นางเชื่อว่า ิอวี่สามารถอาศัยความพยายามและความสามารถของตัวเองกลายเป็ศิษย์ชั้นยอดขั้นสูงที่ดีได้ และอยู่สู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับศิษย์ชั้นยอดขั้นสูงอีกสามคนพร้อมกับนาง เพื่อสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้กับสายเลี่ยนเหยียน
แต่ว่า ในเวลานี้ิอวี่กลับไม่ได้มีสีหน้าดีใจอะไรมากมาย เพราะเขารู้แล้วว่าสายหรงเหยียนกับสายจั่วเหยียนนั้นมีแผนการร้ายอะไรอยู่
แผนการทำลายสายเลี่ยนเหยียนให้พินาศย่อยยับ!
ิอวี่จำเป็ต้องบอกข้อสันนิษฐานนี้ให้ซ่งหยวนหยวนรู้ และต้องคาดเดาการเคลื่อนไหวของทั้งสองสายหลังจากนี้โดยการวิเคราะห์ของซ่งหยวนหยวนเพื่อหาทางรับมือ ไม่อย่างนั้น หากสายเลี่ยนเหยียนยังอยู่ในกะลาและถูกกระทำอยู่ฝ่ายเดียว อาจจะต้องรับผลกระทบที่หนักยิ่งกว่า!
แต่สิ่งที่ทำให้ิอวี่ดีใจก็คือ ถึงแม้การขโมยไข่ัครั้งนี้มันจะอันตรายแต่ก็ทำสำเร็จ และได้รับรางวัลเป็ค่าผลงานหนึ่งแสนแต้ม ถือเป็ทรัพยากรเทียบเท่าหนึ่งพันล้านหยกดำ สามารถซื้อทรัพยากรได้จำนวนมาก ิอวี่ประเมินว่า เขาน่าจะไม่ขาดทรัพยากรในการฝึกไปอีกระยะยาวๆ เลย
“ค่าผลงานหนึ่งแสนแต้ม ให้เ้า ... ”
ผู้ดูแลสายจั่วเหยียนกัดฟันแน่น และรับบัตรแก้วแห่งเปลวไฟจากมือของิอวี่มา จากนั้นก็ใช้จิตสำนึกทำงาน แสงสีขาวที่ได้รับมาจากผู้บริหารระดับสูงของสำนักเทพอัคคีก็ลอยเข้าสู่บัตรแก้วของิอวี่
แสงสีขาวพุ่งสลายหายไปในบัตร จากนั้นบัตรแก้วแห่งเปลวไฟก็สั่นและกลายเป็เป็สีประกายทอง!
“ข้าได้ทำการโอนถ่ายข้อมูลของค่าผลงานหนึ่งแสนแต้มไปในบัตรของเ้าแล้ว ที่บัตรแก้วมีปฏิกิริยานั้นคือ หากตัวบัตรมีค่าผลงานเกินกว่าหนึ่งแสนแต้ม ก็จะเปลี่ยนเป็สีส้มประกายทอง ... ” ผู้ดูแลสายจั่วเหยียนอธิบายอย่างไม่เต็มใจ
บัตรแก้วแห่งเปลวไฟที่จริงจะเปลี่ยนสีได้เองเมื่อมีค่าผลงานเกินกว่าที่กำหนด ที่บัตรแก้วแห่งเปลวไฟเปลี่ยนสี มันไม่ใช่แค่แสดงออกว่ามีค่าผลงานจำนวนมาก แต่มันยังเป็สัญลักษณ์ที่แสดงถึงเกียรติยศและฐานะด้วย
หลังจากที่ิอวี่เห็นบัตรแก้วแห่งเปลวไฟกลายเป็สีส้มประกายทองแล้ว สายตาของผู้ดูแลสายจั่วเหยียนก็เต็มไปด้วยความอิจฉา บัตรแก้วแห่งเปลวไฟของเขานั้นยังไม่เปลี่ยนสีเลย
ตอนนี้บัตรของิอวี่เป็สีส้มประกายทองแล้ว ฐานะตำแหน่งของเขาเหมือนจะเหนือกว่าด้วย
ผู้ดูแลสายจั่วเหยียนโกรธมาก แทบไม่อยากอยู่ต่อไปอีกแม้แต่วินาทีเดียว เขารีบอุ้มไข่ัขนาดใหญ่เก็บเข้าแหวนเก็บของ จากนั้นก็ไปพยุงผู้ดูแลสายหรงเหยียนที่ยังตะลึงอยู่กลับไปยังค่ายของทั้งสองสาย
จงชิวซานที่อยู่ไม่ไกลพยายามควบคุมอารมณ์และความอับอาย เขาจ้องไปที่ิอวี่และปล่อยความน่าเกรงขามออกมา “เ้าเด็กแสบ สิ่งที่เ้าทำในวันนี้ ข้าจะจำไว้”
การขโมยไข่ัเป็การอาศัยความสามารถของแต่ละคน แต่จงชิงซานกลับพูดเหมือนว่าที่ิอวี่ขโมยไข่ัได้ มันเป็เื่ที่ผิดมหันต์
“เหอะๆ ดูเป็เื่ขายหน้าอย่างมาก ท่านจะจำไปทำไมกัน?”
ิอวี่ก็เหมือนไม่ได้อ่อนข้อ เขายิ้มมุมปาก “หวังว่าคืนนี้ตอนที่ท่านจะนอน คงไม่คิดถึงเื่นี้จนนอนไม่หลับนะ”
พอได้ยินแบบนี้ จงชิวซานก็พูดอะไรไม่ออกเลย เขาไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดี มดตัวเล็กๆ ตัวนี้ที่อยู่ตรงหน้า ที่เขาสามารถบีบทีเดียวก็ตายแล้ว แต่กลับปากดีได้ถึงขนาดนี้เลย!
“เ้ากล้าพูดอีกคำข้าจะฉีกปากเ้าให้ดู”
คนที่พูดกลับเป็โอวหยางเต้าอวี่ เมื่อครู่เขารู้สึกว่าขายหน้าอย่างมาก พอิอวี่พูดแบบนี้ออกมาก็เหมือนเอาน้ำมันไปราดกองไฟ มันทำให้อารมณ์ของเขานั้นรุนแรงมากขึ้น
เขาเหมือนยังอยากพูดอะไรอีก แต่จงชิงซานกลับตบมาที่ไหล่เหมือนให้เขาถอย
เมื่อครู่ ในใจของจงชิงซานเองก็โกรธมาก แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็เป็ผู้แข็งแกร่งชั้นสูง เื่การจัดการกับอารมณ์ความรู้สึกของเขานั้นดีมาก ใช้เวลาไม่กี่อึดใจก็สามารถใจเย็นลงได้แล้ว เขาไม่ให้โอวหยางเต้าอวี่พูดต่อไปอีก เพราะเถียงไปก็เปล่าประโยชน์แก้ไขอะไรไม่ได้อยู่ดี การแก้แค้นต่างหากที่จะเป็การเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง!
ไม่ใช่ว่าไม่แก้แค้น แต่มันยังไม่ถึงเวลา!
“ข้าคิดว่าเ้าน่าสนใจมาก หวังว่าเ้าจะเป็อย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ ได้นะ เรายังมีเวลาอีกด้วยกันอีกนาน”
จงชิวซานใช้ดวงตาสีดำเป็ประกายจ้องไปที่ิอวี่ จากนั้นก็เดินพาเหล่าผู้าุโและศิษย์ชั้นยอดของพวกเขาขี่อสูรสัตว์ปีกไปเลยทันที
พวกเขาอาจจะยังไม่รู้ว่า ศิษย์ชั้นยอดอีกประมาณสิบคนนั้นต้องอยู่ในสนามรบร้างโบราณไปตลอดกาล กลับมาไม่ได้อีกแล้ว ...
เมื่อเห็นเงาหายไปจากท้องฟ้า อารมณ์ของซ่งหยวนหยวนก็ถึงได้โล่งใจ พลังงานเปลวไฟของนางก็กลับไปที่จุดตันเถียนเหมือนเดิมแล้ว
“ิอวี่ แล้วก็หยูเยียน ครั้งนี้พวกเ้าทำได้ดีมาก ข้าดีใจมากจริงๆ ”
ซ่งหยวนหยวนยิ้มหวานให้กับิอวี่ราวกับดอกไม้ที่เบ่งบาน ดูงดงามอย่างมาก
แต่ิอวี่นั้นกลับรู้สึกเครียดตลอดเวลา เขาค่อยๆ พูดขึ้นมาว่า “อาจารย์ ข้ามีเื่เร่งด่วนมากจะบอกท่าน ข้ากลัวว่าพูดตรงนี้จะมีคนแอบฟัง เรากลับไปคุยกันที่ตำหนักเมฆาเพลิงกันเถอะ”
ซ่งหยวนหยวนตะลึงไปกับท่าทีที่จริงจังของิอวี่ นางหันไปมองเิหยูเยียนก็พบว่าเิหยูเยียนเองก็ไม่ได้ยิ้มอย่างมีความสุขเหมือนกัน
ซ่งหยวนหยวนก็เริ่มเกิดความสงสัย หรือว่า ... มันจะเกิดเื่ร้ายแรงอะไรขึ้นมาจริงๆ ?
......
ณ ตำหนักเมฆาเพลิงที่สายเลี่ยนเหยียน
ที่ลายเส้นวงกลมในตำหนักเมฆาเพลิงมีคนสามคนยืนอยู่ นั่นก็คือซ่งหยวนหยวน ิอวี่และเิหยูเยียน
ในเวลานี้เอง ผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วยามหลังจากที่ิอวี่กลับมาแล้ว หากตัดเวลาที่เดินทางกลับมาออกไป พวกเขาก็มาถึงตำหนักเมฆาเพลิงน่าจะประมาณสักสิบห้านาทีได้
“สิ่งที่เ้าพูดมา มันเป็ความจริงอย่างนั้น ใช่ไหม”
ซ่งหยวนหยวนขมวดคิ้วหนักมาก นางเอามือกอดอกมือขวาลูบคาง อารมณ์ของนางไม่ได้ดีใจเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว แต่กำลังครุ่นคิดอย่างหนัก
ใน่เวลาเมื่อครู่ ิอวี่ได้เล่าเื่ที่เิหยูเยียนกับตัวเขาเจอในสนามรบร้างโบราณทุกอย่างให้ซ่งหยวนหยวนฟังจนหมด
รวมถึงเื่ที่เข้าไปในสนามรบร้างโบราณก็ถูกศิษย์ของฟางหลิงจวินเล่นงาน หลังจากนั้นเิหยูเยียนแยกตัวไปแล้วไปเจอพวกซูอี้หรานหลอกไปทำมิดีมิร้ายในถ้ำใต้ดิน ก่อนที่ิอวี่จะไปช่วยออกมา เขาก็เล่าอย่างละเอียดทุกอย่าง
“จริงแท้แน่นอน ถ้าท่านไม่เชื่อท่านถามศิษย์น้องหยูเยียนได้เลย” ิอวี่หันไปมองเิหยูเยียน เขากลับพบว่านางเหมือนจะก้มหน้าลงเพราะอาย เหมือนสำนึกผิดและเสียใจกับความเอาแต่ใจของตัวเอง
ซ่งหยวนหยวนเห็นท่าทางของเิหยูเยียน ไม่ต้องถามก็รู้ว่าสิ่งที่ิอวี่พูดนั้นคือเื่จริง นางรู้สึกโมโห หากเิหยูเยียนต้องตายไปเพราะความคิดเด็กๆ ของตัวเอง ซ่งหยวนหยวนจะรู้สึกเสียดายมาก
แต่สิ่งที่ซ่งหยวนหยวนสนใจมากที่สุดก็คือ ิอวี่บอกว่า เขาใช้ความสามารถขอบเขตอมฤตขั้นที่สองเอาชนะขอบเขตอมฤตขั้นที่สองระดับสูงสุดสองคน และฆ่าหลินเฮ่าผู้กล้าขอบเขตอมฤตขั้นที่สาม แล้วเอาชนะซูอี้หรานผู้กล้าขอบเขตอมฤตขั้นที่สามได้
ผลการต่อสู้แบบนี้ในสามสายล่าง อย่างไรก็สามารถเป็ที่ฮือฮาแน่นอน!
หากไม่ใช่เพราะิอวี่พูดออกมาเองจากปาก แล้วมีเิหยูเยียนเป็พยาน ซ่งหยวนหยวนไม่มีทางเชื่อแน่นอน
ในเวลานี้ สายตาที่ซ่งหยวนหยวนมองไปที่ิอวี่นั้นมั่นใจมากขึ้น นางค่อยๆ พูดขึ้นมาว่า “เ้ามีศักยภาพแฝงจริงๆ หากไม่ได้เ้า หยูเยียนคงหนีไม่พ้นอันตรายแน่”
“แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญ”
ิอวี่กลับส่ายหน้า “สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ สายหรงเหยียนกับสายจั่วเหยียนกล้าลงมือกระทำการแบบนี้อย่างไม่กลัวเกรงอะไร นั่นหมายความว่าพวกเขาไม่เห็นพวกเราสายเลี่ยนเหยียนในสายตาเลย!”
“อือ ข้ารู้มานานแล้ว”
ซ่งหยวนหยวนพยักหน้า ถึงแม้เมื่อครู่นางจะตำหนิเิหยูเยียน แต่ก็โกรธซูอี้หรานมากกว่า นางพูดอย่างเ็าว่า “ข้าคิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าซูอี้หรานจะเป็คนแบบนี้ จิตใจของเขามันเน่าเฟะจนข้าขยะแขยง หากมีโอกาสข้าจะหักกระดูกเลาะเอ็นของเขาออกมา”
“หากมีแค่เขาคนเดียวที่เน่าเฟะมันยังไม่เท่าไร กลัวก็แต่ว่าจะไม่ใช่แค่เขาคนเดียวที่คิดแบบนั้น”
ิอวี่ถอนหายใจแล้วพูดว่า “ตอนนี้ท่านเองก็เห็นท่าทีของสายหรงเหยียนกับสายจั่วเหยียนแล้ว มาสายซึ่งหน้า ฆ่าศิษย์ของสายเลี่ยนเหยียนของเราในสนามรบร้างโบราณ ข้ายังเห็นว่าคนของพวกเขารังแกคนของสายเลี่ยนเหยียนของเราอีกตั้งหลายครั้ง ท่านรู้สึกว่า มีแค่เขาคนเดียวหรือที่จิตใจเน่าเฟะน่ะ?”
ในเวลาแบบนี้ ิอวี่เตรียมพร้อมแล้วที่จะเปิดไพ่ เขาพูดในสิ่งที่เขาคิดออกไปจนหมด!
“เหมือนเ้าจะมองปัญหาร้ายแรงเกินไปหน่อยนะ” ซ่งหยวนหยวนขมวดคิ้วแน่นมาก
แต่ิอวี่กลับส่ายหน้า “ต่อให้คนของสายหรงเหยียนกับสายจั่วเหยียนจะชอบรังแกกดขี่ของเราแค่ไหน แต่อย่างไรพวกเขาก็ไม่มีทางกล้าสังหารศิษย์ของสายเลี่ยนเหยียนของเราแน่”
“อาจเป็เพราะข้าอาจจะพูดไม่ชัดพอแล้วก็ไม่มีหลักฐานด้วย แต่ข้าคิดว่ามันไม่น่าใช่ความคิดของศิษย์สายหรงเหยียนกับสายจั่วเหยียนเอง มันน่าจะเป็เพราะผู้าุโใหญ่ของพวกเขา หรืออาจเป็แผนการของผู้าุโใหญ่ อาจเป็ไปได้ว่าพวกเขาคิดอยากจะใช้วิธีการสังหารศิษย์ของสายเลี่ยนเหยียนเพื่อลดทอนกำลังของพวกเรา ให้พวกเราฟื้นกลับไปไม่ได้อีก!”
ที่จริงิอวี่ก็เดาทางออกเกือบถูกต้องทั้งหมดแล้ว
ตอนที่อยู่ในสนามรบร้างโบราณ เวลาิอวี่เจอคนของทั้งสองสายก็จะบอกไปทันทีว่าเป็คนของสายเลี่ยนเหยียน ศิษย์ชั้นยอดเ่าั้ก็ล้วนแต่จ้องมาที่เขาอย่างดูถูกโดยไม่ต้องสงสัยเลย บางคน้าสมบัติในตัวของเขา บางคนก็อยากจะทำลายอาณาจักรพลังของเขาทิ้งไป
คนของทั้งสองสายที่ิอวี่เจอนั้นล้วนแต่คิดแบบนี้ ถ้าอย่างนั้นหากมองจากมุมนี้ คนของทั้งสองสายแทบทั้งหมดล้วนแต่มีทัศนคติแบบนี้ทั้งนั้น!
พูดได้เลยว่า คนส่วนใหญ่ของทั้งสองสายล้วนแต่กลายเป็พิษร้าย!
หากเป็แบบนี้แล้วไม่ฆ่าศัตรูทิ้ง มันก็โหดร้ายกับตัวเองมากเกินไป
“หากเป็ไปอย่างที่เ้าพูดจริง ถ้าอย่างนั้นเื่นี้ก็ร้ายแรงจริงๆ ”
ซ่งหยวนหยวนเริ่มคิดอย่างจริงจัง “แต่ก็มีจุดหนึ่งที่ไม่ถูก เพราะว่ากำลังสำคัญของข้าในสายเลี่ยนเหยียนไม่ได้อยู่ในกลุ่มบรรดาเด็กใหม่ที่รับมา แต่เป็ศิษย์ชั้นยอดขั้นสูง ... ”
“เดี๋ยวนะ ... ”
ซ่งหยวนหยวนยิ่งคิดยิ่งพูดก็ยิ่งรู้สึกว่าไม่ปกติ หากเป็ไปตามที่ิอวี่พูด หากคนของทั้งสองสายคิดจะลงมือกับสายเลี่ยนเหยียนจริง การสังหารเด็กใหม่ก็ไม่น่าใช่ประเด็นสำคัญ
อยากจะล้มสายเลี่ยนเหยียน สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือลดชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือ ไม่แน่ว่าสายหรงเหยียนกับสายจั่วเหยียนอาจจะเหยียบมาบนหัวของสายเลี่ยนเหยียนจริง หรืออาจจะทำให้สายเลี่ยนเหยียนหายไปเลย และวิธีการที่จะไม่ให้สายเลี่ยนเหยียนฟื้นกลับมาได้อีกนั้นก็คือการควบรวมสายเลี่ยนเหยียน!
พอคิดถึงตรงนี้ ซ่งหยวนหยวนก็รู้สึกเสียวสันหลังจนไปถึงหัว นางพูดว่า “หากพวกเขาคิดจะลงมือจริงๆ และให้ส่งผลกระทบครั้งใหญ่แก่สายเลี่ยนเหยียนของเรา สนามรบร้างโบราณมันก็ไม่น่าใช่ประเด็นสำคัญ แต่งานประลองจวินอิงหลังจากนี้อีกครึ่งปีต่างหาก ที่เป็เวลาที่เหมาะที่สุดที่จะลงมือ ... ”
หากปีนี้สายเลี่ยนเหยียนยังมีคะแนนที่ต่ำอยู่อีก ถ้าอย่างนั้นพวกเขาก็จะเสียอำนาจไปจริงๆ
ซ่งหยวนหยวนอดรู้สึกขำไม่ได้ นางคิดไม่ถึงเลยว่าในตอนที่นางคิดและหวังว่าจะสามารถอยู่กันอย่างสันติกับอีกสองสาย อีกสองสายกลับคิดอยากจะให้สายเลี่ยนเหยียนนั้นพังพินาศ!
มันเป็ความเศร้าและสิ้นหวัง
ิอวี่กลับขมวดคิ้ว เขาลองคาดเดาสิ่งที่ซ่งหยวนหยวนพูด “ท่านบอกว่า ศิษย์ชั้นยอดขั้นสูง ... งานประลองจวินอิง ... ถ้าอย่างนั้นงานประลองจวินอิงก็จะมีแต่ศิษย์ชั้นยอดขั้นสูงเข้าร่วมอย่างนั้นใช่ไหม?”
“ใช่”
ซ่งหยวนหยวนพูดต่อว่า “งานประลองจวินอิงเป็งานแข่งขันระดับสุดยอดของสามสายล่างที่ให้ศิษย์ชั้นยอดขั้นสูงทั้งหมดเข้าร่วม จะจัดขึ้นในอีกครึ่งปีข้างหน้า ในแต่ละครั้งจะทำการจัดอันดับ หากศิษย์ของเรายังได้อันดับสุดท้าย คนของอีกสองสายก็จะเริ่มเอาเื่นี้ขึ้นมาเป็ประเด็น รายงานเบื้องบน ซึ่งมันจะส่งผลกระทบต่อสายเลี่ยนเหยียนของเราอย่างมาก ... ”
“ข้ามีศิษย์ชั้นยอดขั้นสูงอยู่สามคน แต่น่าเสียดาย ยากมากพวกเขาที่จะได้คะแนนหรืออันดับที่ดีในการแข่งขันครั้งนี้”
พอพูดถึงตรงนี้ อารมณ์ของซ่งหยวนหยวนก็เศร้าลงทันที
“ถ้าอย่างนั้น ... เราเป็ศิษย์ชั้นยอดขั้นสูงได้หรือเปล่า?”
ิอวี่หันไปมองเิหยูเยียนที่มีความกังวลเหมือนกัน แล้วพูดว่า “เราได้ไปฝึกฝนที่สนามรบร้างโบราณในครั้งนี้ ประสบการณ์และความสามารถของเราสองคนก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก ข้ารู้สึกว่าเราอาจจะรับภาระสำคัญนี้ได้”
ซ่งหยวนหยวนส่ายหน้าด้วยความจนใจ “ไม่ได้หรอก ศิษย์ชั้นยอดขั้นสูงอย่างน้อยก็ต้องมีขอบเขตอมฤตขั้นที่สี่ เวลาแค่ครึ่งปีกว่า เ้าจะไปถึงระดับนั้นได้อย่างไรกัน”
“อย่างนั้นหรือ?”
เิหยูเยียนได้ยินดังนั้นก็อดถอนหายใจไม่ได้ นางรู้สึกว่าสายเลี่ยนเหยียนมีอันตราย ก็คิดอยากจะทำอะไรเพื่อสายของตน แต่ก็รู้สึกว่ากำแพงงานประลองจวินอิงนั้นมันสูงมาก มันเป็เป้าหมายที่แทบเอื้อมไม่ถึง
แต่ิอวี่ที่อยู่ด้านข้างของนางกลับครุ่นคิดอย่างหนัก เหมือนเขาจะยังไม่ยอมแพ้ “อาจารย์ ข้ารู้สึกว่าไม่แน่ว่าข้าอาจจะทำได้”
“เฮ้อ เ้ายังไร้เดียงสาเกินไป”
ซ่งหยวนหยวนพูดอย่างเศร้าๆ “พลังฝีมือของเรามันจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ระดับความเร็วมันจะช้าลงเรื่อยๆ เริ่มแรกเ้าอาจจะสามารถทะลวงระดับไปได้เร็ว แต่ยิ่งฝึกไปหลังๆ เ้าก็จะรู้สึกว่ามันยากมากขึ้น”
“ไม่แน่ว่า ในสามสี่เดือนที่ผ่านมาที่เ้าเลื่อนขึ้นมาถึงขอบเขตอมฤตขั้นที่สองก็ถือว่าเร็วมากแล้ว แต่จากขอบเขตอมฤตขั้นที่สองไปสาม มันก็ยากยิ่งกว่าสองขั้นก่อนหน้านี้อีก หากคำนวณตามหลัก เร็วสุดเ้าก็น่าจะใช้เวลาประมาณสองปีกว่าในการไปถึงขอบเขตอมฤตขั้นที่สี่”
ทุกคนรู้ดี การพัฒนาก้าวหน้าและเติบโตของผู้ฝึกยุทธ์มันจะมีความก้าวหน้าเป็รอบ ภายในครึ่งปี จากขอบเขตอมฤตขั้นที่สองไปขั้นที่สี่ มันอัศจรรย์เกินไป!
ที่มันถูกมองว่าเป็เื่อัศจรรย์ เพราะในความเป็จริงมันเป็ไปได้ยาก พูดได้เลยว่าแทบไม่มีอยู่จริง
ิอวี่สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ “แต่ว่าข้ายังอยากลองดูก่อน ข้าอยากทำอะไรบ้าง จริงๆ นะ ... ”
พูดจนสุดท้าย ิอวี่ก็เหมือนจะสะอื้นนิดหน่อย
พูดกันตามตรง ั้แ่มายังสายเลี่ยนเหยียน เขาไม่ได้มีความรู้สึกอะไรกับใครเลย เขาเองก็ไม่ได้ถึงขนาดต้องเอาชีวิตตัวเองไปปกป้องสายเลี่ยนเหยียนอะไรขนาดนั้น เพียงแต่ว่า หลังจากที่รู้จักคุ้นเคยกันมาระยะหนึ่งแล้ว ิอวี่ก็ให้ความสำคัญกับอาจารย์ของตนมาก เขาไม่อยากเห็นซ่งหยวนหยวนถูกผู้าุโใหญ่อีกสองสายบีบจนหมดหนทาง
เขาทำแบบนั้นไม่ได้ ...
ก็อาจจะทำเพื่อสายเลี่ยนเหยียน หรืออาจจะเป็แค่เพราะเขายอมรับในตัวอาจารย์ของเขา วินาทีที่เขาเข้ามายังสายเลี่ยนเหยียน ก็ไม่อยากทำให้ทุกอย่างที่เขารักที่นี่ต้องผิดหวัง!
เหมือนว่าซ่งหยวนหยวนจะอ่านความรู้สึกของิอวี่ออก นางเองก็โดนป้ายยาไปเหมือนกัน นางถอนหายใจแล้วพูดว่า “ก็ได้ ข้ามีภารกิจอย่างหนึ่ง ภารกิจนี้มีรางวัล ท่ามกลางทรัพยากรในการฝึกที่มากพอ มันอาจจะสามารถเพิ่มพลังฝีมือของเ้าให้สูงขึ้นได้ในระยะเวลาสั้นๆ โดยที่ร่างกายไม่ต้องแบกภาระหนักมากเกินไป”
“อย่างนั้นหรือ!”
สายตาของิอวี่เป็ประกายขึ้นมาเหมือนว่ามีความหวัง
ทุกคนรู้กันดีว่า ร่างกายก็มีขีดจำกัดของมัน หากดูดซับพลังงานจากยาจูหยวนตันแล้วฝึกอย่างบ้าคลั่งทุกวัน จะทำให้ธาตุไฟเข้าแทรก เทวะแตกสลาย
แต่ความหมายของซ่งหยวนหยวน เหมือนว่าจะมีของที่สามารถคุ้มครองเทวะ และทำให้พลังฝีมือของเขานั้นเพิ่มพูนขึ้นมา!
“เดิมทีข้าคิดอยากจะให้ศิษย์ชั้นยอดขั้นสูงไปทำภารกิจนี้ แต่ตอนนี้ ข้าว่าเ้าเองได้ออกไปเก็บประสบการณ์ภายนอกด้วยก็ดีเหมือนกัน”
ซ่งหยวนหยวนพูดว่า “แต่เ้าก็อย่าได้ย่ามใจไป ก่อนอื่น ภารกิจนี้ยากมาก และถึงแม้จะทำภารกิจสำเร็จ เ้าเองก็อาจจะไม่ได้รางวัลของภารกิจนี้”
ิอวี่ขมวดคิ้ว “ภารกิจ ... มันคืออะไรหรือขอรับ ... ”
“ข้า้าให้เ้าไปช่วยคนคนหนึ่ง”
ซ่งหยวนหยวนค่อยๆ พูด
