เนี่ยหลีนั่งลงตรงหน้าเยี่ยจื่ออวิ๋น
“เพื่อนนักเรียนเยี่ยจื่ออวิ๋น พวกเราพบกันอีกแล้ว” เนี่ยหลีพูดอย่างยิ้มแย้มแจ่มใส
เนี่ยหลีมีกลิ่นอายสุขุมเชื่อมั่นในตนเอง เด็กหนุ่มอายุรุ่นราวคราวเดียวกันยากจะเทียบกับเขาได้ ทว่าเวลานี้เยี่ยจื่ออวิ๋นไม่บังเกิดความรู้สึกพิเศษอันใดกับเขา อย่างมากก็เป็เพียงความแปลกใจเล็กน้อย อีกทั้งรู้สึกยอมรับจากใจจริงเท่านั้น
ความรู้ของเนี่ยหลีกว้างขวางลึกซึ้งนัก แม้แต่ท่านป้าเซวียก็ยังคิดว่าเนี่ยหลีเป็อาจารย์นักเขียนยันต์ผู้หนึ่ง
ยันต์ที่เนี่ยหลีแก้ไขให้นั้น นางได้ส่งมอบให้ท่านป้าเซวียจัดทำเป็ม้วนยันต์แล้ว แน่นอน มันเป็ยันต์ระดับเงินจริงๆ เื่นี้มีผลกระทบต่อจิตใจนางเพียงใดย่อมพอจะนึกออกได้ เนี่ยหลีมีความเข้าใจกระทั่งยันต์ระดับเงิน ช่างน่าแปลกใจยิ่งนัก!
“เนี่ยหลี ข้าได้ทดสอบรูปแบบยันต์ที่นำกลับไปครั้งก่อนแล้ว และมันเป็ยันต์ลมหิมะสลาตันที่สมบูรณ์โดยแท้!” เยี่ยจื่ออวิ๋นกล่าวพร้อมจ้องมองเนี่ยหลี
อย่างไรก็ตาม ใบหน้าเนี่ยหลีมิได้แสดงความภาคภูมิใจใดๆ เพียงพูดแค่ว่า “อ้อ” ออกมาคำหนึ่ง สำหรับเนี่ยหลีแล้ว เื่พวกนี้มิใช่เื่ใหญ่โตอันใด
ในฐานะที่เป็สมาชิกจากตระกูลวายุเหมันต์ แม้เยี่ยจื่ออวิ๋นไม่เคยแสดงออก แต่อันที่จริงในใจนางยังมีความภาคภูมิใจอยู่บางส่วน แต่เมื่อนางย้อนคิดกลับไป แม้เนี่ยหลีมีพร์ แต่เมื่ออยู่ในชั้นเรียนมักเก็บเนื้อเก็บตัว ไม่เคยแสดงความอวดเก่งแต่อย่างใด กระทั่งคำพูดของอาจารย์เสิ่นซิ่วสร้างความขุ่นเคืองใจให้กับเขา เขาจึงตอบโต้กลับไป แต่เมื่อเทียบกันแล้ว เยี่ยจื่ออวิ๋นรู้สึกละอายใจอยู่บ้าง เทียบกับเนี่ยหลีแล้ว นางไม่มีอะไรให้ภาคภูมิใจเลยแม้แต่น้อย
เวลานี้เยี่ยจื่ออวิ๋นเริ่มยอมรับเนี่ยหลีขึ้นมาอยู่บ้าง แม้ไม่ถึงขนาดชื่นชอบเขา แต่เนี่ยหลีก็ได้กลายเป็เด็กผู้ชายเพียงคนเดียวที่นางยอมพูดคุยด้วย
แต่สำหรับเนี่ยหลีแล้ว นี่ถือเป็ความก้าวหน้าขนานใหญ่แล้ว
“เนี่ยหลี นี่คือผลึกิญญาที่เ้าบอกให้ข้านำมาด้วย” เยี่ยจื่ออวิ๋นนำผลึกิญญาของนางออกมา
“ถ่ายเทพลังิญญาของเ้าเข้าไปในผลึกิญญาสิ!” เนี่ยหลีพูดพร้อม จ้องมองเยี่ยจื่ออวิ๋น ในชีวิตหนก่อน เยี่ยจื่ออวิ๋นในชาติที่แล้วเป็ผู้หญิงของเขา เขาย่อมไม่ขี้เหนียวแม้แต่น้อย
เยี่ยจื่ออวิ๋นพยักหน้า ถ่ายเทพลังิญญาเข้าไปในผลึกิญญา ผลึกิญญาค่อยๆ พร่างพราวทอแสงสีขาวออกมา
เมื่อเห็นรูปแบบอาณาเขติญญาของเยี่ยจื่ออวิ๋น เนี่ยหลีอ้าปากผ่อนไอเย็นออกมาคำหนึ่ง เขาคิดไม่ถึงว่าพร์ของเยี่ยจื่ออวิ๋นยังสูงกว่าของเซียวหนิงเอ๋อร์เสียอีก รูปแบบอาณาเขติญญาของนางเต็มไปด้วยน้ำแข็งและภายในนั้น มีหงส์ตัวหนึ่งหลับอยู่
นี่คือรูปแบบิญญาหงส์น้ำแข็งปิงหวงในตำนาน
หนึ่งในรูปแบบิญญาที่แข็งแกร่งที่สุด
หากรูปร่างของหงส์น้ำแข็งยังไม่ถึงระดับทองดำ ความเร็วในการฝึกยุทธ์จะพอๆ กับปีกั ทว่าหากเข้าสู่ระดับทองดำเมื่อใด หงส์นี้จะตื่นขึ้นมาและความก้าวหน้าในการฝึกยุทธ์จะก้าวะโยิ่งๆ ขึ้นไป เสียดายที่เยี่ยจื่ออวิ๋นในชีวิตก่อนไม่สามารถก้าวถึงเขตแดนระดับทองดำและด่วนจากไปเสียก่อน ไม่เช่นนั้นเยี่ยจื่ออวิ๋นจะต้องกลายเป็เสาหลักผู้หนึ่งของเมืองกวงฮุยอย่างแน่นอน
“คุณลักษณะวายุเหมันต์ รูปแบบหงส์น้ำแข็งปิงหวงรึ!” เนี่ยหลีมองเยี่ยจื่ออวิ๋นด้วยแววตาแฝงความตื่นเต้น “ข้าจะสอนเคล็ดวิชาชุดหนึ่งให้กับเ้า!”
“สอนเคล็ดวิชาชุดหนึ่งให้ข้าอย่างนั้นรึ? เคล็ดวิชาอะไรเล่า?” เยี่ยจื่ออวิ๋นมองเนี่ยหลีด้วยความแปลกใจ เคล็ดวิชาของนางถือว่าเป็เคล็ดวิชาที่แข็งแกร่งที่สุดในตระกูลวายุเหมันต์แล้ว เนี่ยหลียังมีเคล็ดวิชาที่ล้ำเลิศกว่านี้อีกหรือ?
ตระกูลวายุเหมันต์เฟิงเสวี่ยถือเป็ตระกูลอันดับหนึ่งแห่งเมืองกวงฮุย กระทั่งตระกูลเสินเซิ่งและตระกูลเซิ่งิก็ยังเทียบมิได้ เพราะตระกูลวายุเหมันต์มียอดผู้ควบคุมจิตอสูรระดับตำนานผู้หนึ่งคอยเฝ้ามองอยู่ บุคคลในตำนานผู้นั้นคือ ท่านเยี่ยโม่! เคล็ดวิชามากมายที่ตระกูลวายุเหมันต์เก็บรวบรวมไว้มิใช่คนทั่วไปจะนึกถึงได้ นั่นเป็เพราะท่านเยี่ยโม่ชื่นชอบที่จะออกไปสำรวจแผ่นดินใหญ่เซิ่งหลิง เขาสำรวจซากโบราณสถานในเทือกเขาเซิ่งจู่ ได้เคล็ดวิชาที่ทรงอานุภาพมามากมายและก็แปลพวกมันออกมา
“เคล็ดวิชาหงส์น้ำแข็งเก้าวัฏจักร!” เนี่ยหลีถ่ายทอดเคล็ดวิชาให้แก่เยี่ยจื่ออวิ๋น แม้เคล็ดวิชาหงส์น้ำแข็งเก้าวัฏจักรมิใช่เคล็ดวิชาที่ทรงอานุภาพที่สุดที่เยี่ยจื่ออวิ๋นสามารถฝึกได้ ทว่ามันเป็เคล็ดวิชาที่มีความลึกลับที่สุด หากฝึกได้สำเร็จ นางจะมีเก้าชีวิต ตราบใดที่ิญญาของนางไม่ถูกทำลาย นางจะสามารถฟื้นคืนชีพได้
ในชีวิตหนนี้ เนี่ยหลีจะไม่ยอมปล่อยให้เยี่ยจื่ออวิ๋นจากเขาไปอีกเป็อันขาด!
เยี่ยจื่ออวิ๋นท่องเคล็ดวิชาอยู่สองสามหนอย่างเงียบๆ นางต้องใกับอานุภาพของเคล็ดวิชาหงส์น้ำแข็งเก้าวัฏจักร บรรดาเคล็ดวิชาที่ตระกูลวายุเหมันต์มีอยู่ไม่อาจเทียบกับเคล็ดวิชาชุดนี้ได้เลย!
“ขอบคุณ เนี่ยหลี!” เยี่ยจื่ออวิ๋นขอบคุณเขาอย่างจริงใจ นางค่อนข้างแปลกใจที่เยี่ยหลียอมสอนเคล็ดวิชาที่ทรงอานุภาพเช่นนี้แก่นาง ไม่ว่าอย่างไรนี่คือจุดเริ่มต้นของการรู้จักเนี่ยหลีเท่านั้น
ในความเห็นของเยี่ยจื่ออวิ๋น นางและเนี่ยหลีเพิ่งจะรู้จักกัน ทว่าในมุมมองของเนี่ยหลี เขารู้จักเยี่ยจื่ออวิ๋นมานานแสนนานแล้ว และในหัวใจของเขา เยี่ยจื่ออวิ๋นก็คือผู้หญิงของเขาแล้ว เคล็ดวิชาหงส์น้ำแข็งเก้าวัฏจักรชุดหนึ่งเท่านั้น จะถือเป็อะไรได้
เยี่ยจื่ออวิ๋นเริ่มเดินลมปราณตามเคล็ดวิชาหงส์น้ำแข็งเก้าวัฏจักรครู่หนึ่ง พลังิญญาของนางกระเพื่อมสาดซัดขึ้นมาอย่างแรง เคล็ดวิชาชุดนี้ช่างเหมาะเจาะพอดีกับนางเสียจริง!
ขณะที่เนี่ยหลีและเยี่ยจื่ออวิ๋นสนทนากันอยู่นั้น คนผู้หนึ่งเดินเข้ามา ที่แท้คือเสิ่นเยวี่ยนั้นเอง
เห็นเนี่ยหลีและเยี่ยจื่ออวิ๋นกำลังสนทนากันอย่างมีความสุขและรอยยิ้มที่งดงามเจิดจ้าของเยี่ยจื่ออวิ๋นก็เผยให้เห็นอยู่เต็มหน้า เสิ่นเยวี่ยไม่อาจอดกลั้นต่อความริษยาในใจของเขาได้อีกต่อไป จึงเดินเข้ามาหาคนทั้งสอง
“จื่ออวิ๋น!” เสิ่นเยวี่ยยิ้มบางๆ ขณะมองไปทางเยี่ยจื่ออวิ๋น
“อืม” เยี่ยจื่ออวิ๋นตอบเบาๆ นางในเวลานี้ไม่มีความรู้สึกที่ดีต่อเสิ่นเยวี่ยนัก
เสิ่นเยวี่ยนั่งลงข้างๆ จ้องมองเนี่ยหลีด้วยรอยยิ้มที่แฝงความเ็าในดวงตา
บรรยากาศระหว่างคนทั้งสามก็เริ่มอึดอัดขึ้นมาเล็กน้อย
“เนี่ยหลี พวกเราพบกันอีกแล้ว” เสิ่นเยวี่ยถามด้วยน้ำเสียงที่แสดงความเป็ศัตรู
“ทำไมรึ บทเรียนที่เพิ่งได้ไปเมื่อคราวก่อนยังไม่พอหรืออย่างไร?” เนี่ยหลีสีหน้าผ่อนคลาย ั้แ่ต้นจนจบไม่เห็นเสิ่นเยวี่ยอยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อย
“เ้า...” เสิ่นเยวี่ยกำหมัดแน่น หากมิใช่เยี่ยจื่ออวิ๋นนั่งอยู่ตรงนี้ เขาคงต้องให้พวกลูกน้องสั่งสอนเนี่ยหลีสักทีสองทีแล้ว
เยี่ยจื่ออวิ๋นแสดงสีหน้าแปลกใจ ฟังจากคำสนทนาระหว่างเนี่ยหลีกับเสิ่นเยวี่ย เสิ่นเยวี่ยดูเหมือนเคยพ่ายแพ้ให้แก่เนี่ยหลี นางค่อนข้างสงสัย เสิ่นเยวี่ยเป็คุณชายสายเืตรงของตระกูลเสินเซิ่ง เป็ไปได้อย่างไรที่เขายอมก้มหัวให้เนี่ยหลีได้
เสิ่นเยวี่ยฝืนกดข่มความคับแค้นในใจและชำเลืองมองไปทางเยี่ยจื่ออวิ๋น “ครอบครัวของข้ากับครอบครัวของจื่ออวิ๋นมีไมตรีต่อกัน พวกเราเล่นด้วยกันมาั้แ่เด็กจนโตและก็รู้จักกันเป็อย่างดี ผู้ใหญ่ของพวกเราทั้งสองฝ่ายต่างก็สนับสนุนให้พวกเราสนิทกัน”
เสิ่นเยวี่ยพูดคำเหล่านี้ก็เพื่อเป็การย้ำเตือนเนี่ยหลี เขาและเยี่ยจื่ออวิ๋นเป็คู่ที่เหมาะสม ได้รับความเห็นชอบจากผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่าย เนี่ยหลีจะนับเป็ตัวอะไรได้เล่า? กล้าคิดแย่งเยี่ยจื่ออวิ๋นกับเขาอย่างนั้นหรือ?
เมื่อได้ยินคำพูดของเสิ่นเยวี่ย เนี่ยหลีอดที่จะทำเสียงเย้ยหยันมิได้ ในแง่ความสนิทสนม เสิ่นเยวี่ยหรือจะรู้ดีไปกว่าเขา?
เสิ่นเยวี่ยมองเยวี่ยจื่ออวิ๋น และยิ้มด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยนบนใบหน้า “พูดได้ว่าข้ากับจื่ออวิ๋นมีความเข้าใจซึ่งกันและกัน ไม่ว่าจะเป็ความชอบหรือนิสัยใจคอทุกอย่าง”
ได้ยินคำพูดของเสิ่นเยวี่ย เยี่ยจื่ออวิ๋นมีสีหน้าไม่ชอบใจนัก นางอยากถามเสิ่นเยวี่ย ข้าไปสนิทสนมกับเ้าถึงปานนั้นั้แ่เมื่อไหร่กัน? ั้แ่เกิดเหตุการณ์หลายๆ เหตุการณ์ในห้องเรียน เยี่ยจื่ออวิ๋นก็ค่อยๆ บังเกิดความรู้สึกไม่พอใจเสิ่นเยวี่ยยิ่งนัก อย่างน้อยที่สุดตระกูลเสินเซิ่งก็มิได้รุ่งเรืองและเป็ที่เคารพบูชาดังเช่นที่แสดงให้เห็นภายนอก
เยี่ยจื่ออวิ๋นอดที่จะหันไปมองเนี่ยหลีไม่ได้ เนี่ยหลีคงไม่เข้าใจผิดใช่หรือไม่?
“เช่นนั้นเ้าก็ลองพูดออกมา ที่ว่ารู้ทุกอย่างนั้นมีอะไรบ้าง ข้าอยากจะฟังจริงๆ” ปลายนิ้วเนี่ยหลีเคาะโต๊ะเบาๆ ชีวิตในหนก่อน อีกนิดเดียวเยี่ยจื่ออวิ๋นก็ได้แต่งงานกับเสิ่นเยวี่ยแล้ว ชีวิตครั้งนี้เขาจะไม่ยอมให้สิ่งนี้เกิดขึ้นอย่างเด็ดขาด
“เยี่ยจื่ออวิ๋นชอบกินดอกเจี้ยวหลัน ชอบอ่านหนังสือและก็ชอบนั่งมองทิวทัศน์ข้างหน้าต่าง...” เสิ่นเยวี่ยมองเยี่ยจื่ออวิ๋นอย่างรักใคร่
เนี่ยหลียิ้มบางๆ แล้วพูดว่า “ความจริงนางไม่ได้ชอบกินดอกเจี้ยวหลัน แต่เป็เพราะท่านเยี่ยโม่เคยหลอกนางว่าหากกินดอกเจี้ยวหลันแล้วจะช่วยบำรุงพลังิญญา ใครจะชอบนั่งอ่านพวกหนังสือที่เข้าใจยากๆ เ่าั้ ใครจะโง่เช่นนั้น จื่ออวิ๋นชอบออกไปท่องเที่ยวผจญภัยเป็ที่สุด ที่นางชอบนั่งเหม่อริมหน้าต่างก็เพื่อมองออกไปยังโลกกว้างภายนอกต่างหากเล่า”
เมื่อได้ยินคำพูดของเนี่ยหลี เยี่ยจื่ออวิ๋นตกตะลึงจนจาค้างแทบพูดอะไรไม่ออกราวกับถูกฟ้าผ่า นางจ้องมองเนี่ยหลีด้วยความประหลาดใจ เนี่ยหลีรู้ได้อย่างไร? อย่างไรนางก็คิดไม่ออก มีคนผู้หนึ่งเข้าใจนางเป็อย่างดีถึงเพียงนี้ เป็ไปได้อย่างไรกัน
เนี่ยหลีสูดลมหายใจลึก ปีนั้นเขาอยากพาเยี่ยจื่ออวิ๋นท่องไปทั่วโลก แต่ทว่าความปรารถนานั้นไม่อาจเป็จริงได้ ในโลกนี้ ข้าจะต้องเติมเต็มความปรารถนาของเ้าให้จงได้
“เ้าพูดจาไร้สาระอะไรกัน...” เสิ่นเยวี่ยคิดอยากจะเถียง แต่เมื่อเห็นสีหน้าของเยี่ยจื่ออวิ๋น ปากที่อ้าอยู่ก็มิอาจพูดอะไรออกไปได้
“ในเมื่อเ้ารู้จักเยี่ยจื่ออวิ๋นเป็อย่างดี บนร่างของจื่ออวิ๋นมีปานรูปผีเสื้ออยู่ เ้ารู้หรือไม่ว่าอยู่ตรงไหน?” เนี่ยหลีแสร้งทำเป็ยิ้มพร้อมมองเสิ่นเยวี่ย
“ข้าจะรู้ได้อย่างไร!” เสิ่นเยวี่ยร้องด้วยความเกรี้ยวโกรธ
เมื่อได้ยินคำพูดของเนี่ยหลี ใบหน้าของเยี่ยจื่ออวิ๋นก็แดงระเรื่อขึ้นมาทันที เนี่ยหลีรู้ได้อย่างไรว่านางมีปานรูปผีเสื้อ? เยี่ยจื่ออวิ๋นบังเกิดความรู้สึกประหลาดขึ้นมาในใจและลุกขึ้นยืน “เนี่ยหลี เ้าช่างชั่วช้ายิ่งนัก!” เยี่ยจื่ออวิ๋น กระทืบเท้าเร่าๆ วิ่งหนีไปด้วยความอับอายและความขุ่นเคืองใจ
แผ่นหลังบอบบางของเยี่ยจื่ออวิ๋น กระโปรงผ้าไหมสีขาวพลิ้วไหว ท่อนขาขาวกระชับเรียว แลดูมีเสน่ห์ดึงดูดใจยิ่งนัก
เห็นปฏิกิริยาแปลกๆ ของเยี่ยจื่ออวิ๋น เสิ่นเยวี่ยใบหน้าบึ้งตึง ความสัมพันธ์ระหว่างเนี่ยหลีกับเยี่ยจื่ออวิ๋นจะต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน ไม่แน่ว่าทั้งสองอาจจะมีความสัมพันธ์ที่ไม่อาจบอกผู้ใดได้ สีหน้าของเขาน่ากลัวยิ่งนัก “เนี่ยหลี เ้าจำคำของข้าไว้ให้ดี ข้าจะให้เ้าตายอย่างทรมานที่สุด!”
เนี่ยหลีมองเสิ่นเยวี่ยด้วยสายตาดูแคลน หัวเราะอย่างเ็าคราหนึ่งและพูดว่า “สู้กับข้ารึ เ้ายังห่างชั้นกว่าข้าอีกมากนัก หากยังไม่รู้จักคิด ข้าก็ไม่รังเกียจที่จะสั่งสอนเ้าอีกสักหนสองหน” เนี่ยหลีลุกขึ้นยืนและจากไป
ณ จวนเ้าเมือง
ความแดงระเรื่อบนแก้มของเยี่ยจื่ออวิ๋นยังไม่จางหาย
“เนี่ยหลี เ้าคนชั่วช้า! ชั่วช้า!” เยี่ยจื่ออวิ๋นโกรธจนกระทืบเท้าเร่าๆ เนี่ยหลีรู้ได้อย่างไรว่าบนอกซ้ายของนางมีปานรูปผีเสื้อ? คิดมาถึงตรงนี้ หัวใจของเยี่ยจื่ออวิ๋นก็เหมือนพลิกคว่ำไปห้าตลบ มิใช่เนี่ยหลีมาแอบดูนางอาบน้ำหรอกหรือ?
หากเนี่ยหลีเคยเห็นปานแดงรูปผีเสื้อบนร่างกายของนาง นี่มิใช่หมายความว่าเขาได้เห็นเรือนร่างของนางไปหมดแล้วหรือ?
ไม่ ข้าต้องไปถามเ้าคนชั่วช้าผู้นี้ให้รู้เื่!
ในใจเยี่ยจื่ออวิ๋นรู้สึกอับอายยิ่งนัก นางจ้องมองออกไปด้านนอก เนี่ยหลีเหตุใดจึงรู้จักนางดีเช่นนี้? เนี่ยหลีคงมิใช่คอยแอบดูอยู่ข้างตัวนางตลอดกระมัง? อย่างไรก็ตาม จวนเ้าเมืองมีเวรยามแ่า เกรงว่าแม้แต่แมลงวันสักตัวหนึ่งก็ยังบินลอดเข้ามามิได้?
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้