รถม้าหยุดลงทำให้กู้เจิงไม่มีโอกาสได้พูดอะไรอีก ชุนหงเปิดม่านออกกู้เจิงชักสีหน้ากลับเป็อ่อนโยน
เสิ่นเยี่ยนมองนาง ก่อนจะก้าวลงจากรถม้าแล้วยื่นมือไปประคองนาง
คนที่มาต้อนรับพวกเขาคือบุตรชายสายตรงของตระกูลกู้เจิ้งชินน้องรองของนางรวมถึงแม่เฒ่าซุนและแม่เฒ่าฉินที่เป็บ่าวรับใช้ข้างกายเว่ยซื่อทั้งยังมีบิดาและเว่ยซื่อที่น่าจะมารอต้อนรับเสิ่นเยี่ยนไม่ใช่มารอนาง
“พี่ใหญ่ พี่เขย” กู้เจิ้งชินดีใจที่ได้เห็นพี่สาวคนโตหลายเดือนมานี้พี่ใหญ่เปลี่ยนไปมาก ตอนนี้นางไม่เอาแต่ก้มหน้าอีกแล้วเขาชอบที่พี่ใหญ่เป็เช่นนี้มากนัก ดังนั้นจึงดีใจจริงๆที่นางได้แต่งงานกับคนที่ดี
หลังจากพูดคุยกันไม่กี่ประโยคก็พากันเข้าไปในบ้าน
บิดาและเว่ยซื่อจัดฉากต้อนรับทั้งคู่ได้ดีมากมีการตระเตรียมของว่างโดยใช้น้ำชาที่ดีที่สุดทั้งยังมีรอยยิ้มประดับบนใบหน้าทุกคนอยู่เนืองๆทำให้คนรู้สึกว่าพวกเขาให้ความสำคัญกับบุตรสาวอนุภรรยาผู้นี้มาก
“ลูกคารวะท่านพ่อ ท่านแม่เ้าค่ะ” กู้เจิงเดินไปโค้งคำนับอย่างนุ่มนวล
เสิ่นเยี่ยนก็ทำความเคารพเช่นกัน
“รีบนั่งเร็วเข้า รีบนั่งเร็ว” เว่ยซื่อดึงกู้เจิงมาอย่างรักใคร่ “ดูอวี๋เอ๋อร์ของเราสิ เพิ่งไปบ้านสามีแค่สามวันเท่านั้นแต่เนื้อตัวดูเปล่งปลั่งขึ้นหลายเท่า” เพียงประโยคเดียว ทุกคนที่นั่งอยู่ก็หัวเราะขำขัน
กู้อิ๋งกับกู้เหยาที่เพิ่งเข้ามาต่างมองหน้ากันยิ้มน้อยๆคงถูกกำชับกันเอาไว้แล้ว จึงไม่ได้แสดงท่าทีผิดแปลก
“พี่หญิงใหญ่ พี่เขย” สองพี่น้องคารวะ
“น้องสาม น้องสี่” นายหญิงใหญ่เล่นละครฉากใหญ่ถึงเพียงนี้กู้เจิงย่อมต้องแสดงเป็เพื่อนนางดึงมือน้องสาวสองคนมาแล้วยิ้มให้ดังเช่นพี่น้องที่สนิทสนมกัน
กู้อิ๋งและกู้เหยาตัวแข็งทื่อขึ้นมาในทันที
กู้เจิงสนุกนักแทนที่จะเป็นางที่ต้องกระอักกระอ่วนกับการกระทำเสแสร้งของท่านพ่อและเว่ยซื่อแต่นางกลับร่วมเล่นละครกับพวกเขา นางหันไปมองเสิ่นเยี่ยน นี่สิถึงเรียกว่าเสแสร้ง คิดไม่ถึงว่าเสิ่นเยี่ยนจะมองนางอยู่ก่อนแล้ว
นายหญิงเว่ยซื่อพากู้เจิงกับเหล่าสตรีไปคุยกันที่โถงด้านข้างส่วนด้านฝั่งผู้ชาย กู้หงหย่ง กู้เจิ้งชิน และเสิ่นเยี่ยนกำลังคุยเล่นกันอยู่ในห้องโถงใหญ่
กู้เจิงอยากไปพบซู่เหนียงเสียั้แ่ตอนนี้แต่ด้วยธรรมเนียมแล้วนางไม่สามารถทำอะไรตามใจได้ โชคดีที่ตอนลงจากรถม้า นางได้แอบบอกให้ชุนหงไปหาซู่เหนียงก่อนแล้ว
เมื่อไม่มีเสิ่นเยี่ยนอยู่ด้วย เว่ยซื่อก็เลิกเล่นละครทันทีนางเลิกคิ้วมองกู้เจิงอย่างเฉยเมย “หลังจากเ้าแต่งงานไปก็รู้ความขึ้นนี่รู้ว่าในสถานการณ์ใดควรพูดอย่างไร”
“ล้วนเป็เพราะท่านแม่สั่งสอนมาดีเ้าค่ะ” กู้เจิงตอบอย่างนุ่มนวล
“ข้าได้ยินจากแม่เฒ่าซุนว่าเสื้อผ้าที่หวังซู่เหนียงมอบให้เ้าล้วนเป็ชุดปราณีตงดงามราคาแพงชุดในวันนี้คงไม่ใช่ของที่ซู่เหนียงเตรียมไว้ให้เ้ากระมัง?”เว่ยซื่อสังเกตการแต่งกายของกู้เจิงกับบุตรเขยแม้จะไม่งดงามหรูหราเท่าพวกนาง แต่ก็สุภาพเรียบง่ายและดูดีไม่น้อย การแต่งกายของเสิ่นเยี่ยนเป็เช่นนี้มาแต่ไหนแต่ไรทว่าสิ่งที่ทำให้นางประหลาดใจก็คือการเปลี่ยนแปลงของกู้อวี๋
“ชุดนี้ข้าได้มาจากท่านน้าของเสิ่นเยี่ยนเ้าค่ะ” กู้เจิงกล่าว “ในเมื่อลูกแต่งเข้าตระกูลเสิ่นไปแล้วลูกย่อมต้องเป็อันหนึ่งเดียวกันกับสามีเ้าค่ะ”
สายตาของทั้งสามแม่ลูกล้วนจับจ้องไปที่กู้เจิงเว่ยซื่อถอนหายใจอย่างโล่งอก หวังว่าวันหน้าจะไม่ต้องคอยเก็บกวาดเื่ยุ่งๆของนางอีก
“จริงสิฮ่องเต้ทรงมีพระราชโองการให้บุตรสาวตระกูลฟู่กับคุณชายสามตระกูลหนิงแต่งงานกันรอคุณชายสามอายุครบสิบแปดปีก็จะจัดงานแต่งขึ้นทันที” พูดถึงเื่นี้ เว่ยซื่อก็ผ่อนคลายขึ้น “ความบาดหมางของเรากับตระกูลฟู่ก็นับว่าจบกันแล้ว”
กู้เจิงนิ่งเงียบ เื่ที่เกิดนั้นเป็อุบัติเหตุเป็คุณหนูฟู่ที่หาเื่ใส่ตัวเองแต่เื่ที่นางกับชุนหงถูกลักพาตัวไปจนเกือบทำให้ชื่อเสียงเสื่อมเสียนี่สิถึงแม้จะแค่คาดเดาแต่ก็มีความเป็ไปได้มากว่าจะเกี่ยวข้องกับคุณหนูตระกูลฟู่
“ยังมีงานมงคลอีกเื่หนึ่ง” เว่ยซื่อยิ้ม กล่าวอย่างภาคภูมิใจ “ฮ่องเต้ทรงมีพระราชโองการให้องค์ชายห้าหมั้นหมายกับอิ๋งเอ๋อร์ภายในสิ้นปี”
กู้อิ๋งที่อยู่ข้างๆ หน้าแดง
“ยินดีกับน้องสามด้วย” กู้เจิงยิ้มให้กู้อิ๋งอย่างจริงใจ “น้องสามและองค์ชายห้าช่างเหมาะสมราวกับ์ส่งมาให้เป็คู่กันจริงๆ”
กู้อิ๋งมองกู้เจิง ดวงตาใสกระจ่างแสดงออกถึงความจริงใจนางแต่งงานกับเสิ่นเยี่ยนแล้ว นางคงไม่คิดอะไรกับชายอื่นอีกแล้ว
“พี่ใหญ่ไม่ยิ้มปลอมไปหน่อยหรือ?” จู่ๆกู้เหยาก็พูดขึ้นมาอย่างเย้ยหยัน
กู้เจิงไม่อยากจะเสียเวลามาเปลืองน้ำลายกับน้องสาวคนนี้นางจึงทำเป็ไม่ได้ยินและหันไปพูดกับเว่ยซื่อแทน “ท่านแม่ ลูกจะไปเยี่ยมซู่เหนียงเ้าค่ะ”
เว่ยซื่ออนุญาต
กู้เหยาที่ไม่ได้รับการตอบสนองจากกู้เจิงกระทืบเท้าอย่างโมโห “ท่านแม่ ท่านดูนางสิ นางไม่สนใจข้าเลย”
เว่ยซื่อปวดหัวกับนิสัยของบุตรสาวตัวน้อยคนนี้นัก
มีเสียงหัวเราะดังออกมาจากเรือนของหวังซู่เหนียงในเรือนหวังซู่เหนียงกำลังพูดคุยหัวเราะกันอยู่กับพวกบ่าวรับใช้
ตอนที่กู้เจิงเข้าไป พวกนางต่างดีใจที่เห็นคุณหนูใหญ่กลับมาเมื่อทักทายกันเรียบร้อยก็ปล่อยให้สองแม่ลูกอยู่กันตามลำพัง
“ซู่เหนียง” กู้เจิงโผเข้าไปในอ้อมกอดของนาง