิน เมื่อเห็นหยางเฉินแสดงท่าทีใเธอก็ยิ้มแย้มอย่างสนุกสนานและเอ่ยทักทายเขาเช่นกัน
"คุณหยางพบกันอีกแล้วนะคะ"
หยางเฉินสังเกตท่าทาง''รู้แจ้ง''จากถังหว่าน นั่นทำให้เขารู้สึกอึดอัดเล็กน้อยเขารู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่
ในครั้งแรกที่พวกเขาพบกันคือตอนที่หยางเฉินกำลังมองหาหญิงสาวที่สามารถตอบสนองความ้าของเขาได้แต่เธอก็ปฏิเสธเขาไปในคืนนั้น ครั้งที่สอง คือต่อหน้าหญิงสาวสดใสไร้เดียงสาอย่างคุณครูหลี่จิงจิงแต่เพียงไม่กี่วันเขาก็มาปรากฏตัวอยู่ข้างๆ สาวมั่นผู้เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์อย่างโม่เชี่ยนนี
อย่าว่าแต่หญิงสาวที่ดูฉลาดอย่างถังหว่านเลยหญิงสาวคนอื่นๆ ถ้าเห็นเช่นนี้ก็คงคิดไปในทางเดียวกัน
"คุณถังรู้จักกับหยางเฉินเหรอคะ?" โม่เชี่ยนนีมีความอยากรู้อยากเห็นในดวงตาขึ้นทันทีเธอนึกไม่ถึงว่าหยางเฉินถึงกับรู้จักหญิงสาวผู้มีตำแหน่งพิเศษในสังคมชั้นสูงของเมืองจงไห่
ถังหว่านหัวเราะเบาๆเอ่ยเสียงนุ่มว่า
"เราพบกันสองครั้งโดยบังเอิญน่ะค่ะครั้งนี้เป็ครั้งที่สาม ดูเหมือนฉันกับคุณหยางจะมีชะตาต้องกันนะคะ"
"อะแฮ่มอะแฮ่ม..." หยางเฉินยิ้มอย่างเชื่องช้าพลางกล่าวว่า "มันเป็เื่บังเอิญแน่นอนครับชะตาของเราโคจรมาเจอกันตลอด แม้แต่ในสถานที่เช่นนี้"
โม่เชี่ยนนีไม่อาจทำอย่างไรได้เธอเผยรอยยิ้มเยาะเย้ยพลางกล่าวว่า
"บอสถังเป็เ้าของที่นี่มันจะบังเอิญได้อย่างไร?"
หยางเฉินพูดไม่ออกไปในทันทีไม่แปลกใจที่หญิงสาวผู้ขับรถแลนด์โรเวอร์รุ่นลิมิเต็ด จะไม่ใช่คนสามัญธรรมดา
"ผมโง่เองงั้นหรือเนี่ย..."
สองสาวได้ยินดังนั้นก็หัวเราะออกมาเสียงดังทำให้บรรยากาศดูผ่อนคลาย น่ารื่นรมย์มากยิ่งขึ้น
ถังหว่านดูเหมือนจะมีความคิดอะไรบางอย่างเธอกะพริบตาถามอย่างสุภาพว่า
"งั้นคุณสองคนจะเล่นอะไรกันเหรอคะยิม? ว่ายน้ำ?โยคะ? หรือกีฬาแข่งขัน?"
"เรายังไม่ได้ตัดสินใจกันเลยค่ะฉันเพิ่งมาถึงไม่นาน บอสถังมีอะไรแนะนำมั้ยคะ?"โม่เชี่ยนนีเอ่ยถาม
ถังหว่านพยักหน้ากล่าวว่า "ฉันกำลังจะไปดูคอร์ทเทนนิสพอดีที่นั่นมักมีคนเล่นและผู้ชมมากมาย สมาชิกระดับวีไอพีเช่นคุณโม่แน่นอนว่าต้องมีคนรู้จักมากมาย จะเป็เกียรติอย่างยิ่งถ้าคุณสองคนไป"
หยางเฉิน้าจะปฏิเสธเขาไม่ได้เป็สมาชิกวีไอพีเสียหน่อย จะมีคนรู้จักได้อย่างไร?แต่ทันใดนั้นเองโม่เชี่ยนนีก็ดึงแขนเขาอย่างรวดเร็วพร้อมกล่าวว่า
"เมื่อคุณถังชวนอย่างนี้พวกเราจะปฏิเสธได้อย่างไร หยางเฉินไปกันเถอะ!"
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้