หลังจากที่ซูจิ้งเซียงเป็ใบ้ไปครู่หนึ่ง ก็กล่าวทั้งน้ำตาคลอเบ้าในที่สุด “มีใครที่ไม่รู้เื่ความเป็คนของซีอ๋องบ้าง ต่อให้ตำหนักซีอ๋องเป็นรกข้าก็ต้องไป อยู่ในจวนอัครมหาเสนาบดีทั้งวันถูกผู้คนทอดทิ้งถ่มน้ำลายดูถูก ก็ไม่ได้ดีไปกว่าเมื่อเทียบกับที่นั่นหรอก?”
เดิมซูเฟยซื่อคิดจะโน้มน้าวว่านางยังสามารถไปไกลจากเมืองหลวง เลือกหมู่บ้านที่เขาสวยน้ำใสทิวทัศน์งดงามใช้ชีวิตที่ดี เื่เงินทองไม่ใช่ปัญหา แต่คิดๆ ดูแล้ว ไม่เอ่ยปากแนะนำก็คงจะดีกว่า
ด้วยอุปนิสัยของซูจิ้งเซียงไม่สามารถใช้ชีวิตแบบนั้น มิอาจอยู่ได้โดยปราศจากเสื้อผ้าสวยงามและอาหารเลิศรส ไม่อาจตัดขาดจากเกียรติยศความมั่งคั่งจอมปลอมเหล่านี้
“ตัดสินใจแล้วหรือ?” ขณะถามประโยคนี้ ในใจซูเฟยซื่อได้ร่างแผนการหนึ่งขึ้นแล้ว
ซูจิ้งเซียงพยักหน้าตัดสินใจเด็ดขาด “ข้าตัดสินใจแล้ว”
“เช่นนั้นก็ดี ข้าช่วยเ้าได้ ไม่เพียงแต่ช่วยให้เ้าได้สมรสเข้าสู่ตำหนักซีอ๋องตามที่ใจปรารถนาเท่านั้น ยังสามารถทำให้เ้าเป็พระชายาซีอ๋อง ขอเพียงช่วยข้าทำเื่หนึ่ง” ซูเฟยซื่อหยักริมฝีปากเบาๆ
กลายเป็พระชายาซีอ๋อง? ทั้งหมดนี่แทบเป็สิ่งที่ซูจิ้งเซียงไม่กล้าแม้แต่จะคิด ตาทั้งคู่ของนางพลันสว่างวาบ รีบเอ่ยปาก “เื่อะไร?”
“ข้าจะให้เ้าช่วยข้าวางแผนเล่นงานแม่ใหญ่ ใช้เรือนเปลี่ยวนั่น และผู้ชายคนนั้น เงินทองเท่าไรล้วนไม่ใช่ปัญหา ข้าสามารถจ่ายได้” บนใบหน้าซูเฟยซื่อแฝงรอยยิ้ม มีเพียงความเย็นะเืในดวงตาเท่านั้นที่เป็ของจริง
วางแผนเล่นงานนางแซ่หลี่? หลังจากเกิดเหตุการณ์ครั้งนั้น นางแซ่หลี่ก็ไม่เหลียวแลนางอีก แม้แต่ทักทายประโยคหนึ่งก็ไม่มี ประกอบกับแม่น้ารองบอกนางเื่หิมะทำลายโฉม นางก็ได้แค้นเคืองเกลียดชังนางแซ่หลี่กับซูจิ้งโหยวในใจมาตั้งนานแล้ว
แต่ทุกข์ด้วยโชคชะตาของตัวเองอยู่ในกำมือของสองคนนี้ ก็ต่อให้นางแค้นเคืองแล้ว จะสามารถทำอย่างไรได้อีก?
ถ้ามีโอกาสที่จะได้แก้แค้น นางต้องทำแน่ๆ เพียงแต่หลังจากผ่านเื่มากมายเช่นนี้ ได้บทเรียนมากขึ้นแล้ว ย่อมไม่ถูกคนใช้เป็ประโยชน์ได้ง่ายดายแบบนั้นอีก
ซูจิ้งเซียงเงยหน้าขึ้น สองดวงตากลายเป็เฉียบคมมุ่งร้าย “ช่วยเ้า? ข้าจะเชื่อใจเ้าได้หรือ?”
“เ้ามีทางเลือกอื่นอีกไหมเล่า? หากเ้าช่วยข้า เลวร้ายที่สุดก็แค่ถูกผู้คนพบเห็น แล้วหนีไปถึงเรือนเปลี่ยวร้าง ใช้ชีวิตเหมือนกับตัวข้าในอดีต แต่ตอนนี้เ้ากับข้าในอดีตจะความแตกต่างอะไร?” ซูเฟยซื่อเลิกคิ้วเบาๆ พูดด้วยความโอหัง
ซูจิ้งเซียงเงียบไปสักพัก ในที่สุดก็ต้านสิ่งล่อใจที่จะได้เป็พระชายาซีอ๋องไม่ไหว “เ้าคิดจะให้ข้าทำอะไร?”
“หนามยอกต้องเอาหนามบ่ง แม่ใหญ่กับพี่ใหญ่ทำร้ายเ้าจนเป็แบบนี้อย่างไร เ้าก็สนองคืนอย่างนั้น แต่ไม่อนุญาตให้ใช้ยาปลุกกำหนัด ข้า้าให้แม่ใหญ่ติดกับดักด้วยความสมัครใจ ส่วนเื่หลังจากนั้น เ้าไม่ต้องกังวลใจ ข้าย่อมจัดเตรียมทุกอย่างไว้แล้ว”
ท่าทีที่ซูเฟยซื่อกำลังวางแผนกลยุทธ์ ทำเอาซูจิ้งเซียงถึงกับใจสั่นสะท้าน ราวกับว่าไม่เคยเห็นคนคนนี้ตรงหน้าอย่างกระจ่างชัดมาก่อน
ซูเฟยซื่อถอนหายใจแล้วพยุงซูจิ้งเซียงขึ้นจากพื้น “ไม่ต้องกลัว ข้าสัญญากับแม่น้ารองแล้วว่าจะไม่ทำร้ายเ้า เมื่อทำงานนี้เสร็จแล้ว เ้าก็สามารถไปเป็พระชายาซีอ๋องอย่างราบรื่น เพียงแต่เ้าต้องจำไว้ว่าเส้นทางนี้เป็เ้าที่เลือกเอง วันข้างหน้าอย่าได้มาต่อว่าข้า”
“ขอบคุณน้องสาม” ในใจซูจิ้งเซียงเต็มไปด้วยความรู้สึกซาบซึ้งนับพันหมื่น คิดอยากพูดอะไร แต่สุดท้ายก็เพียงพูดประโยคนี้แล้ว
นี่เป็ครั้งแรกที่นางยอมรับซูเฟยซื่อ... น้องสาวคนนี้อย่างจริงใจ
ซูเฟยซื่อยิ้มบางเบาพยักหน้าให้นาง นับว่าตอบรับข้อตกลงแล้ว คำขอบคุณของซูจิ้งเซียงคำนี้ นางมิอาจแบกรับได้จริงๆ เพียงแต่ต่างฝ่ายต่างได้รับผลประโยชน์ตาม้า นางไม่ได้ช่วยอะไรเลย
แต่... เส้นทางในอนาคต ซูจิ้งเซียงต้องก้าวเดินเอง ได้แต่หวังว่าถึงเวลานั้นนางจะไม่เกลียดชังตนมากขึ้นด้วยเหตุนี้ก็ดี
ซางจื่อรออยู่นอกเรือนเป็เวลานานแล้ว ในที่สุดก็เห็นซูเฟยซื่อออกมา รีบเข้าไปต้อนรับ “คุณหนู ซูจิ้งเซียงไม่ทำอะไรท่านใช่ไหมเ้าคะ?”
“เ้ารู้สึกว่านางจะทำอะไรข้าได้ล่ะ?” ซูเฟยซื่อเลิกคิ้ว
ได้ยินวาจานี้ ซางจื่อก็โล่งใจ “ถ้าเช่นนั้นก็ดี เพียงแต่... คุณหนูคิดจัดการเื่นี้อย่างไร?”
“ปิดบังไว้ก่อน เชื่อว่าในเร็วๆ นี้ นางจะไม่ทำเื่โง่ๆ แบบนี้อีกแล้ว ซางจื่อ ข้าจะไปหาอวี้เสวียนจี เ้าอยู่ในเรือน ถ้ามีใครมาก็บอกว่าข้าหลับไปแล้ว” ซูเฟยซื่อสั่งการด้วยเสียงเ็า
ตอนนี้ซูจิ้งเซียงที่ตั้งใจจะสมรสเป็พระชายาซีอ๋อง ก็ไม่ยากที่จะโน้มน้าวนาง ขอเพียงวางยาให้ถูกกับอาการเท่านั้น แต่ที่ยากก็คงเป็การโน้มน้าวอวี้เสวียนจีให้ช่วยนางเท่านั้น
ซางจื่อแปลกใจแกมใ แต่ไม่กล้าถามมากความ “เ้าค่ะ”
ซูเฟยซื่อพยักหน้าแล้วก้าวเท้าอย่างรวดเร็วเข้าไปท่ามกลางความมืด
จวนของอวี้เสวียนจี นางเคยไปมาหลายครั้ง พูดให้ถูกต้องก็คือ นางไม่เพียงเคยไปมาก่อน แต่ยังได้ศึกษาโดยเฉพาะแล้ว จึงคุ้นเคยกับการเดินทางมากกว่าพระตำหนัก
แต่แน่นอนว่า ยกเว้นคืนนี้เท่านั้น ที่นางมาที่นี่ไม่ใช่เพื่อสังหารอวี้เสวียนจี
ซูเฟยซื่อหลบเลี่ยงองครักษ์ผลักเปิดประตูห้องซูเฟยซื่อออก เพียงเห็นไอร้อนม้วนตลบในห้อง ในอากาศรอบสารทิศฟุ้งกระจายด้วยกลิ่นหอมแปลกๆ กระแสหนึ่ง หลังม่านยังมีเงามนุษย์กะพริบไหวรางๆ
คิ้วของซูเฟยซื่อขมวดย่นน้อยๆ มาได้จังหวะจริงๆ ทันเวลาอวี้เสวียนจีอาบน้ำพอดี
แต่ก็ขณะที่กำลังจะถอยไป น้ำเสียงเกียจคร้านทั้งยังแฝงความเย็นะเืดุจน้ำแข็งนั้น จู่ๆ ก็ดังมา “ดูไปแล้วคนในจวนอุปราชของข้าต่างสามารถถูกสังหารแล้ว กระทั่งหญิงสาวเล็กๆ ยังรั้งไว้ไม่ได้ แล้วจะเอาไว้ทำอะไร”
กระดูกสันหลังของซูเฟยซื่อเย็นวาบทันที ว่าไปคนในจวนหลังนี้มีไม่น้อยกว่าร้อยคน หรือจะถูกฆ่าตายหมดเพราะนางคนเดียว?
เช่นนั้นมิใช่ว่านางเป็คนบาปชั่วนิจนิรันดร์ไปแล้วหรือ!
นางรีบคืนสติโดยเร็ว “ท่านอ๋องเก้าพันปีโปรดระงับความโกรธ ไม่ใช่คนในจวนไร้ประสิทธิภาพ แต่หากข้าไม่ใช้ความสามารถที่แท้จริงออกมาบ้าง ท่านอ๋องเก้าพันปีไหนเลยจะช่วยข้า”
“ฮ่าๆ ๆ เ้าคิดว่าแบบนี้แล้วข้าจะช่วยเ้าหรือ?” อวี้เสวียนจีหัวเราะเบาๆ ขยับร่างเล็กน้อยก็อยู่ในท่ากึ่งนอนอยู่บนบัลลังก์สีทองขนาดใหญ่
ทันทีที่เขาทรงตัวขึ้น ขันทีที่ปรนนิบัติรีบยกถังอาบน้ำซึ่งหลอมจากทองคำออกไป เมื่อดึงม่านเปิดออกจากกันแล้ว ซูเฟยซื่อจึงเห็นคนที่พูดกับนางถนัดตา
มองดูครานี้ กระทั่งนางยังอึ้งตะลึงไป
ท่าทางเกียจคร้านของอวี้เสวียนจีที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จ เส้นผมดกดำสามพันเส้นสยายอยู่กลางหลัง เหมือนดอกบัวดอกหนึ่งที่เพิ่งบานออก นอกจากนี้ยังมีเสื้อคลุมที่เผยออกบางเบาก็สามารถเห็นลำคอขาวผ่อง ทั้งยังกระดูกไหปลาร้าที่น่าเย้ายวนภายใต้ลำคอ
ซูเฟยซื่อจ้องกระดูกไหปลาร้าของเขานิ่งไปเป็เวลานานค่อนวัน แล้วกลืนน้ำลายโดยไม่ตัว “ท่านอ๋องเก้าพันปีควรจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อยสักนิดไหมเ้าคะ”
แววล้อเล่นปราดหนึ่งวาบผ่านดวงตาของอวี้เสวียนจีอย่างรวดเร็ว “คุณหนูสามไม่ใช่ไร้ตัณหาไม่ชื่นชอบหรอกหรือ? เป็อย่างไร? สนใจข้าซึ่งเป็อุปราชขันทีคนนี้แล้วหรือ?”
“ข้า...” ซูเฟยซื่อได้สติกลับมาทันที แค้นจนแทบตบหน้าตัวเองสองครั้ง ทำได้เพียงพูดทั้งที่กัดฟันกรอด “ท่านอ๋องเก้าพันปีกล่าวตลกแล้ว เฟยซื่อไหนเลยกล้าดูถูกความงดงามของ... ท่านเ้าคะ”
นี่นางถูกปีศาจบังตาแล้ว? ถึงกับโดนเสน่ห์ของอวี้เสวียนจีทำให้หลงแล้ว!
ทว่า... เรือนร่างของอวี้เสวียนจีนี้ช่างน่าเสียดายที่มาเป็ขันทีจริงๆ คิดแล้ว อดไม่ได้ที่จะเหลือบดูหน้าอกขาวราวกับหยกอย่างดีใต้ไหปลาร้าของเขาอีกครา
อวี้เสวียนจีกลับไม่รังเกียจที่ถูกคนลอบมองแบบนี้ สั่งให้คนยกองุ่นจานหนึ่งมากินด้วยท่วงท่าสง่างาม “กระทั่งจวนของข้าซึ่งเป็อุปราชยังกล้าบุกรุก เ้า ซูเฟยซื่อยังมีอะไรที่ไม่กล้าทำอีกเล่า?”